Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยในระยะก่อน-หลังผ่าตัด การเคลื่อนไหวและการออกกำลังกาย -…
การพยาบาลผู้ป่วยในระยะก่อน-หลังผ่าตัด
การเคลื่อนไหวและการออกกำลังกาย
การพยาบาลผู้ป่วยก่อนผ่าตัด
การประเมินผู้ป่วยก่อนผ่าตัด
การซักประวัติ
ถามประวัติโรคประจำตัว
ประวัติการผ่าตัด และการได้รับยาระงับความรู้สึก
ประวัติการแพ้ยาหรืออาหาร
การใช้ยาสารเสพติด การสูบบุหรี่ และดื่มสุรา
ประวัติของคนในครอบครัวที่มีปัญหาเกี่ยวกับการได้รับยาระงับความรู้สึก
ประวัติเกี่ยวกับโรคในระบบต่างๆ
การตรวจร่างกาย
สัญญาณชีพ
การชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง
การตรวจประเมินทางระบบหายใจ
การตรวจร่างกายตามระบบ โดยเน้นส่วนที่เกี่ยวข้อง
กับโรคหรือบริเวณที่จะทำการผ่าตัด
การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
CBC
ตรวจหาความสมดุลของเลือด
UA
ตรวจการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
Electrolytes
ดูแร่ธาตุในร่างกาย
BUN/Creatinine
ดูฟังชั่นของไต
Blood sugar
หาน้ำตาลในเลือด
LFT
ตรวจหน้าที่การทำงานของตับ
Coagulogram
ดูการแข็งตัวของเลือด
Chest X-ray
ตรวจหาวัณโรค ตรวจไอเรื้อรัง
ECG/EKG
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
การเตรียมผู้ป่วยก่อนผ่าตัด
ด้านร่างกาย
ประเมินความสามารถในการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด
เพื่อดูว่าร่างกายสามารถทนต่อการผ่าตัดได้หรือไม่
ประเมินสภาวะของปอดและหลอดลม
ดูการทำงานของระบบทางเดินหายใจ
ระบบทางเดินปัสสาวะ ต้องประเมินสภาวะของไต
ประเมินความสมบูรณ์ของร่างกายที่ได้รับสารอาหารที่พอเหมาะ
เพื่อให้ผู้ป่วยทนต่อการผ่าตัดได้ดี และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
ภาวะสารน้ำและอีเล็กโตไลท์ในร่างกาย
ต้องประเมินสภาวะความสมดุลย์ของสารน้ำ
การพักผ่อนและการออกกำลังกายต้องได้รับ
การพักผ่อนที่ดีและมีการออกกำลังกายที่เหมาะสม
ให้คำแนะนำและข้อมูลต่างๆที่ผู้ป่วยควรทราบเพื่อลดความวิตกกังวล
ด้านจิตใจ
ควรได้รับการเตรียมทางจิตใจทุกคน โดยการเยี่ยมผู้ป่วยก่อนผ่าตัดประเมินความวิตกกังวลก่อนผ่าตัด ทั้งนี้เพื่อช่วยลดความวิตกกังวล
ความกลัวต่างๆพยาบาลควรให้ผู้ป่วยได้รับ ข้อมูลจริง ทำความเข้าใจ
และแก้ไขเกี่ยวกับความเชื่อผิดผิด
การให้คำแนะนำ
การปฏิบัติหลังผ่าตัด
Early ambulation
การลุกเดินทันที
Quadriceps setting Excerise(QSE)
เป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อต้นขา
Straight leg raising Exercise(SLRE)
เป็นการออกกำลังขาข้อสะโพกและ
กล้ามเนื้อต้นขาแบบยกขาขึ้นตรงตรง
Range of Motion(ROM)
เป็นการออกกำลังกายข้อโดยมีการเคลื่อนไหว
ในทุกทิศทางปกติของข้อต่างๆ
Deep-breathing exercise
จัดผู้ป่วยให้อยู่ในท่านอนหงายศีรษะ แล้วกำมือหลวมๆ
ให้นิ้วมือสัมผัสกับหน้าอกเพื่อจะได้รู้สึกการเคลื่อนไหวของปอด
Effective cough
ช่วยทำให้แผลอยู่นิ่ง เป็นการลดอาการเจ็บแผลขณะที่ไอ
Abdominal breathing
เพื่อให้ทรวงอกเคลื่อนไหวน้อยลงในระยะแรกหลังผ่าตัด
Turning and ambulation
