Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพพยาบาล, CPG clinical practice guideline,…
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพพยาบาล
พรบ สถานพยาบาล
สถานที่รวมตลอดถึงยานพาหนะซึ่งจัดไว้เพื่อการประกอบโรคศิลปะ การประกอบวิชาชีพเวชกรรม การประกอบวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์
สถานพยาบาลมี ๒ ประเภท ดังต่อไปนี้
1.สถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
2.สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
เมื่อได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลแล้ว ผู้รับอนุญาตต้องจัดให้มีผู้ดำเนินการคนหนึ่งทำหน้าที่ควบคุมดูแลและรับผิดชอบในการ ดำเนินการสถานพยาบาลนั้น และได้กำหนดห้ามมิให้บุคคลใดดำเนินการสถานพยาบาลเว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต ใบอนุญาตให้ดำเนินการ สถานพยาบาลให้ใช้ได้จนถึงวันสิ้นปีปฏิทินของปีที่สองนับแต่ปีที่ออกใบอนุญาต ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง เพื่อ ให้การเป็นไปตามพ.ร.บ. นี้จึงกำหนดให้ผู้ดำเนินการมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่างๆ
ได้แก่
ควบคุมดูแลมิให้ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลประกอบวิชาชีพผิดไปจากสาขาที่ได้แจ้งไว้ในการขอรับใบอนุญาตหรือมิให้บุคคลอื่นซึ่ง มิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
ควบคุมดูแลให้ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย
ควบคุมดูแลมิให้มีการรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนเกินจำนวนเตียงตามที่กำหนด เว้นแต่กรณีฉุกเฉิน และกำหนดให้ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการมีหน้าที่และความรับผิดชอบร่วมกัน
จัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลตามวิชาชีพและจำนวนที่กำหนดตลอดเวลาทำการ
จัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล
จัดให้มีและรายงานหลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลและผู้ป่วย ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
พรบ ยาพระราชบัญญัติยา 2510
การควบคุม กิจการเกี่ยวกับการผลิตยา ขายยา หรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักร ตลอดจนการควบคุมให้มีเภสัชกร รับผิดชอบเกี่ยวกับการขาย ยาอันตราย ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชน
กรณีที่ผู้รับอนุญาต ประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนตำหรับยา จะต้องยื่นคำขอก่อนใบสำคัญ การขึ้นทะเบียนตารับยาสิ้นอายุ ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตขายยา แผนปัจจุบัน เฉพาะยาบรรจุเสร็จที่ไม่ใช่ ยาอันตรายและเป็นผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการประจำอยู่ ณ สถานที่ขายยาตลอดเวลาที่เปิดทำการตามกฎหมาย ผู้รับ อนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน ต้องจัดให้มีเภสัชกร ประจาอยู่ ณ สถานที่ขายยาวันละไม่น้อยกว่าสามชั่วโมง ติดต่อกันในเวลาเปิดทำการด้วย
ได้แก่
ยาแผนปัจจุบัน หมายความว่า ยาที่มุ่งหมายสำหรับใช้ในการ ประกอบวิชาชีพเวชกรรม การประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบัน หรือการบำบัดโรคสัตว์
ยาแผนโบราณ หมายความว่า ยาที่มุ่งหมายสำหรับใช้ในการประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ หรือการบำบัดโรคสัตว์ ซึ่งอยู่ในตำรายาแผนโบราณ
