🇴🇲 ประเทศโอมาน 🇴🇲

เมืองหลวง

กรุงมัสกัต

ภาษา

ใช้ภาษาอาหรับเป็นภาษราชการ แต่โอมานส่วนใหญ่สามารถใช้ภ่ษาอังกฤษติดต่อได้

อาหารประจำชาติ

กับซะฮ์

ส่วนผสม : ข้าวเมล็ดยาว เนื้อไก่ ผัก และเครื่องเทศ

โรคที่พบในโอมาน

โรคติดต่อ

•โรคเอดส์ (HIV)

•โรคไวรัสตับอักเสบ B และ C

•โรคมาเลเรีย

•โรคเรื้อน

•วัณโรค, ฝีในปอด

•กามโรค เช่น ซิฟิลิส

โรคไม่ติดต่อ

•โรคไตเรื้อรัง

•โรคตับเรื้อรัง

•โรคหัวใจ

•โรคเครียด

•โรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมได้

•โรคมะเร็ง

•โรคจิต, วิกลจริต

•พิการอื่นๆ เช่น ตาบอดสี (สำหรับตำแหน่งพนักงานขับรถ) หูหนวก เป็นต้น

•การตั้งครรภ์ (จะต้องมีการตรวจร่างกายคนงานหญิงทุกคนที่จะเข้าไปทำงาน)

การดูแลสุขภาพของชาวมุสลิม

ด้านออกกำลังกาย

การป้องกันและบำบัดโรค

ด้านโภชนาการ

แนวทางของอิสลามนั้น อาหารต้องครอบคลุมถึงอาหารทุกชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย เน้นความสำคัญของ นม น้ำผึ้ง เนื้อ ผลไม้ และผักต่างๆ ให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดของอาหาร ไม่รับประทานอย่างฟุ่มเฟือย

อิสลามถือว่าการมีร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพดีเป็นความโปรดปรานจากอัลลอฮ การรักษาความแข็งแรงและสุขภาพร่างกายของชาวมุสลิมจึงถือเป็นการตระหนักต่อความโปรดปรานจากอัลลอฮ หรือเป็นการปฏิบัติทางศาสนาด้วยเช่นกัน

ในหมู่ชาวมุสลิมให้ความสำคัญและเอาใจใส่ต่อเรื่องความสะอาด การบริโภคอาหารตามหลักโภชนาการ การออกกำลังกายเป็นประจำ และการมีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ ตลอดจนมีวิธีการในการควบคุมโรคติดต่อเพื่อไม่ให้แพร่ระบาดด้วย

แนวคิดสำคัญตามความเชื่อทางสุขภาพโดยทั่วไป

-มีความเชื่อว่าห้ามทำแท้ง จะทำได้ในกรณีที่ต้องรักษาชีวิตแม่เท่านั้น

-ผู้ชายจะต้องขลิบอวัยวะเพศชาย ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ

-การช่วยผู้ป่วยระยะสุดท้ายไม่สนับสนุนให้ใส่เครื่องช่วยหายใจในผู้ป่วยมีภาวะเป็นผัก

-การผ่าศพชันสูตรเป็นสิ่งต้องห้าม นอกจากเป็นข้อบังคับทางกฎหมาย

-หลังคลอดจะมีการนำรกไปฝัง

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับการพยาบาล

การปรับเปลี่ยนการพยาบาลให้สอดคล้องกับการดูแลทางจิตวิญญาณ

ปรับเปลี่ยนการพยาบาลให้สอดคล้องกับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย

การปรับเปลี่ยนการพยาบาลให้สอดคล้องกับการดูแลเรื่องอาหาร

การปรับเปลี่ยนการพยาบาลให้สอดคล้องกับการให้บริการทางการแพทย์และพยาบาล

-เมื่อต้องพูดคุยกับผู้ป่วย จะไม่สบตาหรือจ้องผู้ป่วยนานเกินไป

-ในการตรวจผู้ป่วยที่เป็นผู้หญิง เราจะนำเสื้อคลุมที่ยาวสามารถปกปิดร่างกายได้ทั่วก่อนทำการตรวจร่างกาย

-เราจะแจ้งผู้ป่วยก่อนเสมอว่า ผู้ให้บริการเป็นเพศเดียวกันหรือไม่ เพื่อความสะดวกของผู้ป่วย แต่ส่วนใหญ่สำหรับชาวโอมานจะเน้นผู้ให้บริการเป็นเพศเดียวกัน แต่ถ้ามีความจำเป็นที่ผู้ให้บริการเป็นเพศตรงข้าม เราจะอนุญาตให้สามีเข้าไปด้วยได้

-เราจะนำอ้างน้ำเล็กๆไว้ข้างตัวผู้ป่วย เพราะชาวคูเวตจะล้างมือก่อนและหลังรับประทานอาหารเสมอ

-เมื่อเราจะดูแลหรือสัมผัสผู้ป่วย จะใช้มือขวา เพราะชาวมุสลิมจะใช้มือขวาในการจับอาหารหรือเครื่องดื่ม

-ในกรณีผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับพลังงานจากเนื้อสัตว์ เราจะไม่นำเนื้อหมูมาให้ผู้ป่วยรับประทาน แต่จะให้เป็นเนื้อไก่หรือปลา

-เราจะไม่นำสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาอื่นมาไว้ในห้องผู้ป่วย

-ในผู้ป่วยที่มีข้อจำกัดหรือผู้ป่วยหลังคลอด การสวดมนต์ของผู้ป่วยเราจะช่วยพยุงตัวผู้ป่วยไปทางทิศตะวันตก เพราะการสวดมนต์ของชาวมุสลิมจะหันหน้าไปทางทิศตะวันตก

-จะจัดสถานที่ละหมาดให้ผู้ป่วยทุกครั้ง เพื่อเกิดความสบายใจ

-พยาบาลมีหน้าที่เข้าไปให้กำลังใจ ทำให้เขาอบอุ่น และเชื่อมั่นว่าจะหายป่วย

-ใส่ใจดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด เพราะชาวมุสลิมจะเชื่อว่าการดูและการเยี่ยมเยือนผู้ป่วย เป็นการช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเผชิญกับความเจ็บของเขา โดยเฉพาะด้านทางจิตใจการเข้าหาผู้ป่วยทำให้เขาลดความกังวล ความคิดถึง ความเศร้าโศกได้

-ช่วยพยุงมือผู้ป่วยวางบนส่วนที่ตนเจ็บ แล้วให้การละหมาดเพื่อเป็นการขอพรลดความทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วย