Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยในระยะก่อน-หลังผ่าตัด - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้ป่วยในระยะก่อน-หลังผ่าตัด
การพยาบาลผู้ป่วยก่อนผ่าตัด
การประเมินผู้ป่วยก่อนผ่าตัด
การซักประวัติ โดยการสอบถามข้อมูลจากผู้ป่วยและญาติ
ประวัติโรคประจำตัว
ประวัติการผ่าตัด
ประวัติการแพ้ยาหรืออาหาร
การใช้ยา สารเสพติด การสูบบุหรี่ และดื่มสุรา
ประวัติของคนในครอบครัวหรือญาติที่มีปัญหาเกี่ยวกับการได้รับยาระงับความรู้สึก
ประวัติเกี่ยวกับโรคของระบบต่างๆ ของร่างกาย
การตรวจร่างกาย
สัญญาณชีพ
การชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง
การตรวจประเมินทางระบบหายใจ
การตรวจร่างกายตามระบบ โดยเน้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรคหรือบริเวณที่จะทำการผ่าตัด
การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
เพื่อให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากการซักประวัติ และตรวจร่างกาย สามารถใช้เป็น Screening tests
การเตรียมผู้ป่วยก่อนผ่าตัด
การเตรียมผู้ป่วยซึ่งระยะเวลาก่อนผ่าตัด
ระยะเวลาตั้งแต่ผู้ป่วยเริ่มตระหนักว่ามีบางสิ่งผิดปกติและแพทย์วินิจฉัยว่าต้องผ่าตัด
ตัวผู้ป่วยเองสงสัยว่าจะต้องผ่าตัดจนกระทั่งเวลาที่แพทย์จะลงมือผ่าตัด
การเตรียมผู้ป่วยก่อนวันที่ผ่าตัด
อาหารและน้ำดื่มควรงดอาหารผู้ป่วยก่อนผ่าตัดอย่างน้อย8 ชั่วโมง
การขับถ่าย
การเตรียมผิวหนังก่อนผ่าตัด กำจัดขนและสิ่งสกปรกต่างๆ
บริเวณศีรษะโกนผมบริเวณศีรษะออก เช็ดใบหู
บริเวณหูและปุ่มกระดูกมาสตอยด์
บริเวณคอ เตรียมบริเวณจากใต้คางลงมาถึงระดับราวหัวนมและจากหัวไหล่ข้างขวาถึงข้างซ้าย
บริเวณทรวงอก เตรียมด้านหน้าจากคอตอนบนจนถึงระดับสะดือจากแนวยาวของหัวนมข้างที่ไม่ได้ทำผ่าตัดไปจนถึงกึ่งกลางหลังของข้างที่ทำ
บริเวณช่องท้อง เตรียมตั้งแต่ระดับรักแร้ลงมาถึงฝีเย็บ
ริเวณท้องต่ำกว่าสะดือ
ไตเตรียมด้านหน้าจากบริเวณรักแร้จนถึงบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์และต้นขา
บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์และทวารหนักเตรียมตั้งแต่ระดับสะดือ
แขนข้อศอกและมือเตรียมบริเวณแขนข้างที่จะทำผ่าตัด
ตะโพกและต้นขาเตรียมบริเวณจากระดับเอวลงมาถึงระดับต่ำกว่า
การทำ Skin graft
ด้านร่างกาย
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
ประเมินความสามารถในการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดเพื่อดูว่าร่างกายสามารถทนต่อการผ่าตัดได้หรือไม่
ระบบทางเดินหายใจ
ดูการทำงานของระบบทางเดินหายใจ
ระบบทางเดินปัสสาวะ
ต้องประเมินสภาวะของไต
ประเมินความสมบูรณ์ของร่างกายในการได้รับอาหารที่พอเหมาะ
การได้รับอาหารที่ดีมีประโยชน์ที่เพียงพอและถูกส่วน
ภาวะสารน้ำและอีเล็คโทรลัยต์ในร่างกาย
ต้องประเมินสภาวะความสมดุลของสารน้ำและอีเล็คโทรลัยต์ในร่างกาย
การพักผ่อนและการออกกำลังกาย
ต้องได้รับการพักผ่อนที่ดีและมีการออกกำลังกายที่พอเหมาะ
ให้คำแนะนำและข้อมูลต่างๆ
เพื่อลดความวิตกกังวล
ด้านจิตใจ
ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดควรได้รับการเตรียมทางจิตใจทุกคนโดยการเยี่ยมผู้ป่วย
ก่อนผ่าตัดประเมินความวิตกกังวลก่อนผ่าตัด
การให้คำแนะนำการปฏิบัติหลังผ่าตัด
Early ambulation
Quadriceps Setting Exercise (QSE)
เป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อต้นขา
Straight Leg Raising Exercise (SLRE)
เป็นการออกกำลังขา ข้อสะโพก และกล้ามเนื้อต้นขาแบบยกขาขึ้นตรงๆ
Range of Motion (ROM)
เป็นการออกกำลังข้อโดยมีการเคลื่อนไหวในทุกทิศทางปกติของข้อต่าง ๆ
Deep-breathing exercises
Effective cough
Abdominal breathing
Turning and ambulation
ควรทำทุก 2 ช.ม.
