Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
รูปแบบการศึกษาทางวิทยาการระบาด - Coggle Diagram
รูปแบบการศึกษาทางวิทยาการระบาด
วิธีการศึกษาทางระบาดวิทยา
การศึกษาลักษณะการเกดิโรคภัยไข้เจ็บกับการพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกดิโรค
การศึกษาเชิงสังเกตการณ์(Observational epidemiology)
การศึกษาเชิงทดลอง(Experimental epidemiology)
ประโยชน์
วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง Host Agent Environment ตามธนนมชาติของการเกิดโรค
เพื่อพรรรณนาถึง อุบัติการณ์ หรือ อัตราความชุกและการแพร่กระจายของโรค ตามลักษณะบุคคล สถานที่ และเวลา
เพื่อค้นหาความรู้หรือการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุของกระบวนการธรรมชาติของการเกิดโรค
ค้นหาปัญหาและศึกษาปัญหาอย่างทันทีทันใด รวมถึงโรคระบาด โรคประจำถิ่น และโรคอุบัติใหม่
เป็นแนวทางในการกำหนดมาตรการในการควบคุมโรคและป้องกันโรค
ขั้นตอนของวิธีการศึกษาทางระบาดวิทยา
การกำหนดสมมติฐานและทดสอบ
การกำหนดวิธีการควบคุมปัญหา
การกำหนดปัญหาสุขภาพ
การวิเคราะห์สถานการณ์
การดำเนินการ
การประเมินผล
การแบ่งชนิดของการศึกษาตามลำดับเวลา(Time sequence)
Cross-sectional study
Prospective study
Retrospective Study
การแบ่งชนิดของการศึกษาตามลักษณะการศึกษา(Nature Study)
การศึกษาเชิงสังเกต(Observational studies)
เชิงพรรณนา(Descriptive epidemiology)
บางประเทศดำเนินการโดย ศูนย์สถิติสาธารณสุขแห่งชาติ
อธิบายตัวแปรที่มีอยู่
เป็นขั้นตอนแรกของการศึกษา
อธิบายสถานะสุขภาพในชุมชน อาศัยขอมูลจากงานประจำกรือการสำรวจ
อิงดัชนีอนามัย
ประโยชน์
ได้ข้อมูลพื้นฐานในการสร้างสมมติฐานและเป็นแนวทางในการศึกษาค้นคว้าต่อไป
เป็นแนวทางในการวางแผน ประเมิน หรือการให้บริการสาธารณสุขชุมชน
ได้ข้อมูลกลุ่มเสี่ยง
ทราบถึงภาวะสุขภาพอนามัย
เชิงวิเคราะห์(Analytical epidemiology)
ศึกษาความสัมพันธ์โรคและปัจจัยต่างๆ
พิสูจน์การเชื่อมโยงเชิงเหตุผลระหว่าปัจจัยกับผลกระทบทางสุขภาพ
มีกลุ่มศึกษาและกลุ่มเปรียบเทียบ
ตอบ 2 คำถามหลัก Why & How
ประโยชน์
เข้าใจปัญหาสุขภาพได้ชัดเจน
ได้ข้อมูลสำคัญเป็นแนวทางในการวางแผน ดำเนินโครงการ กำหนดมตรการ ที่สามารถแก้ปัญหาสุขภาพของประชาชนได้
พิสูจนฺสมมติฐาน
ชนิด
case-contron study หรือ retrospective study
Cohort study หรือ Prospective study
บางครั้งเรียก Follow up หรือ Incedence study
ศึกษาจากประชากรที่ปราศจากโรค แบ่งเป็น 2 กลุ่ม 1.สัมผัสกับปัจจัยเสี่ยง 2.ไม่ได้สัมผัส
ระบุตัวแปรที่สนใจและตรวจวัด กลุ้มประชากรที่ศึกษาทั้งหมดจะถูกติดตามเฝ้าสังเกต
ใช้เวลานานในการติดตาม
หากโรคที่ต้องงการศึกษาพบได้น้อยอาจทำให้พบปัญหาขนาดตัวอย่างที่ไม่มากพอที่จะศึกษา
ชนิด
Case report & case series
