Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Plant tissue - Coggle Diagram

- - - - เป็นเนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว อยู่ชั้นนอกสุด มีหน้าที่หลายอย่าง เช่น ป้องกันอันตราย ป้องกันน้ำระเหย เกี่ยวข้องกับการหายใจ คายน้ำ สังเคราะห์ด้วยแสง หรือสร้างเซลล์ใหม่ปกคลุมเมื่อมีบาดแผล
    - - เป็นเซลล์ที่มีชีวิต มีรูปร่างต่างๆหลายแบบ ส่วนใหญ่เป็นทรงกระบอก มีผนังบาง แวคิลโอลใหญ่เกือบเต็มเซลล์ เป็นเซลล์ที่มีมากที่สุดของพืช เป็นเซลล์พื้นแทรกอยู่ทุกส่วนของพืชหน้าที่ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่พบ เช่น อยู่ที่ใบ ทำหน้าที่สังเคราะห์ด้วยแสง ในลำต้นและรากช่วยในการลำเลียงและเก็บสะสมอาหาร
    - - เป็นเซลล์ที่ผนังเซลล์มีความหนาไม่สม่ำเสมอ มีหน้าที่ช่วยให้ส่วนของพืชแข็งแรงทรงตัวอยู่ได้
    - - เป้นเซลล์ที่ตายแล้ว ผนังเซลล์หนามาก ทำหน้าที่เป็นเนื้อเยื่อที่ช่วยพยุงและให้ความแข็งแรงแก่ลำต้น
    - - เป็นเนื้อเยื่อของลำต้นและรากที่อายุมาก เป็นกลุ่มเซลล์ที่ตายแล้วมีสีน้ำตาลซึ่งเกิดจากสารซูเบอริน(suberin)ที่เซลล์ผลิตออกมาเคลือบลิกนินไว้ เนื่องจากซูเบอรินเป็นสารพวกไข จึงช่วยป้องกันไม่ให้น้ำผ่านเข้าสู่เนื้อเยื่อภายในได้และช่วยป้องกันการระเหยของน้ำภายในลำต้น ป้องกันความร้อน เย็น และอันตรายจากภายนอก
  - - - tracheid
        
        เป็นเซลล์รูปร่างยาว ทรงกระบอก ปลายค่อนข้างแหลม เมื่อเจริญเต็มที่เซลล์จะตาย ดปรโตพลาสซึมสลายไป เกิดช่อง Lumen ขนาดใหญ่ ทำหน้าที่ลำเรียงน้ำและเกลือแร่ ผ่านรูด้านข้างของเซลล์
      - vessel
        
        เป็นเซลล์เดี่ยว มีช่อง Lumen ใหญ่ ผนังเวลล์หนากว่า tracheid ผนังเซลล์ด้านข้างและด้านปิดมีรูพรุน ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำและเกลือแร่ได้ดี
      - xylem parenchyma
        
        เป็นเซลล์ที่มีรูปร่างคล้าย Parenchyma ทั่วไป จึงทำหน้าที่สะสมอาหารพวกแป้ง น้ำมัน และช่วยลำเลียงน้ำและเกลือแร่
      - xylem fiber
        
        เป็นเซลล์รูปร่างบาวที่เปลี่ยนแปลงมาจาก Tracheid ทำหน้าที่คำจุนให้ความแข็งแรงและช่วย Vessel ในการลำเลียงน้ำและเกลือแร่
    - - sieve tube member
        
        เป็นเซลล์ที่มีชีวิต รูปร่างยาวทรงกระบอก ปลายเซลล์เป็นแผ่นเอียง และมีรูพรุน(Sieve Plate)ทำให้ไซโตพลาสซึมไหลผ่านระหว่างเซลล์ได้ จึงเป็นเซลล์ที่ลำเลียงอาหารได้ดี
      - companiancell
        
        เป็นเซลล์ที่มีกำเนิดมาจากเซลล์ชนิดเดียวกับ Sieve tube member เป็นเซลล์มีชีวิตสร้างเอนไซม์ให้ sieve tube
      - phloem parenchyma
        
        เป็นเซลล์มีชีวิต ผนังบาง ทำหน้าที่สะสมอาหาร น้ำยางน้ำมัน และช่วยลำเลียงอาหาร
      - phloem fiber
        
        เป็นเซลล์รุปร่างยาว รี มี Lumen ทำหน้าที่เสริมความแข็งแรงของท่ออาหาร
- - - - เป็นเนื้อเยื่อที่อยู่นอกสุด ซึ่งต่อไปจะเปลี่ยนไปเป็นชั้นผิว(Epidermis)
    - - เป็นเนื้อเยื่อส่วนกลางของรากที่จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นไซเลมระยะแรก(Primary Xylem) แคมเบีย(cambium) และโฟลเอมระยะแรก(Primary Phloem)
    - - เป็นเนื้อเยื่อที่เป็นพื้นของรากที่จะเปลี่ยนไปเป็นชั้นคอร์เทกซ์ (cortex) และพิธ (Pith) ของราก
  - - - เป็นเนื้อเยื่อเจริญที่อยู่ระหว่างข้อตรงบริเวณเหนือข้อล่าง หรือโคนของปล้องบน มีการแบ่งเซลล์ได้ยาวนานกว่าเนื้อเยื่อบริเวณอื่นในปล้องเดียวกันทำให้ปล้องยาวขึ้น พบในพืชใบเลี้ยงเดี่ยวทั่วไป เช่น หญ้า ข้าว ข้าวโพด อ้อย และไผ่
    - - Apical shoot meristem
        
        เป็นเนื้อเยื่อที่พบได้ที่บริเวณปลายยอดหรือปลายกิ่งของพืช เรียกว่า เนื้อเยื่อเจริญปลายยอด (Shoot apical meristem;SAM) โดยเนื้อเยื่อเจริญส่วนปลายเป็นเนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่ในการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส เพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ทำให้ส่วนปลายยอดและปลายรากของพืชมีการยืดยาว
      - Apical root meristem
        
        เป็นเนื้อเยื่อเจริญที่พบที่ปลายราก (root apical meristem;RAM) โดยเนื้อเยื่อเจริญส่วนปลายเป็นเนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่ในการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส เพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ทำให้ส่วนปลายยอดและปลายรากของพืชมีการยืดยาว
    - - Vascular cambium
        
        เป็นเนื้อเยื่อเจริญที่แทรกอยู่ระหว่าง กลุ่มท่อลำเลียงน้ำและวัตถุดิบ(xylem) กับกลุ่มท่อลำเลียงอาหาร(phloem) ของพืชใบเลี้ยงคู่และพืชพวกจิมโนสเปิร์ม ถูกเรียกว่า แคมเบียมในมัดท่อลำเลียง หรือ fascicular cambium
      - Cork cambium
        
        เกิดขึ้นที่ใต้ผิวชั้นนอกของรากและลำต้น เพื่อแบ่งเซลล์เพื่อสร้างเนื้อเยื่อ (cork หรือ phellem ) ให้มาทำหน้าที่ป้องกันอันตรายและความเสียหายแทนเนื้อเยื่อผิวนอก (epidermis) ที่ใกล้หมดอายุ