Extremity exercise
ทำการออกก าลังแขนหรือขาทีละข้างโดยเฉพาะการเหยียดออกและงอเข้าของทุกข้อ
Pain management
การพยาบาลผู้ป่วยหลังผ่าตัด
การประเมินสภาพผู้ป่วย
ประวัติโรคหัวใจ โรคปอด เบาหวาน ความดันโลหิตสูงที่มีก่อนผ่าตัด
การเปลี่ยนแปลงสัญญาณชีพ
แบบแผนอาหารและการเผาผลาญ
การประเมินที่สำคัญได้แก่ประวัติการได้รับและสูญเสียสารน้ำและเกลือแร่ ตั้งแต่ก่อนผ่าตัดจนถึงหลังผ่าตัด
แบบแผนการขับถ่าย
ประวัติการเสียเลือด สารน้ำทางปัสสาวะ
ลักษณะการเปลี่ยนแปลงในแบบแผนการขับถ่ายปัจจุบัน
การทำงานของไต
แบบแผนการรับรู้และการดูแลสุขภาพ
ประเมินความรู้ความเข้าใจ และการยอมรับในการผ่าตัดที่เกิดขึ้น
ความร่วมมือในการปฏิบัติการรักษาพยาบาล
การปฏิบัติตนเพื่อส่งเสริม ฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายของตนเอง
แบบแผนการปรับตัวและการเผชิญกับความเครียด
วิธีการเปลี่ยนแปลงความเครียด
กิจกรรมการพยาบาลหลังผ่าตัด
การจัดท่านอน ให้นอนราบไม่หนุนหมอน
สังเกตการหายใจของผู้ป่วย
กระตุ้นให้ผู้ป่วยหายใจเข้าออกลึกๆ
เปลี่ยนท่านอนหรือพลิกตะแคงตัวบ่อยๆ
กระตุ้นให้ทำกิจวัตรประจำวันด้วยตนเอง
ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
สังเกตอาการบ่งชี้ภาวะแทรกซ้อนทางเดินหายใจ
ถ้าผู้ป่วยมีอาการผิดปกติให้รีบรายงานแพทย์
ตรวจวัดสัญญาณชีพทุก15นาที
สังเกตลักษณะบาดแผลและปริมาณสิ่งคัดหลั่งต่างๆ
ดูแลให้ได้รับสารน้ำ
การพยาบาลเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดจากแผลผ่าตัด โดยพยาบาลประเมินความเจ็บปวดของผู้ปุวยโดยใช้ Pain scale
การพยาบาลเพื่อส่งเสริมภาวะโภชนาการของผู้ป่วย เพื่อลดอาการท้องอืด
การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลเกี่ยวกับความสะอาดของร่างกายทั่วไป
สังเกตและประเมินปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อการหายของแผล
การให้คำแนะนำก่อนกลับบ้านสำหรับผู้ป่วยหลังผ่าตัด
การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย
การช่วยเหลือผู้ป่วยเคลื่อนไหวบนเตียง
การประเมินผู้ป่วย
ความสามารถของผู้ป่วยในการช่วยเหลือตนเอง
ท่าที่เหมาะสมและระยะเวลาที่ผู้ป่วยจะคงอยู่ในท่าที่เปลี่ยนให้ใหม่
ความยากลำบากและไม่สุขสบายในขณะเปลี่ยนท่า
ความยากลำบากและไม่สุขสบายในขณะเปลี่ยนท่า
การเตรียมผู้ป่วยให้เอาหมอนหนุนศีรษะของผู้ป่วยออก
การเตรียมตัวพยาบาลพยาบาลควรยืนในท่าที่ถูกต้อง
การจัดท่าผู้ป่วย มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ป่วยเกิดความสุขสบายขณะนอนพัก
การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
หลักการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
ควรจัดท่าผู้ป่วยให้นอนหงายราบอยู่ในท่าที่สบาย
หันหน้าเข้าหาผู้ป่วย
ควรยืนในท่าที่ถูกต้องและมั่นคง
ยืนแยกเท้าทั้งข้างห่างกันพอสมควร
หาวิธีที่เหมาะสมเพื่อผ่อนแรงในการยก
ยกตัวผู้ป่วยให้พ้นจากที่นอนเล็กน้อย
การประเมินผู้ป่วยก่อนการเคลื่อนย้าย
ความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง
ท่าที่เป็นข้อห้ามของผู้ป่วย
ส่วนที่จำเป็นต้องให้อยู่นิ่งๆ
ความต้องการการเคลื่อนย้ายเปลี่ยนท่าและความสุขสบายของผู้ป่วย
วิธีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
แจ้งให้ผู้ป่วยทราบและบอกวิธีการให้ความร่วมมือถ้าทำได้
นำหมอนหนุนศีรษะของผู้ป่วยออก
