Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
**การรักษาพยาบาลเบื้องต้นด้านปัจจุบันพยาบาล นางสาวสุพัตรา ปุริจันทร์…
**การรักษาพยาบาลเบื้องต้นด้านปัจจุบันพยาบาล
นางสาวสุพัตรา ปุริจันทร์ รหัส601410053-6
ระบบปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉิน Emergency Medical Service System: EMS
การจำแนกประเภทของผู้ป่วยฉุกเฉิน
การจำแนกผู้ป่วยฉุกเฉินตามสาเหตุ
Trauma คือ ผู้ป่วยฉุกเฉินที่เกิดจากอุบัติเหตุและการทำร้ายร่างกาย
Non-trauma ผู้ป่วยฉุกเฉินจากสาเหตุอื่นๆ เช่น
อายุรกรรม ศัลยกรรม สูตินรีเวช ฉุกเฉินทางตา หู คอ จมูก และฉุกเฉินทางจิตเวช
การจำแนกผู้ป่วยฉุกเฉิน ตามแนวทางการคัดแยกของ Emergency Severity Index (ESI) Version 4
KESI 1 ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (Resuscitation: สีแดง) ต้องให้การช่วยเหลือทันที
KESI 2 ผู้ป่วยเจ็บป่วยรุนแรง (Emergent: สีชมพู) ต้องตรวจใน 5-10 นาที
KESI 3 ผู้ป่วยเจ็บป่วยปานกลาง (Urgent: สีเหลือง) ต้องตรวจใน 15-30 นาที
KESI 4 ผู้ป่วยเจ็บป่วยเล็กน้อย (Less-urgent: สีเขียว) รอตรวจในเวลา 30-60 นาที
KESI 5 ผู้ป่วยไม่ฉุกเฉิน (Non-urgent: สีขาว) รอตรวจรักษาในเวลา 1-2 ชั่วโมง
4 จุดในการจำแนกผู้ป่วยตาม ESI algorithm
A : ผู้ป่วยมีภาวะคุกคามแก่ชีวิตที่จำเป็นต้องได้รับการ
ช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วนหรือไม่
B : ผู้ป่วยคนไหนที่ไม่สามารถรอได้
C : ผู้ป่วยต้องใช้ทรัพยากรหรือกิจกรรมกี่อย่าง
D : สัญญาณชีพผู้ป่วยอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่
กิจกรรมที่ต้องทำที่ ER
CBC , electrolye ถือเป็นประเภทเดียวกัน นับเป็น 1 อย่าง
CXR, CBC คนละประเภท ถือเป็น 2 อย่าง
CXR, consult แพทย์เฉพาะทาง นับเป็น 2 อย่าง
Plain KUB, CT-abdomen, UA, CBC คนละประเภท นับเป็น 3 อย่าง
ผู้ที่คาดว่าจะได้รับการ admit ถือเป็น 1 กิจกรรม
ผู้ป่วยที่มาโดยการ refer ถือเป็น 1 กิจกรรม
การรักษาพยาบาลเบื้องต้นในภาวะฉุกเฉินที่พบบ่อย
ภาวะฉุกเฉินทางอายุรกรรม
การหยุดหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตไม่ทำงาน(Cardipulmonary arrest)
ภาวะที่หัวใจและระบบไหลเวียนโลหิตไม่ทำงาน ทำให้ไม่สามารถส่งเลือดไปสู่ร่างกายได้ทำให้เกิดการตายเฉียบพลัน
สาเหตุที่แก้ไขได้ (6H6T)
6H
Hypovolemia
Hypoxia
Hydrogen ion
Hypo-/Hyperkalemia
Hypothemia
Hypoglycemia
6T
Tension pnuemothorax
Tamponade, cardiac
Toxins
Thombosis, pulmonary
Thombosis, coronary
Trauma
การรักษาเบื้องต้นหรือการส่งต่อ
ช่วยฟื้นคืนชีพตาม Guideline CPR ของ American Heart Association 2015
อาจต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และให้ oxigent ถ้ามีเครื่องมือและบุคลากรได้รับการฝึกฝน
ให้สารละลาย Isotonic ทางหลอดเลือดดำ
ให้ Adrenaline 1:1000 ขนาด 0.3-0.5 ml IV.
