Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่2 ทักษะการฟังเพื่อการสื่อสาร - Coggle Diagram
บทที่2 ทักษะการฟังเพื่อการสื่อสาร
ความหมายของการฟัง
พฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากการทำงานอย่างตั้งใจของระบบประสาทและใช้สมองแปลความหมายของเสียงจนเกิดความเข้าใจและเกิดปฏิกิริยาตอบสนองตามลักษณะของสาร
ความแตกต่างของการฟังและการได้ยิน
การได้ยิน(Hearing)
เป็นการรับแบบนิ่งเฉย(Passive listening)ไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก
การฟัง(listening)
เป็นการตั้งใจ(Active listening)ต้องใช้สมาธิและทักษะในการฟัง
ความสำคัญของการฟัง
4.การฟังสารผ่านสื่อเป็นปัจจัยสำคัญของการคิดการพูดและการเขียน
3.นักปราชญ์ไทยในอดีตจัดการสร้างไว้เป็นอันดับแรกมี 4 ประการ
สุ(สุต)การฟัง
จิ (จินตนะ)การคิด
ปุ(ปุจฉา)การถาม
ลิ(ลิขิต)การเขียน
5.การฟังสารผ่านสื่อเป็นปัจจัยสำคัญในการแสวงหาความรู้
2.การฟังเพลงทักษะการสื่อสารที่ใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน
6.การฟังทำให้ได้รับความรู้เป็นการฟังเพราะการฟัง
1.การฟังมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวันของคนในปัจจุบัน
7.การฟังธรรมให้รู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ
11.การฟังเพื่อพัฒนาทักษะการพูดให้มีประสิทธิภาพ
8.การฟังเพลงกระบวนการเรียนรู้ฟังผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
10.การฟังทำให้ได้รับความบันเทิงช่วยผ่อนคลายความเครียด
9.การฟังช่วยยกระดับจิตใจทำให้เข้าใจความเป็นมนุษย์หรือการอยู่ร่วมกันในสังคม
12.การฟังอย่างมีประสิทธิภาพสามารถสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างคนในสังคม
13.การฟังเป็นเครื่องมือช่วยสืบทอดความงามทางวรรณศิลป์และฉันทลักษณ์ของไทยเช่นการฟังบทร้อยกรองบทกวีบทสวดมนต์
จุดประสงค์ของการฟัง
4ฟังเพื่อสร้างความเข้าใจ
5 การฟังเพื่อแสดงความคิดเห็น
3 ฝ่ายเพื่อให้เกิดความคิดและการตัดสินใจ
6 ฟังเพื่อให้ได้คติชีวิตหรือความดันลงใจ
2 ฟังเพื่อความบันเทิงและผ่อนคลาย
7 ฟังเพื่อพัฒนาสมองและรักษาสุขภาพจิต
1 ฟังเพื่อให้เกิดความรู้
ประเภทของการฟังรูปแบบของการฟัง
2 การฟังโดยผู้ฟังไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการสื่อสาร
การสื่อสารสาธารณะที่มีบุคคลอื่นๆจำนวนมากโดยผู้ฟังเป็นผู้รับสารทางเดียวและอยู่ในที่ประชุมเดียวกัน
ผู้ฟังจึงต้องสำรวจกิริยามารยาทไม่ก่อให้เกิดความรำคาญแก่ผู้อื่นการฟังลักษณะนี้เป็นการฟังจากเหตุการณ์ต่างๆ
การโฆษณาหาเสียง
การบรรยายสรุป
3 การฟังโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
โดยการฟังผ่านสื่อต่างๆ
วิทยุ
โทรทัศน์
ภาพยนต์
DVD
VCD
1.การฟังโดยผู้ฟังมีส่วนร่วมโดยตรงในกระบวนการสื่อสาร
คือการฟังลักษณะนี้เป็นกระบวนการสื่อสารระหว่างบุคคลและการสื่อสารภายในกลุ่ม
การเจรจาธุรกิจการพูดคุยทางโทรศัพท์หรือการสื่อสารภายในกลุ่มตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป
ปัจจัยที่ช่วยให้การฟังเกิดสัมฤทธิ์ผล
3.สติปัญญา/การประมวลข้อมูลอย่างมีเหตุผล
4.การฝึกฝนตนเองอยู่เป็นนิจ
2.วุฒิภาวะ
5.การปลูกฝังนิสัยรักการฟัง
1.ประสบการณ์
6.ความคิดสร้างสรรค์
ระดับการฟัง
การฟังสามารถจำแนกได้หลายระดับระดับของการฟังที่มาใช้ในชีวิตประจําวันสรุปได้เป็น 4 ระดับดังต่อไปนี้
