Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การติดเชื้อระบบขับถ่ายปัสสาวะระหว่างตั้งครรภ์ (Urinary system Infection…
การติดเชื้อระบบขับถ่ายปัสสาวะระหว่างตั้งครรภ์ (Urinary system Infection during pregnancy)
การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินปัสสาวะในขณะตั้งครรภ์
มีการเปลี่ยนแปลงทางหน้าที่ของไต ในไตมีระบบการหมุนเวียนของเลือดเพิ่มขึ้น
มีการเปลี่ยนแปลงทางกายวิภาคที่สําคัญของระบบทางเดินปัสสาวะ
ชนิดของการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและระบบขับถ่ายปัสสาวะขณะตั้งครรภ์
1.การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะแต่ไม่แสดงอาการ
2.การติดเชื้อเฉียบพลันที่กระเพาะปัสสาวะ
3.การติดเชื้อเฉียบพลันที่กรวยไต
4.กลุ่มอาการโรคไตรั่ว หรือโปรตีนรั่วในปัสสาวะ
ภาวะไตวาย
5.1 ไตวายเรื้อรัง
5.2 ไตวายเฉียบพลัน
สาเหตุและปัจจัยส่งเสริม
การติดเชื้อ Escherichia Coli (E. Coli) ที่อยู่รอบท่อปัสสาวะ
มดลูกมีการขยายขนาดใหญ่ขึ้นและกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ
ปัสสาวะค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ
พยาธิสรีรวิทยา
การติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณปากช่องคลอดหรือทวารหนักใกล้ท่อปัสสาวะ ย้อนกลับขึ้นไป ผลของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และการขยายตัวของขนาดมดลูกเป็นปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อระบบทางเดิน ปัสสาวะได้ ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาขณะตั้งครรภ์ของไต อาการและอาการแสดง
อาการและอาการแสดง
ติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง (Lower UTI)
ท่อปัสสาวะอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด กระปิดกระปรอย กลั้นปัสสาวะไม่ได้
ปัสสาวะเป็นเลือดหรือสีน้ำล้างเนื้อ ปวดบริเวณหัวหน่าว
ติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะส่วนบน (Upper UTI)
ปัสสาวะเป็นสีขุ่น หรือสีน้ำล้างเนื้อ เจ็บบริเวณชายโครงปวดหลังบริเวณตําแหน่งของไต มีไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้อาเจียน
หากอาการรุนแรงอาจมีอาการของการติดเชื้อในกระแสเลือด และหากไม่ได้รับการรักษาอาจช็อกและเสียชีวิต
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
การแท้ง
การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกําหนด หรือถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกําหนด
ส่วนในรายที่มีการติดเชื้อในกระแสเลือดอาจเกิด septic shock
ผลต่อทารก
ทารกคลอดก่อนกําหนด
ทารกน้ำหนักตัวน้อย
ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
ทารกตายคลอด
การประเมินและวินิจฉัย
การซักประวัติ เกี่ยวกับการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ หรือระบบสืบพันธุ์ อาการและอาการแสดงของการติดเชื้อของระบบสืบพันธุ์
การตรวจร่างกาย จะพบปัสสาวะขุ่น หรือพบปัสสาวะเป็นสีน้ําล้างเนื้อ มีไข้ ปวดบริเวณท้องน้อยเหนือหัวหน่าว หากกดบริเวณcostovertebral angle จะปวดมาก
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตรวจ urine analysis จะพบไข่ขาว เม็ดเลือดขาย ตรวจ urine culture จะพบเชื้อแบคทีเรียมากกว่า 105 dfu/ml
แนวทางการป้องกันและรักษา
การป้องกัน
1 แนะนําให้ทําความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ทุกครั้งหลังขับถ่าย
2 แนะนําให้ดื่มน้ําอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
3 ทําการคัดกรองการติดเชื้อตั้งแต่ต้น
การรักษา
รายที่มีการติดเชื้อแบบ ASB จําเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะ หลังจากได้รับการรักษา 7 วัน ควรตรวจ urine culture ถ้ายังตรวจพบเชื้ออาจจําเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะต่อในระยะยาว
รายที่ติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะรักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะที่มีความไวต่อเชื้อและปลอดภัยต่อมารดาและทารกมากที่สุด
รายที่เป็นกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน ต้องรับไว้ในโรงพยาบาลเพื่อให้สารละลายทางหลอดเลือดดํา และให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดํา พร้อมทั้งส่งตรวจ Urine culture
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
ให้คําแนะนําเกี่ยวกับการดําเนินของโรค ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นกับสตรีตั้งครรภ์และทารก และแผนการรักษาพยาบาล
เน้นความสําคัญของการมาตรวจครรภ์ตามนัดอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
แนะนําการปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์
3.1 พักผ่อนอย่างเพียงพอ โดยแนะนําให้นอนตะแคงเพื่อไม่ให้มดลูกไปกดทับท่อไต
3.2 ดื่มน้ําวันละ 8-10 แก้ว หรือ 2,000-3,000 มิลลิลิตร และไม่กลั้นปัสสาวะ
3.3 รักษาความสะอาดของร่างกายโดยเฉพาะอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
3.4 ในรายที่ได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ให้ความรู้แก่สตรีตั้งครรภ์ถึงการรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง สังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น
3.5 แนะนําให้สังเกตอาการผิดปกติที่ต้องรีบพบแพทย์ เช่น ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะออกน้อย มีไข้ คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องน้อย ปวดบั้นเอว เจ็บครรภ์ ถุงน้ําคร่ําแตก เป็นต้น
กรณีที่มีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและได้รับการรักษา ติดตามการเปลี่ยนแปลงของโรค รวมทั้งสังเกตอาการผิดปกติ
กรณีที่ต้องรับเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
5.1 อธิบายให้สตรีตั้งครรภ์เข้าในถึงความจําเป็นในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
5.2 ดูแลให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ แนะนําให้นอนตะแคงเพื่อไม่ให้มดลูกกดทับท่อไต
5.3 ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินการติดเชื้อในร่างกาย
5.4 ประเมินเสียงหัวใจของทารกและการดิ้นของทารก
5.5 สังเกตและบันทึกปริมาณสารน้ำเข้าและออกจากร่างกาย และติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อประเมินการทํางานของไต
5.6 ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
5.7 ให้การพยาบาลเพื่อบรรเทาความไม่สุขสบาย
5.8 ดูแลประคับประคองจิตใจ ในรายที่มีอาการรุนแรง
ระยะคลอด
เน้นเรื่องการทําความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกทุกครั้งหลังการขับถ่าย
ระยะหลังคลอด
การป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และการป้องกันการกลับเป็นซ้ํา
ให้คําแนะนําเช่นเดียวกับคําแนะนําเพื่อป้องกันการติดเชื้อในขณะตั้งครรภ์ โดยเน้นการคุมกําเนิด ในรายที่มีบุตรเพียงพอแล้วหรือเป็นโรคไตติดเรื้อรังควรคุมกําเนิดแบบถาวร