ทำการส่งต่อไปสถานพยาบาลที่มีความพร้อม
การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (Basic life support: BLS)
ขั้นตอนที่1
การตรวจระดับการรู้สติ (Level of consciousness)
อันดับแรกให้เข้าไปเขย่าตัว พร้อมทั้งปลุกเรียกเพื่อประเมินการรู้สติ เพราะถ้ารู้สติก็ต้องหายใจและหัวใจก็ยังเต้นอยู่ ให้ทำขั้นตอนต่อไป
ถ้าทำการปลุกเรียกแล้วไม่มีการตอบสนอง ให้เริ่มเข้าขั้นตอนที่2 ทันที
ขั้นตอนที่ 2.
คลำชีพจร (check pulse)
ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 5วินาทีแต่ไม่นานเกิน 10วินาที ให้คลำหาชีพจรที่คอ(carotid pulse) โดยใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางวางบนลูกกระเดือก(thyroid cartilage) แล้วเลื่อนนิ้วลงมาตามแนวหลอดลมลงไปถึงร่องด้านข้างที่อยู่ระหว่างหลอดลมกับกล้ามเนื้อคอ
ขั้นตอนที่ 3.
การกดหน้าอก (Chest compression)
C= circulation
วางมือกึ่งกลางกระดูก sternum ระหว่างหัวนม กดหน้าอกลึกไม่น้อยกว่า 2 นิ้ว(5 ซม.) และไม่เกิน 2.4 นิ้ว(6 ซม.) อัตราการกด 100-120 ครั้ง/นาที
A= Airway
head tilt-chin lift ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่สงสัยว่ามีการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอ
jaw thrust)
B= Breathing
D=Defibrillation
หมดสติ
หมดสติ
(Unconscious) หมายถึงภาวะที่ร่างกายไม่รับรู้หรือตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่สมองส่วนกลางหรือส่วนทาลามัสถูกทำลาย
ตรวจผู้ป่วยหมดสติหรือหมดความรู้สึก
การตรวจลูกตา : ใช้สำลี/ ชายผ้าเขี่ยที่ตาขาวหรือขนตา
ตรวจดูลักษณะและขนาดรูม่านตา
การประเมิน GCS
การช่วยเหลือและการรักษาพยาบาลเบื้องต้น
ประเมินหาสาเหตุของการหมดสติ
ให้ออกซิเจน และสารนํ้าตามข้อบ่งชี้
จัดท่านอนตะแคงกึ่งควํ่า
งดนํ้าและอาหารทางปาก
คลายเสื้อผ้า และสิ่งรัดตัวให้หลวม
ส่งต่อสถานพยาบาลที่มีความพร้อม
ช็อค (Shock)
Shock
คือสภาวะที่มีการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายไม่เพียงพอ (inadequate tissue perfusion) ทำให้การนำสารต่างๆที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของ cell
สาเหตุหลักของภาวะช็อค
ภาวะที่เกิดจาก low perfusion pressure
ภาวะที่เกิดจาก low cellular oxygen
การจำแนกประเภทของช็อค
Hypovolemic shock
Septic shock
Cardiogenic shock
Neurogenic shock
Endocrinic shock
Anaphylactic shock
อาการ
กระสับกระส่าย ซีด
หนาว กระหายนํ้า อ่อนเพลีย
คลื่นไส้ อาเจียน
ชีพจรเบา เร็ว ความดันโลหิตตก
หายใจเร็วถี่ขึ้น ไม่สมํ่าเสมอ
มือเท้าเย็น เหงื่อออก ปัสสาวะน้อย
หมดสติ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลืออาจเสียชีวิต
การช่วยเหลือและการรักษาเบื้องต้น
ประเมินความรู้สึกตัว CABs ตรวจวัดสัญญาณชีพ
ให้ผู้ป่วยนอนราบและยกปลายเท้าสูงกว่าลำตัว 10-20 นิ้ว
ให้ออกซิเจนและให้ความอบอุ่น
ให้สารนํ้าทดแทนทางหลอดเลือดดำ
ให้งดนํ้าและอาหารทางปาก
ใส่สายสวนปัสสาวะค้างไว้เพื่อดูปริมาณปัสสาวะ
หาสาเหตุของอาการช็อกและแก้ไข
ชัก (Seizure)
Seizure หมายถึง อาการที่มีการเปลี่ยนพฤติกรรมที่เกิดขึ้นชั่วขณะเนื่องจากมีความผิดปกติในสมอง
สาเหตุของการชัก
ไม่ทราบสาเหตุ
รอยโรคของสมองโดยตรง ได้แก่
สมองได้รับการกระทบกระเทือน
ความผิดปกติทางชีวเคมี ที่พบบ่อย
ได้แก่ นํ้าตาลในเลือดตํ่า สมองขาดออกซิเจน
ได้รับพิษตะกั่ว การขาดยาบางอย่าง
การช่วยเหลือและการรักษาเบื้องต้น
ประเมินความรู้สึกตัว CABs
ดูแลระบบหายใจ ให้ออกซิเจน ทำทางเดินหายใจให้โล่ง
นอนในที่ปลอดภัย นอนตะแคงหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง
ให้สารนํ้าทางหลอดเลือดดำเพื่อไว้ฉีดยาเวลาชักซํ้า
ชักจากไข้สูงให้เช็ดตัวลดไข้ และให้ยาลดไข้
ขณะชักให้ Diazepam (Valium) 10 มก.
