Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีแผล - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีแผล
6.1ชนิดของแผลและปัจจัยการส่งเสริมการหายของแผล
ชนิดของแผลแบ่งตามสาเหตุ
1.แผลที่เกิดจากการผ่าตัด
2.แผลที่เกิดจากถูกของมีคมตัด
3.แผลที่เกิดจากถูกของมีคมทิ่มแทง
4.แผลที่เกิดจากโดนระเบิด
5.แผลที่เกิดจากถูกบดขยี้
แผลที่เกิดจากการกระแทกด้วยวัตถุลักษณะมน
แผลที่เกิดจากถูกยิง
แผลที่มีขอบแผลขาดกะรุ่งกะริ่ง
แผลที่เกิดจากการถูไถลถลอก
แผลที่เกิดจากการติดเชื้อมีหนอง
แผลที่เกิดจากการตัดอวัยวะบางส่วน
แผลที่เกิดจากการกดทับ
แผลที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและเคมี
จากไฟไหม้น้ำร้อนลวก
จากสารเคมีที่เป็นด่าง
จากสารเคมีที่เป็นกรด
จากถูกความเย็นจัด
จากไฟฟ้าช็อต
จากรังสี
แผลที่เกิดจากการปลูกผิวหนัง
ชนิดของแผลแบ่งตามลักษณะพื้นผิว
1.แผลลักษณะแห้งหมายถึงลักษณะของแผลมีขอบแผลติดกันอาจเกิดการติดกันเองหรือจากการเย็บไม่มีสารคัดหลั่ง
2.แผลลักษณะเปียกชุ่มหมายถึงลักษณะของขอบแผลไม่ติดกันหรือขอบแผลกว้างมีสารคัดหลั่ง
ชนิดของแผลแบ่งตามลำดับความสะอาด
ประเภทที่1แผลผ่าตัดสะอาด
ลักษณะเป็นแผลที่ไม่มีการติดเชื้อ
ไม่มีการอักเสบมาก่อน
การผ่าตัดไม่ผ่านระบบทางเดินหายใจ,ระบบทางเดินอาหาร,อวัยวะสืบพันธุ์,ท่อปัสสาวะ
ไม่มีการฉีกขาด
เป็นแผลผ่าตัดชนิดปิด
ถ้ามีท่อระบายต้องเป็นชนิดระบบปิด
ประเภทที่2แผลสะอาดกึ่งปนเปื้อน
ลักษณะแผลที่มีการผ่าตัดผ่านระบบทางเดินหายใจ,ระบบทางเดินอาหาร,ระบบทางเดินปัสสาวะ,เป็นการผ่าตัดที่เกี่ยวกับท่อน้ำดี,อวัยวะสืบพันธุ์
ประเภทที่3แผลปนเปื้อน
แผลเปิด
แผลสด
แผลจากการได้รับอุบัติเหตุแผลที่เกิดการปนเปื้อนสารคัดหลั่งจากระบบทางเดินอาหาร
เป็นแผลที่มีการอักเสบเฉียบพลัน
ประเภทที่4แผลสกปรก/แผลติดเชื้อ
ลักษณะแผลเก่า
แผลมีเนื้อตาย
แผลมีการติดเชื้อมาก่อน
แผลกระดูกหักเกิน6ชั่วโมง
ชนิดของบาดแผลแบ่งตามระยะเวลาการเกิด
1.แผลที่เกิดเฉียบพลัน
เป็นการเกิดแผลและรักษาให้หายในระยะเวลาอันสั้น
2.แผลเรื้อรัง
เป็นแผลที่เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานและรักษายาก
แผลเนื้อตาย
เป็นแผลที่เกิดจากการขาดเลี้ยงไปเลี้ยงหรือเลือดมาเลี้ยงไม่เพียงพอ
ชนิดของแผลแบ่งตามการรักษา
1.การรักษาผู้ป่วยศัลยกรรมกระดูกด้วยวิธีการจัดกระดูกให้อยู่นิ่ง
2.การรักษาแผลด้วยสุญญากาศ
3.แผลท่อระบาย
4.แผลท่อหลอดคอ
5.แผลท่อระบายทรวงอก
แผลทวารเทียมหน้าท้อง
ปัจจัยที่มีผลต่อการหายของบาดแผล
1.ปัจจัยเฉพาะที่
แรงกด
ภาวะแวดล้อมแห้ง
การได้รับอันตรายและอาการบวม
การติดเชื้อ
ภาวะเนื้อตาย
ความไม่สุขสบาย
2.ปัจจัยระบบ
อายุ
