Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยตามพฤติกรรมที่ ผิดปกติ, นพร จิตติมา นามผา ชั้นปีที่ 4…
การพยาบาลผู้ป่วยตามพฤติกรรมที่
ผิดปกติ
อาการหลงผิด (Delusion)
เป็นความผิดปกติของความคิด ที่เป็นความเชื่อที่ผิดและค่อนข้างเปลี่ยนได้ยาก ซึ่งผู้ป่วยมีความเชื่ออย่างสนิทใจในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้เหตุผล
การพยาบาล
-ยอมรับอาการหลงผิดของผู้ป่วย ไม่พยายามโต้แย้งว่าอะไรเป็นจริง ไม่แสดงอาการเห็นด้วย สร้างความไว้วางใจให้
-ยอมรับในความรู้สึกและความกลัวจากการแปลความหมายไม่ถูกต้องของผู้ป่วย
-ไม่หัวเราะเยาะหรือเสียดสีผู้รับบริการเกี่ยวกับอาการหลงผิด
-ในการปฏิบัติการพยาบาลตรงไปตรงมา ไม่โกรธและต่อต้านต่อปฏิกิริยาไม่มิตรของผู้ป่วย
-สื่อสารกับผู้ป่วยอย่างเปิดเผยและไม่ตัดสินฟังและยอมรับความรู้สึกของผู้ป่วย
-สม่ำเสมอในการพูดหรือการกระทำ
-ให้ความนับถือในความเป็นส่วนตัวและมีระยะห่างที่ผู้ป่วยต้องการ ไม่สัมผัสผู้ป่วยโดยไม่จำเป็น
-ลดอาการแยกตัว เพิ่มปฏิสัมพันธ์เมื่อผู้ป่วยรู้สึกสบายใจกับเจ้าหน้าที่
-กระตุ้นได้ผู้ป่วยใช้เทคนิคการผ่อนคลาย ใช้การออกกำลังกาย งานอดิเรก การพูดว่า “หยุด” ให้ผู้ป่วยออกจากอาการหลงผิด
-สังเกตการปฏิเสธยาหรืออาหาร กรณีที่ผู้ป่วยกลัวการถูกวางยาพิษหรือปองร้าย
-ติดตามอาการข้างเคียงของยาด้านระบบประสาทเช่น drug induced parkinsonism,
acute dystonia, akathisia, tardive, dyskinesia และ malignant neuroleptic syndrome
-ในการให้การพยาบาล อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจว่าพยาบาลกำลังทำอะไรและเพราะเหตุใด
-สร้างสภาพแวดล้อมที่มีความปลอดภัย
-ส่งเสริมความภาคภูมิใจและความมีคุณค่าในตนเอง
-กระตุ้นให้ผู้ป่วยและครอบครัวหาวิธีเผชิญกับความวิตกกังวลและความเครียดที่เกิดขึ้น
-ชี้ให้เห็นความเป็นจริง แต่ไม่ท้าทายอาการหลงผิดของผู้ป่วย
ประสาทหลอน (Hallucination)
เป็นการรับรู้ที่ผิดปกติจากความเป็นจริง โดยปราศจากสิ่งเร้าภายนอกหรือการรับรู้ความรู้สึกที่ไม่คงอยู่ในความจริง
การพยาบาล
เข้าใจและยอมรับ ไม่โต้แย้งหรือเห็นเป็นเรื่องตลกในอาการประสาทหลอนที่ผู้ป่วยบอก
บอกถึงสภาพความเป็นจริง (present reality) ตามเหตุการณ์ในปัจจุบัน
รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอาการประสาทหลอน ได้แก่ ชนิดของอาการประสาทหลอน เวลา ความถี่ สิ่งกระตุ้น พฤติกรรมตอบสนอง
ระดับความรุนแรงซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้รับบริการและบุคคลอื่น
วิธีจัดการกับอาการประสาทหลอนของผู้ป่วย
ช่วยให้ผู้รับบริการรับรู้/ยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างสถานการณ์และการเกิดอาการประสาทหลอน
สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด (therapeutic relationship)
ใช้เทคนิคการสร้างสัมพันธภาพเพื่อเป็นการบำบัด
การให้ความรู้ (psycho education) ควรให้ความรู้แก่ผู้ที่มีการรับรู้และอาการดีแล้ว เนื้อหาหลัก ได้แก่ สาเหตุอาการและการรักษาต่างๆ เพื่อให้เข้าใจอาการเจ็บป่วยของตนเองและร่วมมือในการรักษา
หลีกเลี่ยงการเกิดภาวะประสาทหลอนโดย
ให้เข้ากลุ่มกิจกรรมบำบัดที่เหมาะสมกับอาการ หรือพฤติกรรมของผู้ป่วย
มอบหมายงานที่ผู้รับบริการสามารถทำได้ เช่น ทำความสะอาดพื้น
ให้ผู้ป่วยได้พบปะกับบุคคลอื่น ชักชวนให้พูดคุยกัน
จัดให้ผู้ป่วยได้รับประสบการณ์ตรง ในการเรียนรู้วิธีการเผชิญความวิตกกังวลขณะที่อยู่ในสถานการณ์นั้น เพื่อป้องกันการเกิดอาการประสาทหลอน โดยการใช้กระบวนการกลุ่มเพื่อการบำบัด
ประสาทหลอนทางการได้ยิน (auditory hallucination), การมองเห็น (visual hallucination) การรับกลิ่น (olfactory hallucination), การรับรส (gustatory hallucination) และการรับสัมผัส (tactile hallucination)
Manipulation
ประเมินอารมณ์
พฤติกรรม : ชอบทำลาย แสดงพฤติกรรมรุนแรงขาดการยับยั้ง พูดสุภาพแต่ไม่ทำตามที่พูด
การดูแสสุขภาพ : กลุ่มนี้ไม่รักตัวเอง ไม่ดูแลสุขภาพร่างกาย
อารมณ์ : ควบคุมอารมณ์ได้น้อย ทนต่อความผิดหวังไม่ได้ อารมณ์เปลี่ยนแปลงเร็ว
สัมพันธภาพระหว่างบุคคล : มีสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นไม่ดี manipulate เพิ่มเมื่อถูกปฏิเสธ
การพยาบาล
กำจัดสอิทธิและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ข้อเรียกร้องที่เกินขอบเขต การบ่น การตำหนิที่ไร้เหตุผล บอกให้ผู้ป่วยตระหนักในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ป่วยได้ปรับตัว ให้โอกาสผู้ป่วยตัดสินใจในขอบเขตที่เหมาะสม ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ จัดตารางกิจกรรมในหอผู้ป่วยในแต่ละวัน
เป็นพฤติกรรมที่เกิดจากบุคคลไม่ไว้ใจตัวเองและไม่มั่นใจในการควบคุมตัวเอง จึงไปควบคุมผู้อื่นเพื่อให้ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน วุ่นวาย ไม่พอใจได้
นพร จิตติมา นามผา ชั้นปีที่ 4 เลขที่ 11