Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การรักษาพยาบาลเบื้องต้นด้านปัจจุบันพยาบาล - Coggle Diagram
การรักษาพยาบาลเบื้องต้นด้านปัจจุบันพยาบาล
ความสำคัญของการพยาบาลฉุกเฉิน
รักษาชีวิตของผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บ
ป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บมีอาการมากหรือหนักกว่าเดิม
บรรเทาหรือลดความเจ็บปวดทรมาน
ส่งต่อผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บได้อย่างปลอดภัย
หน้าที่หลักของพยาบาล
การประเมิน/จำแนกผู้ป่วย
การจัดการกับอาการรบกวนต่างๆการดูแลความปลอดภัย
การป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการรักษา
การสร้างความพึงพอใจแก่ผู้ป่วย
มาตรฐานการปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน
มาตรฐานที่ 1 การคัดกรองผู้ป่วย
มาตรฐานที่ 2 การประเมินปัญหาและแก้ไขภาวะฉุกเฉิน
มาตรฐานที่ 3 การส่งเสริมความสุขสบายของผู้ป่วย
มาตรฐานที่ 4 การส่งต่อการรักษา
มาตรฐานที่ 5 การให้ข้อมูลและการเคารพสิทธิผู้ป่วย
ประเภทของผู้ป่วยฉุกเฉิน
ผู้ป่วยฉุกเฉินตามสาเหตุ
Trauma
Non-trauma
ผู้ป่วยฉุกเฉินตามความรุนแรง
การจำแนกผู้ป่วยฉุกเฉิน ตามแนวทางการคัดแยกของ Emergency Severity Index (ESI) Version 4
ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต(Emergent)
ผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน(Urgent)
ผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง(Non-urgent)
ผู้ป่วยทั่วไป
ผู้รับบริการสาธารณสุขอื่น
KESI
KESI 1 ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (Resuscitation: สีแดง) ต้องให้การช่วยเหลือทันที
การช่วยเหลือระบบไหลเวียนโลหิต
ต้องต้องได้รับการรักษาโดยเร่งด่วน
KESI 2 ผู้ป่วยเจ็บป่วยรุนแรง (Emergent: สีชมพู) ต้องตรวจใน 5-10 นาที
20-30% ของผู้ป่วยที่ห้องฉุกเฉิน
เป็นระดับที่มีการประเมินผิดมากที่สุด
overtriage
KESI 3 ผู้ป่วยเจ็บป่วยปานกลาง (Urgent: สีเหลือง) ต้องตรวจใน 15-30 นาที
KESI 4 ผู้ป่วยเจ็บป่วยเล็กน้อย (Less-urgent: สีเขียว) รอตรวจในเวลา 30-60 นาที
KESI 5 ผู้ป่วยไม่ฉุกเฉิน (Non-urgent: สีขาว) รอตรวจรักษาในเวลา 1-2 ชั่วโมง
HT ยาหมด
ไอ เจ็บคอ ผู้ป่วย look well
ปวดหัวไมเกรนเล็กน้อย
ปวดท้องลิ้นปี่ เล็กน้อย
ผิวหนังอักเสบ
การรักษาพยาบาลเบื้องต้นในภาวะฉุกเฉินที่พบบ่อย
ภาวะฉุกเฉินทางอายุรกรรม
การหยุดหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตไม่ทำงาน
สาเหตุ
ศีรษะและสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
กระดูกคอหัก
ภาวะเสียเลือดมาก
ไฟฟ้าช็อต จมนํ้า ได้รับสารพิษ
การรักษาเบื้องต้นหรือการส่งต่อ
การดูแลผู้ป่วยกระทำด้วยความรวดเร็ว ร่วมกับการประเมินหาสาเหตุ และให้การแก้ไขสาเหตุทันที
อาจต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และให้ oxigent
ทำการส่งต่อไปสถานพยาบาลที่มีความพร้อม
การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน
ขั้นตอนที่1 การตรวจระดับการรู้สติ
ขั้นตอนที่ 2. คลำชีพจร (check pulse)
ขั้นตอนที่ 3. การกดหน้าอก (Chest compression)
การช่วยฟื้นคืนชีพ
หมดสติ เป็นลม ชัก และภาวะช็อก
ประเภทของการหมดสติ
หมดสติ แต่มีการหายใจ
หมดสติพร้อมกับหายใจขัดหรือหยุดหายใจ
การตรวจผู้ป่วยหมดสติหรือหมดความรู้สึก
การตรวจลูกตา
ตรวจดูลักษณะและขนาดรูม่านตา
การประเมิน GCS
การช่วยเหลือและการรักษาพยาบาลเบื้องต้น
ประเมินหาสาเหตุของการหมดสติ
ให้ออกซิเจน และสารนํ้าตามข้อบ่งชี้
จัดท่านอนตะแคงกึ่งควํ่า
คลายเสื้อผ้า และสิ่งรัดตัวให้หลวม
ส่งต่อสถานพยาบาลที่มีความพร้อม
สาเหตุหลักของภาวะช็อค
low perfusion pressure
low cellular oxygen
ภาวะช็อกจากการอุดกั้นนอกหัวใจ
ภาวะช็อกจากโรคหัวใจ
ภาวะช็อกจากปริมาณเลือดลดลง
อาการ
กระสับกระส่าย ซีด
คลื่นไส้ อาเจียน หนาว กระหายนํ้า อ่อนเพลีย
หายใจเร็วถี่ขึ้น ไม่สมํ่าเสมอ
การจำแนกประเภทของช็อค
Hypovolemic shock
Neurogenic shock
Cardiogenic shock
Endocrinic shock
Septic shock
Anaphylactic shock
การช่วยเหลือและการรักษาเบื้องต้นช็อค
ประเมินความรู้สึกตัว CABs ตรวจวัดสัญญาณชีพ
ใส่สายสวนปัสสาวะค้างไว้เพื่อดูปริมาณปัสสาวะ
ให้ออกซิเจนและให้ความอบอุ่น
หาสาเหตุของอาการช็อกและแก้ไข
ให้ผู้ป่วยนอนราบและยกปลายเท้าสูงกว่าลำตัว 10-20 นิ้ว
การได้รับสารพิษ
ทางที่สารพิษเข้าสู่ร่างกาย
ปาก หายใจ ฉีด ผิวหนัง
การดูแลผู้ป่วยได้รับสารพิษ
การช่วยชีวิตเบื้องต้น(Basic life support)
Airway
Breathing
Circulation
Decontamination
การประเมินสภาพผู้ป่วย(Patient evaluation)
การดูแลเบื้องต้น(Early management)
เพื่อลดพิษในร่างกาย (decontamination)
GI decontamination
การลดการดูดซึมยาในทางเดินอาหาร
การเพิ่มการกำจัดสารพิษ
การทำให้อาเจียน ล้วงคอ ใช้ยา Ipecac syrup
ใช้สารลดการระคายเคือง
การล้างท้อง(gastric lavage)
การดูแลรักษาประคับประครอง(Supportive care)
การดูแลรักษาสารพิษเฉพาะ(Mx of specific toxicity)
สารพิษจำแนกตามลักษณะการออกฤทธิ์
ชนิดกัดเนื้อ
ชนิดทำให้ระคายเคือง
ชนิดที่กดระบบประสาท
ชนิดที่กระตุ้นระบบประสาท
งูกัด สัตว์กัด ผึ้ง ต่อ แตน ต่อย
สัตว์กัด
ล้างทำความสะอาดบาดแผล
บาดแผลเล็ก ทำแผล ใส่ยาและปิดแผล
ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักทุกราย
งูพิษกัด
ตรวจหารอยเขี้ยวงูหรือฟันงู
รัดเหนือบาดแผล 2 เปลาะ คลายทุก 15 นาที
ทำความสะอาดแผล รีบนำส่งโรงพยาบาล
งูมีพิษต่อระบบประสาท: เห่า อาง สร้างประสาท ทับ สามเหลี่ยม
มีพิษต่อระบบเลือด: เขียว ปะ แมว กินเลือด
แมลงกัดต่อย
รีบเอาเหล็กในออก
ประคบเย็นเพื่อบรรเทาปวด
ทาบริเวณที่ถูกกัดด้วยแอมโมเนียหรือครีมสเตียรอยด์
ภาวะฉุกเฉินทางศัลยกรรม
บาดแผล
แผลฟกชํ้า
ประคบเย็นทันที่ หลัง 24 ชม. ประคบอุ่น
แผลถลอก
ล้างทำความสะอาด ซับให้แห้ง ใส่ยาฆ่าเชื้อ
แผลฉีกขาด
ทำความสะอาด ห้ามเลือด