โรคเรื้อรัง
น้ำในร่างกาย
การไหลเวียนของโลหิตบกพร่อง
ภาวะกดภูมิคุ้มกันและรังสีรักษา
ภาวะโภชนาการ
6.2ลักษณะและกระบวนการหายของแผล
ลักษณะการหายของแผล
1.การหายของแผลแบบปฐมภูมิ
การรักษาโดยการเย็บดึงขอบแผลเข้าหากันหรือแผลขนาดเล็กน้อยแล้วแผลสมานหายได้เองตามธรรมชาติ
2.การหายของแผลแบบทุติยภูมิ
การรักษาโดยการทำแผลจนเกิดมีเนื้อเยื่อใหม่มาปกคลุม
3.การหายของแผลแบบตติยภูมิ
การรักษาโดยการทำแผลจนมีเนื้อเยื่อเกิดใหม่ปกคลุมสีแดงสดและไม่มีอาการการแสดงภาวะติดเชื้อแล้ว
กระบวนการหายของแผล
ระยะที่1ห้ามเลือดและอักเสบ
ระยะ2การสร้างเนื้อเยื่อ
ระยะ3การเสริมความแข็งแรง
การบันทึกลักษณะบาดแผล
ชนิดของบาดแผล
2.ตำแหน่ง/บริเวณ
3.ขนาดควรระบุเป็นเซนติเมตร
4.สี
5.ลักษณะผิวหนัง
6.ขั้นหรือระยะความรุนแรงของบาดแผล
สิ่งที่ปกคลุมบาดแผลหรือสารคัดหลั่ง
วิธีการเย็บแผลและวัสดุที่ใช้ในการเย็บแผล
วิธีการเย็บแผล
Continuous
เป็นวิธีการเย็บแผลแบบต่อเนื่องตลอดความยาวของแผลโดยไม่มีการตัดจนกว่าจะเสร็จสิ้นการเย็บแผล
2.Interrupted
เป็นวิธีการเย็บแผลที่ต้องตัดวัสดุเย็บแผลในทุกฝีเข็ม
3.Subcuticular
เป็นการเย็บแผลแบบcontinuousmethodแต่ใช้เข็มตรงในการเย็บและซ่อนวัสดุเย็บแผลไว้ในชั้นใต้ผิวหนัง
4.Retention
เป็นวิธีการเย็บรั้งแผลเข้าหากัน
วัสดุที่ใช้ในการเย็บแผล
1.วัสดุที่ละลายได้เอง
เส้นใยธรรมชาติ
catgut
เส้นใยสังเคราะห์
dexon
vicryl
PDS
2.วัสดุที่ไม่ละลายเอง
เส้นใยตามธรรมชาติ
ไหมเย็บแผล
เส้นใยสังเคราะห์
nylon
วัสดุที่เย็บเป็นโลหะ
ลวดเย็บ
6.3วิธีการทำแผลชนิดต่างๆและการตัดไหม
ชนิดของการทำแผล
การทำแผลแบบแห้ง
การทำแผลแบบเปียก
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำแผล
1.อุปกรณ์ทำความสะอาดแผล
1.ชุดทำแผล
ปากคีบไม่มีเขี้ยว
ปากคีบมีเขี้ยว
ถ้วยใส่สารละลาย(iodine cup)
สำลี
gauze
2.สารละลาย
แอลกอฮอล์70%
น้ำเกลือล้างแผล0.9%
เบตาดีน
2.วัสดุสำหรับปิดแผล
ผ้าก๊อซ
ผ้าก๊อซหุ้มสำลี
ผ้าซับเลือด
วายก๊อซ
วาสลินก๊อซ
ก๊อซเดรน
transparent film
แผ่นเทปผ้าปิดแผล
antibacterial gauze dressing
3.วัสดุสำหรับยึดติดผ้าปิดแผล
plasterชนิดธรรมดา
4.อุปกรณ์อื่นๆ
กรรไกรตัดไหม
กรรไกรตัดเชื้อเนื้อ
ช้อนขูดเนื้อตาย
อุปกรณ์วัดความลึกของแผล
ภาชนะสำหรับทิ้งสิ่งสกปรก
ชามรูปไต
ถุงพลาสติก
การตัดไหม
วิธีทำการตัดไหม
1.ทำความสะอาดแผลใช้alcohol70%เช็ดรอบแผลเช็ดรอยพลาสเตอร์ออกด้วยเบนซินและเช็ดตามด้วยalcohol70%และน้ำเกลือล้างแผลแล้วเช็ดแห้ง
2.การตัดไหมที่เย็บแผลชนิดinterruptedโดยใช้ไหมผูกเป็นปมแยกเป็นอันๆโดยใช้toothforcepsจับชายไหมส่วนที่อยู่เหนือปมที่ผูกไว้ดึงขึ้นพอตึงมือจะเห็นไหมใต้ปมโผล่พ้นผิวหนังขึ้นมาและสอดปลายกรรไกรตัดไหมในแนวราบขนาดกับผิวหนังเล็กตัดไหมส่วนที่อยู่ชิดผิวหนัง
