Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ANTIMICROBIAL ยาต้านจุลชีพ - Coggle Diagram
ANTIMICROBIAL ยาต้านจุลชีพ
กลุ่มยา Antibiotic
ยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีน
ยับยั้งการแบ่งตัวของ DNA (deoxyribonucleic acid)
ยับยั้งการสังเคราะห์ผนังเซลล์
ยับยั้งการสังเคราะห์ผนังเซลล์ (cell wall synthesis)
เป็น Bactericidal มีฤทธ์ิต้าน แบคทีเรีย gr+, gr- และ
spirocheates
1.1 Penicillin : มี 4 กลุ่ม
Extended spectrum penicillins
ออกฤทธิ์กว้าง streptococci,Salmonella,E.coli เชื้อ gr- บางสาย
พันธุ์
ทนต่อกรดในกระเพาะอาหาร ไม่ทนต่อ B-lactamase penicillins
Ampicillin, Amoxicillin, Bacampicillin,
Amoxicillin+Clavulanate =Augmentin
Ampicillin+sulbactam = Sultamicillin,Unasyn
Antipseudomonal penicillins penicillins
Ticarcillin, Piperacillin, Mezlocillin
แบคทีเรียชนิด gr-
รวมถึงชนิดที่ดื้อยาเช่น Acinetobacter, P.aeruginosa
penicillins
ผลข้างเคียง
เกิดการระคายเคือง GI: คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน
IV:Thrombophlebitis
Micro flora ลดลง
เกิด pseudomembranous colitis
การแพ้ยา เช่น Anaphylactic shock, Rash
B-lactamase resistant penicillins
ต้านเชื้อแบคทีเรีย gr+ และ gr- ได้ดี
Cloxacillin, Dicloxacillin, Methicillin, Nafcillin,
Flucloxacillin
ไม่ทนกรด ทนต่อ B-lactamase
ยาในกลุ่มนี้มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย staphylococci penicillins
Natural penicillins
ยาในกลุ่มนี้มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย gr+
ถูกทำลายด้วยกรดในกระเพาะอาหาร
penicillin G, penicillin V, procaine penicillin G,
benzathine penicillin G
ไม่ทนต่อ B-lactamase Streptococci, meningococci
Spirochete, clostridium, Enterococci penicillins
1.2 Cephalosporin : มี 5 generation
Third-Generation
ให้ฤทธิ์ต่อ gr - ดีมาก spectrum กว้าง
ให้ฤทธิ์ต่อ P. aeruginosa, Proteus, Enterobacter aerogenes
สามารถผ่าน blood brain barrier (BBB) / ผ่านเข้าน้าไขสันหลัง
ได้
ออกฤทธิ์ต่อเชื้อ gr + จะต่ากว่า 1st และ 2nd generation
โดยเฉพาะ Staphylococci และ Streptococci
ให้ฤทธิ์เสริมกับยาปฏิชีวนะกลุ่ม aminoglycoside
ไม่เป็นพิษต่อไต
Cefotaxime (claforan) ®, ceftriaxone, cefdinir
(omnicef )®, Cefixime,
Ceftriaxone (cef-3) IV 1-2 g q 6-12 h
Cefoperazone IV 2-4g q 12 h
Cefotaxime (claforan) IV1-2 g q 6-12 h
Ceftazidime (fortum, cef-4) IV 1 g q 8-12 h
Cefixime PO
ข้อบ่งใช้ Third Generation
ใช้รักษาโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (meningitis)
มีประสิทธิภาพในการรักษาต่อเชื้อ Pseudomonas aeruginosa
รักษาโรคหนองในจากเชื้อ Neisseria gonorrhoeae
โรคทางเดินปัสสาวะ
Fourth-Generation
ฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ gr + สูงกว่า 3rd generation
ทนต่อเอนไซม์ B-lactamase ได้ดี
spectrum ในการฆ่าเชื้อกว้างกว่า 3rd generation
ยาในกลุ่มนี้ สามารถ ผ่านเข้าไปสู่ cerebrospinal fluid
ให้ฤทธิ์ฆ่าเช้ื้อ Enterobacteriaceae, Enterococci และ gr- สูง
ให้ฤทธิ์ดีต่อ Pseudomonas aeruginosa
ไม่เป็นพิษต่อไต
Cepirome และ cefepime
Cefepime IV 1-2g q 12h
ข้อบ่งใช้ Fourth Generation
รักษาโรคติดเชื้อได้เช่นเดียวกับ third Generation
ใช้เป็น empirical treatment ใน nosocromal infection ที่ดื้อ
ต่อ extended-spectrum penicillin
ใช้เป็น drug of choice ใน meningitis
Skin infection
Septicemia
Urinary tract infection
Second-Generation
ออกฤทธิ์ ต่อ gr+ เท่ากับ 1st generation
Spectrum ต่อ gr- จะกว้างมากกว่า 1st generation
ให้ฤทธิ์ต่อต้านเชื้อ Klebsiella, Proteus,
H.influenzae Enterobacter และEnterobacteriace
ทนต่อ B-lactamase enzyme
(cephalosporinase)ได้ดีกว่า 1st
ไม่เป็นพิษต่อไต
cefoxitin, cefalothin, cefuroxime, cefaclor
Cefamandole IV, IM 0.5-1 g q4-6 h
Cefoxitin IV, IM 0.5-1 g q4-6 h , 2g q 6-8 h
Cefuroxime IV 0.25-0.5 g q 12 h
ข้อบ่งใช้ Second Generation