ยาอันตราย หมายความว่า ยาแผนปัจจุบันหรือยาแผนโบราณที่ รัฐมนตรีประกาศเป็นยาอันตราย
ยาควบคุมพิเศษ หมายความว่า ยาแผนปัจจุบันหรือยาแผนโบราณ ที่รัฐมนตรีประกาศเป็นยา ควบคุมพิเศษ
ยาใช้ภายนอก หมายความว่า ยาแผนปัจจุบันหรือยาแผนโบราณ ที่มุ่งหมายสำหรับใช้ภายนอก
ยาใช้เฉพาะที่ หมายความว่า ยาแผนปัจจุบันหรือยาแผนโบราณที่ มุ่งหมายใช้เฉพาะที่กับ หู ตา จมูก ปาก ทวารหนัก ช่องคลอด หรือท่อปัสสาวะ
ยาสามัญประจำบ้าน หมายความว่า ยาแผนปัจจุบันหรือยาแผน โบราณที่รัฐมนตรีประกาศ เป็นยาสามัญประจำบ้าน
ยาบรรจุเสร็จ หมายความว่า ยาแผนปัจจุบันหรือยาแผนโบราณที่ ได้ผลิตขึ้นเสร็จในรูปต่าง ๆ ทางเภสัชกรรม ซึ่งบรรจุในภาชนะ หรือหีบห่อ ที่ปิดหรือผนึก ไว้ และมีฉลากครบถ้วน
ยาสมุนไพร หมายความว่า ยาที่ได้จากพฤกษชาติ สัตว์ หรือแร่ ซึ่งมิได้ผสม ปรุง หรือแปรสภาพ
เภสัชเคมีภัณฑ์ หมายความว่า สารอินทรีย์เคมี หรืออนินทรีย์เคมี ซึ่งเป็นสารเดี่ยวที่ใช้ปรุงแต่ง เตรียม หรือผสมเป็นยา
การขออนุญาตและออกใบอนุญาตเกี่ยวกับยาแผนปัจจุบัน
ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย หรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบัน เว้นแต่จะได้รับ ใบอนุญาตจากผู้อนุญาต การขออนุญาตและการอนุญาตให้เป็น ไปตามหลักเกณฑ์
การผลิตยาตามใบสั่งยาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือของผู้ประกอบโรคศิลปะ ที่สั่งสำหรับคนไข้เฉพาะราย
3.การขายยาสมุนไพรที่ไม่ใช่ยาอันตราย การขายยาสามัญประจำบ้าน การขายยาซึ่งผู้ประกอบ วิชาชีพเวชกรรมหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ ในสาขาทันต กรรม ขายเฉพาะสาหรับคนไข้ของตน หรือการขายยา ซึ่งผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์ ขายสาหรับสัตว์ซึ่งตนบำบัดหรือป้องกันโรค
การนำยาติดตัวเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งไม่เกินจำนวนที่จำเป็น จะต้องใช้เฉพาะตัว ได้สามสิบวัน
5.การนำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักร โดยกระทรวง ทบวง กรม ในหน้าที่ป้องกันหรือ บำบัดโรค สภากาชาดไทย และองค์การเภสัชกรรม ต้องปฏิบัติ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด ในกฎกระทรวง
บทกำหนดโทษ
ในกฎหมายได้กำหนดโทษ ผู้รับอนุญาตขายยา ดังต่อไปนี้
1.ผู้ใดฝ่าฝืนผลิต ขาย หรือนำหรือสั่งเข้ามาใน ราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบัน ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน ห้าปีและ ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
2.ผู้รับอนุญาตผู้ใดฝ่าฝืนผลิตหรือขายยาแผนปัจจุบันนอกสถานที่ที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตหรือ ขายยาแผนปัจจุบันไม่ ตรงตามประเภทของใบอนุญาต ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงห้าพันบาท
3.ผู้ใดผลิตยาปลอมอันเป็นการฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่สามปีถึงตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ หนึ่งหมื่นบาทถึง ห้า หมื่นบาท
