Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 11 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพืชสมุนไพร - Coggle Diagram
บทที่ 11 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพืชสมุนไพร
[2] ข้อควรระวังในการใช้ยาสมุนไพร
2.หลังจากใช้ยาสมุนไพรควรสังเกตอาการที่ผิดปกติ
1.ไม่ควรใช้ยาสมุนไพรนานเกิน 3-5 วัน หากอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์
3.ควรใช้ยาตามหลักการรักษาของแพทย์แผนโบราณอย่างเคร่งครัด
4.ไม่ควรใช้ยาสมุนไพรในปริมาณที่สูงจนเกินไป
5.หากใช้ในเด็กต้องใช้ในปริมาณที่น้อยกว่าปกติครึ่งนึง
6.รักษาความสะอาดของการรับประทานสมุนไพร
[1] รูปแบบของยาสมุนไพร
2.ยาต้ม นำสมุนไพร 1 กำมือมาต้ม แล้วเทน้ำลงไปพอท่วมยาเล็กน้อย
นาน 10-30 นาที และต้องดื่มขณะอุ่นๆ
3.ยาชง ทำโดยการหั่นสมุนไพรสดออกเป็นชิ้นเล็กๆบางๆ และผึ่งแดดให้แห้ง
จากนั้นนำไปชงในน้ำเดือด ปิดฝาทิ้งไว้ 15-20 นาที
4.ยาดอง โดยบดหรือทุบสมุนไพรให้แตกพอหยาบๆ ห่อด้วยผ้าขาวบางหลวมๆ เพื่อการพองตัว แล้วเติมเหล้าให้ท่วมห่อยา และทิ้งไว้ 7 วัน
5.ยาปั้นลูกหลอน ทำโดยการนำสมุนไพรไปตากแห้งแล้วบดเป็นผง จากนั้นผสมน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อม ทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมงแล้ว นำมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ
1.สมุนไพรสดๆ เช่น วุ้นจากใบว่านหางจระเข้สด ใช้ทาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
ใบผักบุ้งสด นำมาตำทาแผลพิษแมงกะพรุน
6.ยาตำคั้นเอาน้ำกิน ทำโดยการนำสมุนไพรสดๆ มาตำให้ละเอียด จากนั้นคั้นเอาน้ำแล้วนำมารับประทาน
7.ยาพอก ทำโดยการตำให้แหลกที่สุด ถ้าแห้งเกินไปให้ใส่น้ำลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำมาพอกขณะที่เปียกชื้นอยู่
[5] สมุนไพรสำหรับงานสาธารณสุขมูลฐาน
1.กลุ่มอาการโรคในระบบทางเดินอาหาร
(1.3) อาการท้องผูก
ขี้เหล็ก คูน ชุมเห็ดเทศ ชุมเห็ดไทย มะขาม มะขามแขก
(1.4) อาการท้องเสีย
กล้วยน้ำว้า ทับทิม ฝรั่ง ฟ้าทะลายโจร มังคุด สีเสียดเหนือ
(1.5) อาการบิด
ทับทิม มังคุด
(1.6) อาการคลื่นไส้
กะเพรา ขิง ยอ
(1.2) อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด
กระชาย กระทือ กระเทียม กระวาน กะเพรา กานพลู ขิง ข่า ดีปลี ตะไคร้
(1.7) อาการเบื่ออาหาร
บอระเพ็ด ฟ้าทะลายโจร
(1.1) อาการโรคกระเพาะอาหาร
กระเจี๊ยบมอญ กล้วยน้ำว้า ขมิ้นชัน
(1.8) ถ่ายพยาธิลำไส้
ฟักทอง มะเกลือ มะขาม มะหาด เล็บมือนาง สะแก
3.กลุ่มอาการโรคในระบบทางเดินปัสสาวะ
อาการขัดเบา/ขับปัสสาวะ
กระเจี๊ยบแดง ขลู่ ชุดเห็ดไทย ตะไคร้ ผักกาดน้ำ สับปะรด หญ้าคา หญ้าหนวดแมว อ้อยแดง
2.กลุ่มอาการโรคในระบบทางเดินหายใจ
อาการไอ/ขับเสมหะ
ขิง ดีปลี เพกา มะขาม มะนาว มะแว้งเครือ มะแว้งต้น
4.กลุ่มอาการโรคผิวหนัง
(4.1) อาการแพ้ อักเสบและพิษแมลงกัดต่อย
ขมิ้นชัน ตำลึง ผักบุ้งทะเล พลู พญายอ เสลดพังพอน
(4.3) อาการแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
บัวบก มะพร้าว ว่านหางจระเข้
(4.4) อาการกลาก เกลื้อน
กระเทียม ข่า ชุดเห็ดเทศ ทองพันชั่ง
(4.5) อาการรังแค/ชันนะตุ
มะกรูด มะคำดีควาย
(4.2) อาการแผลพุพอง ฝี หนอง
เทียนบ้าน
5.กลุ่มอาการไข้
บอระเพ็ด ปลาไหลเผือก ย่านาง
6.กลุ่มอาการปวด
(6.1) อาการปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก
พริก ไพล
(6.2) อาการปวดฟัน
กานพลู แก้ว ข่อย ผักกาด
7.กลุ่มสมุนไพรที่ใช้ประโยชน์อื่นๆ
(7.1) ฆ่าเหา
น้อยหน่า
(7.2) อาหารเสริม
กระเทียม ข้าวกล้อง คำฝอย ถั่วพู ถั่วเหลือง
(7.3) แต่งสีอาหาร
กระเจี๊ยบแดง ขมิ้นชัน คำฝอย คำแสด เตยหอม ฝาง อัญชัน
8.กลุ่มผักพื้นบ้าน
กระเจียว ผักกระสัง ผักขี้หูด ผักชี ผักเซียงดา ผักปลาบ ผักไผ่ ผักแส้ว มะกอก
[3] อาการแพ้ที่อาจพบได้จากการใช้สมุนไพร
1.ผื่นขึ้นตามผิวหนัง อาจะเป็นตุ่มเล็กๆ เป็นปื้นหรือเป็นเม็ดแบน
2.เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
3.ประสาทรับรู้ความรู้สึกทำงานไวเกินปกติ
4.ใจสั่น ใจเต้น หรือรู้สึกวูบวาบคล้ายหัวใจจะหยุดเต้นและเป็นบ่อยๆ
5.ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเหลือง เจย่าเกิดฟองสีเหลือง
(เป็นอาการของดีซ่าน)
[4] ข้อแนะนำในการเลือกซื้อยาสมุนไพร
1.ดูว่ามีทะเบียนยาถูกต้องหรือไม่
2.ดูวันผลิตยา และวันหมดอายุ
3.ดูลักษณะภายนอก เช่น สี กลิ่น รส
4.ดูว่ามีราขึ้นหรือไม่
5.ดูภาชนะบรรจุว่าอยู่สภาพที่ดีหรือไม่
6.ดูแหล่งผลิตยาว่าน่าเชื่อถือหรือไม่