การติดเชื้อในช่องท้อง (intradermal infection)
การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน (Pelvic inflammatory infection)
Fifth-Generation
มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียกว้างทั้ง gr.+และ gr.- ใช้ได้ผลกับแบคทีเรีย gr.+ ที่
ดื้อต่อยา methicillin (MRSA)
ข้อบ่งใช้ Fifth Generation
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะแบบซับซ้อน กรวยไตอักเสบ และการติดเชื้อในช่องท้อง
รักษาโรคติดเชื้อได้เช่นเดียวกับ third Generation
ผลข้างเคียงของ Cephalosporins
อาจเกิดการแพ้ยา เช่น มีไข้ ผื่นคัน อาจมีอาการรุนแรงถึง
anaphylactic shock
อาการที่พบบ่อยคือ ท้องเสีย คลื่นไส้ pseudomembranous colitis
อาจพบภาวะไตอักเสบ (nephritis)
เม็ดเลือดขาวต่ำ (granulocytopenia)
ภาวะซีดจากเม็ดเลือดแดงแตก (hemolytic anemia)
การกดไขกระดูก เมื่อใช้ยา cefamandole, moxalactam,
cefoperazone
ผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง พบปวดศีรษะ วิงเวียน มึนงง เมื่อยล้า
(disulfiram like effect ) เมื่อใช้ยา cefamandole,moxalactam และ cefoperazone
การติดเชื้อแทรกซ้อน โดยเฉพาะเชื้อรา candida และ
pseudomonas เพิ่มกว่าปกติ
First Generation
ให้ฤทธิ์แคบต่อ gr - ให้ฤทธิ์ต้านเฉพาะ E. coli, Klebsiella
pneumoniae
ไม่ทนต่อ B-lactamase
ให้ฤทธิ์ต่อเช้ื้อ gr + มากกว่า
มี Nephrotoxicity สูง
Narrow spectrum
Cefazolin, cefadroxil, cefalothin, cephradine
Cephalexin PO 1-4 g q 6 h มีเฉพาะรูปแบบยากิน
Cephaloridine IM 1g q 6-8h
Cefazolin IV 1-4g q8-12h
ข้อบ่งใช้ First Generation
นิยมใช้ก่อนเข้าห้องผ่าตัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อทางผิวหนัง
ยาออกฤทธิ์นานสามารถเข้ากระดูกไดดี
รักษา sinusitis, otitis, lower respiratory tract infections
รักษาแผลติดเชื้อบริเวณเท้าของผู้ป่วยเบาหวาน
2.กลุ่มยาที่ออกฤทธิ์ยังการสังเคราะห์โปรตีน
ต้านเชื้อแบคทีเรีย gr-, staphylococci ได้ดี
ยากลุ่มนี้ดูดซึมจากทางเดินอาหารได้น้อย
ฉะนั้นจึงใช้ในรูปแบบฉีด
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีปริมาณยาที่ renal cortex และ endolymph ของหู
ชั้นใน จึงมีพิษต่อไต และหูได้
ผลข้างเคียงจากยา aminoglycoside
พิษต่อไต พบระดับ creatinin สูงขึ้นมักพบในผู้ที่ได้รับยานาน เกิน 3-5 วัน
พิษต่อหู พบหูอื้อ หูตึง วิงเวียน (vertigo) เดินเซ (ataxia) มักเป็นแบบ
ถาวร พบในผู้ที่ได้รับยาเกิน 5 วัน
ยาในขนาดสูงทำให้เกิด neuromuscular blockade พบ กล้ามเนื้ อ
อ่อนแรงโดย ทำให้หายใจลำบาก หยุดหายใจได
c) ยากลุ่ม tetracycline
Tetracycline, doxyclycline, minoclycline
ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย โดยการยับยั้งการสร้างโปรตีน ของ
แบคทีเรียโดยจับกับ 30S ribosome
รักษาโรคติดเชื้อ mycoplasma pnuemoniae, chlamydiae
(เชื้อที่ทาให้เกิดหนองในเทียม) การติดเชื้อ rickettesiae พวกพยาธิเชื้อรา
ใช้ในการรักษาหลอดลมอักเสบรุนแรง ปอดบวม, Leptospirosis
รักษาสิว รักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น syphillis
ใช้ร่วมกับยาอื่นในการรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบที่มีสาเหตุจากเชื้อ
H. pylori
ผลข้างเคียง และข้อควรระวัง tetracycline
ระคายเคืองระบบทางเดินอาหาร คลื่นไส้อาเจียน และท้องเสีย อาการหาย
ได้ เมื่อหยุดยา
มีผลต่อกระดูกและฟัน พบการเจริญของฟันผิดปกติแบบ ถาวร ฟันเหลือง
การเจริญของกระดูกผิดปกติ
นอกจากนี้ อาจมีอาการแพ้แสง ความเป็นพิษต่อตับและไต
doxycycline และ minocycline ทำให้เกิดอาการวิงเวียน มึนงง
ห้ามใช้ยาในเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี
ไม่ควรใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร
a) ยากลุ่ม aminoglycoside
ออกฤทธิ์ยังการสังเคราะห์โปรตีนของแบคทีเรียที่ bacteria
ribosome 30 S
เมื่อใช้ในขนาดปกติมีคุณสมบัติเป็น bactericidal
gentamycin, streptomycin, neomycin, amikacin,
tobramycin, netilmicin
ในขนาดต่ำมีคุณสมบัติเป็น bacteriostatic
d) ยากลุ่ม macrolides
ออกฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีนของแบคทีเรียที่ bacteria
ribosome 50S.