แผลไหม้
ประคบเย็น ทำความสะอาดแผล การจัดการความปวด
การตกเลือดและการห้ามเลือด
External bleeding มีเลือดออกมาภายนอก มองเห็นได้
Internal bleeding เลือดออกจากอวัยวะภายใน
ลักษณะของเลือดที่ออก
เลือดออกจากหลอดเลือดแดง(artery)
เลือดออกจากหลอดเลือดดำ(vein)
เลือดออกจากหลอดเลือดฝอย(capillary)
อาการและอาการแสดงของการตกเลือด
ผิวหนัง หน้า ริมฝีปาก ฝ่ามือ เล็บ ซีด
เวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย ใจสั่น หูอื้อ
เหงื่อออก ตัวเย็น ปลายมือ แลเท้าเย็น ซีด
หมดสติ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลืออาจเสียชีวิตได้
การช่วยเหลือและการพยาบาลเบื้องต้น
ห้ามเลือด ถ้ามีอาการเป็นลม หรือช็อก รักษาอาการเป็นลมและช็อก
ใช้ผ้าสะอาดปิดแผล และพันให้แน่น
กรณีสงสัยว่ามีการตกเลือดภายใน ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล
การห้ามเลือด
ใช้มือที่สะอาด/ ผ้าที่สะอาดกดลงบาดแผลโดยตรง
ใช้วิธีกดบนหลอดเลือดแดงใหญ่ที่มาเลี้ยงบริเวณแผล
วิธีการขันชะเนาะ คลายและขันใหม่ทุก ½ ชั่วโมง
ภาวะฉุกเฉินทาง ตา หู คอ จมูก
สิ่งแปลกปลอมเข้าตา
ลืมตาในนํ้าสะอาดและกรอกตาไปมา หรือล้างตาด้วย NSS
ตรวจหาสิ่งแปลกปลอม ใช้มุมผ้าสะอาด/ สำลี เขี่ยออก
สิ่งแปลกปลอมเข้าหู
กรณีเป็นสิ่งมีชีวิต และเยื่อแก้วหูไม่ทะลุ ใช้นํ้ามันมะกอกหรือแอลกอฮอล์ 70% หรือ glycerine boraxหยอดเข้าหู เพื่อให้แมลงลอยขึ้นมา
ถ้ามองเห็นตัวแมลงอาจคีบออกได้
ล้างหู (ear irrigation) ด้วยนํ้าอุ่น
สิ่งแปลกปลอมเข้าคอ
ติดที่ทางเดินอาหารส่วนต้น
ติดที่ทางเดินหายใจส่วนบน
สิ่งแปลกปลอมเข้าจมูก
ถ้ามองเห็นให้คีบออก โดยใช้ nasal forceps
ถ้ามองไม่เห็นและผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือ ให้ส่งต่อ
การรักษาพยาบาลเบื้องต้นในภาวะฉุกเฉินที่พบบ่อย
บาดเจ็บที่ศีรษะ (Head injury)
บาดเจ็บที่ศีรษะระยะแรก
หนังศีรษะ (scalp)
บวม ชํ้า หรือโน
ถลอก
ฉีกขาด
กะโหลกศีรษะ (skull)
กะโหลกแตกร้าวเป็นแนว
กะโหลกแตกร้าวบริเวณฐาน
กะโหลกแตกยุบ
สมอง (brain)
Focal brain injury
การบาดเจ็บทั่วไปของเนื้อสมองส่วนสีขาว
บาดเจ็บที่ศีรษะระยะที่สอง
Hematoma
Brain edema
IICP( ความดันในกะโหลกศีรษะสูง )
อาการแสดงของการบาดเจ็บที่ศีรษะ
Brain Concussionเป็นผลมาจากการที่สมองถูกกระแทกหรือถูกเขย่าอย่างแรง
Brain contusion ผู้ป่วยจะหมดสติหลังบาดเจ็บทันที อาจนานเป็นชั่วโมง เป็นวัน
การพยาบาลในภาวะฉุกเฉิน Head injury
ประเมิน CABD
ประเมินสภาพทั่วๆไป เช่น Vital sign บาดแผล
การเตรียมยาที่มักใช้ในผู้ป่วยบาดเจ็บที่ศีรษะ
บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา (Sport injury)
การบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อและเอ็นกล้ามเนื้อ
ตะคริว
กล้ามเนื้อบวม
กล้ามเนื้อฉีก
การปฐมพยาบาลและการรักษากล้ามเนื้อฉีก
ในระยะแรก 24-48 ชั่วโมง ให้ใช้หลัก “RICE”
ในระยะที่สอง หลัง 24-48 ชั่วโมง ให้ใช้หลัก “HEAT”