2 การฟังด้วยความตั้งใจ(Sensuous Listening)
3 การฟังอย่างเข้าถึงอารมณ์(Emotional Listening)
1 การฟังผ่านหู (Passive Listening)
4 การฟังโดยรับรู้ความซาบซึ้ง(Perceptive Listening)
การเป็นผู้ฟังที่ดี
1 มีสมาธิในการฟัง
ทุกครั้งที่ฟังเรื่องอะไรก็ตามผู้ฟังต้องหมั่นฝึกความมีสมาธิให้แก่ตนเองพยายามฟังความสนใจไปในเรื่องที่ตนกำลังฟังนั้น
การมีสมาธิเป็นสิ่งจำเป็นในการฟังผู้ฟังต้องตัดความวิตกหรือความกังวลใจต่างๆออกจากจิตใจให้หมด
2.ตั้งจุดมุ่งหมายในการฟัง
ในการฟังแต่ละครั้งผู้ฟังควรตั้งจุดมุ่งหมายไว้ว่าจะฟังเพื่ออะไร
ฟังเพื่อจับใจความสำคัญ
ฟังเพื่อความเพลิดเพลิน
การฟังอย่างไรจุดหมายยอมเสียเวลาในการฟัง
3.วิเคราะห์เจตนาของผู้พูด
ต้องรู้จักวิเคราะห์เจตนาของผู้พูดว่าผู้พูดมีความประสงค์อย่างไร
มีสิ่งใดแอบแฝงซ่อนเร้นอยู่ในเรื่องที่พูดหรือไม่
4.สนใจและจับประเด็นสำคัญของเรื่องที่ฟังให้ได้
ขณะฟังต้องรู้จักใช้สติปัญญาวิเคราะห์ดูว่าผู้พูดกำลังพูดเรื่องอะไรให้สารประโยชน์อะไรบ้างเรื่องที่ฟัง
มีประโยชน์สำคัญอย่างไรพยายามสรุปความคิดรวบยอดให้ได้
5.ต้องวางใจเป็นกลางไม่มีอคติใดๆต่อผู้พูด
ควรสร้างเจตคติที่ดีต่อผู้พูดเสมอจะทำให้บรรยากาศในการฟังเป็นไปอย่างราบรื่นและเข้าใจดี
จับผิดผู้พูดย่อมมีผลเสียมากกว่าผลดี
6 พูดไม่ความอดทนและตั้งใจฟัง
ต้องอดทนและตั้งใจฟังตั้งแต่ต้นจนจบ
การฟังคลื่นการกลางหรือฟังเพียงบางตอนย่อมทำให้ไม่สามารถเข้าใจในเรื่องได้อย่างสมบูรณ์
7 ให้เกียรติผู้พูดและมีมารยาทอันดีงาม
การรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควรนับเป็นคุณสมบัติของผู้ฟังที่ดี
ควรทำความเคารพผู้อื่นเสียก่อนไม่พยายามถามสอดก่อนฟังเรื่องที่ผู้ต้องการพูดให้หมดแล้วค่อยซักถามหรือแสดงความคิดเห็น
8ใช้ศิลปะในการฟัง
ผู้ฟังที่ดีไม่ควรฟังอย่างเดียวควรใช้ไหวพริบในการช่วยให้ผู้พูดสามารถอธิบายความรู้
9 ขณะฟังควรบันทึกสิ่งสำคัญ
เพราะเป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เราไม่ลืมใจความสำคัญ
ในขณะฟังควรจดบันทึกสิ่งที่น่าสนใจลงในสมุดหรือกระดาษ
10 หลักการฟัง
ผู้ฟังควรมีเวลาคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ฟังไปนั้นตรงกับข้อเท็จจริงหรือมีเหตุผลน่าเชื่อถือเพียงใด
รู้จักนำความรู้หรือข้อคิดต่างๆที่ได้จากการฟังไปใช้ประโยชน์
การฟังแบบลึกซึ้ง
ทักษะการฟัง
3 สังเกตเพื่อทราบความรู้สึก
4 สอบถามเพื่อความกระจ่าง
2 แสดงการรับรู้เพื่อบอกว่าฟังอยู่
4 สอบถามเพื่อความกระจ่าง
1 เงียบเพื่อเปิดใจรับฟัง
การฝึกทักษะอย่างลึกซึ้ง
2 สังเกตอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง
3 ใคร่ครวญกับตนเอง
1 สังเกตสัญญาณทางกาย
4 ทำการแยกแยะ
อุปสรรคปัญหาและการแก้ไขปัญหาของการฟัง
1.ผู้ส่งสาร
2.ผู้ส่งสารขาดประสบการณ์ในการส่งสาร
3.ผู้ส่งสารมีอคติค่อผู้รับสารหรือตัวสาร
1.ผู้ส่งสารขาดความรู้ในเรื่องที่จะส่งสาร
4.ผู้ส่งสารขาดการชำนาญในการใช้ภาษา
5.ผู้สงสารขาดการชำนาญในการสื่อสาร
2.ผู้รับสาร
2.ผู้รับสารขาดความสนใจในตัวสาร
4.ผู้รับสารขาดทักษะในการรับสาร
5.ผู้รับสารมีการบกพร่องในทักษะการรับสาร
1.ผู็รับสารขาดความรู้ในเรื่องที่ส่งมาผู้ส่งสาร
3.ผู้รับสารมีอคติต่อผู้ส่งสารและตัวสาร
การแก้ไขปัญหา
ควรสงบจิตใจ ทำใจให้เป็นกลาง
หากผู้รับสารเกิดความสงสัย ไม่ควรด่วนสรุปตัวสารหรือผู้ส่งสารเป็นต้นเหตุ