Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่5 การพยาบาลผู้ป่วยในระยะก่อน-หลังผ่าตัดการเคลื่อนไหวและออกกำลังกาย -…
บทที่5 การพยาบาลผู้ป่วยในระยะก่อน-หลังผ่าตัดการเคลื่อนไหวและออกกำลังกาย
การพยาบาลผู้ป่วยก่อนผ่าตัด
การประเมินผู้ป่วยก่อนผ่าตัด
การตรวจร่างกาย
การชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง
การตรวจประเมินทางระบบหายใจ
สัญญาณชีพ
การตรวจร่างกายตามระบบ
การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ข้อบ่งชี้ของการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Blood sugar
Liver function tests
BUN/Creatinine
Coagulogram
Electrolytes
Chest X-ray
Urinalysis
ECG
Complete blood count
ข้อแนะนำการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติ
อายุมากกว่45ปี แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว
CBC,CXR,ECG
อายุมากกว่า60ปี แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว
CBC,CXR,ECG,E'lytes,BUN/Cr,BS
อายุน้อยกว่า45ปี แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว
CBC
ผู้ป่วยที่มารับการผ่าตัดใหญ่
CBC,CXR,ECG,E'lytes,BUN/Cr,BS,Coag
การซักประวัติ
ประวัติโรคประจำตัว
ประวัติการผ่าตัด
ประวัติการแพ้ยาหรืออาหาร
การใช้ยา สารเสพติด การสูบหรี่ สุรา
ประวัติของคนในครอบครัวที่มีปัญหาเกี่ยวกับรับยาระงับความรู้สึก
ประวัติเกี่ยวกับโรคของโรคระบบต่างๆของร่างกาย
การเตรียมผู้ป่วยก่อนผ่าตัด
การเตรียมผู้ป่วย
ด้านร่างกาย
ประเมินความสมบูรณ์ของร่างกายในการได้รับอาหารที่พอเหมาะ
ภาวะสารน้ำและอิเล็คโทรลัยต์ในร่างกาย
ระบบทางเดินปัสสาวะ
การพักผ่อนและการออกกำลังกาย
ระบบทางเดินหายใจ
ให้คำแนะนำเพื่อลดความวิตกกังวล
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
ด้านจิตใจ
การให้คำแนะนำการปฏิบัติหลังผ่าตัด
Early ambulation
Quadriceps Setting Exercise(QSE)
การออกกำลังกายกล้ามเนื้อต้นขา
Straight Leg Raising Exercise(SLRE)
การออกกำลังกายขา ข้อสะโพก กล้ามเนื้อต้นขา
Range of Motion (ROM)
การออกกำลังกายข้อโดยมีการเคลื่อนไหวทุกทิศทาง
Deep-breathing exercises
การฝึกหายใจโดยให้ผู้ป่วยหายใจลึกๆ
Effective cough
การไออย่างมีประสิทธิภาพ
Abdominal breathing
การหายใจโดยใช้กล้ามเนื้อหน้าท้อง
Turning and ambulation
Extremity exercise
Pain management
การเตรียมตัวผู้ป่วยก่อนวันที่ผ่าตัด
1.อาหารและน้ำดื่ม
ควรงดอาหารผู้ป่วยก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 8ชั่วโมง
2.การขับถ่าย
สวนอุจจาระ/รับประทานยาถ่ายก่อนวันผ่าตัด
สวนสายปัสสาวะ/คายสายสวนปัสสาวะ
3.การเตรียมผิวหนังก่อนผ่าตัด
ขั้นตอน
เตรียมเครื่องใช้
กรรไกร ผ้าก๊อส กระดาษรองขนหรือผม
ผ้ายางรองกันเปื้อน
มีดโกนหนวดพร้อมใบมีดคมสะอาด
สบู่ คือHibiscrub
ถาดสี่เหลี่ยม ชามรูปไต
เหยือกบรรจุน้ำอุ่น
แจ้งผู้ป่่วยให้ทราบ
ปูผ้ายางรองกันเปื้อนบริเวณที่เตรียมจะผ่าตัด
