Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การรักษาพยาบาลเบื้องต้น สำหรับกรณีฉุกเฉินทางศัลยกรรม - Coggle Diagram
การรักษาพยาบาลเบื้องต้น สำหรับกรณีฉุกเฉินทางศัลยกรรม
การเย็บแผล
เครื่องมือในการเย็บแผล
กรรไกร (scissors)
หลักการจับกรรไกร นิ้วหัวแม่มือและนิ้วนางสอดเข้าบริเวณโกร่งกรรไกร นิ้วชี้จะควบคุมการเคลื่อนไหวของปลายกรรไกร เวลาตัดไหมหรือต้องการควบคุมมือไม่ให้สั่นกระตุกควรจะวางกรรไกรให้แตะกับหลังมือซ้าย
Needle holder
ปากคีบ (Forceps)
เข็ม (Needle)
cutting คือเข็มที่มีคมด้านข้าง ใช้สำหรับเย็บเนื้อที่มีความเหนียว พังผืด ผิวหนัง และเส้นเอ็น
Taper หรือเข็มกลม (Round) ใช้สำหรับเย็บเนื้อที่อ่อน และไม่ต้องการให้ขอบเข็มบาดเนื้อ ได้แก่ เข็มที่ใช้เย็บลำไส้ กล้ามเนื้อ ต่อมต่าง ๆ และหลอดเลือด ปลอกประสาท
ไหมเย็บแผล
Nonabsorbable ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ด้าย (Cotton) ไหม (Silk) วัสดุสังเคระห์ เช่น Polyamide (Nylon), Polypropylene, Stainless steel wire มีปฏิกิริยาต่อร่างกายน้อย เมื่อเย็บแล้วจะไม่สลายไปเอง เมื่อแผลหายต้องตัดออก จึงนิยมใช้เย็บภายนอก หรือเย็บอวัยวะภายใน
Absorbable sutures เป็นไหมเย็บที่ร่างกายสามารถย่อยสลายได้ ใช้เย็บใต้ผิวหนัง เย็บอวัยวะภายในที่สามารถสมานได้เร็วโดยยังคงความแข็งแรงได้ในระยะที่ยังไม่สลายไป เช่น เย็บลำไส้
Plain Catgut ทำจาก collagen จากลำไส้ของสัตว์ เช่น แกะหรือวัว Catgut ละลายใน 7-10 วัน ถ้านำไปทำการดัดแปลงทางเคมี จะได้ Chromic catgut ซึ่งจะละลายใน 14-28 วัน
Synthetic material ทำจากสารสังเคราะห์ เช่น Polyglycolic acid ชี่อทางการค้าที่รู้จักดี เช่น Vicryl , Dexon จะละลายใน 14 - 48 วัน ขึ้นอยู่ชนิดของ material การเลือกชนิดของ suture ต้องขึ้นกับ tissue ที่เย็บว่ำต้องการให้ suture hold tension อยู่นานเท่าใด
การเลือกขนาดของ suture
หนังศีรษะ (scalp) ใช้ Nylon 3-0/4-0;
trunk, extremities ใช้ Nylon 4-0;
เย็บบริเวณเท้าใช้ Nylon 3-0;
faceใ ช้ Nylon 6-0;
facial muscle ใช้ Dexon, Vicryl 4-0/5-0
มีดผ่าตัด (scalpel)
ชนิดของการเย็บแผล
Simple interrupted suture เป็นการเย็บแผลทั่วไปเป็นการเย็บแบบเว้นช่องว่างห่างเท่ากัน แต่ละปมจะผูกปม (reef knot) ไว้ด้านข้าง แล้วตัดไหมแต่ละอัน
Continuous suture or continuous over and over เป็นการเย็บติดต่อกันไปตลอดความยาวของแผล การเย็บเช่นนี้จะผูกปมเฉพาะปมแรกเท่านั้น ไม่มีการตัดไหมแต่ละฝีเย็บ เข็มสุดท้ายผูกปมด้าย และตัดไหม
การเย็บเช่นนี้จะผูกปมเฉพาะปมแรกเท่านั้น ไม่มีการตัดไหมแต่ละฝีเย็บ เข็มสุดท้ายผูกปมด้าย และตัดไหมด้านบนมาชนกัน โดยไม่ต้องเย็บผิวหนังด้านบน การเย็บชนิดนี้จะใช้ในศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อความสวยงามของบาดแผล
Mattress suture เป็นการเย็บแผล 2 ชั้น โดยจะปักเข็มแบบวิธีแรก แต่จะไม่ผูกด้ายทันที แต่จะต้องปักแผลอีกครั้งโดยตักแผลใกล้ ๆ กับบาดแผล การตักบาดแผลครั้งนี้จะไม่ลึกมากเพียงแต่ต้องการให้ขอบแผลชิดกัน แล้วค่อย ๆ ผูกด้ายหรือไหม
Continuous locked หรือ blanket continuous เป็นการเย็บต่อกันแบบเดียว Continuous suture แต่ระหว่างฝีเย็บให้ล็อคไว้ใช้เย็บแผลที่ต้องการห้ามเลือด และไม่ต้องระวังเรื่องขอบแผล