เป็นกเป็ารพลิกตัวด้วยตนเอง
Extremity exercise
เป็นการออกกำลังกายแขนและขาทีละข้าง
Pain management
การระงับความเจ็บปวด
การเตรียมผู้ป่วยก่อนวันผ่าตัด
งดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืน
ถ้าผ่าตัดใหญ่จะสวนอุจจาระก่อน
การเตรียมผิวหนังก่อนผ่าตัด
เพื่อเป็นการลดจุลินทรีย์
โกนขน วางใบมีด 45 องศา
ให้ยาก่อนผ่าตัด45นาทีเพื่อลดรีเฟล็กที่ไวต่อการกระตุ้น
เตรียมเครื่องมือให้พร้อม
ต้องบันทึกให้ครบ
เจาะเลือด CBC และ Blood group
สังเกตอาการทั่วไป
การดูแลสภาพร่างกาย
คืนก่อนผ่าตัด
ถ้ามีฟันปลอม ถอดฟันปลอม
ถอดของมีค่าไว้กับญาติ
ไม่ให้ผู้ป่วยแต่งหน้าหรือทาสีเล็บ
เพราะบริเวณนั้นสามารถดู อาการเขียนคล้ำได้
เช้าวันผ่าตัด
สังเกตอาการผู้ป่วย คอยคลายความกลัว
ตรวจสัญญาณชีพก่อน
การพยาบาลผู้ป่วยหลังผ่าตัด
การประเมินสภาพผู้ป่วย
แบบแผนกิจกรรมและ
การออกกำลังกาย
ชีพจรและความดันโลหิตไม่ควรมีการ
เปลี่ยนแปลงมากกว่าหรือน้อยกว่า 20%
แบบแผนอาหารและ
การเผาผลาญ
ประเมินประวัติการได้รับมารน้ำ
in take out put
แบบแผนการขับถ่าย
ดูว่าปัสสวะออกน้อยหรือมากหลังผ่าตัด
แบบแผนการรับรู้และ
การดูแลสุขภาพ
ประเมินความรู้ความเข้าใจ
และการยอมรับในการผ่าตัด
กิจกรรมพยาบาลหลังผ่าตัด
การส่งเสริมการหายใจให้โล่ง
จัดท่านอน ให้นอนราบ 6-12 ชั่วโมง
กระตุ้นให้ผู้ป่วยหายใจเข้าออกลึกๆ
และไออย่างมีประสิทธิภาพ
เปลี่ยนท่านอนและพลิกตะแคงตัวบ่อยๆ
กระตุ้นให้ทำกิจวัตรประจำวันด้วยตนเอง
ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
สังเกตอาการบ่งชี้ภาวะแทรกซ้อนทางเดินหายใจ
ถ้าผู้ป่วยมีอาการผิดปกติให้รีบแจ้งแพทย์
การส่งเสริมการทำงานของ
ระบบหัวใจและไหลเวียน
ตรวจวัดสัญญาณชีพทุก 15 นาที 4 ครั้ง
ทุก 30 นาที 4 ครั้ง และทุก 1 ชั่วโมงจน
สัญญาณชีพสม่ำเสมอ
สังเกตบาดแผลและปริมาณสิ่งคัดหลั่งต่างๆที่ออกจากร่างกาย
ดูแลให้รับสารน้ำ และเลือด หรือพลาสมาแทนทางหลอดเลือดดำ
การพยาบาลเพื่อบรรเทา
อาการเจ็บป่วยจากแผลผ่าตัด
ประเมิน Pain scale
ดูแลให้ได้ยาแก้ปวดตามแผนการรักษา
ดูแลจัดท่าที่เหมาะสม
การดูแลส่งเสริมภาวะโภชนาการของผู้ป่วย
ดูแลให้รับสารอาหารและพลังงานอย่างเพียงพอ
การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย
การช่วยเหลือผู้ป่วยเคลื่อนไหวบนเตียง
การประเมินผู้ป่วย
ความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง
ระยะเวลาในการคงอยู่ของท่าที่เปลี่ยนให้ใหม่
ความไม่สุขสบายขณะเปลี่ยนท่าให้
ความผิดปกติของผิวหนัง กระดูก หลอดเลือด
ปฏิบัติการพยาบาลให้การช่วยเหลือผู้ป่วย
ปรับระดับเตียงให้เหมาะกับผู้ป่วยแนวระนาบ
พยุงผู้ป่วยด้วยความนุ่มนวลและมั่นคง
จัดท่าให้ผู้ป่วยเกิดความสุขสบาย
การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
จัดท่านอนหงายราบอยู่กับที่
หันหน้าเข้าหาผู้ป่วยและไปในทิศทางที่จะเคลื่อนย้าย
ยืนให้ท่าที่ถูกต้องและมั่นคง
ยืนแยกเท่าทั้งสองข้างห่างกันพอสมควร
หลังตรงป้องกัน การปวดหลัง
ย่อเข่าและสะโพก
ผู้ป่วยควรอยู่ใกล้พยาบาลมากที่สุด
ใช้ผ้าขวางเตียงช่วยในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