4.ผู้รับอนุญาตผลิตยา หรือนำเข้ามาในราชอาณาจักร ต้องนำตำรับยานั้นมาขอขึ้นทะเบียนต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ หาก ฝ่าฝืนต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การใช้ยาอย่างสมเหตุผลหมายถึงการใช้ยาโดยมีข้อบ่งชี้เป็นยาที่มีคุณภาพประสิทธิภาพจริงมีราคาเหมาะสมคุ้มค่าและไม่เป็นการใช้ยาอย่างซ้ำซ้อนคำนึงถึงปัญหาเชื้อดื้อยาเป็นการใช้ยาในกรอบบัญชียาและมีผลอย่างเป็นขั้นตอนที่ถูกต้องตามแนวทางพิจารณาการใช้ยาโดยใช้ยาในขนาดที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละกรณีโดยการให้ยาและความถี่การให้ยาถูกต้อง
พระราชบัญญัติโรคติดต่อ 2550
โรคติดต่อ
โรคที่เกิดจากเชื้อโรคหรือพิษของเชื้อโรคซึ่งสามารถ แพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมมาสู่คน
โรคติดต่ออันตราย
โรคติดต่อที่มีความรุนแรงสูงและสามารถแพร่ ไปสู่ผู้อื่นได้อย่างรวดเร็ว
โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง
โรคติดต่อที่ต้องมีการติดตาม ตรวจสอบ หรือจัดเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
โรคระบาด
โรคติดต่อหรือโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิด โรคแน่ชั ดซึ่งอาจแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้อย่าง รวดเร็วและกว้างขวาง หรือมีภาวะของการ เกิดโรคมากผิดปกติกว่าที่เคยเป็นมา
ในกรณทีมีโรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังหรือ โรคระบาดเกิดขึ้น ให้บุคคลดังต่อไปนี้แจ้งต่อเจ้าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อ คือเจ้าบ้านหรือผู้ควบคุมดูแลบ้าน ผู้รับผิดชอบในสถานพยาบาล เป็นต้น เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ เมื่อเกิด โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดหรือมีเหตุสงสัยว่าได้เกิด โรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาดในเขตพื้นที่ใด ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่มีอำนาจในการดำเนินการได้ในกรณที่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อ อันตรายหรือโรคระบาด
บทลงโทษ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามมาตรา ๔๕ (๑) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พระราชบัญญัติสุขภาพ แห่งชาติ 2550
พรบ สุขภาพแห่งชาติ เอื้อเฟื้อแบ่งปันอยู่ร่วมกันในสังคมอยู่เย็นเป็นสุข
กฎ︎มายที่แสดงถึงพัฒนาการ ของ︎สังคมที่ตกลงร่วมกันตามแน︎วคิดด้านสุขภาพภาพ แบบ 4 มิติ
ที่กล่าวถึง จะต้องประกอบไปด้︎วย ค︎วามสมดุลของกาย จิตใจ ปัญญา และสังคมเชื่อมโยงกัน2 ไปสู่การปฏิบัติ ︎เพื่อให้เกิดผลจริง และการเปลี่ยนตัวแปลงในสังคม
เนื่องจากกฏหมายนี้เป็นการ เปลี่ยนแนวคิดการบริหารด้านสุขภาพจากเดิมที่เป็นหน้าที่ของรัฐก็เปิดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมด้านสุขภาพมากขึ้น สิทธิที่จะดำรงชีวิตในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อ ต่อสุขภาพ เพื่อให้คนไทยมีความสมบูรณ์ทั้งกายและใจเอื้อเฟื้อแบ่งปันอยู่ด้วยกันในสังคมอย่างมีความสุข โดยให้การดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึงเท่าเทียมกันทั้ง เด็ก คนพิการผู้สูงอายุหรือคนด้อยโอกาส และประชาชนมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลและคำชี้แจ้งต่างๆที่อาจมีผลต่อภาวะสุขภาพ
สิ่งสำคัญจะเกิดขึ้นเมื่อพรบ.สุขภาพแห่งชาติหรือรัฐธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติจะถูกใช้เป็นกรอบและแนวทางในการกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์และ การดำเนินงานด้านสุขภาพเพื่อหน่วยงานองค์กรชุมชนต่างๆจะนำไปใช้อ้างอิงแผนการปฏิบัติเพื่อมุ่งสู่ทิศทางการพัฒนาสุขภาพไปในทิศทางเดียวกัน
