Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลผู้ป่วยที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมในกลุ่มประเทศจีน - Coggle Diagram
การดูแลผู้ป่วยที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมในกลุ่มประเทศจีน
ข้อมูลท่ัวไป
ชื่อเต็ม : สาธารณรัฐประชาชนจีน
อักษรจีน: 中华人民共和国
ท่ีต้ัง : ต้ังอยู่ด้านตะวันออกของทวีปเอเชีย มีพื้นท่ี 9.6 ล้านตารางกิโลเมตร นับว่าใหญ่ที่สุดของทวีป เอเชีย มีพรมแดนติดต่อประเทศต่าง ๆ โดยรอบ 15 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีเหนือ รสั เซีย มองโกเลีย คาซัคสถานเคอร์กซิสถานทาจกิสถานอัฟกานสิถานปากสีถานอินเดียเนปาลสิกขิมภูฐานพม่า ลาวและเวียดนามโดยมีเส้นพรมแดนทางบกยาวกว่า2กิโลเมตรขณะท่ีทิศตะวันออกและทิศ ใต้จดทะเลเหลือง ทะเลจีนตะวันออก และทะเลจีนใต้
ศาสนา
ลัทธิขงจื้อ เต๋า พุทธ อิสลาม และคริสต์ โดยเฉพาะความคิดลัทธิขงจื้อและเต๋ามีอิทธิพลหยั่ง รากลึกซึ้งในภาษาและ วัฒนธรรมของจีน
ภาษา
ภาษาจีนกลาง เป็นภาษาราชการ ชาวจีนในมณฑลต่างๆ มีภาษาพูดท้องถิ่นที่แตกต่างกัน และการออกเสียงภาษาจีนกลางก็มีสาเนียงเพี้ยนไปตามท้องถิ่น
วัฒนธรรมการรับประทานอาหารของประเทศจีน
ลำดับการนั่ง
สาหรับลาดับการนั่งบนโต๊ะอาหาร จะเรียงตามละดบั ความอาวุโส ผู้อาวุโสทสี่ จุดจะนงั่ ก่อนและจะนั่ง หัวโต๊ะเสมอหากเป็นโตะ๊กลมที่นงั่ด้านในสุดของโต๊ะจากให้ผอู้าวุโสทสีจุดนั่ง
สาหรับบางพื้นที่ในชนบท หากมีแขกมารับประทานอาหารที่บ้าน ผู้หญิงไมส่ ามารถนั่งรวมโต๊ะ อาหารกบั ผู้ชายได้
ข้อห้ามในการใช้กาน้ำชา
ห้ามหันปากกาน้าชาชี้เข้าหาผู้อื่น เพราะ เปรียบเสมือนเปน็ การใช้นิ้วชี้หน้าผู้อื่น ซึ่งถือเป็นการไม่
เกียรตฝ่ายตรงข้าม
ยกชาส่งแขก
ในสมัครราวงศ์ชิง มีขนบธรรมเนียมการส่งแขกเมื่อเจ้าบ้านคุยธุระกันเสรจ็ เรียบร้อยแล้ว ก็จะยกน้าชาให้แขกผู้มาเยือน เมื่อแขกดมื่ น้าชาแล้ว คนรับใช้ก็จะตะโกนเสียงดังว่า ส่งแขก เพื่อเป็น การเคารพฝ่ายตรงข้าม แต่ถ้าหากหัวหน้าหรือผู้บงั คับบญั ชายกน้าชาให้ดื่ม อย่าได้รับเด็ดขาด เพราะเค้าไม่ได้อยากจะให้เราดื่มน้าชาแต่อย่างใด แต่เป็นบอกให้เรารู้ว่าเค้าอยากที่จะจบการสนทนา ในทางกลบักบัลูกน้องหรือผู้ใต้บังคบับัญชาก็ไม่ควรยกชาใหก้ับหัวหน้าเช่นกันเพราะเป็นเหมือนเป็น การขับไล่ไสส่ง
ห้ามพูดคุยกันขณะรับประทานอาหาร
ห้ามคว่ำชามอาหาร
การคมนาคม
ทางรถไฟเป็นการขนส่งที่สาคัญที่สุดของประเทศจีน เมื่อถึงตอนปลายปี ค.ศ. 2005
ทางหลวง
หลงั จากที่ประเทศสาธารณประชาชนจีนได้สถาปนาขึ้น (1949) การสร้างทางหลวงได้พัฒนา
อย่างรวดเร็ว
เมื่อถึงปลายปี ค.ศ. 2005 ความยาวทางหลวงมี ทั้งหมด 1,930,500 กิโลเมตร
จีนเริ่มทาการก่อสร้างทางด่วนเมื่อตอนปลายทศวรรษที่ 80 ของศตวรรษที่ 20เมื่อถงึ ปลายปี