เป็นลม (Syncope/Fainting)
หมายถึง การมีภาวะหมดสติชั่วคราว เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองลดลงและจะพบว่ามีการสูญเสียการทรงตัว ภาวะดังกล่าวสามารถกลับคืนดีได้เอง บางครั้งอาจมีอาการเตือนมาก่อน
สาเหตุ:
การอยู่ในที่ๆมีอุณหภูมิสูง เหนื่อยจัด หิวจัด ออกกำลังกายหนัก ความเครียด วิตกกังวล ตกใจกลัว เสียเลือด เสียนํ้า
การช่วยเหลือและการรักษาพยาบาลเบื้องต้น
ประเมินความรู้สึกตัว CABs
พาเข้าที่ร่มอากาศถ่ายเทสะดวก
นอนราบไม่หนุนหมอน ยกปลายเท้าสูง
ถอดและคลายเสื้อผ้าให้หลวม
ถ้าอาการไม่ดีขึ้น จนมีภาวะระบบหายใจและระบบการไหลเวียนโลหิตไม่ทำงาน ต้องช่วยฟื้นคืนชีพ
สัตว์กัด แมลงกัดต่อย และสารพิษ
สัตว์กัด
ล้างทำความสะอาดบาดแผล
บาดแผลเล็ก ทำแผล ใส่ยาและปิดแผล
ปวดแผล ให้ยาแก้ปวด
ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักทุกราย
งูพิษกัด
ตรวจหารอยเขี้ยวงูหรือฟันงู
รัดเหนือบาดแผล 2 เปลาะ คลายทุก 15 นาที
เคลื่อนไหวน้อยที่สุด
ทำความสะอาดแผล รีบนำส่งโรงพยาบาล
แมลงกัดต่อย
รีบเอาเหล็กในออก
ประคบเย็นเพื่อบรรเทาปวด
ทาบริเวณที่ถูกกัดด้วยแอมโมเนียหรือครีมสเตียรอยด์
สารพิษและการได้รับสารพิษ
การดูแลผู้ป่วยได้รับสารพิษ
การช่วยชีวิตเบื้องต้น(Basic life support)
Airway
Breathing
Circulation
Decontamination
การดูแลเบื้องต้น(Early management)
การลดการดูดซึมยาในทางเดินอาหาร (decrease absorption)
การทำให้อาเจียน (emesis)
การล้างท้อง ( gastric lavage)
การใช้ผงถ่าน activated charcoal
การใช้ยาระบาย(cathatics)
การทำ whole bowel irrigation
การเพิ่มการกำจัดสารพิษ (increase elimination)
การรักษาพยาบาลเบื้องต้นในภาวะฉุกเฉินที่พบบ่อยทางศัลยกรรม
บาดแผล
การช่วยเหลือและการรักษาเบื้องต้น
แผลฟกชํ้า ประคบเย็นทันที่ หลัง 24 ชม. ประคบอุ่น
แผลถลอก ล้างทำความสะอาด ซับให้แห้ง ใส่ยาฆ่าเชื้อ
แผลตัด ทำความสะอาด ห้ามเลือด เก็บชิ้นส่วนที่ขาดใส่ถุงพลาสติกแล้วแช่นํ้าแข็ง refer
แผลฉีกขาด ทำความสะอาด ห้ามเลือด
แผลถูกยิง นอนนิ่ง NPO เปิดเส้นเลือด ให้ i.v. fluid ก่อนพิจารณา refer
แผลไหม้ ประคบเย็น ทำความสะอาดแผล การจัดการความปวด ระวังช็อก
การตกเลือดและการห้ามเลือด
การช่วยเหลือและการพยาบาลเบื้องต้น
ห้ามเลือด
1.ใช้มือที่สะอาด/ ผ้าที่สะอาดกดลงบาดแผลโดยตรง
2.ใช้วิธีกดบนหลอดเลือดแดงใหญ่ที่มาเลี้ยงบริเวณแผล
3.วิธีการขันชะเนาะ คลายและขันใหม่ทุก ½ ชั่วโมง
ถ้ามีอาการเป็นลม หรือช็อก รักษาอาการเป็นลมและช็อก
ถ้ามีวัสดุชิ้นใหญ่ๆปักคาอยู่ อย่าดึงออก
