Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 10 การป้องกันภาวะเสี่ยงและอุบัติเหตุที่พบบ่อย - Coggle Diagram
บทที่ 10 การป้องกันภาวะเสี่ยงและอุบัติเหตุที่พบบ่อย
การหกล้ม (Falling)
สาเหตุ
ความบกพร่องของการมองเห็น
การลดลงของความชัดเจนและการรับรู้ความตื้นลึก
การลดลงของลานสายตา ทำให้ผู้สูงอายุมองไม่เห็น ถึงคน หรือวัตถุที่เคลื่อนเข้าใกล้
รูม่านตาขนาดเล็กลง ทำให้ผู้สูงอายุไม่สามารถรับภาพได้ดีในเวลาแสงสลัว
ความเสื่อมต่อการเห็นภาพสี ทำให้เกิดปัญหาใน การรับรู้ภาพของพื้น
ความบกพร่องของการทรงตัว
ในวัยสูงอายุมีกลไกในการทำงานที่ควบคุมการทรงตัวของอวัยวะต่างๆ ลดลง ทำให้สมดุลในการทรงตัวบกพร่อง
มีปัญหาการทำงานของอวัยวะหูชั้นในที่ควบคุมการทรงตัวผิดปกติ เกิดอาการบ้านหมุน (Vertigo) นำไปสู่การหกล้มได้
ความบกพร่องของการเดิน
ผู้สูงอายุจะมีความแข็งแรงและความสามารถในการประสานงานของกล้ามเนื้อลดลง มีการเสื่อมของ ข้อต่อและเอ็นรอบข้อ
ไม่สามารถยกเท้าได้สูงเท่ากับที่เคยทำได้ มีการเปลี่ยนแปลงในการเคลื่อนไหวของสะโพกใน การรับน้ำหนักของขาขณะเดิน ทำให้สะดุดเมื่อเดินบนพื้นที่ขรุขระหรือมีระดับต่างกัน
การเปลี่ยนแปลงของร่างกายจากความเจ็บป่วย
ความผิดปกติของหัวใจหรือหลอดเลือด
หลอดเลือดตีบ กล้ามเนื้อหัวใจตาย ส่งผลให้ปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจลดลง
ความดันโลหิตต่ำส่งผลให้สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เป็นลมและหกล้มได้
ความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนท่าหรือหลังรับประทานอาหาร ทำให้หน้ามืดและเวียนศีรษะ
การรับความรู้สึกของระบบประสาทและสมองผิดปกติ
สมองเสื่อม เนื้อสมองตาย โรคหลอดเลือดสมองและพาร์กินสัน ทำให้ระบบการควบคุมจากสมองส่วนกลางผิดปกติ ส่งผลให้การทำงานที่ประสานกันของอวัยวะและระบบในการทรงตัวสูญเสียไป ทำให้เกิดการหกล้มได้
การเสื่อมสภาพของกล้ามเนื้อ
ความไม่มั่นคงบริเวณข้อสะโพก ข้อเข่า หรือข้อเท้า
ข้อเสื่อม การอักเสบของข้อ
การอ่อนแรงหรือลีบตัวของกล้ามเนื้อ การอักเสบของกล้ามเนื้อ
ความผิดปกติของเท้า ลักษณะเท้าผิดปกติ มีการหนาตัวของผิวหนังที่ฝ่าเท้าทำให้เกิดตาปลา
ความผิดปกติของสมดุลกรดด่าง เกลือแร่ในร่างกาย
ผู้สูงอายุที่มีภาวะติดเชื้อ มักมีสมดุลของกรดด่างเกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ ส่งผลต่อการทำงาน ของสมอง ทำให้เกิดอาการซึมหรือสับสน กล้ามเนื้ออ่อนแรง
ได้รับยาหลายชนิด
ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อกันระหว่างยาเกิดพิษข้างเคียงของยา
