Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 3 การประเมินการตรวจร่างกาย (การตรวจช่องท้องและอวัยวะสืบพันธุ์) -…
บทที่ 3
การประเมินการตรวจร่างกาย
(การตรวจช่องท้องและอวัยวะสืบพันธุ์)
การตรวจชองท้อง การดูโดยทั่วไปมีการ
แบ่งหน้าท้อง ออกเป็นส่วนต่างๆ ใช้การแบ่งหน้าท้องออกเป็น 4 สวน
Right lower quadrant (RLQ) คือ สวนลางขวา
Right upper quadrant (RUQ) คือ สวนบนขวา
Left lower quadrant (LLQ) คือ ส่วนล่างซ้าย
Left upper quadrant (RUQ) คือ สวนบนซาย
การตรวจท้อง (Abdomen)
การตรวจท้อง นิยมแบ่งออกเป็น 9 ส่วน เพื่อเป็นประโยชน์ในการ
วินิจฉัยอวัยวะภายในช่องท้องและบรรยายสภาพที่ตรวจพบ
เส้นขวางล่าตัว ที่ลากผ่านส่วนต่่าที่สุดของชายโครงด้านหน้า
เส้นขวางล่าตัวที่ลากผ่านของของ iliac crest
เส้นดิ่งที่ลากต่อเนื่องมาจาก mid clavicular line ซ้ายจนถึงขาหนีบ
เส้นดิ่งที่ลากต่อเนื่องมาจาก mid clavicular line ขวาจนถึงขาหนีบ
แบ่งออกเป็น 9 ส่วน
Hypochondrium ขวา
Epigastrium
Hypochondrium ซ้าย
Lumbar region ขวา
Umbilical area
Lumbar region ซ้าย
Inguinal region ขวา
Hypogastrium หรือ Suprapubic region
Inguinal region ซ้าย
เทคนิคในการตรวจท้อง คือ การดู การฟัง การเคาะ และการคล่า
การจัดท่าการตรวจส่วนท้อง
นิยมให้ผู้รับบริการนอนหงาย ในท่าที่สบายและไม่เกร็ง แขนทั้งสอง วางข้างล่าตัว
จัดเสื้อผ้าให้เปิดเฉพาะส่วนที่จะตรวจคือ ตั้งแต่ระดับเหนือ Xiphoid process
เล็กน้อย จนถึงหัวเหน่า
ส่วนอื่นให้ใช้ผ้าคลุม จัดให้งอสะโพกและเข่าเล็กน้อย โดยใช้ผ้าหรือหมอนเล็กหนุน
แนะน่าให้หายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อน
ควรให้ผู้รับบริการถ่าย ปัสสาวะก่อนตรวจท้อง
อุปกรณ์ที่ใช้การตรวจส่วนท้อง
หูฟัง (stethoscope)
ถุงมือสะอาด
สายวัด
ผ้าคลุม
เทคนิคในการตรวจท้อง
การดู
ดูรูปร่างลักษณะท้องว่าปกติ สมมาตรกัน
หรือไม่หรือท้องโตหรือท้องแฟบ โดยอาจมองจากด้านปลายเท้าของผู้รับบริการ
ดูผิวหนังหน้าท้อง สีผิว รอยแผลผ่าตัด รอยจ้่า
เลือดและหลอดเลือดด่าที่ผนังท้องว่าโป่งพอง
หรือไม่
ผนังหน้าท้องเคลื่อนไหวเป็นปกติตามการ
หายใจหรือไม่ หรือมีการเต้นที่ผิดปกติ มีการเคลื่อนที่ผิดปกติ
ลักษณะสะดือ
สังเกตบริเวณขาหนีบทั้งสองข้าง
การฟัง
