Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 6 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีแผล - Coggle Diagram
บทที่ 6
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีแผล
ชนิดของแผลและปัจจัยการส่งเสริมการหายของแผล
ชนิดของแผลแบ่งตามลักษณะพื้นผิว
แผลลักษณะแห้ง
ลักษณะของแผลมีขอบแผลติดกัน
อาจเกิดการติดกันเอง
แผลผ่าตัดเย็บปิด
ไม่มีสารคัดหลั่ง
แผลลักษณะเปียกชุ่ม
ลักษณะของขอบแผลไม่
ติดกัน หรือขอบแผลกว้าง
มีสารคัดหลั่ง
แผลผ่าตัดยังไม่เย็บปิด
ชนิดของแผลแบ่งตามลำดับความสะอาด
แผลผ่าตัดสะอาด
ลักษณะเป็นแผลที่ไม่มีการติดเชื้อ, ไม่มีกำรอักเสบมาก่อน, การผ่าตัดไม่ผ่านระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร, อวัยวะสืบพันธุ์, ท่อปัสสาวะ, blunt trauma ที่ไม่มีกำรแทงทะลุหรือฉีกขำด
เป็นแผลผ่าตัดชนิดปิด
แผลสะอาดกึ่งปนเปื้อน
ลักษณะแผลที่มีการผ่าตัดผ่านระบบทางเดินหายใจ, ระบบทางเดินอาหาร, ระบบทางเดิน ปัสสาวะ, เป็นกำรผ่าตัดที่เกี่ยวกับท่อน้ำดี, อวัยวะสืบพันธุ์ และช่อง oropharynx ที่ควบคุมการเกิดปนเปื้อนได้ขณะทำผ่าตัด
อัตราเสี่ยงต่อการติดเชื้อ 5-15 %
แผลปนเปื้อน
ลักษณะแผลเปิด
การปนเปื้อนสารคัดหลั่งจำกระบบทำงเดินอาหาร เป็นแผลที่มีการอักเสบเฉียบพลัน อัตราเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ≥15%
แผลสกปรก/แผลติดเชื้อ
แผลมีการติดเชื้อมาก่อน แผลกระดูกหักเกิน 6 ชั่วโมง
อัตราเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ≥30%
ชนิดของบาดแผลแบ่งตามระยะเวลาการเกิด
แผลที่เกิดเฉียบพลัน
เป็นการเกิดแผล และรักษาให้หายในระยะเวลาอันสั้น
แผลเรื้อรัง
เป็นแผลที่เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน และรักษายาก
แผลเนื้อตาย
เป็นแผลที่เกิดจากการขาดเลี้ยงไปเลี้ยงหรือเลือดดำเลี้ยงไม่เพียงพอ
ชนิดของแผลแบ่งตามการรักษา
การรักษาผู้ป่วยศัลยกรรมกระดูกด้วยวิธีการจัดกระดูกให้อยู่นิ่ง
การรักษาแผลด้วยสุญญากาศ
แผลท่อระบาย
แผลท่อหลอดคอ
แผลท่อระบายทรวงอก
แผลทวารเทียมหน้าท้อง
ลักษณะและกระบวนการหายของแผล
การหายของแผลแบบปฐมภูมิ
เป็นแผลประเภทที่ผิวหนังมีการสูญเสียเนื้อเยื่อเพียงเล็กน้อย และเป็นแผลที่สะอาด
การรักษาโดย การเย็บดึงขอบแผลเข้าหากัน หรือแผลขนาดเล็กน้อยแล้วแผลสมานหายได้เองตามธรรมชำติ
การหายของแผลแบบทุติยภูมิ
เป็นแผลขนาดใหญ่ที่เนื้อเยื่อถูกทำลาย มีการสูญเสียเนื้อเยื่อบางส่วนขอบแผลมีขนำดกว้างเย็บแผลไม่ได้
การรักษาโดยการทำแผลจนเกิดมีเนื้อเยื่อใหม่มาปกคลุม
มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง
การหายของแผลแบบตติยภูมิ
เป็นแผลชนิดเดียวกับแผลทุติยภูมิ
การรักษาโดยการทำแผลจนมีเนื้อเยื่อเกิดใหม่ปกคลุมสีแดงสด และไม่มีอาการแสดงภาวะติดเชื้อแล้ว
ศัลยแพทย์จะพิจารณาปลูกถ่ายผิวหนัง โดยนำผิวหนังของผู้ป่วยมาปะติดคลุมแผล
ขั้นตอนกำรหำยของแผลเป็น 3 ระยะ
กระบวนการหายของแผล
ระยะ 2: การสร้างเนื้อเยื่อ
จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 4-12 วัน
ระยะ 1: ห้ามเลือดและอักเสบ