รักษา โรคคอตีบ โรคไอกรน การติดเชื้อในกระแสเลือด การอักเสบ บริเวณ
ขาหนีบและรักแร้
Erythromycin, clarithromycin, roxithromycin,
Azithromycin
รักษาการติดเชื้อของทางเดินหายใจ ในกรณีที่ใช้ยาอื่นไม่ได้หรือไม่ได้ผล
เช่น clarithromycin, roxithromycin
ใช้ป้องกันการติดเชื้อ mycobacterium avium complex (MAC)
ในผู้ป่วย AIDS เช่น azithromycin
ผลข้างเคียงของ macrolide
เบื่ออาหาร (anorexia) คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
ตับอักเสบ มีไข้ ตัวตาเหลือง
เมื่อใช้ erythromycin ร่วมกับ theophylline ทำให้ระดับ
theophylline เพิ่มขึ้นเป็นอันตรายได้
IM ยาจะระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อบริเวณที่ฉีดยา ทำให้เกิด อาการปวดหลัง
ฉีดยา
IV อาจทำให้หลอดเลือดอักเสบ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
e) ยากลุ่ม Lincosamide
Lincomycin, clindamycin
ยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีนของแบคทีเรีย ที่ bacteria ribosome
50S
ใช้ต้านแบคทีเรีย gr+
รักษา/ป้องกันการติดเชื้อของแผลผ่าตัดบริเวณหน้าท้อง
รักษาการติดเชื้อในระบบสืบพันธ์ในหญิง อาจใช้ร่วมกับ
aminoglycoside
ใช้รักษาสิว เช่น Clindamycin
ใช้แทนการรักษาด้วย erythromycin ในการรักษา endocarditis
ใช้เป็นยาแทน ในการป้องกันหรือรักษาปอดอักเสบจากเชื้อในผู้ป่วยเอดส์
อาการข้างเคียง และข้อควรระวัง Lincosamide
อาการที่พบบ่อย : ท้องเสีย คลื่นไส้ผื่นคัน หากผู้ป่วยเกิด
diarrhia>>> ควรหยุดยาทันที
ผู้ป่วยที่ดื้อต่อ erythomycin จะดื้อต่อ Clindamycin ด้วย
ควรประเมินการทำงานของตับ และไต เมื่อใช้ยากลุ่มนี้ ในระยะยาว
กลไกการออกฤทธ์
ยังยั้งการสังเคราะห์โปรตีนของแบคทีเรีย โดยจับกับ bacteria
ribosome subunit ซึ่งเป็นบริเวณที่มี การสร้างโปรตีนของแบคทีเรีย
bacteria ribosome subunit 30 s
bacteria ribosome subunit 50 s
b) ยากลุ่ม chloramphenical
ออกฤทธิ์ยับยังการสังเคราะห์โปรตีนของแบคทีเรีย โดยจับกับ bacteria
ribosome 50S
การรักษาเยื่อบุตาขาวอักเสบ เช่น ยาหยอดตา
การรักษาภาวะหู อักเสบ เช่น ยาหยดหู chloramphenical ear
drop
bacteriostatic ออกฤทธิ์กว้าง
รักษาเยื่อหุ้มสมองอักเสบในผู้ที่แพ้ beta lactamase หรือใช้ยาอื่นไม่
ได้ผล เนื่องจากยาผ่าน BBB ได้ดี
อาการข้างเคียง chloramphenical
ระคายเคืองทางเดินอาหาร คลื่นไส้อาเจียน และท้องเสีย
กดการทำงานของไขกระดูก พบการสร้าง red blood cell,ลดลง, เกิด
ภาวะซีด แต่พบได้น้อยมาก
การใช้ยาในทารกอาจทำให้เกิด gray baby syndrome พบตัวซีด
เท่า ระบบไหลเวียนเลือดส่วนปลายล้มเหลว คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ตัวสีเขียวคล้ำจน คล้ายสีเทา เนื่องจากขาด oxygen
กลุ่มยาที่ยับยั้งการแบ่งตัวของ DNA
แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
a) ยากลุ่ม quinolone
Norfloxacin, ofloxacin, ciprofloxacin, levofolxacin
Norfloxacin 400 mg bid 1 ชั่วโมง ก่อนอาหารหรือ 2 ชั่วโมง
หลังอาหาร
Ofloxacin 200-600mg ต่อวัน แบ่งให้ 1-3 ครั้ง
อาการข้างเคียง และข้อควรระวัง Quinolone
คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ผื่นคัน แพ้แสง ปวดข้อ เอ็นอักเสบ
อาจพบอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ มึนงง นอนไม่หลับ สับสน ชัก ยาที่
ทำให้ชักมากที่สุดคือ ciprofloxacin > norfloxacin > lomefloxacin
หลีกเลี่ยงการใช้ในผู้ป่วยโรคไต
ไม่ควรใช้ร่วมกับยาลดกรด ธาตุเหล็ก เพราะขัดขวางการดูดซึม
b) ยากลุ่ม nitronidazoles
metronidazole, tinidazole
metronidazole 250 mg PO tid pc เป็นเวลา 7 วัน
metronidazole 500 mg IV Q 8 HR
อาการข้างเคียง
กรณีดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ระหว่างการใช้ยาอาจพบ disulfiram
like reaction (หน้าแดง อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว หายใจถี่ ความดันโลหิตลด)
ถ้าพบอาการชาและแขนขาไม่มีแรง ก็ควรหยุดยาทัน
ยามีรสชาติคล้ายโลหะ (metallic taste) ทำให้คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย
ปวดศีรษะ วิงเวียน
Bactericidal
มีฤทธ์ิยับยั้งการสร้าง DNA gyrase ซึ่งเป็น เอนไซม์ที่จำเป็นสาหรับ
DNA replication ของแบคทีเรีย
รบกวน metabolism ของสารที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ
4.กลุ่มยาที่รบกวน metabolism ของสารที่จำเป็นต่อ
การดำรงชีพของเชื้อจุลชีพ
b) ยากลุ่ม trimethoprim
รบกวน metabolism ที่สำคัญในการสังเคราะห์ DNA และ RNA ของ
แบคทีเรีย
a) ยากลุ่ม sulfonamide
ยากลุ่มนี้ มีคุณสมบัติเป็น bactericidal
Sulfisoxazole 500 mg ใช้ 4 g ในครั้งแรก หลังจากนั้นให้ 1g q 6 hr
Sulfamethoxazole ,Sulfadiazine, sulfisoxazole
Sulfamethoxazole 500 mg ใช้2 g ในครั้งแรก หลังจากนั้นให้ 1g q 8-
12 hr.
