Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 3 การประเมินการตรวจร่างกาย การตรวจช่องท้องและอวัยวะสืบพันธุ์
…
บทที่ 3 การประเมินการตรวจร่างกาย การตรวจช่องท้องและอวัยวะสืบพันธุ์
-
การตรวจท้อง นิยมแบ่งออกเป็น 9 ส่วน เพื่อเป็นประโยชน์ในการวินิจฉัยอวัยวะภายในช่องท้องและบรรยายสภาพที่ตรวจพบ
เทคนิคในการตรวจท้อง คือ การดู การฟัง การเคาะ และการคล่า ตรวจด้วยการฟังก่อน การเคาะและคลำ เพราะการคลำท้องผู้รับบริการอาจรู้สึกเจ็บ เกิดอาการเกร็งหน้าท้องท่าให้ฟังได้ยากขึ้น
การจัดท่าการตรวจส่วนท้อง นิยมให้ผู้รับบริการนอนหงายในท่าที่สบาย จัดเสื้อผ้าให้เปิดเฉพาะส่วนที่จะตรวจ ส่วนอื่นให้ใช้ผ้าคลุมและควรให้ผู้รับบริการถ่ายปัสสาวะก่อนตรวจท้อง
การดู ดูรูปร่างลักษณะท้องว่าปกติ สมมาตรกันหรือไม่หรือท้องโตหรือท้องแฟบ ดูผิวหนังหน้าท้อง สีผิว รอยแผลผ่าตัด รอยจ้่าหรือไม่ ผนังหน้าท้องเคลื่อนไหวเป็นปกติตามการหายใจหรือไม่ ลักษณะสะดือ สังเกตบริเวณขาหนีบทั้งสองข้าง
ภาวะปกติ ท้องจะสมมาตรกันอาจพบแผลเป็นและลายที่ผนังหน้าท้องในผู้ที่เคยผ่าตัดและเคยตั้งครรภ์ไม่พบหลอดเลือดด่าขยายหรือโป่งพองลักษณะสะดือและบริเวณขาหนีบปกติ
เส้นสีดำกลางท้อง ที่เกิดขึ้นตอนตั้งครรภ์ หรือ Linea Nigra เป็นเส้นสีดำกว้างราวๆ 1 เซนติเมตร พบได้มากกว่า 80% ในผู้หญิงตั้งครรภ์
ภาวะผิดปกติจากการการตรวจท้อง ท้องโตกว่าปกติ (abdominal distention) ไม่สมมาตรกัน ในขณะที่ท้องโตจากการมีก้อนในท้องและมีน้่าจะรู้สึกอึดอัด ท้องแฟบกว่าปกติมากเรียก Scaphoid abdomen หน้าท้องมีแผลอักเสบติดเชื้อหรือแผลไม่ติด
-
การตรวจทวารหนัก การตรวจใช้เทคนิค การดูและการคลำ อุปกรณ์ วาสลินหรือ K-Y jellyและถุงมือ สถานที่ตรวจ มิดชิด ปิดม่าน ควรมีบุคคลที่ 3 อยู่ด้วยเสมอ จัดท่า นอนคว่ำเข่างอชิดอก หรือนอนตะแคงซ้าย เข่าและหลังงอ
การคลำ จะตรวจเมื่อผู้รับบริการมีปัญหา และต้องท่าด้วยความระมัดระวัง การคล่าให้สังเกตความตึงตัวของกล้ามเนื้อหูรูด โดยบอกให้ผู้รับบริการลองขมิบก้น จากนั้นคล่าบริเวณผนังไส้ตรงโดยรอบ เพื่อค้นหาลักษณะที่ผิดปกติโดยเริ่มจากด้านขวาของผู้รับบริการ ไปด้านซ้าย จากนั้นกลับคล่าผนังล่าไส้ทางด้านหน้า
สังเกตดู บริเวณผิวหนังรอบทวารหนักว่าปกติหรือไม่ มีริดสีดวงทวาร หรือไม่ มีส่วนใดยืนย้อยออกมานอกทวารหนักหรือไม่ มีรอยเกา การฉีกขาดหรือมีการอักเสบหรือไม่ และให้ผู้รับบริการเบ่ง เพื่อดูการปลิ้นออก