ค.ศ.2000ยอดความยาวทางด่วนในแผ่นดินใหญ่มี27,000กิโลเมตรเมอืงใหญ่ๆ
การบิน
การบินได้กลายเป็นวิธีขนส่งและการคมนาคมที่สาคญัของจนีแล้วถึงปลายปีค.ส.2000สาย
การบินในประเทศจีนมีถึง 1,000 กว่าสายโดยเมืองสาคญั ล้วนมีแต่สายการบินทสี่ ามารถ
เดินทางถึงกันได้ทั้งนั้นยังมสีายการบินระหว่างประเทศอกี120กว่าสายซึ่งไปยงัเมอืงต่างๆ
ทั่วโลก โดยมี ปงั กิ่ง เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง และ กวางโจว เป็นท่าอากาศยานระหว่างประเทศ
การปฏิบัติตัวเมื่อพบกับคนท้องถิ่น
เลือกคาทักทายหรอื คาสรรพนามที่เหมาะสม ควรนาหน้าด้วย “Mister / Miss” แล้วตามด้วย
นามสกลุ ไม่ควรเรียกแซ่เฉยๆหากเป็นการเรียกชื่อเฉยๆจะต้องเป็นผู้ใหญเ่รียกผู้น้อยหรือเป็นการ
เรียกระหว่างเพื่อน
ผู้ที่อาวุโสน้อยกว่าควรเป็นฝ่ายทักทายผู้อาวุโสก่อน หรือถา้ ต้องการแนะนาผู้น้อยใหผู้ใหญ่รู้จักก่อน
ต้องลุกขึ้นยืนจนเสรจ็ สิ้นการทาความรู้จกั ทั้งสองฝ่าย หากมกี ารพยักหน้า ก้มหัว ควรค้อมลงให้ระดับหน้าอก
การจบัมอืควรจับมอืฝ่ายหญงิเบาๆและพอเป็นพิธีไม่ควรกุมหรือบีบเพื่อแสดงความมั่นใจ
เนื่องจากชาวจีนเห็นว่าการจับมอื แน่นเกินไป อาจเหมือนการประลองกาลังหรือลองเชิงกัน แต่หาก
ฝ่ายตรงข้ามใช้สองมือกุมมืออีกฝ่ายหมายถึงการแสดงความอบอุ่นเป็นกันเอง
ไม่ควรใช้มือปิดปากป้องปากหรือทาปากขมุบขมบิ ไม่ควรพูดเสียงเบาไปเพราะอาจหมายถึงการ
นินทา แต่ก็ไม่ควรส่งเสียงดังเกินไป เพราะแสดงถึงอานาจ
การใช้มือประกอบคาอธิบายไม่ควรออกท่าทางมากนกั เพราะอาจสร้างความราคาญแกฝ่ายตรงข้าม
ไม่ควรชี้นิ้วไปยังสิ่งต่างๆ เพื่ออธบิ าย หรือเพื่อเรียกใคร ไม่ควรดีดนิ้วและผิวปากระหว่างการสนทนา
ความเช่ือ
ความเชื่อด้านการกินอาหาร ชาวจีนเน้นกินอาหารให้สมดลุ ถูกธาตุ
โภชนาศาสตร์แผนจีนเช่ือว่า การกินอาหารให้ถูกธาตุ สอดรับกับพยาธิสภาพท่ีเกิดขึ้นกับอวัยวะหน่ึงใดใน ร่างกาย ย่อมจะช่วยแก้ไขปัญหาและเสริมสร้างสุขภาพได้
ธาตุท่ีกาลังพูดถึงน้ี คือ ไม้ ไฟ ดิน โลหะ และน้า หรือท่ีเรียกว่า อู่หัง
(五行 ตามความเช่ือท่ีมีมาแต่โบราณ ของชาวจีน ห้าธาตุนี้คือส่ิงที่ประกอบข้ึนเป็นกายภาพของจักรวาล
การนอนตามหลักแพทย์แผนจีนโบราณ
ตามหลักแพทย์แผนจีนแล้ว ถือว่าการนอนเป็นเรื่องสาคัญมาก เป็นการบาบัดโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพ การนอนที่ถูกต้องจะเป็นการช่วยปรับสมดุล เพิ่มภูมิต้านทาน ภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
ความสาคัญของการนอน มีความเกี่ยวข้องกับพลัง หยิน-หยาง ภายในร่างกายของเราช่วยปรับสมดุลให้อัวยวะ ต่างๆ ทาให้ร่างกายแข็งแรง จนถึงขั้นมีระบุในคัมภีร์บางเล่มว่า การนอนเป็นยาบารุงที่ดีที่สุด