Cotrimoxazole (bactrim)® :Sulfamethoxazole +trimethoprim
Trimthoprim 100 mg q 12 hr , 200 mg OD นาน 10 วัน
Trimethoprim 100 mg q 12 hr หรือรับประทาน 200 mg OD นาน 10
วัน
Cotrimoxazole: Sulfamethoxazole 400 (800)
mg+trimethoprim 80 (160) mg 2tab bid pc.
อาการข้างเคียง และข้อควรระวัง
เป็นพิษต่อไต เนื่องจากยาละลายน้าได้น้อยจะตกตะกอนในไต อุดตัน ท่อ
ปัสสาวะทำให้ปัสสาวะไม่ออก ควรแนะนำให้ผู้ป่วยดื่มน้ามากๆ เพื่อ ป้องกันการเกิดนิ่วในไต
ระบบโลหิต ยาจะกดไขกระดูกทาให้เม็ดเลือดลดลง ในผู้ป่วยที่ขาด เอ็นไซม์G-6PD ควรระวังการใช้ยาเพราะอาจทำให้เกิดเม็ดเลือด แดงแตกเฉียบพลัน
ปฏิกิริยาการแพ้ยา จะเกิดผื่นคันและลมพิษ บางครั้งผื่นจะเกิดทั่วตัว ยกเว้นหนังศีรษะ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ถ้าอาการรุนแรงจะมีไข้ร่วมด้วย
เป็นพิษต่อตับ ทำให้ตับอักเสบเฉพาะที่ หรือกระจายทั่ว
ยาต้านไวรัส (Antiviral agents)
ชนิดยาต้านไวรัสตามการแบ่งตามชนิดของไวรัส
Antiretrovirus agents ยาต้านเชื้อไวรัส HIV
1.Reverse transciptase inhibitor (RTIs)
ยาจะ เข้าไปใน viral DNA ทำให้เกิด chain termination
มี 2กลุ่ม
1.1 Nucleoside reverse transcriptase inhibitors (NRTIs)
Zidovudine (Azidothymidine, AZT)
ช่วยลดการติดเชื้อเอดส์จากแม่สู่ลูก
ควรให้ยาในรูป combination กับยาชนิดอื่น
ช่วยลดการเกิดอาการแสดงทางคลินิก ช่วยทำให้ผู้ป่วยมีชีวิต ยืนยาวขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยดีขึ้น
อาการข้างเคียง : myelosupression (anemia, neutropenia,
thrombocytopenia) GI intolerance, headache, insomnia,และ myopathy
Didanosine (ddI)
ปัจจุบันสามารถใช้เป็น first-line drug หรือ ใช้ร่วมกับยาอื่นๆในการรักษา
ผู้ป่วยติดเชื้ อHIV
อาการข้างเคียง: pancreatitis, peripheral neuropathy,
diarrhea, hepatitis
รักษาผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่มีการติดเชื้อ HIV ขั้นรุนแรง ที่ไม่สามารถทนต่อยา หรือมีการตอบสนองทางคลินิกหรือทางภูมิคุ้มกันลดลง เมื่อใช้ zidovudine (AZT)
Lamivudine (3TC)
อาการข้างเคียงที่พบได้แก่ headache, insomnia และ fatigue
ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มี hypersensitivity
ใช้ในผู้ป่วยที่ติดเชื้ อ HIV โดยใช้ร่วมกับ zidovudine (AZT) ไม่ใช้ เดี่ยวๆเพราะเชื้อดื้อยาได้เร็วมาก
Stavudine (d4T)
ดูดซึมได้ดีอาหารไม่รบกวนการดูดซึม
อาการข้างเคียง: peripheral neuropathy, pancreatitis,
arthralgia และการเพิ่มขึ้นของระดับเอนไซม์ aminotransferase
1.2 Non- Nucleoside reverse transcriptase inhibitors (NNRTIs)
ไม่มีการดื้อยาข้ามกลุ่มระหว่าง NRTIs และ NNRTIs หรือ protease
inhibitors
Nevirapine, Delavirdine, Efavirenz
การใช้ยากลุ่มนี้ การดื้อยามักเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่ควรใช้ยานี้ เดี่ยวๆ
Nevirapine (NVP)
combination ในการรักษาการติดเชื้อ HIV เช่น GPO vir
สามารถป้องกันการ transmission ของ HIV จากแม่สู่ลูกได้ด้วย
อาการข้างเคียง: skin rash (ถ้ารุนแรง Steven Johnson syndrome),
fulminant hepatitis, fever, nausea, headache และsomnolence
Delavirdine (DLV)
อาการข้างเคียง: skin rash, headache, fatigue, nausea และ
diarrhea ไม่ควรใช้ delavirdine ขณะที่ตั้งครรภ์เนื่องจากการศึกษาในสัตว์ทดลอง พบว่าทำให้ทารกพิการ
Efaviren (EFV)
อาการข้างเคียง : ผื่น พิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง (มีนศีรษะ นอนไม่หลับ ฝันร้าย ซึมเศร้า หรือกังวล)
หลีกเลี่ยงในสตรีมีครรภ์
Tenofovir(TDF)
เข้าไปรวมกับ DNA ของไวรัสทำให้การต่อสายของ DNA สิ้นสุด
อาการข้างเคียง : คลื่นไส้ อาเจียน พิษต่อไต
กลไก: ยับยั้ง เอนไซม์ reverse transcriptase เป็นเอนไซม์ของ Retro virusที่ใช้ในการ เปลี่ยนแปลง RNA ให้เป็น DNA
Protease inhibitor (PIs)
กลไก: ยับยั้งเอนไซม์ viral protease ที่ใช้ในการตัด polyprotein ของ
