Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
1.1 จิตเภสัชบำบัดและการใช้ยาอย่างสมเหตุผล, นาย อิบรอฮิม สิเดะ เลขที่ 88 -…
1.1 จิตเภสัชบำบัดและการใช้ยาอย่างสมเหตุผล
1.1.3 ยาควบคุมอารมณ์
(Mood-stabilizing drug)
1) ลิเทียมคาร์บอเนต (Lithium Carbonate)
ข้อบ่งใช้
รักษา Mania
ป้องกันการเป็นซ้ำของโรค Bipolar disorder
อาการข้างเคียง
และการช่วยเหลือ
(1) ที่ไม่เป็นอันตราย ได้แก่ คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ไม่สบาย อ่อนเพลีย
ควรให้ความมั่นใจกับผู้ป่วยว่าไม่มีอันตรายใด ๆ และติดตามสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
(2) หากพบลิเธียมในกระแสเลือด 1.5-2 mEq/Lจะพบอาการที่รุนแรงขึ้น เช่น เบื่ออาหาร อาเจียน ท้องเดิน เห็นภาพไม่ชัด สับสน มึนงง
ควรหยุดยาทันที และอาจให้เข้าอยู่โรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
(3) ถ้าพบลิเธียมในกระแสเลือด 2–2.5 mEq/L
รีบให้สารน้ำเพื่อปรับสมดุลของสารน้ำในร่างกาย
(4) ถ้าพบลิเธียมในกระแสเลือดมากกว่า 2.5 mEq/L
ต้องช่วยชีวิตและลดระดับของลิเธียม ตรวจหาระดับของลิเธียมทุก 3 ชั่วโมง และอาจต้องทำ Hemodialysis
(5) ผู้ป่วยคอพอกที่รักษาด้วย Tyroxin อาการจะรุนแรงมากขึ้น
(6) พบ Hypothyroidism และ Hyperkalemia
สิ่งสำคัญในการดูแลผู้ที่ได้รับการรักษาโดยยาลิเธียมคาร์บอเนต คือ การรักษาระดับที่เหมาะสมของยาในกระแสเลือด
การพยาบาล
(1) ควรให้ผู้ป่วยรับประทานยาระหว่างมื้ออาหาร หรือหลังอาหารทันที
(2) ในระยะแรกของการได้รับยาต้องตรวจหาระดับของลิเธียมในกระแสเลือด สัปดาห์ละ 2 ครั้ง จนกว่าจะมีระดับคงที่หรือควบคุมอาการแมเนียได้
(3)ในระยะแรกของการได้รับยาต้องใช้ยากลุ่มรักษาอาการทางจิตควบคุมอาการไปก่อน และต้องสังเกตประเมินลักษณะอารมณ์ของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง
(4) ติดตามและประเมินอาการข้างเคียง
(5) แนะนำผู้ป่วยและญาติในการปฏิบัติตัว ดังนี้
รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
อาหารที่รับประทานต้องเป็นอาหารธรรมดา
ดื่มน้ำมาก ๆ วันละ 3 ลิตร อย่างสม่ำเสมอ
ห้ามออกกำลังกายในสภาพอากาศที่ร้อนจัด
ตรวจหาระดับของลิเธียมในกระแสเลือดอย่างสม่ำเสมอตามแพทย์นัด
สังเกตอาการความไม่สุขสบายอาการผิดปกติหรือความอยากอาหารที่ลดลง
แนะนำให้เขียนข้อความว่า “เป็นผู้ที่ใช้ยาลิเธียม” ใส่กระเป๋าติดตัวไว้เสมอ
1.1.4 ยาคลายกังวล
(Anxiolytic, Antianxiety drug or minor transquilizer drugs)
ยาที่สำคัญ
Benzodiazepines
ข้อบ่งใช้
1) โรคทางจิตเวชที่มีอาการกังวล
2) ใช้เป็นยานอนหลับ
3) ใช้รักษา Delirium tremens
4) โรคลมชัก เพื่อแก้อาการชัก และช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย
5) โรคของ Neuromuscular ที่มีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ เช่น cerebral palsy บาดทะยัก
6) อาการก้าวร้าว รุนแรง
ข้อควรระวัง
ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีปัญหาของระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยโรคไต โรคตับ ผู้ที่มีอาการซึมเศร้ามาก ๆ อาจนำไปสู่การฆ่าตัวตาย หรือผู้ที่เสพสารเสพติด ผู้ที่ตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก เพราะอาจทำให้เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้
อาการข้างเคียง
ที่พบบ่อย คือ ง่วงนอน ความคิดช้า อาจมีสับสน ตื่นเต้น วุ่นวาย ศีรษะหมุน ผื่นตามผิวหนัง และคลื่นไส้ อาเจียน อาจมีอาการเสพติดได้ถ้าใช้นาน ๆ ไม่ควรใช้คู่กับบาบิทูเรตและแอลกอฮอล์ ยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ Diazepam (Valium), Chlordiazepoxide (Librium), Lorazepam (Ativan), Clonazepam (Tranxene), Meprobamate
การพยาบาล
1) ควรให้ยาเฉพาะก่อนนอน
2) ในกรณีฉีดยาเข้ากล้ามให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อมัดใหญ่ และฉีดลึกให้เพียงพอเนื่องจากยาทำให้ปวดเเละระคายเคือง
3) สังเกตอาการข้างเคียง และติดตามผลการรักษา
4) ยา Lorazepam (Ativan) ใช้อมใต้ลิ้นจะดูดซึมเร็วกว่าการกลืนทางปาก
5) ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้
ผู้ป่วยไม่ควรปรับเปลี่ยนขนาดยา รวมทั้งซื้อยามารับประทานเอง
ระหว่างรับประทานยากลุ่มนี้ห้ามขับรถหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรเ
หลีกเลี่ยงการรับประทานร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
หลีกเลี่ยงการรับประทานเครื่องดื่มที่มีสารกระตุ้นต่าง ๆ
อย่าหยุดยาอย่างกะทันหัน
หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้บ่อย ๆ
ควรรายงานแพทย์ถ้ามีอาการต่อไปนี้ เช่น มีไข้ เจ็บคอ มีผื่นตามผิวหนัง มีจุดเลือดหรือมีจ้ำตามตัว
นาย อิบรอฮิม สิเดะ เลขที่ 88