ผู้สูงอายุที่ได้รับยามากกว่า 4 ชนิด ทำให้อัตราเสี่ยงของการหกล้มเพิ่มขึ้น
ยาที่ทำให้ผู้สูงอายุหกล้ม: ยานอนหลับ ยาระงับประสาท ยาขยายหลอดเลือด ยาขับปัสสาวะ ยาบำบัดทางจิต
ปัญหาจิตใจ
ภาวะซึมเศร้าเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้มของผู้สูงอายุ เนื่องจากผู้สูงอายุจะมีการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมช้าลงและการตัดสินใจที่ผิดพลาด
ผลกระทบ
นำไปสู่การเสียชีวิต การบาดเจ็บ หมดสติ กระทบกระเทือนต่อสมอง กระดูกหัก บริเวณข้อสะโพก ข้อมือ
ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือรับการผ่าตัดและฝึกเดินใหม่ ก่อให้เกิดภาวะพึ่งพาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
เกิดโรคแทรกซ้อนระหว่างป่วยหรือผ่าตัด เช่น ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ แผลกดทับ ปอดบวม
การที่ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ค่อยเคลื่อนไหวจะส่งผลให้สูญเสียความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ข้อยึดติด ไม่มั่นใจในการเดิน
ผลกระทบทางด้านจิตใจ เกิดความอาย วิตกกังวล กลัวการหกล้ม มีภาวะซึมเศร้า หมดความมั่นใจในตนเอง ทำให้ลดกิจกรรมการเข้าสังคม เก็บตัว
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การรักษาผ่าตัดได้รับยาทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของครอบครัว
การป้องกัน
จัดสิ่งแวดล้อม
ทางเดินมีความสว่างเพียงพอ ไม่ควรเป็นแสงจ้า การจัดวางกระจกหลีกเลี่ยงไม่ไห้แสงสะท้อนเข้าตา
พื้นทางเดินควรเรียบ ไม่มีสิ่งกีดขวาง ไม่ลื่น ทำเครื่องหมายบริเวณที่มีความต่างระดับ ไม่ให้มีสิ่งกีดขวาง พื้นแห้ง กระเบื้องปูพื้น หรือพรม ใช้สีที่เหมาะสมไม่ทำให้เกิดตาลาย
พื้นห้องน้ำมีการปูพื้นกันลื่น ติดตั้งราวยึดจับบริเวณที่นั่งขับถ่ายหรือที่อาบน้ำ ใช้ที่นั่งขับถ่ายชนิดนั่งได้ ประตูห้องน้ำควรเป็นแบบเปิดออกด้านนอก และที่ล็อคควรเปิดออกจากภายนอกได้
ชั้นวางของควรมีความสูงระดับที่สามารถหยิบจับสิ่งของได้สะดวก
เก้าอี้มีความสูงขนาดวางเท้าได้พอดี ความกว้างของเก้าอี้มีขนาดพอที่ผู้สูงอายุนั่งได้สบาย มีฐานเก้าอี้มั่นคง ไม่ควรเป็นเก้าอี้แบบล้อเลื่อน เตียงนอนควรมีความสูงระดับที่ผู้สูงอายุขึ้นหรือลุกออกจากเตียงได้สะดวก
เสื้อผ้ามีขนาดพอดีกับร่างกายไม่มีส่วนที่รุงรังอาจก่อให้เกิดการสะดุดหกล้ม
รองเท้ามีขนาดและรูปทรงที่เหมาะสมกับเท้า ส้นรองเท้าควรใช้ระดับต่ำ รูปทรงกว้าง
อุปกรณ์ช่วยในการเคลื่อนไหวควรมีความแข็งแรง ล้อเข็นควรมีที่ล็อคล้อ ขนาดน้ำหนักและความสูงของอุปกรณ์ มีขนาดพอเหมาะ และมีการฝึกให้ชำนาญ คุ้นเคย