ไวรัส
ทำให้ไวรัสไม่สามารถแบ่งตัวได้
Ritronavir(RTV), Lopinavir(LPV), Indinavir(IDV)
เป็นยากิน อาหารไขมันลดการดูดซึมของยา
ทำให้เกิด Drug interaction กับยาอื่นๆ → inhibitor enzyme
ยับยั้งเอนไซม์ protease ของไวรัส ซึ่งทำหน้าที่ตัดสาย polyprotien ของ
ไวรัส
อาการข้างเคียง: GI disturbances, มีระดับของระดับเอนไซม์ aminno
transferase เพิ่มขึ้ น, altered taste, nausea, vomitingabdominal pain และ hypertriglyceridemia
สูตรยาต้านเอชไอวีที่แนะนำเป็นสูตรแรกและสูตรทางเลือก
หลักการใช้ยาต้านไวรัสเอดส์
การใช้ยาจะไม่ให้ยาเดี่ยวๆเนื่องจากมีการดื้อยาได้ง่าย
ต้องให้ยาอย่างน้อย 3 ชนิด เรียกว่าเป็น Highly Active
Antiretroviral Therapy (HAART)
โดยให้ยากลุ่ม NNRTIs 1ชนิด ร่วมกับ NRTIs 2 ชนิด หรือ PIs 1
ชนิดร่วมกับ NRTIs 2 ชนิด
Anti-influenza agents ยาต้านเชื้อไข้หวัดใหญ่
neuraminidase inhibitors
ได้แก่ยา oseltamivir, zanamivir, laninamivir, peramivir
เป็นโปรดรัก (prodrug) ในรูปเกลือ ฟอสเฟต เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูก
ไฮโดรไลซ์ (hydrolysis) โดยตับ ได้เป็น active metabolite คือ Oseltamivir carboxylate ที่จะออกฤทธิ์ยับยั้งเอ็นไซม์ neuraminidase ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย คือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
ion channel (M2 protein) inhibitors
ได้แก่ยา amantadine, rimantadine
หน้าที่ยับยั้งการทำงานของ M2 protein (M2 ion channel inhibitor) เพื่อระงับการปลดปล่อย ribonucleoprotein complex ออกจากอนุภาคไวรัส ใช้รักษาได้เฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอเท่านั้น
endonuclease inhibitors
ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ endonuclease (polymerase acidic endonuclease)ของไวรัสไข้หวัดใหญ่ เอนไซม์ดังกล่าวจำเป็นสำหรับ gene transcription ยาจึงขัดขวางการเพิ่มจำนวนของไวรัส
ได้แก่ยา baloxavir marboxil
อาการไม่พึงประสงค์ที่อาจพบ เช่น ท้องเดิน คลื่นไส้ หลอดลมอักเสบ คออักเสบ ปวดศีรษะ
COVID-19
Favipiravir: ยับยั้งเอนไซม์ RNA-dependent RNA
polymerase (หรือ RNA replicase) ซึ่งเอนไซม์ดังกล่าวมีความสำคัญในกระบวนการถ่ายแบบอาร์เอ็นเอ (RNA replication)
2) Chloroquine หรือ hydroxychloroquine เป็นเวลา 5-10 วัน
ร่วมกับ
3) Darunavir + ritonavir หรือ lopinavir/ritonavir เป็นเวลา
5-10 วัน อาจพิจารณาให้ยาชนิดที่ 4
1) Favipiravir เป็นเวลา 5-10 วัน ขึ้นกับอาการทางคลินิก ร่วมกับ
4) ร่วมด้วยคือ azithromycin เป็นเวลา 5 วัน
การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทำโดยการฉีดวัคซีน (อยู่ระหว่างการพัฒนาวัคซีน)
Antiherpes and Anti-cytomegalovirus agents ยาต้านเชื้อ
เริ่ม และ CMV
ต้านเชื้อ HSV1,2 Varicella zoster, CMV
Acyclovir
กลไก: จะยับยั้งการสังเคราะห์ DNA ของไวรัส
โดยยับยั้งเอนไซม์ viral DNA polymerase
ยาเข้าแทรกใน viral DNA ทาให้เกิด
chain termination
(หยุด
การสร้างสาย DNA)
ยาตัวอื่นๆ : Valacyclovia, Pencyclovia,Famciclovia
อาการข้างเคียง: คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, renal toxicity,
neurotoxicity , ปวดแสบปวดร้อน ผื่นที่ผิวหนัง, ชนิดป้ายตา: อาจมีน ้าตาไหล กลัวแสง และเคืองตา
ยาต้านเชื้อเริ่ม และ cytomegalovirus (CMV)
Gancyclovir
Foscarnet, Trifluridine
กลไก: ยับยั้งเอนไซม์ DNA polymerase และทำให้เกิด viral
DNA termination
รูปแบบฉีด ใช้ในการรักษา retinitis ที่เกิดจาก CMV, CMV colitis,
CMV esophagitis, CMV pneumonitis
การนำไปใช้ทางคลินิก : Gancyclovir มีฤทธ์ิต่อ
cytomegalovirus (CMV) มากกว่า acyclovir 100 เท่า
รูปแบบรับประทาน ใช้ป้องกัน end organ disease ในผู้ป่วยเอดส์
อาการข้างเคียง
myelosuppression โดยเฉพาะทำให้เกิด neutropenia
พิษต่อระบบประสาทได้แก่ headache, changes in mental status,