ส่วนการนอนหลับที่ไม่เพียงพอจะส่งผลกับ สมาธิและอารมณ์ ภูมิคุ้มกัน ความต้านทานโรคของร่างกายได้ จะปวดหัวง่าย เวียนหัวง่าย บางครั้งก็ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ สายตาไม่ดี มีอาการซึมเศร้า คนที่นอนไม่เพียงพอร่างกายจะอ่อนแอ พลังงานหยางเปลี่ยนแปลง อวัยวะภายในจะอ่อนแอ ส่งผลกับสุขภาพ
พฤติกรรมเสี่ยงของชาวจีน
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากกว่า1.39 พันล้านคน จึงมีความหลากหลายทางความเชื่อ วัฒนธรรม และอาหารเป็นอย่างมาก โดยที่นิยมรับประทานในปัจจุบัน คือ หมูทอดราดซอส เปรี้ยวหวาน ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็ดปักกิ่ง ขนมที่นิยมรับประทาน คือ โตวฮัว ยู่หยวน ชา ชา ถือเป็นเครื่องดื่มที่ดื่มของประเทศจีน
ผลเสียของอาหาร
หมูทอดราดซอสเปรี้ยวหวาน : จะมีเนื้อหมูหั่นเป็นเส้นทอดสุก ราดด้วยซอสผัดเปรี้ยวหวานและน้า ผัดกับหัวหอมและแครอท ซึ่งซอสที่ราดจะมีรสหวาน และมีความมัน เสี่ยงของการเกิดภาวะหลอดเลือดตีบตัน และโรคเบาหวาน
ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ จะมีเนื้อไก่ผัดกับพริกแห้งและ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมื่อทอดเสร็จก็ นาไปคลุกด้วยซอส มีรสเผ็ดอมเปรี้ยวเมนูไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดในน้ามัน และในเม็ดมะม่วงหิมพานตม์
คอเลสเตอรอลสูง ซอสมีความมันและมีรสจัด จึงเสี่ยงของการเกิด ภาวะหลอดเลือดตีบตัน โรคไต
เป็ดปักกิ่ง : จะมีเนื้อเป็ดนาไปย่างให้หนังเป็ดบางกรอบ เนื้อข้างในนุ่ม ทานพร้อมแผ่นแป้งบาง
สาหรับห่อ ตามด้วยซอสหวานและเครื่องเคียง ประกอบด้วย ต้นหอม แตงกวา ซึ่งเป็นเมนูที่มีคอเลสเตอรอลสูง จากหนังเป็ดและมีซอสรสหวาน จึงเสี่ยงของการเกิดภาวะหลอดเลือดตีบตัน และโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน
โตวฮัว หรือ เต้าฮวย นิยมกินเป็นของหวานโรยหน้าด้วยถั่วลิสง ข้าวโอ๊ตที่ปรุงสุก แป้งมัน
สาปะหลัง ถั่วเขียว และน้าเชื่อม สามารถกินได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น โตวฮัว มีรสชาติหวาน จึงเสี่ยงในการ เกิดโรคเบาหวาน โรคอ้วน
การดูแลผู้ป่วย
การพยาบาลท่ีเน้นการให้คุณค่าและการปฏิบัติโดยเปรียบเทียบความเหมอืนและความแตกต่างทาง วัฒนธรรมของบุคคลหรอืกลุ่มรวมทงั้วิเคราะห์พฤติกรรมการดูแลและการให้บริการทางการพยาบาลค่านิยม เกี่ยวกับความเจ็บป่วย
แบบแผนพฤตกิรรมต่างๆของคนแต่ละเชื้อชาติแต่ละวัฒนธรรมของบุคคลเช่นประเทศจีนมีแผนการรกัษา แบบแพทย์แผนจีน
คนจีนมักจะนิยมรักษาตามแพทย์แผนจีน เพราะ เช่ือว่าการรักษาแบบแพทย์แผนจีนจะเห็นผลมากกว่าการไป โรงพยาบาล