พรบ คุ้มครองผู้เสียหายมาตรา41
มุ่งเพื่อช่วยเหลือให้ผู้รับบริการได้รับค่าเสียหายจากการรักษาพยาบาล โดยเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นในลักษณะเป็นการ เยียวยา หรือบรรเทาความเดือดร้อน และในขณะเดียวกันต้องการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้รับบริการและผู้ให้บริการ ในการจะร่วมกัน คลี่คลายปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการให้บริการสาธารณสุข
วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2555 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นโดยมีสาระสำคัญดังนี้ คือ
1.ผู้มีสิทธิยื่นคำร้อง ได้แก่ ผู้รับบริการ ทายาท ผู้อุปการะ หรือหน่วยบริการที่ให้บริการ ซึ่งต้องใช้สิทธิในการยื่นคำร้องภายในกำหนด 1 ปี นับจากวันที่ได้รับความเสียหาย
2.กำหนดเหตุแห่งความเสียหายที่เกิดจากการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นเหตุให้ร้องขอรับเงินช่วยเหลือไม่ได้ ได้แก่ (1) การดำเนินไปตามพยาธิสภาพของโรค (2) เหตุ แทรกซ้อนของโรคที่เป็นไปตามสภาพปกติธรรมดาของโรคนั้นอยู่แล้ว
3.กำหนดประเภทของความเสียหายที่เกิดจากการรักษาพยาบาลของหน่วยบริการและอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นไว้ 3 ประเภท ได้แก่
เสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร หรือเจ็บป่วยเรื้อรังที่ต้องได้รับการรักษาตลอดชีวิต และมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำรงชีวิต จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ ตั้งแต่ 240,000 บาท แต่ไม่เกิน 400,000 บาท
สูญเสียอวัยวะหรือพิการ ที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ ตั้งแต่ 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 240,000 บาท
บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ ไม่เกิน 100,000 บาท
4.สำหรับกรณีที่ความเสียหายไม่อาจจัดเป็นประเภทใดประเภทหนึ่งตามที่กำหนดได้ เป็นอำนาจของคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข ที่จะ พิจารณาเทียบเคียงกับประเภทความเสียหายที่กำหนดไว้ได้ตามความเหมาะสม
5.การพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นที่ผู้รับบริการยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น แยกได้เป็น 2 กรณี คือ 1) กรณีผู้รับบริการยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้อง ต้นครั้งแรก 2) กรณีอุทธรณ์ เป็นกรณีเมื่อผู้รับบริการ ทายาท หรือผู้อุปการะ ไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการ มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ ควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข โดยต้องยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบผลการวินิจฉัย
หน่วยเวชกรรมสังคม
กลุ่มงานเวชกรรมสังคมประกอบด้วย งานรักษาพยาบาลชุมชน, งานส่งเสริมสุขภาพและป้องกัน ควบคุมโรคและระบาดวิทยา และงานบริการสุขภาพชุมชน ด้านบริการ
งานรักษาพยาบาลในชุมชน งานสาธารณสุขเคลื่อนที่แบบผสมผสาน โดยร่วมให้การรักษาพยาบาล ให้ภูมิคุ้มกันโรค ส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันและควบคุมโรค และการปัญหาที่พบ ได้ในผู้ป่วยเวชกรรมสังคม
ความยากจนที่ไม่ยอมรักษาและไม่มีเวลา
2.ไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