ใช้ผ้าสะอาดปิดแผล และพันให้แน่น
ข้อเคล็ด ข้อเคลื่อน และกระดูกหัก
ข้อเคล็ด (Sprains)
เป็นการฉีกขาดของเส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อที่อยู่รอบข้อ
ข้อเคลื่อน (Dislocations)
หมายถึงภาวะที่ปลายกระดูกหรือหัวกระดูกที่มาชนกันประกอบขึ้นเป็นข้อ เคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิม
อาการและอาการแสดง
เจ็บปวดบริเวณข้อนั้นๆ บวม แดง ร้อน
เมื่อมีการเคลื่อนไหวจะปวดมากขึ้น เคลื่อนไหวไม่ได้ หรือได้บางส่วน
ถ้าเป็นข้อเคลื่อน ข้อนั้นจะมีรูปร่างผิดไปจากเดิม
การช่วยเหลือและการรักษาพยาบาลเบื้องต้น
จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าที่สบายไม่ควรดึงให้เข้าที่เอง เพราะอาจจะทำให้ได้รับอันตรายมากขึ้น
ให้ข้อนั้นอยู่นิ่งๆ โดยอาจใช้ผ้าพยุงหรือดามไว้
บาดเจ็บหลายระบบ (Multiple injury)
A : Airway with cervical spine protection
B : Breathing and ventilation
C : Circulation with controlled hemorrhage
D : Disability (neurological)
E : Exposure , Environmental controlled
บาดเจ็บที่ศีรษะ (Head injury)
Glasgo Coma Score (GCS)
การลืมตา (Eye opening)
การออกเสียง (Best verbal response) 5 ระดับ
การเคลื่อนไหว (Best motor response) 6 ระดับ
อาการแสดงของการบาดเจ็บที่ศีรษะ
Brain Concussionเ
Brain contusion
บาดเจ็บที่ศีรษะระยะแรก
หนังศีรษะ ( scalp:บวม ชํ้า หรือโน ถลอก ( abrasion ) ฉีกขาดหนังศีรษะขาดหาย
กะโหลกศีรษะ ( skull ) : กะโหลกแตกร้าวเป็นแนว กะโหลกแตกร้าวแต่ไม่มีหนังศีรษะฉีกขาด ไม่ต้องรักษา หาย เองใน 2 – 3 เดือน แต่ต้องสังเกตอาการ กะโหลกแตกยุบ
เนื้อสมอง
Focal brain injury
Cerebral concussion คือ การที่สมองได้รับการบาดเจ็บ
Cerebral contusion (เนื้อสมองชํ้า)
การบาดเจ็บทั่วไปของเนื้อสมองส่วนสีขาว
บาดเจ็บที่ศีรษะระยะที่สอง
Hematoma
Brain edema
IICP( ความดันในกะโหลกศีรษะสูง )
สิ่งแปลกปลอมเข้า ตา หู คอ จมูก
สิ่งแปลกปลอมเข้าตา
:ลืมตาในนํ้าสะอาดและกรอกตาไปมา หรือล้างตาด้วย NSSดึงหนังตาบนลงมาทับหนังตาล่าง ตรวจหาสิ่งแปลกปลอม ใช้มุมผ้าสะอาด/ สำลี เขี่ยออก
สารเคมีเข้าตา
:ลืมตาในนํ้าสะอาดและกรอกตาไปมา หรือล้างตาด้วย NSSป้ายตาด้วยยาป้ายตาปฏิชีวนะให้ยาแก้ปวดถ้าปวดมาก
สิ่งแปลกปลอมเข้าหู
กรณีเป็นสิ่งมีชีวิต และเยื่อแก้วหูไม่ทะลุ ใช้นํ้ามันมะกอกหรือแอลกอฮอล์ 70% หรือ glycerine boraxหยอดเข้าหู เพื่อให้แมลงลอยขึ้นมา
ถ้ามองเห็นตัวแมลงอาจคีบออกได้
สิ่งแปลกปลอมเข้าคอ