Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลด้วยความเอื้ออาทรและจิตใจของความเป็นมนุษย์แก่บุคคลวัยผู้ใหญ่ที่มี…
การพยาบาลด้วยความเอื้ออาทรและจิตใจของความเป็นมนุษย์แก่บุคคลวัยผู้ใหญ่ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับการขับถ่ายปัสสาวะระยะเฉียบพลันวิกฤตและเรื้อรัง
ระบบทางเดินปัสสาวะ (Urinary system)
คือ ระบบที่อวัยวะกรองหรือนำน้ำปัสสาวะเป็นทางผ่านเก็บปัสสาวะชั่วคราว และขับน้ำปัสสาวะออก และทำหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาสมดุลของสารน้ำ อิเลคโตลัยท์ และรักษากรดด่างในร่างกาย
ไต (Kidneys) 
เป็นอวัยวะสำคัญในการรักษาสมดุลสมดุลของสารน้ำในร่างกาย
หน้าที่หลักของไต คือ การกรองพลาสม่า โดยส่วนที่ทำหน้าที่กรองคือหน่วยไต
-
ท่อไต (ureter) 
เป็นทางนำน้ำปัสสาวะลงสู่กระเพาะปัสสาวะในส่วนที่เรียกว่า ไตรโกน (trigone) ประกอบด้วยกล้ามเนื้อเรียบ หากท่อไตมีการอุดตันจะมีการหดเกร็ง
กระเพาะปัสสาวะ (bladder)
จะตั้งอยู่ด้านหลังของกระดูกหัวเหน่า ทำหน้าที่รับและเก็บน้ำปัสสาวะไว้ชั่วคราว กล้ามเนื้อเรียบสามารถจุปัสสาวะได้ 600-800 ซีซี
ท่อปัสสาวะ (urethra) 
เป็นท่อให้น้ำปัสสาวะที่ไหลออกไปสู่ภายนอกร่างกาย ความยาวของท่อปัสสาวะจะแตกต่างกัน ผญ จะสั้นกว่าคือ 4 นิ้ว (3-8 ซม) ผช จะยาวกว่าคือ 18-20 ซม แบ่งออกได้ 3 ส่วน
- ส่วนที่ต่อจากกระเพาะปัสสาวะลงมา ยาวประมาณ 2-3 ซม มีต่อมลูกหมากหุ้มอยู่
- ส่วนที่ต่อจากส่วนที่หุ้มด้วยต่อมลูกหมาก ยาวประมาณ 1-2 ซม เป็นส่วนที่บางและแคบที่สุด แตกง่ายและถูกหุ้มด้วยกล้ามเนื้อหูรูด
- ส่วนที่อยู่ในองคชาต ยาวประมาณ 14-20 ซม จะมาสิ้นสุดที่รูเปิดภายนอกตอนปลายองคชาต
พยาธิสภาพของผู้ป่วยที่มีความผิดปกติที่ระบบทางเดินปัสสาวะ
ความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะมีสาเหตุมาจากการอุดกั้น แบ่งจากตำแหน่งจะเป็น 2 ส่วน
-
-
เมื่อเกิดการอุดกั้นที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบทางเดินปัสสาวะทำให้ปัสสาวะไหลผ่านไม่สะดวกเกิดการคั่งค้างเหนือตำแหน่งการอุดกั้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังนี้
1.การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเหนือตำแหน่งการอุดกั้นโดยการพองตัวออก จะขยายขึ้นเรื่อยๆ จะส่งผลให้ยาวขึ้นด้วยเนื่องจากอยู่ในพื้นที่จำกัดจะมีผลทำให้ส่วนนั้นพองยาวและหักพับงอเกิดการอุดกั้นซ้ำสอง
2.เกิดขึ้นเพราะมีความดันเพิ่มขึ้นผิดปกติ เหนือตำแหน่งการอุดกั้นโดยเฉพาะการอุดกั้นที่เกิดใกล้ไต จะส่งผลกระทบอย่างรวดเร็ว
3.ภาวะแทรกซ้อนจากการอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ เมื่อมีการอุดกั้นจะมีแนวโน้มที่จะเกิดการอักเสบและนิ่วในส่วนเหนือตำแหน่งการอุดกั้น
อาการและอาการแสดง
1.อาการปวด ปวดอย่างรุนแรง(colicky pain) เกิดการพยายามบีบตัวอย่างรุนแรง เพื่อให้ปัสสาวะผ่านอาจมีอาการปวดร้าว ลงมาในช่วงล่างของทางเดินปัสสาวะ อาการปวดจะขึ้นอยู่กับการอุดกั้น หากปัสสาวะผ่านได้แล้วอาการปวดจะหายไป
2.การถ่ายปัสสาวะ ปกติการถ่ายปัสสาวะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเก็บปัสสาวะเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ และ ช่วงขับถ่ายปัสสาวะออกจากกระเพาะปัสสาวะ ควบคุมการทำงานด้วยระบบประสาทอัตโนมัติ และระบบประสาทส่วนกลาง
2.1 ถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด(hematuria) การถ่ายปัสสาวะเป็นเลือดมีความสัมพันธ์กับการปวดไต ลักษณะการมีเลือดออก เช่น สีเข้มตอนปัสสาวะสุด ถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด
2.2 ปัสสาวะออกน้อย(oliguria) ปัสสาวะออกน้อยกว่าชั่วโมงละ 20 ซีซี อัตราการกรองของไตลดลง จากภาวะการขาดน้ำ เกิดพยาธิสภาพที่ไต เช่น โกลเมอรูรัสอักเสบ หรือ
ไตวาย การอุดกั้นทางเดินปัสสาวะที่บริเวณกรวยไต ท่อไต ท่อปัสสาวะ เช่น นิ่วเนื้องอกมะเร็งต่อมลูกหมากโต
2.3 ไม่ถ่ายปัสสาวะ(anuria) ปัสสาวะน้อยกว่าวันละ 100 ซีซี เนื่องจากไม่มีปัสสาวะระบายออกมา มีอาการปวดแบบ colicky pain ร่วมด้วย มีการอุดกั้นของระบบทางเดินปัสสาวะอย่างเฉียบพลัน มีการขาดเลือดไปเลี้ยงไตอย่างเฉียบพลันมีการตายของเนื้อไต
-
2.5 การปวดขณะถ่ายปัสสาวะ (painful urination) สาเหตุที่ที่ทำให้ถ่ายปัสสาวะปวด เนื่องจากเกิดการอุดกั้นการไหลของปัสสาวะ เช่น การติดเชื้อ
2.6 การถ่ายปัสสาวะลำบาก(difficulty urination) ปวดสาวะเต็มที่แต่ต้องใช้เวลานานกว่าจะออก ต้องออกแรงเบ่ง ใช้เวลาปัสสาวะนานกว่า 30 วินาที ปัสสาวะสะดุด ลำปัสสาวะไม่พุ่ง ปัสสาวะยังไม่หมดหรือยังไม่สุด แบ่งออก 5 ประเภทดังนี้
-
-
3.มีความลำบากในตอนสุดของการถ่ายปัสสาวะ ต้องเพิ่มแรงเบ่ง มักมีอาการปวดร่วมด้วย เกิดจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
-
5.ปวดถ่ายปัสสาวะอีกหลังจากถ่ายปัสสาวะเสร็จทันที การถ่ายปัสสาวะที่รู้สึกว่าถ่ายหมดแล้ว แต่พอลุกขึ้นก็อยากถ่ายปัสสาวะอีก
2.7 การถ่ายปัสสาวะไม่ออก(retention of urine) มีการคั่งของน้ำมากกว่าความจุปกติของกระเพาะปัสสาวะ แต่ไม่สามารถถ่ายปัสสาวะออกได้ แยกสาเหตุได้ดังนี้ มีความผิดปกติจากกำเนิด , การอุดกั้นที่เกิดในภายหลัง,มีความผิดปกติในการทำหน้าที่ของอวัยวะ
ลักษณะของการถ่ายปัสสาวะไม่ออกแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ การขับถ่ายปัสสาวะไม่ออกชนิดเฉียบพลัน และ การขับถ่ายปัสสาวะไม่ออกชนิดเรื้อรัง
2.8 ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้(incontinence of urine) ร่างกายสูญเสียการควบคุมการถ่ายปัสสาวะเล็ดราดออกมาโดยไม่สามารถควบคุมได้ แบ่งออกเป็น 5 ชนิด
1.กลั้นปัสสาวะไม่ได้แบบแบบปัสสาวะเล็ด(stress incontinence) กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ มีการไหลออกของปัสสาวะน้อยๆ ขณะมีกิจกรรมที่เพิ่มแรงดัน เช่น การไอ จาม
2.กลั้นปัสสาวะไม่ได้แบบปัสสาวะราด(urge incontinence) ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้นาน เมื่อรู้สึกปวปัสสาวะจะถ่ายทันทีทำให้เข้าห้องน้ำไม่ทัน
-
4.กลั้นปัสสาวะไม่ได้แบบปัสสาวะไหลท้น(overflow incontinence) ปัสสาวะเล็ดลอดออกมาร่วมกับมีการยืดขยายตัวของกระเพาะปัสสาวะมาก กล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะไม่บีบตัว อาการที่พบ คือ ปัสสาวะหยด ปัสสาวะคั่งค้าง
5.กลั้นปัสสาวะไม่ได้จากขีดจำกัดของร่างกาย(functional incontinence) กลั้นปัสสาวะไม่ได้ที่เกิดจากภาวะของโรคทางกายภาพที่ไม่ใช่ความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะ
การรักษา
จุดมุ่งหมายของการรักษา คือ การแก้ไขการเปลี่ยนแปลงระบบทางเดินปัสสาวะให้คืนสภาพปกติหรือไม่เสียหายมากกว่าเดิม
การแก้ไขเหตุของการอุดกั้นและการคั่งค้างของน้ำปัสสาวะ การผ่าเอานิ่วออกจากไต,การผ่าเอานิ่วออกจากกรวยไต,การผ่าตัดไตออกบางส่วนหรือตัดออกทั้งหมด,การผ่าตัดเอานิ่วออกจากหลอดไต,ผ่าตัดนิ่วจากกระเพาะปัสสาวะออกทางเหนือหัวเหน่า,ผ่าตัดเอานิ่วออกจากท่อปัสสาวะ
ระบายน้ำปัสสาวะออกจากระบบทางเดินปัสสาวะ การใส่สายยางเข้าทางรูเปิดของท่อปัสสาวะ , ผ่าตัดเปลี่ยนท่อใหม่ให้ปัสสาวะออกมาภายนอก เช่น ท่อจากไต ท่อต่อจากกรวยไต ท่อจากหลอดไต ท่อต่อเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ
-