3.ผู้ที่ต้องการใช้สิทธิ์บัตรต่างๆอย่างเต็มที่
ปัญหาทางจิตใจทำให้เป็นโรคทางกาย
5.การแข่งขันในสังคมทำให้เกิดความเครียดและหรือภาวะสุขภาพ
6.การมารับบริการที่โรงพยาบาลพบปัญหาเกี่ยวกับการรอตรวจที่นาน
มีอาการกลัวโรงพยาบาล
พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ 2) ปี 2540
การพยาบาล หมายความว่า การกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วย การฟื้นฟูสภาพ การป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งการช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค ทั้งนี้ โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการพยาบาล
การผดุงครรภ์ หมายความว่า การกระทำเกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอด และทารกแรกเกิด รวมถึงการตรวจ การทำคลอด การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอดรวมทั้งการช่วยเหลือแพทย์กระทำการักษาโรค ทั้งนี้ โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์ และศิลปะการผดุงครรภ์
พยาบาลมีบทบาทอิสระในการปฏิบัติในการใช้ความรู้ในการดูแลผู้ป่วย รวมถึงการรักษาสิทธิของผู้ป่วย และยังทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพเพื่อการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง
"ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาล" หมายความว่า บุคคลซึ่งได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลจากสภาการพยาบาล
"การประกอบวิชาชีพการพยาบาล" หมายความว่า การปฏิบัติหน้าที่การพยาบาลต่อบุคคล ครอบครัวและชุมชนโดยกระทำการต่อไปนี้
กฏหมายอาญา
เป็นกฎหมายที่รัฐบัญญัติขึ้นเพื่อช่วยกำหนดลักษณะของการกระทำที่ถือว่าเป็นความผิด และกำหนดบทลงโทษทางอาญาสำหรับความผิดนั้น เป็นกฎหมายที่บัญญัติว่าการกระทำหรือไม่กระทำการอย่างใดเป็นความผิด
การฟ้องคดีอาญากฎหมายอาญาเป็นกฎหมายที่ว่าด้วยความผิดและโทษอาจเป็นฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาโดยกฎหมายจะบัญญัติไว้ว่าการกระทำหรือละเว้นการกระทำอย่างใดเป็นความผิดส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญานั้นได้กำหนดไว้ 5 สถานคือประหารชีวิต จำคุก กักขัง ปรับ ริบทรัพย์
ในประมวลกฎหมายอาญาภาคทั่วไปได้วางหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการวินิจฉัยความรับผิดชอบอาญาไว้โดยวางเป็นหลักฐานในมาตรา 59 วรรคแรกว่าบุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนาเว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาทในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดชอบเมื่อได้กระทำโดยประมาทกล่าวคือนอกจากเจตนาแล้วการกระทำโดยประมาทอาจก่อให้เกิดความผิดอาญาขึ้นได้การกระทำโดยประมาทก็เป็นความผิดเช่นการทำให้คนตายโดยประมาทการทำโดยประมาทเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายของผู้อื่นประมาทเป็นเหตุให้เกิดผลเสียต่อเสรีภาพของบุคคลเหล่านี้เป็นต้น
CPG clinical practice guideline
ข้อความที่พัฒนาขึ้นอย่างเป็นระบบเพื่อช่วยในการตัดสินใจของผู้ประกอบวิชาชีพและผู้ใช้บริการเกี่ยวกับ การรักษาสุขภาพที่เหมาะสมกับภาวะใดภาวะหนึ่งซึ่งคำจำกัดความมีดังนี้จะต้องมีการพัฒนาความรู้ที่จะนำไปเป็น แนวทางปฏิบัติต้องทบทวนอย่างเป็นระบบผ่านการบูรณาการการตัดสินใจโดยผู้เชี่ยวชาญแนวทางปฏิบัติจะต้องมี ความยืดหยุ่นเนื่องจากเป็นหลักการที่ชี้แนะเพื่อการตัดสินใจแก่บุคลากรสุขภาพ