การปฎิบัติตนของผู้สูงอายุเพื่อป้องกันการลื่นล้ม
ออกกำลังกายที่ช่วยทำให้สมดุลการทรงตัวของร่างกายดี ได้แก่ รำมวยจีน โยคะ
รับประทานยาตามขนาดที่แพทย์สั่ง สังเกตอาการผิดปกติ เช่น หน้ามืด ใจสั่น งุนงง
ในการเดิน เคลื่อนไหว หรือเปลี่ยนท่า ไม่ควรรีบร้อน ขณะเดินให้ตามองพื้นและไม่ควรถือของสองมือในเวลาเดียวกัน
หลีกเลี่ยงการแหงนหน้า เพราะอาจทำให้หน้ามืด การเหลียวซ้ายและขวา หมุนศีรษะควรทำอย่างช้าๆ
เตรียมเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินที่จำเป็นให้อยู่ในที่ๆสามารถมองเห็น/ ใช้อุปกรณ์ เพื่อขอความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน
การบาดเจ็บ
สาเหตุ
ไม่ยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกาย
พื้นลื่น พื้นไม่เรียบ
สภาพร่างกายไม่พร้อม มีโรคเรื้อรัง ร่างกายอ่อนเพลีย
สภาพจิตใจไม่พร้อม มีความเครียด ความกังวล
ลักษณะการบาดเจ็บที่พบบ่อย
ศีรษะถูกกระแทกทำให้สมองถูกกระทบกระเทือน
ถูกชกหรือล้มศีรษะกระแทกพื้น ไม่รู้สึกตัว ม่านตาขยาย ชีพจรเบา การปฐมพยาบาลคือจัดให้ผู้ป่วยนอนหงายราบคลายเสื้อผ้าและสิ่งที่รัดร่างกายให้หลวม
เนื้อเยื่อฟกช้ำ มีเลือดออกใต้ผิวหนังมองเห็นเป็นจ้ำเลือดสีแดงคล้ำ
เนื้อเยื่อถูกกระแทกหรือล้มกระแทกพื้น
ใช้ความเย็นประคบ พันผ้า หรือยกบริเวณที่บาดเจ็บให้สูง หลัง 24 ชั่วโมงให้ประคบร้อน
แผลถลอก
ล้มกระแทกพื้นหรือเสียดสีกับวัตถุต่างๆ อาการเนื้อเยื่อถูกทำลายบางครั้งลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อจนมีเลือดออก การปฐมพยาบาล คือห้ามเลือดและใช้ผ้าสะอาดปิดแผลไว้
ข้อเคล็ดหรือแพลง
เคลื่อนไหวข้อผิดวิธี พื้นไม่เรียบ การทรงตัวไม่ดีทำให้ข้อเท้าพลิก เยื่อหุ้มข้อฉีกขาด ทำให้มีอาการเจ็บและบวม
ประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรก พันผ้าไว้และงดการเคลื่อนไหวหลัง 24 ชั่วโมงให้ใช้ครีมนวดทาหรือประคบด้วยน้ำอุ่น
ข้อเคลื่อนหรือหลุด
ถูกกระแทกหรือถูกดึงหรือบิดตัวอย่างแรง ทำให้ข้อต่อ บริเวณนั้นเคลื่อนหรือหลุดออกจากตำแหน่งที่เคยอยู่
เยื่อหุ้มข้อฉีกขาดหรือเอ็นที่ยึดข้อต่อยืดตัวมากเกินไป อาการคือรูปร่างหรือข้อต่อส่วนนั้นผิดปกติไป เคลื่อนไหวไม่ได้ บวมผิดรูปอาจสั้นหรือยาวผิดปกติและเจ็บปวดมาก
ยึดด้วยผ้าหรือวัสดุอื่น ใช้ความเย็นประคบ ให้รับประทานยาแก้ปวดและรีบนำส่งแพทย์
กระดูกหัก
ถูกกระแทกอย่างแรง ได้ยินเสียงกระดูกหักและเห็นกระดูกหักแทงเนื้อออกมา ปวดมาก เคลื่อนไหวไม่ได้ บวมอย่างรวดเร็ว