ถ้าบริเวณที่เตรียม
สกปรกมาก ให้เช็ดด้วยเบนซินแล้วฟอกสบู่ล้างด้วยน้ำ
โกนขนหรือผม ผ้าก็อสชุบสบู่/hibiscrubจะได้โกนง่าย วางใบมีด45องศาโกนไปตามแนวขน
เมื่อโกนเสร็จใช้สบู่และน้ำล้าให้สะอาดเช็ดให้แห้งด้วยผ้า
เก็บผมหรือขน ใบมีดโกนห่อกระดาษทิ้งลงภาชนะสำหรับสิ่งของมีคม
การเตรียมเฉพาะที่อื่นๆ
4.การดูแลสภาพร่างกายทั่วไป
คืนก่อนผ่าตัด
ทำความสะอาดปาก ฟัน ถอดฟันปลอมออก
ของมีค่าเก็บให้ญาติดูแล
สื่อไฟฟ้าต่างๆให้ถอดออก เช่นกิ๊บที่ทำจากโลหะ
ไม่แต่งหน้า ทาปาก ทาเล็บ
ในเช้าวันที่จะผ่าตัด
ทำความสะอาดร่างกาย
สังเกตภาวะอารมณ์
สังเกตสภาพร่างกายทั่วไป
7.แผ่นบันทึกรายงานต่างๆต้องบันทึกให้ครบ
6.เตรียมเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆที่พิเศษ
5.การให้ยาผู้ป่วยก่อนผ่าตัด 40-90นาที
8.การส่งผู้ป่วยไปห้องผ่าตัด
9.การดุแลครอบครัวผู้ป่วย
10.การเตรียมผู้ป่วยฉุกเฉิน
การพยาบาลผู้ป่วยหลังผ่าตัด
การประเมินสภาพผู้ป่วย
แบบแผนการขับถ่าย
แบบแผนการรับรู้และการดูแลสุขภาพ
แบบแผนอาหารและการเผาผลาญ
แบบแผนการปรับตัวและการเผชิญกับความเครียด
แบบแผนกิจกรรมและการออกกำลังกาย
ประวัติโรคหัวใจ ปอด เบาหวาน ความดันโลหิตสูงที่มีก่อนผ่าตัด
การเปลี่ยนแปลงสัญญาณชีพ
กิจกรรมการพยาบาลหลังผ่าตัด
การพยาบาลเพื่อส่งเสริมหารหายใจให้โล่ง
เปลี่ยนท่านอนหรือพลิกตะแคงตัวบ่อยๆ
กระตุ้นให้ทำกิจวัตรประจำวันด้วยจนเอง
กระตุ้นให้ผู้ป่วยหยใจลึก / ไออย่างมีประสิทธิภาพ
ดูแลให้ยาตามแผนการรักษา
สังเกตการหายใจของผู้ป่วย
สังเกตอาการบ่งชี้ภาวะแทรกซ้อนทางเดินหายใจ
จัดท่านอน ให้นอนราบไม่หนุนหมอนตะแคงไปด้านข้าง
ถ้าผู้ป่วยมีอาการผดปกติรีบรายงานแพทย์
การพยาบาลเพื่อส่งเสริมการรทำงานของระบบหัวใจและไหลเวียน
ควรให้ผู้ป่วยนอนพักนิ่งๆในบริเวณที่มีเลือดออกมากๆ
เตรียมเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นให้พร้อมในรายที่มีภาวะช็อก
ดูแลให้ได้รับสารน้ำ เลือด พลาสมาตามแผนการรักษา
สังเกต บันทึก ติดตามผลการตรวจคลื่นหัวใจ
สังเกตลักษณะบาดแผล/ปริมาณสิ่งคัดหลั่งต่างๆ
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการพักผ่อนทั้งร่างกาย จิตใจ
ตรวจวัดชีพจร ทุก15นาที 4ครั้ง ทุก30นาที4ครั้ง ทุก1ชม.จนสัญญาณชีพปกติ
การพยาบาลเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดจากแผลผ่าตัด
การพยาบาลเพื่อส่งเสริมภาวะโภชนาการของผู้ป่วย
ดูแลให้รับสารอาหารและพลังงานอย่างเพียงพอ
สังเกต บันทึกอาการเปลี่ยนแปลงที่บ่งชี้การย่อย/ดูดซึมที่ผิดปกติ
กระตุ้นให้ผู้ป่วยลุกจากเตียง
การพยาบาลเพื่อส่งเสริมควสมสุขสบายและความปลอดภัยของผู้ป่วย
ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
ดูแลความปลอดภัยจากรายที่ยังไม่ฟื้นจากยาสลบ
ดูแลความสุขสบายทั่วไป
การพยาบาลเพื่อส่งเสริมการหายของแผล
สังเกตแผลที่ผิดปกติ
ทำความสะอาดแผลด้วยหลักปราศจากเชื้อ
สังเกตและประเมินปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อการหายของแผล
สอนและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแล
การให้คำแนะนำก่อนกลับบ้านสำหรับผู้ป่วยหลังผ่าตัด
ส่งเสริมภาวะโภชนาการของผู้ป่วย
ดูแลความสะอาดร่างกาย
การเคลื่อนไหวหรือกิจกรรมต่างๆที่เป็นข้อจำกัดหลังผ่าตัด
มาตรวจตามแพทย์นัด
การดูแลแผล สังเกตอาการ
การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย
การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
หลักการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
ยืนในท่าที่ถูกต้อง/มั่นคง
ยืนแยกเท้าทั้งสองข้างห่างกันพอดี เฉียงปลายเท้าไปตามทิศทางที่เคลื่อนย้าย
หันเข้าหาผุ้ป่วยในทิศทางที่จะย้าย
หลังตรง ป้องกันการปวดหลัง
จัดท่าผุ้ป่วยให้นอนหงายราบ
ย่อเข่า / สะโพก
หาวิธีเหมาะสมเพื่อผ่อนแรง
ผู้ป่วยควรอยู่ใกล้พยาบาลที่สุด
ยกตัวผู้ป่วยให้พ้นจากที่นอนเล้กน้อยเพื่อลดแรงเสียดทาน
ใช้ผ้าขวางเตียงช่วยในการเคลื่่อนย้านผู้ป่วยแทนการเลื่อนผู้ป่วย
ให้สัญญาณเพื่อความพร้อมเพรียง
ผู้ป่วยมี่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ควรมีผู้ช่วย2คนขึ้นไป
การประเมินผู้ป่วยก่อนการเคลื่อนย้าย
ความมั่งคงในการคงท่าของผู้ป่วย
ส่วนที่จำเป็นต้องให้อยู่นิ่งๆ
ส่วนที่อ่อนแรง/พิการ
อ่อนเพลียมากน้อยแค่ไหน
ท่าที่เป็นข้อห้ามของผู้ป่วย
ความต้องการการเคลื่อนย้ายเปลี่ยนท่า/ความสุขสบาย
ความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง
หลักการวิธีเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
นำหมอนหนุนศีรษะของผุ้ป่วยออก
พยาบาลยืนในท่าที่ถูกต้องมั่งคง
แจ้งให้ผู้ป่วยทราบ
พยุงผู้ป่วยโดยความนุ่มนวล/มั่นคง
การช่วยเหลือผู้ป่วยหัดเดิน
การออกกำลังกายเพื่อเตรียมผู้ป่วยเดิน
เหยียยดข้อเข่า
งอข้อเท้า
กางและหุบข้อสะโพก
งอและเหยียดนิ้วเท้า
หมุนข้อสะโพก
เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ตะโพก ต้นขา
งอ/เหยียดสะโพก
การช่วยเหลือผู้ป่วยหัดเดิน
โดยพยาบาล1คน
กรณีใช้เข้มขัด/ผ้าคาดเอว
พยาบาลใช้มือ2ข้างยืดเข็มขัดเพื่อพยุงผู้ป่วยขณะเดิน
ใช้มือหนึ่งจับเข็มขัดบริเวณกึ่งกลางเอวอีกหนึ่งจับต้นแขนเดินพร้อมกัน
กรณีไม่ใช้เข็ดขัด
ใช้มือด้านใกล้ตัวจับต้นแขน มือไกลตัวจับปลายแขน
ถ้าผู้ป่วยเป็นลมให้สอดใต้รักแร้
โดยพยาบาล2คน
พยาบาลยืนข้างผุ้ป่วยคนละด้าน มือพยาบาลใกล้ตัวสอดใต้รักแร้ อีกข้างจับปลายแขน เดินพร้อมกัน
การช่วยเหลือผู้ป่วยเคลื่อนไหวบนเตียง
ประเมินผู้ป่วย
ปฏิบัติการพยาบาลในการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยบนเตียง
การเตรียมตัวพยาบาล
การจัดท่าผุ้ป่วย
ท่านอนคว่ำ(Prone position)
ท่านอนตะแคงกึ่งคว่ำ(Semiprone position)
ท่านอนตะแคง(Lateral or Slide-lying position)
ท่านั่งบนเตียง(Fowler's position)
ท่านอนหงายชันเข่า(Dorsal recumbent position)
ท่านอนหงายพาดเท้าบนขาหยั่ง(Lithotomy position)
ท่านอนหงาย(Dorsal or Supine position)
ท่านอนคว่ำคุกเข้า(Knee-chest postiion)