เป้าหมายของการดูแล
เพื่อให้มีการทำงานร่วมกันเป็นทีมแบบสหวิชาชีพมีการดูแลตามแผนการรักษาเพื่อผลลัพธ์การดูแลที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มความพึงพอใจต่อการทำงานเป็นทีม
2.เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติได้รับบริการที่ถูกต้องตามมาตรฐานแต่ละวิชาชีพส่งผลให้ผู้ป่วยและญาติได้รับบริการที่มีคุณภาพตลอดจนเกิดความพึงพอใจ
ผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นคือด้านผู้ใช้บริการมีดังนี้
1.ผู้ป่วยมีภาวะสุขภาพดีขึ้น
2.ผู้ป่วยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน
3.ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี
4.ผู้ป่วยเกิดความพึงพอใจ
5.ครอบครัวของผู้ป่วยมีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องที่บ้าน
ด้านผู้ให้บริการ มีดังนี้
1.ทีมสุขภาพมีการสื่อสารและประสานงานที่ดี
2.ทีมสุขภาพเกิดความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน
3.ระบบการบริการไม่เกิดการซ้ำซ้อนกัน
การดูแลผู้ป่วย Head injury
แนวทางปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยได้รับการบาดเจ็บที่ศีรษะ การบาดเจ็บท่ีเกิดจากแรงที่เข้ามากระทบต่อศีรษะและร่างกายแล้วก่อให้เกิดความบาดเจ็บต่อหนังศีรษะ กะโหลกศีรษะ และ สมอง กับเส้นประสาทสมอง
การบาดเจ็บที่ศีรษะ(Head Injury) คือ ซึ่งทาให้มี พยาธิสภาพท่ีศีรษะส่วนใดส่วนหนึ่ง อาจเป็นหนังศีรษะ (Scale) กะโหลกศีรษะ (Skull) เยื่อหุ้มสมองหรือส่วน ต่าง ๆ ของสมอง รวมท้ังหลอดเลือดสมองแตก ทาให้มีเลือดออกในชั้นต่าง ๆ ของสมอง การบาดเจ็บที่ศีรษะนี้ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งท่ีทาให้ผู้ป่วยพิการ หรือเสียชีวิตได้
พยาธิสภาพ จากการบาดเจ็บที่ศีรษะอาจเกิดขึ้นจากการมีแรงกระแทกที่ศีรษะทันทีหรือเป็น ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นตามมาภายหลัง เช่น ภาวะสมองบวม ภาวะความดัน ในสมองสูง การมีเลือดออกในสมอง เป็นต้น การบาดเจ็บจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความแรงที่มากระแทกศีรษะ ตาแหน่งที่ถูกกระแทก ขนาดและชนิดของแรงที่มา กระแทก หากมีแรงเคลื่อนมากระทบศีรษะที่อยู่นิ่ง จะทำให้สมองบาดเจ็บเฉพาะที่ แต่ถ้าแรงนั้นมากระทบศีรษะที่อยู่นิ่ง แล้วศีรษะเคลื่อนไปกระทบกับวัตถุอื่นจะทำให้เกิด การบาดเจ็บทั้งที่สมอง เฉพาะที่และที่สมองทั่วไปด้วย
การแบ่งระดับความรุนแรงของการบาดเจ็บที่ศีรษะ (severity of head injury)
แนะนำให้ใช้คะแนนของ Glasgow Coma Scale (GCS) เป็นหลักในการแบ่งความรุนแรง ดังต่อไปนี้
การบาดเจ็บที่ศีรษะระดับเล็กน้อย (Mild or minor head injury) GCS = 13-15 คะแนน
การบาดเจ็บที่ศีรษะระดับปานกลาง (Moderate head injury) GCS = 9-12 คะแนน
3.การบาดเจ็บที่ศีรษะระดับรุนแรง (Severe head injury) GCS < 8 คะแนน
วัตถุประสงค์
เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนของการบาดเจ็บท่ีศีรษะ
เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลถูกต้องตามมาตรฐานทางการพยาบาลโดยทีมสหสาขาวิชาชีพ
ทีมดูแลผู้ป่วยสามารถให้คาแนะนำเบื้องต้นต้นแก่ผู้ป่วย และญาติ เกี่ยวกับตัวโรค, การดูแล, และการ ปฏิบัติตัวท่ีเหมาะสมได้
เพื่อให้แนวทางการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บที่ศีรษะท่ีไม่รุนแรงในโรงพยาบาลเป็นไปใน ทิศทางเดียวกัน