seizures
Antihepatitis virus agents ยาต้านเชื้อไวรัสตับอักเสบ
ยารักษาวัณโรค (Anti-tuberculosis drug)
หลักการใช้ยารักษาวัณโรค
ยาที่มีผลฆ่าเฉพาะเชื้อวัณโรคที่กาลังแบ่งตัวเท่านั้น ไม่สามารถ ฆ่าเชื้อที่ไม่แบ่งตัว หรืออยู่ในระยะสงบได้
ต้องให้ยาระยะเวลานาน เพื่อให้ยาฆ่าเชื้อที่กาลังแบ่งตัวได้ จน ยากำจัดเชื้อได้หมด
ต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปี เพราะเชื้อแบ่งตัวช้า
ปัจจุบันให้ยามีทั้งระยะสั้น ( 6-8 เดือน ) และระยะยาว (1-2 ปี)
First-line drug
Isoniazid (INH, H)
มีฤทธ์ิในการฆ่าเชื้อสูงมาก ฆ่าได้ทั้งที่อยู่ในเซลล์และนอกเซลล์ ซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อต่างๆ รวมทั้งเยื่อหุ้มสมองได้รวดเร็ว
เป็นยาหลักที่ใช้รักษาวัณโรค ทั้งในการรักษาแบบธรรมดา และการรักษาแบบระยะสั้น
เป็นยาที่ใช้รักษาวัณโรคมานานเกือบ 40 ปี มีราคาถูก
โดยเป็นยาหลักร่วมกับยาตัวอื่นๆ นอกจากนี้ ยังใช้เป็นยาเดี่ยว ในกรณี ป้องกันการกำเริบของโรค
กลไกการออกฤทธิ์กลไกการออกฤทธ์ิของยานี้ยังไม่ทราบแน่ชัด เชื่อว่า
ทำให้เกิดการสะสมของ toxic pigments ภายในเซลล์ของเชื้อ
ขัดขวางการสังเคราะห์ DNA
ยับยั้งกระบวนการเมตะบอลิสม์ต่างๆ ที่ต้องอาศัยออกซิเจนของเชื้อ
เกิดจากยายับยั้งการสังเคราะห์ผนังเซลล์ของเชื้อ
อาการข้างเคียง
พิษต่อตับ ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยโรคตับ
และระวังการใช้ยาในผู้ป่วยที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ G-6PD
พิษต่อระบบประสาท ทำให้ประสาทปลายอักเสบ เวียนศีรษะ ซึม อาการโรคจิตชัก และประสาทตาอักเสบ
Rifampicin (R,RMP)
อาการข้างเคียง: คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ตับอักเสบThombocytopenia flu like syndrome ;ไข้หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อกระดูก
มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อวัณโรครองลงมาจาก Isoniazid
กลไก : ขัดขวางการสร้าง RNA ของเชื้อ และรบกวนการทำงานของ
เอนไซม์ DNA polymerase
Pyrazinamide (PZA, Z)
ใช้ในการกำจัดเชื้อโรคที่หลบซ่อนอยู่ในเซลล์ macrophage บริเวณ
ดังกล่าวมีสภาวะเป็นกรดอ่อนซึ่งเหมาะต่อการออกฤทธ์ิของยา
bactericidal ออกฤทธิ์ได้ด้ีภาวะที่เป็นกรดอ่อน pH ประมาณ 5.0-
5.5
ใช้ร่วมกับยา isoniazid และ rifampicin
กลไกการออกฤทธิ์: ยังไม่ทราบชัด คาดว่ายาขัดขวางการใช้
nicotinamide ในกระบวนการ dehydrogenation ของเชื้อ
อาการข้างเคียง: พิษต่อตับ แพ้แสง, เบื่ออาหาร, คลื่นไส้ อาเจียน, เป็นไข้
อ่อนเพลีย ควรระวังการใช้ยาในผู้ป่วยโรคตับ และ คนไข้ที่มีประวัติ เป็นโรคข้ออักเสบ gout
Ethambutol (EMB,E)
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการดื้อยาของเชื้อ ช่วยให้ผลในการ รักษาดีขึ้น
ยานี้ ไม่เหมาะสมที่จะใช้กับเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี เพราะ อาจเกิดพิษต่อ
ประสาทตา
เป็นยาที่นิยมใช้ร่วมกับ isonizid และ rifampicin ในการรักษาวัณ
โรค
กลไกการออกฤทธิ์
อาจเกิดจากยาขัดขวางไม่ให้ mycolic acid เข้าไปรวมตัวกับผนังเซลล์
เกิดจากการขัดขวางการสังเคราะห์ RNA
อาการข้างเคียง
อาการแพ้ยาเป็นไข้ อ่อนเพลีย ปวดตามข้อ ปวดศีรษะ มีผื่นขึ้น
Hyperuricemia
optic neuritis คือ ตามัว ตาบอดสี
Second-line drug
กลไกการออกฤทธิ์: เหมือนกับยาในกลุ่ม sulfonamides ยับยั้งการสร้าง
กรดโฟลิกของเชื้อ
อาการข้างเคียง: คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดท้อง ท้องเดิน เป็น ไข้
อ่อนเพลีย ปวดตามข้อ มีผื่นขึ้น เยื่อบุตาขาวอักเสบ มีความปกติ ในเม็ดเลือด ตับอักเสบ
Para-aminosalisylic acid (PAS)
Ethionamide (ETO, ETA)
อาการข้างเคียง
พิษต่อตับ ทำให้เกิดตับอักเสบ เป็นปกติเมื่อหยุดยา
อาการผิดปกติของการมองเห็น ได้แก่ เห็นภาพไม่ชัด หรือเห็นภาพซ้อน
ยามีพิษต่อระบบประสาท อาการปวดศีรษะ ง่วงนอน มึนงง กระสับกระส่าย
อาการผิดปกติทางจิต มือสั่น ภาวะซึม เศร้า