ให้สัญญาณเพื่อความพร้อมเพียง
การช่วยเหลือผู้ป่วยหัดเดิน
การออกกำลังกายเพื่อเตรียมผู้ป่วยเดิน
ให้ผู้ป่วยงอและเหยียดข้อตะโพก
หมุนข้อตะโพก
กางและหุบข้อตะโพก
เหยียดข้อเข่า
หมุนข้อเท้าเป็นวงรอบตามเข็มนาฬิกา
งอและเหยียดนิ้วเท้า
เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง
แล้วคลายออก หายใจลึกๆ
การช่วยเหลือผู้ป่วยหัดเดิน
Parallel bar
ราวคู่ขนาน ราวเดิน เป็นเครื่องช่วยให้ความมั่นใจมากที่สุด
Walker
เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ
Cane
เป็นการเดินด้วยไม้เท้าอันเดียวผู้ป่วยต้องมั่นคงในการเดิน
Crutches
ไม้ยันรักแร้ ใช้ได้ในผู้ป่วยค่อนข้างแข็งแรง
ประโยชน์ของอุปกรณ์ช่วยเดิน
ช่วยแบ่งเบาหรือรับน้ำหนักแทนขา 1หรือ2ขา
เพื่อให้สามารถพยุงตัวได้
การออกกำลังกายและ
การเคลื่อนไหวร่างกาย
การออกกำลังกาย
ชนิดให้ผู้ป่วยทำเอง
(Active or Isotonic Exercise)
ทำให้กลัามเนื้อมีความตึงตัวและแข็งแรง
การไหลเวียนโลหิตดี
ให้ผู้อื่นทำให้ผู้ป่วย
(Passive Exercise)
ช่วยให้ข้อมีการเคลื่อนไหวและช่วย
ป้องกันการหดรั้งของกล้ามเนื้อผิดรูป
ชนิดที่ให้ผู้ป่วยทำร่วมกับ
ความช่วยเหลือของผู้อื่น
(Active assistive exercise)
เป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อให้ทำงานร่วมด้วย
ให้กล้ามเนื้อทำงานแต่ข้อไม่เคลื่อน
(Isometic or static exercise)
เพิ่มความตึงตัวและแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
ป้องกันกล้ามเนื้อลีบ
ออกแรงต้านกับแรงอื่น
(Resistive exercise)
ช่วยให้กล้ามเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้น
มีความแข็งแรงและทำงานได้ดี
การเคลื่อนไหวร่างกาย
ผลดีต่อร่างกาย
ส่งเสริมและสนับสนุนการทำงาน
ของร่างกายให้เป็นไปตามปกติ
ป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย
หรือมีความพิการของกระดูกและกล้ามเนื้อ
ลดการเมื่อยล้า
ผลกระทบจากการไม่เคลื่อนไหว
ปุ่มกระดูกขาดออกซิเจน
เซลล์ตายและลุกลามกลายเป็นแผล
การเสียดทาน
เกิดการดึงรั้งหรือฉีกขาดของเส้นเลือด
กระดูกพรุน
การประสานงานกับแขนขาเสื่อมลง
กลัามเนื้ออ่อนแรง ลีบเล็ก
เกิดอาการปวดหลัง
หัวใจทำงานมากขึ้น
มีการคั่งของเลือดในหลอดเลือดดำที่ขา
เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ
ความดันต่ำขนาดเปลี่ยนท่า
ปอดขยายตัวลดลง
มีการคั่งของเสมหะมากขึ้น
ทำให้ท้องผูก
ปัสสาวะมากผิดปกติในระยะแรกๆ
กระบวนการพยาบาลในการดูแล
ผู้ป่วยก่อนและหลังผ่าตัด
1.การประเมินสภาพผู้ป่วย
การปรับตัวการทนทานต่อความเคลียด
ความรู้สึกของผู้ป่วยเมื่อเข้ารับการรักษา
ความรู้เกี่ยวกับโรคและการผ่าตัด
2.ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
เป็นข้อมูลที่จะสอดคล้องกับข้อมูลสนับสนุน
ที่รวบรวมได้จากการประเมินสภาพผู้ป่วย
3.การวางแผนการพยาบาล
และประเมินผลหลังให้การพยาบาล
ประเมินระดับความวิตกกังวล
เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึก
หาแนวทางแก้ไขความวิตกกังวลผู้ป่วย
ดูแลความสุขสบายทั่วไป
จัดหมวดหมู่กิจกรรมพยาบาล
รายงานแพทย์เมื่อพบอาการผิดปกติ