มีการใช้สมุนไพรและความเชื่อในด้านการนวดการฝงัเขม็ เข้ามารักษาคนจีนจะปลกูพืชสมุนไพรหรือไปเกบ็ สมุนไพรเพื่อเอาไว้ทายาสมุนไพร รักษาเม่มือมีคนเจบ็ ป่วยภายในครอบครัว จึงทาให้การรกั ษาแบบแพทย์แผน จีนเป็นพื้นฐานของบริการสุขภาพของประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ การที่ชาวจีนไม่นิยมไปรักษาที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีความเช่ือในการฉีดยามอร์ฟีน ว่าเป็นยาอันตราย ดังน้ันจึงมีการปฏิเสธท่ีใช้ยาชนิดน้ี และไม่นอน เตียงหมายเลข 4 เพราะมีคาพ้องเสียงคล้ายกับคาว่า ตาย
ดังนั้นพยาบาลจึงต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและรวมถึงการประเมินความต้องการทางวัฒนธรรม พยาบาลจึงจาเป็นต้องมีความเข้าใจใน วัฒนธรรมท่ีแตกต่าง มีการพัฒนาสมรรถนะทางวัฒนธรรมของตนเอง ท้ังด้านความรู้และทักษะในการ ดูแลผู้ป่วยต่างวัฒนธรรม มีคุณธรรมและจริยธรรมในการให้การพยาบาล ผู้ป่วยโดยไม่คานึงถึง เช้ือชาติ วัฒนธรรมท่ีแตกต่าง และมีความสามารถในการนาความรู้ทางวัฒนธรรมมา ประยุกต์ใช้ในการ พยาบาลผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและคานึงถึงการให้บริการอย่างเป็นองค์รวม ครอบคลุมทุกมิติ ของผู้ป่วย ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคมและวัฒนธรรมของผู้ป่วย รวมถึงเคารพในความคิด ความเชื่อ และวิถีชีวิตที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล
แนวทางในการนาทฤษฎีไปใช้ในการปฏิบัติการพยาบาลโดยใช้กระบวนการพยาบาล
การประเมิน
คนจีนจะนิยมเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินปั่นจักรยานหรือเดิน
ชาวจีนจะนิยมรบัประทานสัตว์ป่าและมกีารขายสัตว์ป่าตามตลาดหรือซปุเปอรม์าเก็ต
ทาให้คนจีนสามารถเลือกซื้อสัตว์ป่าได้อย่างสะดวก
สามารถสูบหุ รี่ตามสถานทสี่ าธารณะได้ โดยไม่มีขอบเขตจากัดในการสบู บหุ รี่
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิชาวจีนจะไปปิกนิคกบัครอบครัวเพอื่ดูดอกไม้ที่ร่วงในช่วงฤดูใบไมผ้ลิ
เสมอืนกับการต้อนรับฤดูกาลใหม่เทศกาลใหม่
การรบั ประทานอาหารร่วมกันภายในครอบครัว โดยต้องใหค้ นภายในครอบครัวมาร่วมโต๊ะอาหาร ให้ครบจึงจะเริ่มรับประทานอาหาร
ชาวจีนมีการวางขายสรุาหรือแอลกอฮอล์ทุก24ชั่วโมงและสามารถเข้าถึงเครื่องดื่ม
แอลกอฮอล์ได้ง่าย
ชาวจีนทักทายโดยกล่าวคาสวัสดีว่า“หนีห่าว”และตามด้วยการเรียกชื่อให้เรียกนามสกลุก่อน
แล้วตามด้วยคาว่า “เซียน เซิง”
สาหรบั ผู้ชาย ถ้าทราบตาแหน่งก็อาจเรียกนามสกุล + ตาแหน่ง จะเป็นการเหมาะสมที่สุด
ผู้หญิงที่อายุน้อย เช่น พนักงานเสริฟ หรือ พนักงานโรงแรม อาจเรียก “ฝู อู้ เยวียน” หรือ
“เหมย นวี่” ควรเลี่ยงไม่ใช้คาว่า “ถง จื้อ” ซึ่งแปลว่า “สหาย” และคาว่า “เสียว เจี่ย
ข้อวินิจฉัย