ต่อระบบทางเดินอาหาร เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเดิน รายมีอาการรุนแรงถึงกับต้องหยุดยา แต่ลดลงได้ถ้าให้กินพร้อมกับอาหาร
กลไก: ไม่ทราบแน่ชัด คาดว่ายับยั้งการสังเคราะห์ mycolic acid ของ
เชื้อ และขัดขวางกระบวนการ dehydrogenation ต่าง ๆ ของเชื้อด้วย
ใช้รักษาวัณโรคในกรณีที่เชื้อดื้อต่อยาโดยใช้ร่วมกับยาต้านวัณโรคชนิดอื่น
Cycloserine (CS)
อาการข้างเคียง: peripheral neuropathy และ CNS
dysfunction เช่น ปวดศีรษะ มึนงง ซึมเศร้า ชัก tremor และvertigo
กลไกการออกฤทธ์ิ: ยับยั้ง cell wall synthesis
ข้อบ่งใช้ ยานี้ ใช้เพื่อรักษาโรควัณโรค ที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ แบคทีเรียในผู้ที่รักษาด้วยยาชนิดอื่นไม่ได้ผล
ยาต้านเชื้อรา (Anti-fungal drug)
ยาต้านเชื้อราสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
Systemic drugs for mucocutaneous infections
เป็นยาที่ใช้ในการรักษา dermatophytosis ที่ผิวหนัง เล็บ เส้นผม ต้อง
รักษานาน 6-9 เดือน
การรับประทานอาหารมีไขมัน จะเพิ่มการดูดซึมของยา
Griseofulvin
Nystatin
ยาไม่ละลายน้ำพัฒนาเป็นยาฉีดไม่ได้ และมีความเป็นพิษมาก ดูดซึมจาก
ทางเดินอาหารได้น้อยมาก ต้องให้ทาง topical เท่านั้น
ยาไม่ถูกดูดซึม จึงมีอาการข้างเคียงน้อย
ออกฤทธ์ิโดยการทำให้เกิด pore forming
Topical drugs for mucocutaneous infections
Systemic drugs for systemic infections
Amphotericin B
กลไกการออกฤทธิ์
เซลล์เมมเบรนของเชื้อรามีคุณสมบัติ ประกอบด้วย sterol ชนิด Ergosterolยาออกฤทธ์ิโดยการเข้าจับกับ ergosterol และเปลี่ยน permeabilityของเซลล์เมมเบรน
โดยที่ amphotericin B จะทำให้เกิดรู้ (pore) ขึ้นที่เซลล์เมมเบรน และ
ทำให้สารต่างๆ ไหลออกนอกเซลล์ และทำให้เซลล์ตาย
อาการข้างเคียง
จากการ infusion ยาเข้าสู่เส้นเลือดดำ: fever, chills, muscle
spasms, vomiting, headache, hypotension
หากให้ยาเป็น ระยะเวลานานจะทำให้เกิดทำลายไต
อาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นได้ช้า: nephrotoxicity
Flucytosine (5-FC)
5-FC มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราที่แคบกว่า Amphotericin B มาก
ยาให้โดยการรับประทาน ยาดูดซึมได้ดี และกระจายเข้าสู่เนื้อเยื่อต่างๆได้ดีรวมทั้ง CSF
อาการข้างเคียง
3 more items...
Azoles
มีกลไกการออกฤทธ์ิในการออกฤทธ์ิที่เหมือนกนั คือ ยับยั้งsterol 14-α demethylase ท าให้การท างานของเยื่อหุ้มเซลล์ผิดปกติ สารต่างๆ จึงซึมผ่านได้มากขึ้น ส่งผลให้เซลล์เชื้อราถูกทำลาย
Ketoconazole
เป็นยาที่ยับยั้งเอนไซม์ cytochrome P 450 ของมนุษย์ได้มาก
ยับยั้งการสังเคราะห์ steroid hormone จากต่อมหมวกไต, รังไข่และ
อัณฑะทำให้เกิด gynecomastia ในเพศชาย, infertility
Ketoconazole เป็นยา azole ตัวแรกในกลุ่ม
ยับยั้งเอนไซม์ที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงยา/ทำลายยา ทำให้ยาหลายชนิดถูกเปลี่ยนแปลงได้น้อยลง มีระดับยาเพิ่มขึ้นและก่อให้เกิดพิษจากยาเหล่านั้นได้มากขึ้น เช่นยา cisapride (cardiac arrhythmia)
ยารักษามาลาเรีย (Antimalarial Drugs)
มาลาเรียหรือไข้จับสั่น เกิดจากเชื้อโปรโตซัวใน genus Plasmodium มี
ยุงก้นปล่องเพศเมียเป็นพาหะ
Quinoline
กลไก: ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ heme polymerase ทำให้เกิดการ
สะสมของ free heme ในเม็ดเลือดแดงซึ่งเป็นพิษต่อเชื้อ และ ยับยั้งการสร้างDNA/RNA
ยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ choroquine, primaquine, quinine และ
mefloquine
Choroquine
มีการดื้อยามากในหลายพื้นที่แต่ chloroquine ยังคงเป็น drug of
choice ในการรักษา P.falciparum รวมทั้ง P.vivax, P.malariaeและ P.ovale
เป็นยาต้านมาลาเรีย ที่มีความสำคัญในการนำมาใช้ประโยชน์ทางคลินิก
อาการข้างเคียง Choroquine
ตาพร่า เห็นภาพซ้อน ถ้าได้รับยานานๆ การเห็นภาพผิดปกติ อาการเหล่านี้ มักเกิดในผู้ป่วยที่ได้รับยา 300 mg ทุกวันนานเกิน 1 ปี อาจตาบอด