พยาบาลยืนในท่าที่ถูกต้องมั่นคง
พยุงผู้ป่วยด้วยความนุ่มนวลและมั่นคง
การช่วยเหลือผู้ป่วยหัดเดิน
การออกกำลังกายเพื่อเตรียมผู้ป่วยเดิน
การออกกำลังกายให้ผู้ปุวยนั้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ปุวยให้กล้ามเนื้อมีความตึงตัว
ให้ผู้ป่วยงอและเหยียดข้อตะโพก
หมุนข้อตะโพก เหยียดขาทั้งสองข้าง หมุนเข้าหาตัวและหมุนออกจากตัว
กางและหุบข้อตะโพก
เหยียดข้อเข่า เหยียดขาพร้อมกับกดข้อเข่าลงกับที่นอน
งอข้อเท้า หมุนข้อเท้าเข้าหาตัวและออกจากตัว
งอและเหยียดนิ้วเท้า
เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ตะโพกต้นขา
การช่วยเหลือผู้ป่วยหัดเดินด้วยอุปกรณ์ช่วยเดิน
Parallel bar = ราวคู่ขนาน
Walker หรือ Pick –up frames
Cane
Crutches ( ไม้ยันรักแร้ , ไม้ค้ำยัน
การออกกำลังกายและการเคลื่อนไหวร่างกาย
การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายชนิดให้ผู้ป่วยทำเอง (Active or Isotonic Exercise)ผู้ป่วยจะเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายด้วยตนเอง
การออกกำลังกายโดยให้ผู้อื่นทำให้ผู้ปุวย (Passive exercise)เป็นการออกกำลังกายโดยการเคลื่อนไหวข้อต่างๆ ให้กับผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายด้วยตนเองได้
การออกกำลังกายชนิดที่ให้ผู้ป่วยทำร่วมกับความช่วยเหลือของผู้อื่น (Active assistive exercise)วิธีนี้ให้ผลดีกว่าวิธีที่ให้ผู้อื่นทำให้ผู้ป่วย
การออกกำลังกายโดยให้กล้ามเนื้อทำงานแต่ข้อไม่เคลื่อน (Isometric or Static exercise) เพื่อเพิ่มความตึงตัวและแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
การออกกำลังกายให้ผู้ป่วยออกแรงต้านกับแรงอื่น (Resistive exercise)เป็นการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ให้ผู้ป่วยออกแรงต้าน
การเคลื่อนไหวร่างกาย
ส่งเสริมและสนับสนุนการทำงานของร่างกายให้เป็นไปตามปกติ
ป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย หรือมีความพิการของกระดูกและกล้ามเนื้อ
ลดการเมื่อยล้าหรือการใช้พลังงานมากเกินไป
ผลกระทบจากการไม่เคลื่อนไหวร่างกาย
เกิดแรงกดทับ
เซลล์ตายและลุกลามกลายเป็นแผล
การเสียดทาน
แรงดึงรั้ง
กระดูกผุ เปราะบาง
การประสานงานของกล้ามเนื้อแขนขาลดลงหรือไม่สัมพันธ์กัน
กล้ามเนื้ออ่อนแรง ลีบเล็ก
อาการปวดหลัง
หัวใจทำงานมากขึ้น
มีการคั่งของเลือดในหลอดเลือดดำที่ขา
เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ
มีการคั่งของเสมหะมากขึ้น
มีผลต่อการรับประทานอาหาร ทำให้เบื่ออาหาร
การเผาผลาญอาหารลดลง
กระบวนการพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยก่อนและหลังผ่าตัด
การประเมินสภาพผู้ป่วย
รวบรวมข้อมูลทีจำเป็นเพื่อนำไปสู่การวางแผนการพยาบาล
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
วิตกกังวลเนื่องจากกลัวการผ่าตัด
วิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและแผนการรักษา
การวางแผนการพยาบาล ให้การพยาบาลและประเมินผลหลังให้การพยาบาล
ประเมินระดับความวิตกกังวล
เปิดโอกาสให้ผู้ปุวยระบายความรู้สึก และค้นหาสาเหตุของความวิตกกังวล
ร่วมกันหาทางแก้ไขสาเหตุของความวิตกกังวลร่วมกับผู้ป่วยและญาติ
ดูแลความสุขสบายทั่วไป
จัดหมวดหมู่กิจกรรมการพยาบาลเพื่อลดการรบกวนผู้ป่วยและให้ผู้ป่วยได้พัก
รายงานแพทย์เมื่อพบอาการผิดปกติ