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ชาวจีนจะไปปิกนิคกบั ครอบครัวตามสวนสาธารณะ จึงมีความเสี่ยงในเรื่อง ของโรคติดต่อในการรบั ประทานอาหารร่วมกบั ผู้อื่นที่เดินทางมาปิดนิคเหมือนกัน
คนจีนจะนิยมเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งเป็นแหล่งที่มีประชากรเยอะและเดินทางมาจาก
ที่อื่น จึงมีความเสี่ยงในการติดโรคใน ทางเดินหายใจ น้าลาย การสัมผัส ได้ง่าย เช่น ไข้หวัด ดังนั้นควรจะป้องกันตนเองก่อนขึ้นรถไฟฟ้าโดยการสวมใสห่น้ากากอนามัยและหลกีการใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการไอจาม
ชาวจีนจะนิยมรบั ประทานสัตว์ป่า อาจจะมีความเสี่ยงของโรคติดต่อจากสัตว์ป่าสู่คน และ พฤติกรรมการรับประทานที่กึ่งสุกกึ่งดีบงดบิการได้รบัอันตรายจากเชื้อโรคและพยาธิซึ่งเป็น ต้นเหตุของโรคติดต่อ
การรบั ประทานอาหารภายในครอบครัวคนจีนที่ต้องรอรบั ประทานอาหารพร้อมกัน ทาให้
เสี่ยงตอ่การเกิดปัญหาโรคกระเพาะควรจะรบัประทานขนมปังหรือของว่างในขณะที่สมาชิกภายในครอบครัว
การวางขายสรุาชาวจีนจะนิยมดื่มสรุาในงานสร้างสรรค์หรอืการผสมสรุาในอาหารเป็น ความเชื่อว่าจะช่วยบารุงร่างกาย เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ในปรมิ าณมากก็จะเสี่ยงเป็นโรคตบั แข็ง ส่วนคุณแม่หลงัคลอดกจ็ะมีความเชื่อในเรื่องการดมื่สรุา3มื้อต่อวัน
สูบบุหรี่ตามสถานที่สาธารณะจะทาสงิ่แวดล้อมเสียสุขลักษณะและเป็นผลร้ายต่อคน ภายในชุมชนที่ไม่ได้สูบแต่ได้สูดควันบุหรี่เข้าไปในปอดการสูบบุหรี่จะเสี่ยงเกิด โรคมะเร็งปอดและถุงลมโป่งพอง
การทักทายของคนจีนจะเป็นการทักทายโดยการพูดทักทายคาว่าหนีห่าวให้แก่ฝ่ายตรงข้าม
ดังนั้นอาจจะมีน้าลายกระเด็นเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคที่สามารถติดต่อได้ง่ายและติดต่อกันผ่านทางเดินหายใจ เช่น Covid -19
มโนมติหลักและกรอบแนวคิดของทฤษฎี
บุคคล
ชาวจีนจะทักทายกันด้วยคาพูดและระบบครอบครัวจะต้องให้ผู้ทู้อาวุโสมีสทิธิที่จะเลอืกมากกว่าผู้น้อย
สิ่งแวดล้อม ส่วนใหญป่ระเทศจีนจะอยู่ในเขตอบอุ่นซงึ่มีฤดูกาลที่แตกต่างกันไปทางตะวันตกส่วนใหญ่จะมี ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาทะเลทรายและที่ราบสงู และค่อยๆลาดลงทางทิศตะวันออก
สุขภาพ
ความเชื่อด้านการกินอาหาร ชาวจีนเน้นกินอาหารให้สมดุลถูกธาตุเชื่อว่า การกินอาหารให้ถูก ธาตุจะทาให้สุขภาพดี
การนอนตามหลักแพทย์แผนจีนโบราณ ชาวจีนถือว่าการนอนเป็นเรื่องสาคัญ เป็นการบาบัด โรคที่ส่งผลต่อสุขภาพ การนอนที่ถูกต้องจะเป็นการช่วยปรับสมดุล เพิ่มภูมิต้านทาน ภูมิคุ้มกันให้กับ ร่างกาย
ระบบการดูแลสุขภาพเชิงวิชาชีพ
มีการใช้สมุนไพรและความเชื่อในด้านการนวด การฝังเข็ม เข้ามารักษา คนจีนจะปลูกพืชสมุนไพร
หรือไปเก็บสมุนไพรเพื่อเอาไว้ทายาสมุนไพร รักษาเมื่อมีคนเจ็บป่วยภายในครอบครัว