ประคบเย็นและเข้าเฝือกชั่วคราว และรีบนำส่งแพทย์
ตะคริว
ใช้กล้ามเนื้อมากเกินกำลัง อากาศหนาว กล้ามเนื้อขาดสารอาหาร ออกซิเจนและเกลือแร่ กล้ามเนื้อจะเกร็งและปวด
ใช้ความร้อนประคบและนวดกล้ามเนื้อให้คลายตัว
กล้ามเนื้อฉีก
การยืดกล้ามเนื้อที่รวดเร็วและรุนแรงหรือใช้กล้ามเนื้อมากเกินกำลัง
เจ็บบริเวณที่เป็น คลำพบรอยบุ๋ม มีอาการบวม
ให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าพักกล้ามเนื้อส่วนนั้นให้นานที่สุด ใช้ความเย็นประคบภายใน 24 ชั่วโมงแรก ใช้ผ้ายืดพันไว้จากนั้นประคบด้วยน้ำอุ่น
การป้องกัน
ไม่ควรออกกำลังกายที่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อหรือออกแรงเบ่งมาก เช่น ยกน้ำหนัก
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทก เช่น การกระโดด การเดินขึ้นลงบันไดที่สูงมากๆ การนั่งยองๆ การสะบัดแขนหรือขาแรงๆ
ไม่ควรออกกำลังกายที่ต้องใช้ความเร็วสูงหรือเปลี่ยนทิศทางเพราะจะหกล้มได้ง่าย
หลีกเลี่ยงการแข่งขัน
ให้ทุกส่วนของร่างกายได้ออกกำลังหรือเคลื่อนไหว ไม่ควรเน้นส่วนหนึ่งส่วนใดมากเกินไปเพราะจะทำให้บาดเจ็บได้
ไม่ควรออกกำลังกายบนพื้นที่ลาดชัน ลื่น ไม่เรียบ เป็นหลุม เป็นบ่อ ใกล้ถนน
หากมีอาการผิดปกติ เช่น หน้ามืด เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก เหนื่อยมาก เจ็บกล้ามเนื้อ ควรหยุดออกกำลังกาย
การทารุณกรรมและถูกทอดทิ้ง
อุบัติการณ์
ถูกกระทำรุนแรงทางร่างกาย เช่น การทำร้าย ทุบตี กักขัง
กระทำความรุนแรงในด้านจิตใจ เช่น พูดก้าวร้าว ไม่ให้ความเคารพ
ส่วนใหญ่เป็นการกระทำจากคนในครอบครัว
ผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อม เจ็บป่วยเรื้อรัง หรือผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่กับที่ติดสุรา ยาเสพติดและผู้สูงอายุที่ยากจนถือเป็นผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงต่อการถูกกระทำรุนแรง
การละเลยเพิกเฉยต่อผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพา
การเอาเปรียบฉกฉวยประโยชน์จากทรัพย์สินของผู้สูงอายุ
ลูกหลานวัยหนุ่มสาวไปขายแรงงานในต่างจังหวัด ผู้สูงอายุถูกทอดทิ้งให้เฝ้าบ้าน เลี้ยงหลาน
เบี้ยยังชีพไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย ต้องพึ่งพาลูกหลาน อาศัยวัด
สาเหตุ
สภาพสังคมเปลี่ยนไป ผู้สูงอายุมีลูกน้อยลง
เข้าสู่ภาวะพึ่งพา มีการเจ็บป่วยเรื้อรัง การจะให้ลูกมาดูแลเป็นเรื่องลำบากเพราะลูกต้องทำงาน
การป้องกัน
หากพบปัญหาผู้สูงถูกทารุณกรรมและถูกทอดทิ้งให้ติดต่อสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ของจังหวัด