ใช้ฟังเสียงส่วนต่างๆของร่างกาย มีทั้งชนิด Acoustic stethoscope และ
fetoscope ซึ่ง fetoscope จะใช้ฟังเสียงทารกในครรภ์
เครื่องขยายเสียง (doppler)เครื่องขยายเสียงใช้ส่าหรับขยายเสียงเพื่อช่วยให้ฟังเสียงได้ชัดเจนขึ้นในกรณีเสียงเบาไม่
สามารถฟังด้วย Acoustic Stethoscope เช่น เสียงชีพจรที่เต้นเบาๆ เสียงเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ ชีพจรส่วนปลายที่เบามากๆ เป็นต้น
การใช้หูฟังในต่่าเหน่งที่ต้องการจะตรวจ
ไม่ควรมีสิ่งที่ปกปิด หรือบังผ่านเสื้อผ้า เพราะอาจท่าให้เสียงที่ได้ยินผิดพลาดหรือไม่ชัดเจน ซึ่งเกิดจากการเสียดสีกับเนื้อผ้า
ไม่วางหูฟังบนเสื้อ หรือบนหน้าอกที่มีขน เพราะจะท่าให้เกิดเสียงดัง ไม่
ชัดเจน และอาจผิดปกติ
ผู้ป่วยควรถอดเสื้อในส่วนที่จะตรวจด้วยการฟัง
ถ้าหน้าอกมีขนมาก ให้ใช้น้่าทาก่อน
ถ้าผู้ป่วยที่มีผิวหนังแห้งมาก ควรใช้น้่ามันมะกอกทาก่อ
การฟัง ใช้ chest piece ด้าน Diaphragm วางบนหน้าท้องบริเวณ
umbilical area เพื่อฟังเสียงที่เกิดจากการบีบตัวของล่าไส้ ซึ่งเรียกว่า bowel sound
สังเกตลักษณะเสียงและนับจ่านวนครั้งต่อนาที
การที่จะสรุปว่าไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของล่าไส้ ควรใช้เวลาฟังอย่างน้อย 3 นาทีก่อนที่จะบอกว่าไม่ได้ยินเสียง
การเคาะ
จะช่วยบ่งบอกลักษณะอวัยวะที่อยู่ในช่องท้อง และเป็นการช่วยตรวจสอบ
ว่าท้องโตที่เห็นได้จากการดูนั้นเกิดจากมีอากาศ สารน้่า หรือก้อนในช่องท้อง
เทคนิค
จะเคาะทั่วหน้าท้องเพื่อดูสภาพของช่องท้องโดยทั่วไป
จะค้นหาต่าแหน่งที่เคาะเจ็บ (localized tenderness)
การเคาะต้องสังเกตดูว่าเสียงเคาะปกติ โปร่ง หรือทึบผิดปกติ
ต่าแหน่งที่ใช้เคาะท้อง การเคาะหาขอบเขตของอวัยวะหรือสิ่งที่คาดว่าจะผิดปกติ จะเคาะจากส่วนที่โปร่งไปหาส่วนที่เคาะทึบ โดยวางนิ้วมือให้ขนานกับแนวที่คาดว่าเสียงจะเปลี่ยน
ถ้าหากต้องการตรวจอวัยวะตื้นให้เคาะเบา แต่ถ้าหากต้องการตรวจอวัยวะลึกให้เคาะแรงขึ้น
การตรวจอวัยวะสืบพันธุ์
(Genital organ)
การตรวจอวัยวะสืบพันธุ์ ในทางปฏิบัติแล้ว
พยาบาลจะตรวจเมือมีปัญหา หรือคาดว่าจะมีพยาธิสภาพที่ส่วนนั้น
ต้องแจ้งให้ผู้รับบริการทราบก่อน
เปิดเผยร่างกายเฉพาะส่วนที่ตรวจเท่านั้น ต้อง
คลุมผ้าให้เรียบร้อย และให้ผู้รับบริการแยกขา
เทคนิคที่ใช้ คือ การดูและการคล่า ควรสวม
