Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การติดเชื้อระบบขบัถ่ายปัสสาวะระหว่างตั้งครรภ์ (Urinary system Infection…
การติดเชื้อระบบขบัถ่ายปัสสาวะระหว่างตั้งครรภ์ (Urinary system Infection during pregnancy)
ชนิดของการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและระบบขับถ่ายปัสสาวะขณะตั้งครรภ์
1.การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะแต่ไม่แสดงอาการ (Asymptomatic bacteriuria: ASB)
เป็นการตรวจพบแบคทีเรียในปัสสาวะมากกว่า 105 colony forming unit/ml (cfu/ml) จากการเก็บปัสสาวะอย่าง สะอาด 2 ครั้งติดต่อกัน โดยไม่มีอาการแสดงของการติดเชื้อ
การติดเชื้อเฉียบพลันที่กระเพาะปัสสาวะ (Acute cystitis)
เป็นการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ ที่ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินปัสสาวะ ร่วมกับมีอาการเจ็บปวดขณะถ่ายปัสสาวะ ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย ปวดปัสสาวะจนต้องรีบปัสสาะ (urgency) ปัสสาวะมีสีขุ่นหรือสีแดง
การติดเชื้อเฉียบพลันที่กรวยไต (Acute pyelonephritis)
เป็นการตรวจพบแบคทีเรียในปัสสาวะ มากกว่า 105 cfu/ml ร่วมกับปัสสาวะเป็นหนอง มีไข้ หนาวสั่น และปวดบริเวณบั้นเอ
กลุ่มอาการโรคไตรั่ว หรือโปรตีนรั่วในปัสสาวะ (Nephrotic syndrome)
พบโปรตีนในปัสสาวะ มากประมาณ 5 กรัมต่อวัน โปรตีนในเลือดต่ำ ไขมันในเลือดสูง และมีอาการบวมโดยไม่ทราบสาเหตุ มีผลต่อการ ตั้งครรภ์คือทำให้ทารกในครรภ์น้ำหนักน้อย หรือคลอดก่อนกำหนด ถ้าสตรีตั้งครรภ์มีความดันโลหิตสูงด้วย สุขภาพของทารกในครรภ์จะเลวลงอย่างมาก
สาเหตุและปัจจัยส่งเสริม
การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนขณะตั้งครรภ์
การติดเชื้อ Escherichia Coli (E. Coli) ที่อยู่รอบท่อปัสสาวะ
พยาธิสรีรวิทยา
การติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณปากช่องคลอด หรือทวารหนักใกล้ท่อปัสสาวะ ย้อนกลับขึ้นไป (ascending infection) ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงานของ ระบบทางเดินปัสสาวะขณะ ตั้งครรภ์ จากผลของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) และการขยายตัวของขนาดมดลูก เป็นปัจจัยเพิ่ม ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อระบบทางเดิน ปัสสาวะได้
อาการและอาการแสดง
อาการและอาการแสดงติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะส่วนบน (Upper UTI)
กรวยไตอักเสบ
ปัสสาวะเป็นสีขุ่น หรือสีน้ำล้างเนื้อ
เจ็บบริเวณชายโครงหรือปวดหลังบริเวณตำแหน่งของไต
มีไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียน
ติดเชื้อในกระแสเลือด
อาการและอาการแสดงติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง (Lower UTI)
ปัสสาวะบ่อย
ปัสสาวะแสบขัด
ปัสสาวะกระปิดกระปรอย
กลั้น ปัสสาวะไม่ได้
ปัสสาวะเป็นเลือดหรือสีน้ำล้างเนื้อ
ปวดบริเวณหัวหน่าว
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
มดลูกหดรัดตัว ทำให้เกิดการแท้ง
การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
ติดเชื้อในกระแสเลือดอาจเกิด septic shock
ผลต่อทารก
ทารกคลอดก่อนกำหนด
ทารกน้ำหนักตัวน้อย
ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ
ทารกตายคลอด
การประเมินและวินิจฉัย
การซักประวัติ ซักประวัติเกี่ยวกับการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ
การตรวจร่างกาย จะตรวจพบปัสสาวะขุ่น หรือพบปัสสาวะเป็นสีน้ำล้างเนื้อ มีไข้ ปวดบริเวณท้องน้อย เหนือหัวหน่าว
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตรวจ urine analysis จะพบไข่ขาว เม็ดเลือดขาว ตรวจ urine culture จะ พบเชื้อแบคทีเรียมากกว่า 105 dfu/ml
แนวทางการป้องกันและรักษา
การป้องกัน
แนะนำให้ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ทุกครั้งหลังขับถ่าย
แนะนำให้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
แนะนำการคัดกรองการติดเชื้อตั้งแต่ตั้งแต่มาฝากครรภ์ครั้งแรก
การรักษา
รักษาโดยการให้ยาปฏิชีวนะที่มีความไวต่อเชื้อและปลอดภัยต่อ มารดาและทารกมากที่สุด
รายที่เป็นกรวยไตอักเสบเฉียบพลนั ต้องรับไว้ในโรงพยาบาลเพื่อใหส้ารละลายทางหลอดเลือดดำ และ ให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ พร้อมทั้งส่งตรวจ Urine culture
ให้ยาปฏิชีวนะได้แก่ ampicillin, cephalexin, amoxicillin และ nitrofurantoin หลังจากได้รับ การรักษา 7 วัน ควรตรวจ urine culture เพื่อตรวจหาเชื้อโรคซ้ำ
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินของโรค ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นกับสตรีตั้งครรภ์และทารก และ แผนการรักษาพยาบาล เพื่อให้สตรีตั้งครรภ์คลายความวิตกกังวล
เน้นความสำคัญของการมาตรวจครรภ์ตามนัดอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว หรือ 2,000-3,000 มิลลิลิตร และไม่กลั้นปัสสาวะ
ให้การพยาบาลเพื่อบรรเทาความไม่สขุสบาย เช่น อาการปวดหลังและปวดบั้นเอว เป็นต้น โดยให้ นอนตะแคงด้านที่ไม่ปวด การประคบร้อนบริเวณที่ปวด การเช็ดตัวลดไข้ เป็นต้น
ระยะคลอด
เน้นเรื่องการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกทุก ครั้งหลังการขับถ่าย
สังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ และในกรณีที่คลอดก่อนกำหนดเตรยีม อุปกรณ์ในการช่วยเหลือทารกแรกเกิดให้พร้อม
ระยะหลังคลอด
การป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และการป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
เน้นการคุมกำเนิดในรายที่มีบุตรเพียงพอแล้วหรือเป็นโรคไตติดเรื้อรังควรคุมกำเนิดแบบถาวร เพราะการตั้งครรภ์จะทำให้โรครุนแรง มากขึ้น และเป็นอันตรายต่อชีวิตของมารดาได้