การสงวนและดารงไว้ซึ่งการดูแลด้านวัฒนธรรมหรือการคงไว้ซึ่งการดูแลตามวัฒนธรรมที่เป็นอยู่
ชาวจีนไม่นิยมไปรักษาที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีความเชื่อในการฉีดยามอร์ฟีน ว่าเป็นยาอันตราย ดังนั้นจึงมีการปฏิเสธที่ใช้ยาชนิดนี้ พยาบาลจึงเปลี่ยนยาชนิดอื่นที่ออกฤทธิ์คล้ายกัน และไม่นอน เตียงหมายเลข 4 เพราะมีคาพ้องเสียงคล้ายกับคาว่า ตาย พยาบาลจึงมักไม่เหลือให้ผู้ป่วยพัก เตียงที่มีเลข 4 ให้ผู้ป่วย
การจัดหาและการต่อรองเพื่อการดูแลด้านวัฒนธรรมหรือการปรับการดูแลในวัฒนธรรมที่เป็นอยู่
อธิบายเกี่ยวกับการใช้มอร์ฟีนในการรักษาให้ผู้ป่วยเข้าใจ และให้ผู้ป่วยตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้ มอร์ฟีนในการรักษาหรือไม่ คนจีนส่วนใหญ่จะปฏิเสธการรักษาด้วยยามอร์ฟีน และหาวิธีการอื่น
ลดอาการปวด
การวางรูปแบบและโครงสร้างใหม่เพื่อการดูแลด้านวัฒนธรรมหรือการเปลี่ยนรูป แบบการดูแลใน
วัฒนธรรมที่เป็นอยู่
เลือกคาทักทายหรือคาสรรพนามที่เหมาะสม ควรนาหน้าด้วย “Mister / Miss” แล้วตามด้วย นามสกุล ไม่ควรเรียกแซ่เฉยๆ หากเป็นการเรียกชื่อเฉยๆ จะต้องเป็นผู้ใหญ่เรียกผู้น้อยหรือเป็นการ เรียกระหว่างเพื่อน
การใช้สมุนไพร การนวด การฝังเข็ม เข้ามารักษาให้กับชาวจีน เพื่อให้เข้าใจในวัฒนธรรม ของชาวจีนที่เป็นระบบบริการพยาบาล ที่คนจีนใช้มาตั้งแต่อดีต
การประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้ป่วย
อธิบายเก่ียวกับการใช้มอร์ฟีนในการรักษาให้ผู้ป่วยเข้าใจ และให้ผู้ป่วยตัดสินใจเกี่ยวกับการ ใช้มอร์ฟีนในการรักษาหรือไม่ คนจีนส่วนใหญ่จะปฏิเสธการรักษาด้วยยามอร์ฟีน และหา วิธีการอื่นลดอาการปวด เช่น ทาพิธีการขอพระเจ้า แบบจีนและใส่ชุดสีชมพูจนกว่าจะหาย
การประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้ป่วยคือ ให้ผู้ป่วยได้ทาตามวัฒนธรรม ความเช่ือของผู้ป่วย แต่ถ้าหากมีข้อจากัดพยาบาลต้องมีการสื่อสารให้คาแนะนา ควรมีการอธิบายถึงผลที่ตามมา รักษาแบบแพทย์แผนจีนผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย จะทาให้ผู้ป่วยสิ้นใจ ช้าลง
การประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้ป่วยคือการรักษาโดยท่ัวไปของผู้ป่วยมะเร็งจะถูกต้องและ แม่นยามากขึ้น ผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจร่างกายด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันตามปกติ และ สามารถรับการรักษาแบบผสมผสานร่วมกันทั้งแผนจีนและแผนปัจจุบันจะทาใหผ้ ลการรกั ษา มีประสิทธิภาพยิ่งข้ึน
วิธีการส่งเสรมิการดูแลผู้ป่วยชาวจีน
ทาป้ายสญั ลกั ษณ์ท่ีมีภาษาจีน
จัดอบรมวัฒนธรรมที่มีความแตกต่างกันในการดูแลผู้ป่วย
จัดหาล่าม
พัฒนาด้านการสื่อสาร
เข้าใจและยอมรบั ในวัฒนธรรมและความเช่ือของบุคคลอื่น