ท่านอนศรีษะต่ำปลายเท้าสูง(Trendelenburg position)
การเตรียมผู้ป่วย
การช่วยเหลือผู้ป่วยหัดเดินด้วยอุปกรณ์ช่วยเดิน
ชนิดอุปกรณ์ช่วยเดิน
Crutches ไม้ยันรักแร้,ไม้ค้ำยัน
ประโยชน์
ช่วยแบ่งเบา/รับน้ำหนักแทนขา1หรือ2ข้าง เมื่อมีข้อห้ามหรือมีการอ่อนแรงจนขาไม่สามารถรับน้ำหนักได้
เพิ่มการพยุงตัวเพื่อให้สามารถทรงตัวได้
ช่วยแบ่งเบา/รับน้ำหนักแทนขา1หรือ2ข้าง เมื่อมีข้อห้ามในการรับน้ำหนักเต็มทั้งขา
Cane
Walker/Pick-up frames
Parallel bar ราวคู่ขนาน
การเตรียมผู้ป่วยก่อนการฝึกใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน
ฝึกในท่าตั้งตรงบนเตียงหรือเบาะ
ฝึกในราวคู่ขนาน
ฝึกความแข็งแรง /ทนทาน/ประสานสัมพันธ์ของกล้ามเนื้อ
การลงน้ำหนักที่ขาเวลาเดิน
ไม่ลงน้ำหนักของขาข้างเจ็บเลย(NWB)
เดินโดยเอาปลายเท้าข้างที่เจ็บแตะพื้น(TTWB)
เดินโดยลงน้ำหนักข้างที่เจ็บได้บางส่วน(PWB)
เดินโดยขาข้างที่เจ็บลงน้ำหนักได้เต็มที่(FWB)
เดินโดยขาข้างที่เจ็บลงน้ำหนักที่ทนไหว(WB AS Tol.)
รูปแบบการเดิน(Gait pattern)
Three-point gait
Swing-to gait
Two-point gait
Swing-through
Four-point gait
วิธีการฝึกผู้ป่วยใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน
ไม้ค้ำรักแร้
การวัด
ท่านอน : นอนหงายวัดความยาวจากAnterior auxiliary fold ถึงส้นเท้าบวก1นิ้ว
ในท่ายืน:ผู้ป่วยถือAuxiliary crutchesให้ปลายไม้ห่างจากนิ้วก้อยด้านข้างและด้านหน้า6นิ้ว
ปรับระดับความยาวไม้ให้Underarm rest ต่ำกว่าAnterior fold/obh;,nv
ปรับระดับhand barให้จับแล้วข้อศอกงอ30องศาข้อมือกระดกขึ้นเต็มที่และมือกำได้เต็มที่
สอนเดิน
Four-point gait
Two-point gait
Three-point gait
Swing-to gait
Swing-through
Lofstrand crutch
การวัดความยาว
ให้ถือLofstrand crutchโดยให้ปลายไม้ห่างจากนิ้วก้อยไปทางด้านข้าง6นิ้ว
จากนั้นเลื่อปรับระดับไม้ ข้อศอกงอ20-30องศา
ส่วนของหวงคล้องอยู่ในระดับช่วงต้นของท่อนแขนส่วนปลาย
สอนเดิน
เดินpoint gait เช่นเดียวกับ Axillary crutches แต่เดินSwing gaitไม่ได้
การเดินขึ้นลงบันไดเช่นเดียวกับAxillary crutches
Platform crutch
การวัด
ผู้ป่วยถือPlatform crutchโดยให้ปลายไม้ห่างจากนิ้วก้อยไปทางด้านข้าง6นิ้วแล้วปรับระดับ
เพื่อให้แผ่นรองรับท่อนแขนส่วนปลายอยู่ในระดับที่ข้อศอกงอ90องศา
สอนเดิน
เช่นเดียวกับAxillary crutches
ไม้เท้า(Cane)
การวัด
ผู้ป่วยถือregular cane ในมือด้านตรงข้ามกับขาที่มีปัญหาให้ปลายไม้ห่างจากปลายนิ้วก้อยทางด้านข้าง6นิ้ว
ให้มือจับอยุ่ระดับเดียวกับgreater trochanter หรือจับแล้วข้อศอก20-30องศา
การสอนเดิน
ให้ผู้ป่วยถือregular caneในมือด้านตรงข้ามกับขาที่มีปัญหา
เพื่อให้เหมือนการเดินปกติโดนแขนและขาเคลื่อนสลับกัน
รูปแบบการเดิน
เดินบนพื้นราบ
3-point gait
2-point gait
ไม้เท้า 3 ขา
การวัดความยาว
ให้ถือไม้เท้าในมือด้านตรงข้ามกับขาที่มีปัญหา
ให้แกนกลางไม้ห่างจากนิ้วก้อยของเท้าไปทางด้านข้าง6นิ้ว
สอนเดิน
