Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การประเมินสภาพจิต (Mental Status Examination; MSE), นางสาว ชญาณี สุธรรม…
การประเมินสภาพจิต (Mental Status Examination; MSE)
ความหมายของการประเมินสภาพจิต
การประเมินและวิเคราะห์หาสาเหตุของโรคหรือปัญหาทางสุขภาพจิตและจิตเวช ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตหรือจิตเวชเป็นผู้ที่มีความทุกข์ทางใจที่ต้องการความช่วยเหลือ ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ทาง เช่น จิตแพทย์ นักจิตวิทยา พยาบาลเฉพาะทางสุขภาพจิตและจิตเวช เพื่อให้การวินิจฉัยทางการพยาบาล หา สาเหตุของปัญหาทางสุขภาพจิตและให้การดูแลช่วยเหลือได้ถูกต้อง
วัตถุประสงค์ของการประเมินสภาพจิต
เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง นับได้ว่าเป็นวัตถุประสงค์หลัก คือ การสรุปว่าการวินิจฉัยหรือว่าป่วยเป็นโรค อะไรตามการแบ่งชนิดของโรคซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน
เพื่อความเข้าใจในเรื่องราว ความเป็นมาและสาเหตุของปัญหาทางจิตเวชที่เกิดขึ้น การสัมภาษณ์ข้อมูล ต่างๆ เกี่ยวกับผู้ป่วยทั้งในอดีตและปัจจุบัน
เพื่อการวางแผนบำบัดรักษาและดูแลช่วยเหลืออย่างเหมาะสม การบำบัดรักษาขึ้นอยู่กับความต้องการที่ จะแก้ปัญหาของผู้ป่วยที่เฉพาะในแต่ละราย
เพื่อความเข้าใจเรื่องจิตใจ อารมณ์และพฤติกรรมการแสดงออกของผู้ป่วย การที่ผู้ป่วยได้มีโอกาสพูดคุย ได้ระบายปัญหากับผู้ที่รับฟังและมีความเข้าใจผู้ป่วย จะทำให้แพทย์และพยาบาลผู้ทำการวินิจฉัยหรือการประเมิน สภาพจิตได้รับความไว้วางใจ
เครื่องมือคัดกรองปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวช
แบบคัดกรองโรคซึมเศร้าและฆ่าตัวตาย 2Q 9Q และ 8Q
แบบการตรวจสภาพจิตแบบย่อ (Mini-Mental State Examination-Thai 2002; MMSE)
แบบประเมินอาการขาดสุรา เช่น Alcohol Withdrawal Scale (AWS), Clinical Institute Withdrawal Assessment for Alcohol, Revised (CIWA-Ar), Minneapolis Detoxification Scale (MINDS)
แบบคัดกรองภาวะสุขภาพจิตเบื้องต้น ที่นิยมใช้กันคือ แบบประเมิน General Health Questionnaire (GHQ)
แบบประเมินความเครียด (ST5)
ดัชนีชี้วัดความสุขคนไทยฉบับสั้นใหม่ ปี 2550 (15 ข้อ) [Thai Mental Health Indicator Version 2007 = TMHI-15]
เครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัยโลกชุดย่อ ฉบับภาษาไทย (WHOQOL–BREF–THAI)
การประเมินสภาพจิต ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 ประวัติ (History)
ประวัติส่วนตัวของผู้ป่วย เช่น ชื่อ อายุ เพศ การศึกษา ที่อยู่ ศาสนา อาชีพ ระดับการศึกษา
อาการสำคัญก่อนมาโรงพยาบาล (Chief complaint; C.C.)
ประวัติการเจ็บป่วยในปัจจุบัน (Present illness; P.I.)
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต (กายและจิต) (Past illness)
ประวัติส่วนบุคคล
ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว จากการซักประวัติและเขียนผังครอบครัว (Genogram) 3 รุ่น
ประวัติเกี่ยวกับครอบครัว บ้านและชุมชนที่อยู่อาศัย
ครอบครัวประกอบไปด้วยใครบ้าง
อาชีพ ระดับการศึกษา ค่านิยมและความคาดหวัง
บ้านที่อยู่มีลักษณะเป็นอย่างไร ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวเป็นอย่างไร
ครอบครัวมีปัญหาหรือไม่ เช่น พ่อแม่ทะเลาะกัน พ่อมีภรรยาน้อย พ่อติดเหล้า แม่ติดการพนัน
ส่วนที่2 การประเมินสภาพจิต (Mental Status Examination; MSE)
ลักษณะทั่วไป (General Appearance)
สังเกต การแต่งกาย รูปร่าง หน้าตา กริยา ท่าทางการแสดงออก ระดับความรู้สึกตัว
การพูดและกระแสคำพูด (Speech and stream of talk)
คุณภาพการพูด อัตราการพูด และจังหวะการพูด เช่น น้ำเสียง การเปลี่ยนแปลงเสียงพูด
ปริมาณการพูด เช่น อิสระ ลื่นไหล (spontaneous) หรือพูดเฉพาะเมื่อถูกถาม การพูดเร็วและพูด มากขึ้นหรือช่างพูด (talkative)
ระบบการพูด/การใช้ภาษา ความผิดปกติของการพูด
ความคิด (Thought)