3.การตัดไหมที่เย็บแผลชนิดinterruptedmattressโดยใช้ไหมผูกปมเป็นอันๆชนิดสองชั้นให้ตัดไหมส่วนที่มองเห็นและอยู่ชิดผิวหนังมากที่สุด
4.การตัดไหมที่เย็บแผลแบบต่อเนื่องcontinuousmethodให้ตัดไหมส่วนที่อยู่ชิดผิวหนังด้านตรงกันข้ามกับปมที่ผูกอันแรกและอันถัดไปด้านเดิม
5.กรณีที่ใช้ลวดเย็บเป็นวัสดุเย็บแผลทำความสะอาดแผลผ่าตัดตามปกติ
6.ภายหลังตัดไหมครบทุกเส้นแล้วเช็ดแผลด้วยnormalsaline0.9%และเช็ดให้แห้งอีกครั้งปิดแผลต่อไว้อีก1วัน
6.4วิธีการพันแผลชนิดต่างๆ
ชนิดของผ้าพันแผล
ผ้าสามเหลี่ยม
ผ้าพันแผลชนิดม้วน
ผ้าพันแผลชนิดพิเศษ
วิธีการพันแผล
1.การใช้ผ้าสามเหลี่ยม
ผ้าสามเหลี่ยมเป็นสามเหลี่ยมที่มีมุมยอดเป็นมุมฉากขนาดของผ้าที่ใช้ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวผู้ป่วยและอวัยวะที่ต้องการพันผ้า
2.การใช้ผ้าพันแผลชนิดม้วน
เริ่มต้นพันผ้าจากส่วนเล็กไปหาส่วนใหญ่พันผ้าเข้าหาตัวผู้ป่วยตั้งต้นและจบผ้าพันด้วยการพันรอบทุกครั้ง
มี5แบบ
การพันแบบวงกลม
การพันแบบเกลียว
การพันแบบเกลียวพับกลับ
การพันเป็นรูปเลข8
การพันแบบกลับไปกลับมา
6.5ปัจจัยที่ทำให้เกิดแผลกดทับระยะของแผลกดทับและการป้องกันแผลกดทับ
ปัจจัยส่งเสริมการเกิดแผลกดทับ
1.ปัจจัยภายในร่างกาย
อายุ
ภาวะโภชนาการ
ยาที่ได้รับการักษา
การผ่าตัด
2.ปัจจัยภายนอกร่างกาย
แรงกด
แรงเสียดทาน
แรงเฉือน
ความชื้น
ระยะของแผลกดทับ
ระดับที่1ผิวหนังแดงไม่มีการฉีกขาดของผิวหนังและไม่จางหายไปภายใน30นาที
ระดับที่2ผิวหนังแดงเริ่มมีแผลเล็กๆมีหนังแท้ถูกทำลายฉีกขาดเป็นแผลตื้นมีรอยแดงบริเวณเนื้อเยื่อรอบๆและเริ่มมีสารคัดหลั่งจากแผล
ระดับที่3แผลลึกถึงชั้นไขมันแต่ยังไม่ถึงชั้นกล้ามเนื้อมีรอยแผลลึกมีสิ่งขับหลั่งจากแผลเริ่มมีกลิ่นเหม็นยังไม่มีเนื้อตาย
ระดับที่4แผลลึกเป็นโพรงถึงกล้ามเนื้อกระดูกและเยื่อหุ้มข้อพบมีเนื้อตาย
การป้องกันการเกิดแผลกดทับ
1.การประเมินความเสี่ยงตามแบบประเมินความเสี่ยงของการเกิดแผลกดทับ
2.การเฝ้าระวังความเสี่ยงและควรการประเมินซ้ำเมื่อมีปัจจัยเสี่ยง
3.ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับและเพิ่มปัจจัยเสริมการหายของแผล
3.1ให้การดูแลช่วยเหลือและคำแนะนำทั่วไป
3.2การดูแลและคำแนะนำเรื่องอาหารและโภชนาการ
3.3การดูแลและคำแนะนำเรื่องยาที่ใช้ในการรักษา
3.4การดูแลและคำแนะนะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องใช้อุปกรณ์
3.5การดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหาการขับถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