เดินบนทางราบเช่นเดียวกับไม้เท้าเดียว
Walker
การวัด
ให้ผู้ป่วยยืนให้เท้า2ข้างตรงกับระดับขาหลังของWalker
ความสูงขอWalkerที่เหมาะสมคือ ระดับจับมือตรงGreater trochanter/ข้อศอกงอ20-30องศา
สอนเดิน
เวลายกและวางwalkerบนพื้นจะต้องให้4ขาถึงพร้อมกัน
แบบแผนการเดิน
ยกwalkerไปด้านหน้า ห่าน1ช่วงแขน
ยกขาด้านที่มีปัญหาก้าวไปจนถึงระดับขาหลัง/ไม่เกินกึ่งกลาวความลึกของwalker
จากนั้นก้าวขาข้างที่ดีตามไปถึงระดับเดียวกัน
พร้อมกับยันน้ำหนักตัวลงบนแขน2ข้าง
การออกกำลังกายและการเคลื่อนไหวร่างกาย
การเคลื่อนไหวร่างกาย
ร่างกายมีการเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างถูกต้องทำให้เกิดผลดี
ป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย/มีความพิการของกระดูกและกล้ามเนื้อ
ลดการเมื่อยล้า/การใช้พลังงานมากเกินไป
ส่งเสริมสนับสนุนการทำงานของร่างกายให้เป็นไปตามปกติ
ผลกระทบจากการไม่เคลื่อนไหวร่างกาย
ระบบทางเดินอาหาร
ทำให้เบื่ออาหาร
ผลต่อการขับถ่าย : ท้องผูก
ระบบทางเดินหายใจ
ปอดขยายตัวลดลง
มีการคั่งของเสหะมากขึ้น
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
มีการคั่งของเลือดในหลอดเลือดดำที่ขา
เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ
หัวใจทำงานมากขึ้น
ความดันต่ำขณะเปลี่ยนท่า
ระบบทางเดินปัสสาวะ
มีการคั่งของปัสสาวะในไตและกระเพาะปัสสาวะ
เกิดนิ่วในไตและกระเพาะปัสสาวะ
การถ่ายปัสสาวะมากกว่าปกติในระยะแรก
ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
การประสานงานของกล้ามเนื้อแขนขาลดลงหรือไม่สัมพันธ์กัน
กระดูกผุ เปราะบาง
กล้ามเนื้ออ่อนแรง ลีบเล็ก
อาการปวดหลัง
ระบบเมตาบอลิซึมและการเผาผลาญอาหาร
ระดับโปรตีนในกระแสเลือดลดต่ำลง
ความผิดปกติด้านอัตมโนทัศน์และภาพลักษณ์
การเผาผลาญอาหารลดลง
ระบบผิวหนัง : แผลกดทับ
สาเหตุ
เซลล์ตายและลุกลามกลายเป็นแผล
การเสียดทาน
เกิดแรงกดทับระหว่างปุ่มกระดูกกับที่นอน
แรงดึงรั้ง เกิดจากแรงกดทับและเสียดทานเกิดขึ้นพร้อมกัน
การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายชนิดที่ให้ผู้ป่วยทำร่วมกับความช่วยเหลือของผู้อื่น (Active assistive exercise)
วิธีนี้ดีกว่าผู้อื่นทำให้ผู้ป่วยเพราะเป็นการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อมีการทำงานร่วมด้วย
การออกกำลังกายโดยให้กล้ามเนื้อทำงานแต่ข้อไม่เคลื่อน
(Isometric or Static exercise)
เพื่อเพิ่มความตึงตัวและแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ป้องกันกล้ามเนื้อลีบ
การออกกำลังกายโดยให้ผู้อื่นทำให้ผู้ป่วย(Passive exercise)
ช่วยให้ข้อมีการเคลื่อนไหวและช่วยป้องกันการหดรั้งของกล้ามเนื้อผิดรูป
การออกกำลังกายให้ผู้ป่วยออกแรงต้านกับแรงอื่น(Resistive exercise)
เป็นการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ให้ผู้ป่วยออกแรงต้าน
การออกกำลังกายชนิดผุ้ป่วยทำเอง(Active or Isotonic Exercise)
ให้ผลดีเพราะข้อต่างๆมีการเคลื่อนไหวและกล้ามเนื้อหดรัดตัว