จะเกิดขึ้นก่อน ในเวลา 5-10 นำที
ระยะ 3: การเสริมความแข็งแรง
จะใช้เวลาหลังการผ่าตัด 20 วัน
เพิ่มความแข็งแรงของผิวหนังเป็นปกติจะใช้เวลาอีก 60-180 วัน หรือ 2 ปี
วิธีการเย็บแผลและวัสดุที่ใช้ในการเย็บแผล
วิธีการเย็บแผล
Interrupted method
เป็นวิธีการเย็บแผลที่ต้องตัดวัสดุเย็บแผลในทุกฝีเข็ม
Subcuticular method
เหมำะสำหรับการเย็บด้านศัลยกรรมตกแต่งเพื่อความสวยงาม
Continuous method
เป็นวิธีการเย็บแผลแบบต่อเนื่องตลอดความยาวของแผล
Retention method
เป็นวิธีการเย็บรั้งแผลเข้ำหากัน
วัสดุที่ละลายได้เอง
เส้นใยสังเคราะห์
polyglycolic acid (dexon), polyglycan (vicryl) และ polydioxanone (PDS) ส่วน plain catgut ละลำยได้เร็ว 5-10 วัน
เส้นใยธรรมชาติ
catgut ทำมาจาก collagen
วัสดุที่ไม่ละลายเอง
เส้นใยสังเคราะห์
nylon เส้นเหล่านี้มีความแข็งแรงมากกว่าไหมเย็บแผล
วัสดุที่เย็บเป็นโลหะ
ลวดเย็บ เป็นวัสดุเย็บแผลสำเร็จรูป แต่ต้องมีเครื่องมือสำหรับใส่ลวดเย็บ
เส้นใยตามธรรมชาติ
ไหมเย็บแผล
การบันทึกลักษณะบาดแผล
ชนิดของบำดแผล
ตำแหน่ง/บริเวณ
ลักษณะผิวหนัง
ขั้นหรือระยะควำมรุนแรงของบำดแผล
สี
สิ่งที่ปกคลุมบำดแผลหรือสำรคัดหลั่ง
ขนำด ควรระบุเป็นเซนติเมตร
วิธีการทำแผลชนิดต่างๆ และการตัดไหม
การทาแผลผ่าตัดแบบแห้ง
เปิดแผลโดยใช้มือ (ใส่ถุงมือ) หยิบผ้าปิดแผลโดยพับส่วนที่สัมผัสแผลอยู่ด้านในทิ้งลงชำมรูปไต หรือถุงพลาสติก
เปิดชุดทำแผล (ตามหลักการของ IC) หยิบ forceps ตัวแรกโดยใช้มือจับด้านนอกของผ้าห่อชุดทำแผล หยิบขึ้นแล้วใช้ forceps ตัวแรกหยิบ forceps ตัวที่สอง วาง forceps ไว้ด้านข้างถาดของชุดทำแผล
หยิบ non-tooth forceps ใช้คีบส่งของ sterile ทำหน้าที่เป็น transfer forceps
หยิบ tooth forceps ใช้รับของ sterile ทำหน้าที่เป็น dressing forceps
หยิบสำลีชุบ alcohol 70% เช็ดรอบๆ แผลวนจากในออกนอกห่างแผล 1 นิ้วเป็นบริเวณกว้าง 2 นิ้ว
หยิบสำลีชุบ 0.9% NSS เช็ดจากบนลงล่างจนแผลสะอาดแล้วเช็ดด้วยสำลีแห้ง
เก็บอุปกรณ์ ถอดถุงมือ ถอด mask และล้ำงมือ ทิ้งขยะในถังขยะติดเชื้อทุกครั้ง
ทำแผลด้วย antiseptic solution ตำมแผนการรักษา (ถ้ามี)
ปิดแผลด้วย gauze ติดพลาสเตอร์ตามแนวขวางของลำตัวโดยเริ่มติดชิ้นแรกตรงกึ่งกลำงของแผลและไล่ขึ้น-ลงตามลำดับ ส่วนหัวและท้ายต้องปิดทับผ้า gauze กับผิวหนังให้สนิท
การทาแผลผ่าตัดแบบเปียก
ใช้สำลีชุบน้ำเกลือหรือน้ำยาตามแผนการรักษาเช็ดภายในแผลจนสะอาด
ใช้ผ้า gauze ชุบน้ำยา (solution) ใส่ในแผล (packing) เพื่อฆ่าเชื้อและดูดซับสารคัดหลั่งให้ความชุ่มชื้นแก่เนื้อเยื่อ
ทำความสะอาดริมขอบแผลเช่นเดียวกับการทำ dry dressing
ปิดแผลด้วยผ้า gauze และปิดพลาสเตอร์ตามแนวขวางของลำตัว
เปิดแผลโดยใช้มือ (ใส่ถุงมือ) เปิดชุดทำแผลตามหลัก IC หยิบผ้าปิดแผลส่วนบนทิ้งลงในชามรูปไตหรือถุงพลำสติก เปิดผ้ำปิดแผลชั้นที่ติดกับแผลด้วย tooth forceps หากผ้า gauze แห้งติดแผลใช้สำลีชุบน้ำเกลือหยดบนผ้า gauze ก่อน เพื่อให้เลือดหรือสารคัดหลั่งอ่อนตัว จะช่วยให้ผ้ำ gauze หลุดง่ายและไม่ทำลาย granulation tissue