1.2 การรักษาด้วยไฟฟ้า
ข้อบ่งใช้ในการรักษา
ขนาดของไฟฟ้าที่ใช้
ข้อห้ามใช้
เครื่องมือที่ใช้
click to edit
1) ผู้ป่วยที่อาการเศร้าทุกชนิด และเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย
2) ผู้ป่วยโรคจิตเภทชนิดที่คลั่งหรือซึมเฉย (Catatonic Schizophrenia)
3) โรคจิตในวัยเสื่อมในระยะเศร้า
4) โรคความผิดปกติของอารมณ์ทั้งในระยะคลั่งและระยะเศร้า
5) อาการทางจิตเวชอื่นๆ ที่รักษาด้วยวิธีอื่นๆ ไม่ได้ผล
1) Brain tumor
2) ผู้ป่วยที่มีโรคทางระบบหัวใจและหลอดเลือด
3) วัณโรคระยะรุนแรง
4) ผู้ป่วยที่เป็นกระดูก
5) การติดเชื้อที่มีไข้สูง
6) ผู้สูงอายุที่ร่างกายไม่แข็งแรง
1) สมัยก่อนนิยมใช้เครื่อง ECT ที่ให้คลื่นไฟฟ้าในลักษณะ Sine wave ซึ่งจะให้พลังงานมากกว่า แต่ทำให้เกิดผลข้างเคียงด้านประสาทวิทยาและความทรงจำมากกว่า ปัจจุบันนิยมใช้เครื่องมือ ECT ที่ให้คลื่นไฟฟ้าแบบ Brief-pulse
2) Electrodes 2 อัน
3) Airway
4) Jelly หรือ น้ำเกลือ NSS หรือ electrolyte
5) Emergency set
6) หมอนทราย
7) ผ้ายาง, ผ้าขนหนูผืนเล็กแช่น้ำเย็น
8) Oxygen
9) เครื่อง Suction
10) ฉากกั้น
11) เข็มฉีดยา, Syring
12) เตรียมยา
- วางบริเวณทัดดอกไม้ หรือ Temporal lobe
- วางบริเวณศีรษะข้างเดียวกับมือที่ถนัด (Non-dominant cerebral hemisphere)
ประมาณ 70-130 โวลท์ ในเวลา 0.1-0.5 วินาที (เครื่อง Sine wave) สำหรับเครื่อง B.P.S. ใช้ไฟฟ้า 150 Milliculombs ใช้เวลากระตุ้น 4 วินาที
จำนวนครั้งที่ใช้
Affective disorder
click to edit
: Major depression ประมาณ 6-8 ครั้ง
: Mania ประมาณ 8-10 ครั้ง
-Schizophrenia ประมาณ 12-18 ครั้ง
-Schizophrenia affective disorder ประมาณ 10-12 ครั้ง
-ปกติทำวันเว้นวัน หรือ 3 ครั้ง ในสัปดาห์แรก แล้วลดลงเป็น 2 ครั้ง ในสัปดาห์ต่อมา
-กรณีใช้เป็น Maintenance treatment ทำทุก 1-2 สัปดาห์ ไม่เกิน 25 ครั้ง
ผู้ป่วยที่เคยทำมาแล้วต้องใช้จำนวนครั้งเพิ่มขึ้นกว่าครั้งก่อน
ใช้สำหรับรักษาในระยะแรก คือ ทำเพียง 3-4 ครั้ง หรือ 7-10 วันแรก
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของพยาบาลในการรักษาด้วยไฟฟ้า
การเตรียมผู้ป่วยก่อนทำ
1) ให้ญาติเซ็นใบยินยอม
2) เตรียมทางด้านจิตใจ
3) เตรียมด้านร่างกาย
- ดูแลความสะอาดทั่วไป
- งดอาหารและน้ำทางปากก่อนไปอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
- ตรวจวัดสัญญาณชีพ
- ให้ปัสสาวะก่อนไป
- สวมเสื้อผ้าหลวมๆ และเอาเครื่องประดับที่เป็นโลหะออก
- ถอดฟันปลอม
การพยาบาลขณะทำ
1)จัดให้นอนหงายบนที่นอนแข็ง ใช้หมอนทรายรองตรงส่วนโค้งของกระดูก เช่น ต้นคอ สะเอว แขนทั้ง 2 ข้าง วางแนบลำตัว
2) ตรวจดูฟันปลอม และสิ่งต่างๆ ในตัวผู้ป่วยอีกครั้ง
3)ช่วยแพทย์ฉีดยา ตามด้วยการให้ออกซิเจนสูดดม (กรณีทำแบบ modified)
4) ใช้ผ้าชุบน้ำเกลือ หรือjelly หรือ electrolyte ทาที่ขมับทั้ง 2 ข้าง
5)วาง electrode ที่ขมับทั้ง 2 ข้าง
6) ต่อขั้วกระแสไฟฟ้า
7) ให้ผู้ป่วยอ้าปากใส่ไม้กดลิ้นพันผ้าก๊อซ หรือ mouth gag สอดไว้ระหว่างฟันกราม
8) แพทย์จะกดปุ่มปล่อยกระแสไฟฟ้า
การพยาบาลหลังทำ ECT
click to edit
1) จัดท่านอนหงายราบ เอียงศีรษะไปด้านใดด้านหนึ่ง
2) สังเกตอาการอย่างใกล้ชิดระวังการหยุดหายใจคอยดูแลผู้ป่วยที่มีความสับสน ให้นอนพัก เช็ดหน้าด้วยผ้าเย็น ทดสอบความรู้สึกก่อนส่งไปพักผ่อนที่หอผู้ป่วย
3) ดูแลผู้ป่วยที่มีอาการงุนงงหลงลืมให้ได้รับความสะดวกเกี่ยวกับการหาข้าวของ เครื่องใช้ส่วนตัว ปลอบใจ ให้กำลังใจและความมั่นใจกับผู้ป่วยว่าความจำต่างๆ
4) ให้ผู้ป่วยอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า รับประทานอาหาร
5) ถ้าผู้ป่วยปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก ให้ผู้ป่วยได้นอนหลับพักผ่อนอาการปวดจะทุเลาลงได้ แพทย์อาจสั่งให้ยาแก้ปวด (Analgesic) ไว้ให้เมื่อจำเป็น
6) ลงบันทึกเกี่ยวกับอาการก่อนทำ ขณะทำและหลังทำ ระยะเวลาชัก อย่างละเอียด
ผลแทรกซ้อนของการทำ ECT
4) อาการปวดศีรษะปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ในระยะ 2-3 วัน หรือเป็นสัปดาห์
1) ความจำเสื่อมชั่วระยะหนึ่ง (Impair of memory)
2) กระดูกหักและมีการเคลื่อนของข้อต่อต่างๆ
3) หยุดหายใจนาน (Apnea) พบได้เฉพาะบางราย
5) กล้ามเนื้อรอบกล่องเสียงหดเกร็ง (Laryngeal spasm)
นาย อิบรออิม สิเดะ เลขที่ 88