ผู้ป่วยเฉพาะราย คือ รายงายผู้ป่วยหนึ่งรายหรือมากกว่าครอบคลุมข้อมูลทุกเานของผู้ป่วยอย่างละเอียด
ผู้ป่วยหลายๆรายที่ป่วยเป็นโรคเดียวกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง มักเป็นโรคที่เกิดขึ้นใหม่
Ecological study
มีประโยชน์ต่อการตั้งสมมติฐาน
ไม่สามารถนำผลที่ได้ไปอ้างเหมือนการศึกษาแบบ Individual level ได้
Cross-sectional study
บางครั้งเรียก Prevalence studies
การวัดExposure และการวัดeffect ดำเนินการในเวลาเดียวกัน
วัดอัตราความชุกของโรค
ยากที่จะประเมิน้ชิงเหตุผล
ง่ายและไม่แพง
มีประโยชน์ในการประเมินความต้องการในการดูแลสุขภาพของประชาชน
การศึกษาเชิงทดลอง(Experimental epidemiology)
เริ่มจากกลุ่มคนที่สัมผัสต่างกันแล้วดูผลว่าต่างกันหรือไม่
ศึกษาแบบผู้สึกษากำหนดและควบคุมตัวแปรต่างๆ
ชนิด
ภาคสนาม(Field trial)
วัตถุประสงค์คือป้อวกันโรค
อุบัติการณืของโรคที่ต้องการศึกษาต้องต่ำ ทำให้ค่อนข้างซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง
ตะวอย่างประชาชนที่สุขภาพดีแต่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
เช่น การทดทอบวัคซีน
ทดลองในชุมชน(Community trial)
กลุ่มตัวอย่าง คือ ชุมชน
เหมาพสำหรับโรคที่เกิดจากเงื่อนไขหรือตัวแปรทางสังคม สิ่งแวดล้อม
จัดการกับปจจัยให้คนทั้งชุมชน
เชิงคลินิก(Clinical trial)
ต้องการศึกษาผลของการรักษา
ตัวอย่างจะถูกสุ่มในกลุ่มที่ได้รับการรักษา หรือ กลุ่มควบคุม
Randomized control data
ประเมินเปรียบเทียบผลของทั้งสองกลุ่ม
การเลือกรูปแบบการศึกษาทางวิทยาการระบาด
ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และข้อมูล หรือองค์ความรู้ที่มีอยู่
Experimental epidemiology
หาผลที่เกิดจากการใส่สิ่งกระตุ้น
Field tral
clinical trial
Community trial
Descriptive epidemiology
ต้องการค้นหาปัญหาชุมชน ประชากรกลุ่มเสี่ยง ต่องการทราบเวลาและสถานที่ที่มีการเกิดโรคมากที่สุด รวมถึงรวบรวมข้อค้นพบมาสร้างสมมติฐาน
Cross-sectional study
Case report & Case series
Ecological Study
Analytical study
พิสูจน์สมมติฐานได้จากการศึกษาเชิงพรรณา หรือต้องการหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยและการเกิดฌรคที่จะยืนยัน Cause-Effect
case-control study
cohort study
ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา
Case-control study
ต้องการศึกษาปัจจัยเสี่ยงแต่มีเวลาไม่มากนัก
Prospective หรือ cohort
มีเวลามาก
งบประมาณและทรัพยากร
Cross sectional study
งบมีจำกัดแต่ต้องการทราบปัจจัยเสี่ยงคร่าวๆ
อุบัติการณืของโรค
Case-control study
โรคที่ต้องการศึกษามีอัตราอุบัติการณ์ต่ำแต่ต้องการทราบปัจจัยเสี่ยง
ความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ
Case-control study
โรคที่มีอันตราย ก่อให้เกิดผลกระทบสูง ผู้ป่วยำม่ให้ความร่วมมือ ปต่ต้องการทราบบปัจจัยเสี่ยงอย่างคร่าวๆ