อาการทางจิต ชัก มึนงง
ผลข้างเคียงที่นานๆพบได้แก่ ผมเปลี่ยนเป็นสีขาว เยื่อบุปากมีสี
อาการข้างเคียง Primaquine
อาการข้างเคียง : อาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร แน่นลิ้นปี่ ปวดท้อง
พิษของยาที่รุนแรง
อาการที่พบ: อ่อนเพลียมาก ปัสสาวะสีโคล่า ดีซ่าน และอาจถึงแก่ความตายเนื่องจากไตล้มเหลว
การเกิด intravascular hemolysis อย่างเฉียบพลันใน ผู้ป่วย G-6-PD
deficiency
Quinine
เป็นยารักษามาลาเรียที่เก่าแก่ที่สุด เป็นสารสกัดที่ได้จากเปลือกต้น
cinchona Quinine
ออกฤทธิ์ฆ่า เช้ื้อมาลาเรียในกระแสเลือด
เป็นยาสำคัญในการรักษามาลาเรียขั้นรุนแรง และมาลาเรียที่เกิดจากเชื้อที่ดื้อต่อยา chloroquine
อาการข้างเคียง Quinine
cinchonism เป็นกลุ่มอาการที่ประกอบด้วย มีเสียงในหู ปวดศีรษะ คลื่นไส้
อาเจียน ปวดท้อง เห็นภาพไม่ชัด การได้ยิน ลดลงชั่วคราว มึนศีรษะ มือสั่นความดันเลือดต่ำ (hypotension)
ฤทธิ์ข้างเคียงอื่นๆ ได้แก่ ไข้ อุจจาระร่วง ท้องผูก คัน และหงุดหงิด
mefloquie
ใช้สำหรับการติดเชื้อที่ดื้อต่อ chloroquine และรักษาการติดเชื้อ
P.falciparum ที่ดื้อต่อ chloroquine
อาการข้างเคียง : มีคลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง มึนศีรษะ ปวดท้อง
bradycardia และ ผื่นคัน
Antihelmintic agents
หนอนพยาธิ (parasitic helminth) แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
พยาธิตัวกลม (Roundworms/Nematodes)
พยาธิแส้ม้า (Trichuris trichiura)
พยาธิสตรองจิย์ลอยด์(Strongyloides stercoralis)
พยาธิเส้นด้าย/เข็มหมุด (Enterobius vermicularis)
พยาธิปากขอ (Necator americanus and Ancylostoma
duodenale)
พยาธิไส้เดือน (Ascaris lumbricoides)
พยาธิฟิลาเรีย (Filariaworms)
พยาธิตัวจี๊ด (Gnathostoma spinigerum)
พยาธิตัวตืด (tapeworms/cestdes)
พยาธิตืดแคระ (Hymenolepis nana)
พยาธิตืดปลา (Diphyllobothrium latum)
พยาธิตืดหมู (Taenia solium)
พยาธิตืดวัว (Taenia saginata)
พยาธิตัวแบน (Flatworms/trematodes)
พยาธิใบไม้เลือด (Schistosoma mekongi)
พยาธิใบไม้ปอด (Paragonimus westermani)
พยาธิใบไม้ลำไส้ (Fasciolopsis buski and Echinostoma sp.)
พยาธิใบไม้ตับ (Opisthorchis viverrini)
Microtubules inhibitors
อาการข้างเคียง: N/V เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ มึนงง
กลไก: ยายับยั้ง microtubules รบกวนการแบ่ง DNA และยับยั้งการ
เคลื่อนไหวของหนอนพยาธิ
Albendazole, mebendazole, thiabendazole
Ca2+ influx enhancers
Praziquatel
กลไก : เพิ่ม Ca2+ influx enhancers เข้าสู่เซลล์พยาธิใบไม้ และ
ตัวตืด ทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งอย่างรุนแรง(spastic paralysis)
อาการข้างเคียง: N/V ปวดศีรษะ มึนงง วิงเวียน อาจเกิดอาการชักได้
Gaba-agonist
Ivermectin
กลไก : ยาเป็น Gaba-agonist ทำให้กล้ามเนื้ อพยาธิเป็นอัมพาต ยานี้
มีผลต่อระยะตัวอ่อน
อาการข้างเคียง: ปวดศีรษะ มึนงง วิงเวียน อ่อนแรง ผื่นคัน ปวดท้อง ความ
ดันเลือดต่ำ ปวดข้อและกล้ามเนื้อ
Neuromuscular depolarizing blocker
กลไก : ทำให้เกิดการปิดกั้นของ Neuromuscular depolarizing
ทำให้กล้ามเนื้อของพยาธิหดเกร็งเป็นอัมพาต (spastic paralysis)
อาการข้างเคียง: N/V ปวดศีรษะ มึนงง วิงเวียน
Pyrantel
Other
อาการข้างเคียง: N/V เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ มึนงง วิงเวียน
กลไก : ยับยั้งการแบ่งของ microtubule ของ DNA
Diethylcarbamazine
Niclosamide
กลไก : โดยยับยั้ง ขบวนการ oxidative phosphorylation และกระตุ้นการทำงานของ enzyme adenosine triphosphataseใน mitochondria ของ cestode ฆ่า scolex ( ส่วนหัว ) และส่วนproximal segments ( ส่วนลำตัว )ของพยาธิตัวแบนทำให้ส่วนหัวไม่สามารถเกาะกับตัวลำไส้ได้
อาการข้างเคียง: N/V เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ มึนงง วิงเวียน