การคลำต่อมลูกหมาก ภาวะปกติ ไม่มีรอยแผล รอยเกา รอยอักเสบ รอยโรค ก้อน ถุงน้่ากล้ามเนื้อมีความตึงตัวต่อมลูกหมากปกติลักษณะนุ่ม ไม่โต ไม่เจ็บ ภาวะผิดปกติ มีแผล รอยเกา รอยอักเสบ มีการฉีกขาดเป็นร่อง มีริดสีดวง
ทวารและฝี ถุงน้่า ฝี มีก้อน มีอวัยวะยื่นโผล่ กล้ามเนื้อหูรุดทอง
การฟัง ใช้ฟังเสียงส่วนต่างๆของร่างกาย มีทั้งชนิด Acoustic stethoscope และ fetoscope ซึ่ง fetoscope จะใช้ฟังเสียงทารกในครรภ์ หูฟัง
การใช้หูฟังในตำเเหน่งที่ต้องการจะตรวจ ไม่ควรมีสิ่งที่ปกปิด หรือบังผ่านเสื้อผ้า ไม่วางหูฟังบนเสื้อ หรือบนหน้าอกที่มีขน ผู้ป่วยควรถอดเสื้อในส่วนที่จะตรวจด้วยการฟัง ถ้าหน้าอกมีขนมาก ให้ใช้น้่าทาก่อน ถ้าผู้ป่วยที่มีผิวหนังแห้งมาก ควรใช้น้่ามันมะกอกทาก่อน
ภาวะปกติ จะได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวเป็นจะได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวเป็นเสียงกร๊อก กร๊อก คล้ายเทน้่าออกจากขวด ได้ยินทุก 2-10 วินาทีเสียงดังพอสมควร ภาวะผิดปกติ เสียงการเคลื่อนไหวหรือการบีบตัวของล่าไส้จะดังและบ่อยมากขึ้น ซึ่งพบในรายที่มีการอักเสบอุดตัน เสียงกรุ้งกริ้ง (tinkling sound) ซึ่งเป็นเสียงน้่าปนกับอากาศ
การฟัง ใช้ chest piece ด้าน Diaphragm วางบนหน้าท้องบริเวณ umbilical area เพื่อฟังเสียงที่เกิดจากการบีบตัวของลำไส้ ซึ่งเรียกว่า bowel sound สังเกตลักษณะเสียงและนับจ่านวนครั้งต่อนาที การที่จะสรุปว่าไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของลำไส้ ควรใช้เวลาฟังอย่างน้อย 3 นาที
การเคาะ จะช่วยบ่งบอกลักษณะอวัยวะที่อยู่ในช่องท้อง และเป็นการช่วยตรวจสอบว่าท้องโตที่เห็นได้จากการดูนั้นเกิดจากมีอากาศ สารน้ำ หรือก้อนในช่องท้อง
-
การคลำตับ ภาวะปกติ ปกติจะคลำขอบตับไม่พบหรือประมาณ 1-2 เซนติเมตร จากใต้ชายโครงขวา ขอบตับที่คลำได้ ผิวจะเรียบ ขอบเรียบ บาง นุ่ม ไม่ขรุขระและกดไม่เจ็บ ภาวะผิดปกติ ตับมีขนาดโตเกินขอบชายโครงมาก ตับแน่น แข็ง หรือแข็ง มากเหมือนหิน ผิวขรุขระ และกดเจ็บ
การคลำม้าม ภาวะปกติ คลำไม่พบขอบม้าม
ภาวะผิดปกติ คลำพบขอบม้าม ซึ่งต้องโตประมาณ 2-3 เท่าของขนาดปกติ จึงจะคลำได้
การคลำไต ภาวะปกติ คลำได้ขอบล่างของไตขวาระหว่างมือทั้งสองระหว่างหายใจเข้า ขอบเรียบ แข็งและไม่เจ็บ ไตซ้ายคลำไม่ได้ ภาวะผิดปกติ คลำได้ไตหรือก้อนขนาดใหญ่ หรือได้ลักษณะผิดปกติระหว่างมือทั้งสองขอบไม่เรียบ แข็งมากหรือกดเจ็บ
-
-
-
-
-