Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
B43 Upper gastrointestinal bleeding (UGIB) - Coggle Diagram
B43 Upper gastrointestinal bleeding (UGIB)
ข้อมูลทั่วไป
ผู้ป่วยเพศ หญิง อายุ 84 ปี เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ
โรคประจำตัว
โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคเส้นเลือดสมองตีบ โรคหอบหืด โรคแพ้ภูมิตัวเอง(SLE)
อาการสำคัญ
ถ่ายดำ เป็นลิ่มเลือด 1 ครั้งก่อนมาโรงพยาบาล
ประวัติการเจ็บป่วยในปัจจุบัน
1 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาลผู้ป่วย ถ่ายดำเป็นลิ่มเลือด 1 ครั้ง ญาติจึงเรียก EMS นำส่งโรงพยาบาล
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
RBC Count ต่ำกว่าปกติ เนื่องจาก มีการสูญเสียเลือด
Hb ต่ำกว่าปกติ เนื่องจาก มีการสูญเสียเลือด
Hct ต่ำกว่าปกติ เนื่องจาก มีการสูญเสียเลือด
Neutrophil สูงกว่าปกติ เนื่องจาก ,การติดเชื้อแบคทีเรีย
BUN สูงกว่าปกติ เนื่องจาก มีภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนต้น
SGOT (AST) สูงกว่าปกติ เนื่องจากมีการสูญเสียเลือด
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
1.เสี่ยงต่อการเกิดภาวะโลหิตจางจากภาวะซีด เนื่องจากมีเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนต้น
ข้อมูลสนับสนุน
O: RBC = 4.0 × 106 cell/uL
O: Hb = 11.2 g/dL
O: Hct = 34.3 %
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยไม่เกิดภาวะซีด
เกณฑ์การประเมินผล
ค่า RBC อยู่ในเกณฑ์ปกติ (4.2-5.4× 106 cell/uL)
ค่า Hb อยู่ในเกณฑ์ปกติ (12-16 g/dL)
ค่า Hct อยู่ในเกณฑ์ปกติ (37-47%)
กิจกรรมการพยาบาล
วัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง เพื่อสังเกตและประเมินภาวะผิดปกติ
2.ให้การพยาบาลอย่างนิ่มนวล เพื่อป้องกันภาวะเลือดออก และสังเกตุอาการเลือดออกจากอวัยวะต่าง ๆ
3.ติดตามค่าผลตรวจทางห้องปฏิบัติการต่าง ๆ เพื่อประเมินภาวะผิดปกติ
4.ดูแลให้เลือดตามแผนการรักษาของแพทย์ และสังเกตภาวะแทรกซ้อนจากการให้เลือด เช่น ผื่นคัน
5.ติดตามค่าผลตรวจทางห้องปฏิบัติการต่าง ๆ หลังให้เลือด เพื่อตรวจสอบและประเมินหาความผิดปกติ
ประเมินผล
ไม่สามารถประเมินผลได้เนื่องจากผู้ป่วยกลับบ้าน
2.เสี่ยงต่อภาวะพร่องออกซิเจน เนื่องจากตัวนำออกซิเจนลดลง
ข้อมูลสนับสนุน
O: Hct 34.3%
O: HB 11.2 %
O: O2 98-99 %
O: RBC Count 4.0 cell/uL
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยไม่เกิดภาวะพร่องออกซิเจน
เกณฑ์การประเมินผล
ไม่เกิดภาวะพร่องออกซิเจน
กิจกรรมการพยาบาล
1.ดูแลให้ได้รับออกซิเจน cannula 3 LPM ตามแผนการรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
2.ดูแลให้ผู้ป่วยใส่สายออกซิเจนตลอดเวลา เพื่อให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
3.จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง เพื่อให้ปอดขยายตัวได้ดี
4.ให้ผู้ป่วยนนอนพักบนเตียง จำกัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้น้อยลง จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ เพื่อให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ
5.สังเกตอาการขาดออกซิเจน คือ ปลายมือปลายเท้าเขียว กระสับกระส่าย เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของภาวะขาดออกซิเจน
6.วัดสัญญาณชีพทุก 2 ชั่วโมง เพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลง หากพบการเปลี่ยนแปลงรายงานให้แพทย์ทราบเพื่อวางแผนการรักษาต่อไป
ประเมินผล
ไม่เกิดภาวะพร่องออกซิเจน
3.เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากมีความดันโลหิตสูง
ข้อมูลสนับสนุน
O: BP 180/72 mmHg
O: ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวคือโรค ความดันโลหิตสูง
S: ผู้ป่วยบอกว่า “บางครั้งเวียนหัวบ่อย จะชอบเป็นเวลาลุกขึ้นนั่ง”
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากภาวะความดันโลหิตสูง
เกณฑ์การประเมินผล
ผลค่าความดันโลหิตลดลง
ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนของความดันโลหิตสูง
ประเมินผล
ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนของความดันโลหิตสูง
กิจกรรมการพยาบาล
1.ติดตามวัดความดันโลหิตทุก 4 ชั่วโมง
2.ประเมินอาการที่แสดงถึงการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูง เช่น อาการปวดศีรษะ ตาพร่ามัว คลื่นไส้อาเจียน เพื่อสังเกตและเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนของโรค
3.แนะนำให้ผู้ป่วยระมัดระวังการเปลี่ยนท่าเพราะอาจทำให้ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง เพื่อป้องกันภาวะความดันโลหิตเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
4.แนะนำลดอาหารเค็มและลดอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารที่มีเกลือ น้ำปลา ซีอิ๊วและพวกทอด ผัด น้ำมัน เพราะอาหารเค็มและอาหารที่ไขมันสูงจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้
5.ดูแลให้ได้รับยาAtenolol ,Hydralazine ครบถ้วนและตรงตามเวลา ตามแผนการรักษาของแพทย์ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยาครบตามแผนการรักษาของแพทย์
4.พร่องกิจวัตรประจำวันเนื่องจากเคลื่อนไหวร่างกายได้น้อย
ข้อมูลสนับสนุน
O: ผู้ป่วยนอนติดเตียงนาน 1 เดือน
O: ผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ motor power grade 2
O: ผู้ป่วยเคลื่อนไหวร่างกายได้น้อย
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยสุขสบาย มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
เกณฑ์การประเมินผล
ผู้ป่วยสามารถปฎิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ตามข้อจำกัดของร่างกายได้
ผู้ป่วยสุขสบาย มีสีหน้าแจ่มใส ร่างกายไม่มีคราบสกปรก
ประเมินผล
ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติติกิจกรรมต่าง ๆ ตามข้อจำกัดของร่างกายได้
ผู้ป่วยสุขสบาย มีสีหน้าแจ่มใส ร่างกายไม่มีคราบสกปรก
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินสัญญาณชีพ
2.ดูแลพลิกตะแคงตัวทุก 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ
3.ดูแลให้อาหารและยาทางสายยางให้อาหาร เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารและยาครบและตรงตามแผนการรักษาของแพทย์
4.ช่วยเหลือผู้ป่วยในการทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ เช่น ทำความสะอาดร่างกาย และสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ผู้ป่วยสุขสบาย
5.ดูแลและตรวจสอบสาย NG tube เพื่อป้องกันการหัก พับ งอ ของสาย
6.ดูแลและตรวจสอบสาย foley catheter เพื่อป้องกันการหัก พับ งอ ของสาย
7.ดูแลทำความสะอาดทุกครั้งหลังผู้ป่วยขับถ่าย เพื่อให้ผู้ป่วยสุขสบาย
5.ผู้ป่วยและญาติมีความวิตกกังวลเนื่องจากการเจ็บป่วย
ข้อมูลสนับสนุน
S: ญาติผู้ป่วยบอกว่า “เครียดที่ยายต้องมานอนโรงพยาบาล อยากให้ได้กลับบ้านแล้ว”
S: ผู้ป่วยบอกว่า “เบื่ออยากกลับบ้านแล้ว”
O: สังเกตญาติและผู้ป่วยมีสีหน้าวิตกกังวล ซักถามเกี่ยวกับการพยาบาลและกำหนดการวันกลับบ้าน
วัตถุประสงค์
เพื่อลดความวิตกกังวลให้แก่ผู้ป่วยและญาติ
เกณฑ์การประเมินผล
ไม่พบสีหน้าเครียดหรือวิตกกังวล
บ่นเกี่ยวกับความวิตกกังวล เรื่องกลับบ้านลดลง
กิจกรรมการพยาบาล
1.สร้างสัมพันธภาพที่ดีแก่ผู้ป่วยและญาติ เพื่อให้เกิดความไว้วางใจในการให้การพยาบาล
2.ขออนุญาตและให้เหตุผลแก่ ผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย ทุกครั้งก่อนให้การพยาบาล เพื่อลดภาวะวิตกกังวล
3.ตรวจเยี่ยมให้คำปรึกษา พร้อมทั้งประสานงานนัดแพทย์เพื่อให้ได้พูดคุยกับผู้ป่วยและญาติ เพื่อลดภาวะวิตกกังวล
4.แนะนำเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การทำจิตใจให้สงบ การฟังเพลง ไหว้พระสวดมนต์ เพื่อลดภาวะวิตกกังวล
5.เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้พูดคุยระบายความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องไม่สบายใจต่าง ๆ เพื่อเป็นการระบายและลดภาวะวิตกกังวล
6.กระตุ้นให้ญาติมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นการให้กำลังใจผู้ป่วย เพื่อส่งเสริมสัมพันธภาพในครอบครัวและลดภาวะวิตกกังวล
ประเมินผล
พบสีหน้าเครียดหรือวิตกกังวลลดลง
ผู้ป่วยบ่นเกี่ยวกับความวิตกกังวลเรื่องกลับบ้านลดลง