3.1 กระบวนการคิดหรือรูปแบบของการคิด (thought process) เช่น คิดเร็ว คิดช้า คิดแล่นเร็ว เปลี่ยนเรื่องบ่อย (flight of ideas) คิดไม่ต่อเนื่องไม่สัมพันธ์กัน (loose association)
3.2 เนื้อหาความคิด (thought content) เช่น ย้ำคิด (Obsession) คิดตื่นกลัวที่ผิดปกติ (Phobia) ความคิดฆ่าตัวตาย (Suicidal thought) ความคิดหลงผิด (Delusion)
อารมณ์ (Mood/Affect)
อารมณ์พื้นฐานโดยรวม (Mood) หมายถึง สภาวะอารมณ์พื้นฐานของผู้ป่วยและอารมณ์โดยรวม ที่มีอยู่ในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นการประเมินอารมณ์พื้นฐานจะได้จากการซักถามผู้ป่วย (subjective) ไม่ใช่จากการ สังเกต และใช้คำที่ผู้ป่วยบอกด้วยคำของผู้ป่วยเองในการเขียนรายงาน เช่น “เบื่อๆ” “เหงาๆ” “เศร้า”
อารมณ์ที่แสดงออกหรือภาวะอารมณ์ปัจจุบัน (Affect) หมายถึง อารมณ์ที่ผู้ป่วยแสดงออกมา และแสดงออกทางสีหน้า แววตา น้ำเสียงในการพูดคุย ท่าทางและการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ป่วย (objective)
การรับรู้ (Perception)
ประสาทลวง/การแปลภาพผิด (Illusions) เป็นอาการที่ผู้ป่วยแปลความหมายของประสาทรับรู้ เมื่อมีสิ่งกระตุ้นต่างๆ ผิดไป โดยมักเกี่ยวกับความรู้สึกทางร่างกาย การได้ยิน การมองเห็น การรับกลิ่น และการรับรส
ประสาทหลอน (Hallucinations) เป็นอาการที่ผู้ป่วยรับรู้ว่ามีสิ่งกระตุ้นทั้งที่ไม่มี เช่น การได้ยิน เสียงคนพูดโดยที่ไม่เห็นตัวก็คือไม่มีใครพูด
การรับรู้สภาวะตนเองและสิ่งแวดล้อม (Orientation)
การรู้เวลา สถานที่และบุคคล สามารถ สังเกตได้ในระหว่างที่สัมภาษณ์ประวัติหรือการตั้งคำถาม
ความจำ (memory)
ความจำระยะสั้น (recall memory)
เป็นการประเมินความจำในระยะเวลาไม่เกิน 5-10 นาที โดยขณะสนทนากับผู้ป่วย ให้ผู้ป่วยจำสิ่งของ 3 อย่างและพูดทวน หลังจากนั้นพูดคุยหรือสนทนาเรื่องอื่นต่อ แล้ว กลับมาสอบถามอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1-5 นาที หรือให้ทวนหมายเลขโทรศัพท์ หลังได้ฟังทันที
ความจำปัจจุบัน (recent memory)
ประเมินโดยให้ผู้ป่วยบอกเหตุการณ์ต่างๆ ที่เพิ่งผ่านมา ภายใน 24 ชั่วโมงหรือภายใน 1- 3 วัน โดยควรถามคำถามที่ผู้สัมภาษณ์ทราบคำตอบที่ถูกต้อง เช่น เมื่อวานนี้ ใครมาเยี่ยม
ความจำระยะไกลหรือความจำอดีต (remote memory)
เป็นการประเมินความจดจำ เหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาหลายเดือนและหลายปี เช่น ถามประวัติสถานที่เกิด, วัน เดือน ปีเกิด
สมาธิและความตั้งใจ (attention and concentration)
การนับเลข (digit span)
การลบเลขทีละ 7 หรือ ทีละ 3 (serial 7’s or serial 3’s)
ความรอบรู้ทั่วไป เชาว์ปัญญา และลักษณะของความคิด (General knowledge and Intellectual function/ Abstract thinking)
การแปลความหมายของสุภาษิตหรือคำพังเพย (proverb interpretation)
การเปรียบเทียบความเหมือนกันของสองสิ่ง (similarities) และความแตกต่าง (difference)
การตัดสินใจ (Judgment)
การตัดสินใจในการดำเนินชีวิต (social judgment)
การตัดสินใจในสถานการณ์สมมติ (test judgment)
การตัดสินใจเกี่ยวกับแผนการในชีวิตอนาคต
การหยั่งรู้สภาพความเจ็บป่วย (Insight)
ระดับของการหยั่งรู้สภาพความเจ็บป่วยมี 6 ระดับ ดังนี้
ระดับที่ 3 ทราบว่าตนเองป่วย แต่โทษว่าเกิดจากผู้อื่น ปัจจัยภายนอกหรือโรคทางกาย
ระดับที่ 4 ทราบว่าตนเองป่วยและต้องการการช่วยเหลือ แต่ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรหรือมีสาเหตุมาจากไหน
ระดับที่ 2 ทราบบ้างว่าป่วย แต่ก็ปฏิเสธความเจ็บป่วยในขณะเดียวกัน
ระดับที่ 5 ยอมรับว่าตนเองป่วย เข้าใจถึงปัญหาและความผิดปกติ บอกเล่าออกมาเป็นคำพูด
ระดับที่ 1 ปฏิเสธความเจ็บป่วยโดยสิ้นเชิง
ระดับที่ 6 ยอมรับอย่างแท้จริงว่าตนเองป่วย เข้าใจถึงปัญหาและความผิดปกติ บอกเล่าหรืออธิบายได้ ซึ่ง นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้ดีขึ้นได้ (true insight)
นางสาว ชญาณี สุธรรม 61170018