ถุงมือเพื่อป้องกันการปนเปื้อน และตรวจเฉพาะภายนอก
การตรวจอวัยวะสืบพันธุ์ชาย
ให้สังเกตขนบริเวณหัวเหน่า ผิวหนังบริเวณนี้ ตรวจองคชาตหนังหุ้มปลาย รูเปิดท่อปัสสาวะ ลูกอัณฑะ คล่าว่าอัณฑะอยู่ในถุงทั้งสองข้างหรือไม่ และขนาดปกติหรือไม่ คล่าหาก้อนที่ผิดปกติหรือบริเวณกดเจ็บ
การตรวจอวัยวะสืบพันธุ์หญิง
ให้ผู้รับบริการถ่ายปัสสาวะก่อน จัดท่าให้นอนหงาย งอสะโพก และเข่า สังเกตการพัฒนาของอวัยวะสืบพันธุ์ การกระจายของขนผิวหนังlabiamaiora และ minorg ช่องคลอดและฝีเย็บ ตรวจ clitoris และรูเปิดท่อปัสสาวะว่ามีการอักเสบ มีสิ่งคัดหลั่งหรือไม่ สังเกต ก้อน แผล หรือรอยโรคต่างๆ บริเวณนี้ และบริเวณขาหนีบ
การตรวจทวารหนัก
การตรวจใช้เทคนิค การดูและการคล่า อุปกรณ์ วาสลินหรือ K-Y jellyและถุงมือ
สถานที่ตรวจ มิดชิด ปิดม่าน ควรมีบุคคลที่ 3 อยู่ด้วยเสมอ
ก่อนตรวจต้องอธิบายผู้รับบริการถึงความรู้สึกที่จะเกิดขึ้น เพื่อผู้รับบริการจะได้ร่วมมือ
จัดท่า นอนคว่่าเข่างอชิดอก หรือนอนตะแคงซ้าย เข่าและหลังงอ ให้ส่วนก้นอยู่ชิด
ขอบเตียง คลุมผ้าและเปิดเฉพาะส่วนทวารหนักและบริเวณโดยรอบที่จะตรวจเท่านั้น
การคลำ
สวมถุงมือ และหล่อลื่นนิ้วมือด้วยวาสลินก่อนคลำ
วิธีการคล่า มือซ้ายแหวกกันให้เห็นทวารหนัก แนะน่าให้ผู้รับบริการ
หายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อการผ่อนคลาย เมื่อกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักผ่อน
คลายแล้ว แนะน่าให้ผู้รับบริการท่าท่าเบ่งอุจจาระ ผู้ตรวจใช้นิ้วชี้ซึ่งใส่ถุงมือและหล่อลื่นแล้วสอดผ่านทวารหนักเข้าไป ตามช่องทวารหนัก เบาๆ และ้าๆ โดยสอดนิ้วในทิศทางชี้ไปทางสะดือ
การคล่าให้สังเกตความตึงตัวของกล้ามเนื้อหูรูด โดยบอกให้ผู้รับบริการลองขมิบก้น จากนั้นคล่าบริเวณผนังไส้ตรงโดยรอบ เพื่อค้นหาลักษณะที่ผิดปกติโดยเริ่มจากด้านขวาของผู้รับบริการ ไปด้านซ้าย จากนั้นกลับคลําผนังล่าไส้ทางด้านหน้า
การคล่าต่อมลูกหมาก
ภาวะปกติ ไม่มีรอยแผล รอยเกา รอยอักเสบ รอยโรค ก้อน ถุงน้่ากล้ามเนื้อมีความตึงตัวต่อมลูกหมากปกติลักษณะนุ่ม ไม่โต ไม่เจ็บ
ภาวะผิดปกติ มีแผล รอยเกา รอยอักเสบ มีการฉีกขาดเป็นร่อง (fissure) มีริดสีดวงทวาร (hemorrhoid) และฝี ถุงน้่า ฝี มีก้อน มีอวัยวะยื่นโผล่ กล้ามเนื้อหูรุดทอง ต่อมลูกหมากโตและมีความผิดปกติ