คำแนะนำในการดูแลบาดแผล
ไม่ควรให้แผลถูกน้ำ เพราะจะทำให้แผลที่เย็บไว้ไม่ติด และเกิดการติดเชื้อ
ยกอวัยวะที่เย็บแผลให้สูง เพื่อลดการคั่งของเลือด และน้ำเหลือง
แผลที่มีการพันผ้าหรือใส่เฝือก เพื่อต้องการให้บริเวณข้อได้พัก ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกให้สังเกตการบวม ปวด รู้สึกแน่น หรือมีอาการชา ให้ผู้ป่วยมาโรงพยาบาลก่อนวันนัด แนะนำให้ยกอวัยวะส่วนนั้นให้สูงเพื่อลดอาการบวม
ถ้ามีอาการอักเสบ ปวด รอบแผลบวมแดง ร้อน มีหนองให้มาโรงพยาบาลได้ทันที
ให้มารับการตัดไหมเมื่อครบกำหนดนัด
หลักการเย็บแผล
ในกรณีแผลมีขนาดเล็ก แผลขอบเรียบที่สะอาด อาจใช้ Steri – strip ดึงขอบแผลเข้าหากัน แผลจะหายดีที่สุดและรอยแผลเป็นน้อย แต่ถ้าแผลขนาดใหญ่จำเป็นจะต้องเลือกชนิดของการเย็บแผลและวัสดุที่จะใช้เย็บแผลให้เหมาะสม
เลือกเข็มให้เหมาะกับแผลที่จะเย็บ ถ้าเป็นเข็มโค้ง (เข็ม Cutting, เข็มกลม) ต้องใช้ Needle Holder จับที่ประมาณ 1 ใน 3 ค่อนมาทางโคนเข็ม สนด้ายที่จะใช้เย็บเข้าที่รูเข็ม
การเลือกวัสดุเย็บแผล ควรเลือกวัสดุเย็บแผลให้เหมาะสมกับตำแหน่งอวัยวะที่บาดแผลนั้นอยู่ โดยเลือกขนาดเบอร์เล็กที่สุดที่สามารถดึงขอบแผลมาชิดกัน โดยไม่เกิดการดึงรั้งของเนื้อเยื่อบริเวณนั้น เพราะถ้าเบอร์ใหญ่เกินไปจะเกิดเป็นรอยกดทับเนื้อเยื่อบริเวณนั้นทำให้เกิดแผลเป็นได้ แต่ถ้าเบอร์เล็กเกินไปจะทำให้ต้องออกแรงดึงขอบแผลมาชิดกันจะเพิ่มความช้ำของแผลได้
ตรวจสภาพแผลเย็บทำความสะอาด และปิดบาดแผล ไม่ควรใช้ Dry gauze ปิดแผลโดยตรงเนื่องจากถ้ามีเลือดหรือน้ำเหลืองซึม ติด gauze จะดึงออกยากและเจ็บ ดังนั้นในขั้นแรกให้ใช้ Vaseline gauze หรือ Sofra - tulle ก่อนแล้วจึงปิดด้วย dry gauze
ให้คำแนะนำเรื่องการดูแลแผลเย็บ การให้ยาป้องกันบาดทะยักและการตัดไหม
การผ่าฝี
ทำความสะอาดบริเวณฝีด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ฉีดยาชาโดยฉีดรอบๆหัวฝี มิใช่ฉีดที่หัวฝีโดยตรง
ใช้มีดเบอร์ 11 กรีดผิวหนังแล้วแหวกแผลให้หนองไหลออกมา แล้วใส่น้ำยาฆ่าเชื้อ Irrigate แผลให้สะอาด
เมื่อล้างสะอาดแล้ว ให้ใส่ท่อระบายแผล (drain) แล้วปิดแผลด้วยผ้าก๊อซหลวม ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ปากแผลปิดก่อนโพรงหนอง เนื้อในโพรงหนองจะค่อย ๆ ตื้นจนมาถึงปากแผลในเวลาประมาณ 10 – 20 วัน
อาจต้องให้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย ให้มาทำแผลทุกวันจนกว่าแผลจะหาย
ห้อเลือดใต้เล็บ
กรณีปวดไม่มาก หรือมีเลือดออกใต้เล็บน้อยกว่าร้อยละ 50 ของพื้นที่เล็บ
ให้ยาแก้ปวดพาราเซตามอล
แช่อวัยวะที่บาดเจ็บในน้ำอุ่นประมาณ 15 นาที และยกให้สูง
กรณีปวดบวมมาก หรือมีเลือดออกใต้เล็บมากกว่าร้อยละ 50 ใช้เข็มเบอร์18 เจาะเล็บ เพื่อระบายเลือดหรือทพการถอดเล็บ
ฉีดยาชาด้านข้างนิ้ว ที่ตำแหน่ง 5 และ 7 นาฬิกา โดยฉีดเป็นรูปใบพัด เพื่อ block dorsal nerve
ใช้ clamp แหวกใต้เล็บ แล้วบิด clamp เอาเล็บบริเวณ lateral fold ออกทีละข้าง จากนั้นจึงเอา proximal nail fold ออก
ปิดแผลด้วย sofra- tulle และก๊อสสะอาด นัดทำแผลวันละครั้ง
การถอดเล็บ กรณีเล็บขบ
ฉีดยาชา (Digital nerve block) เลือดชนิดและจำนวนตามความเหมาะสม
เปิด set scrub และ scrub ด้วย Povidine Scrub
ล้างให้สะอาดด้วย NSS
ซับให้แห้งและวางก๊อซปิดแผลไว้
เปิด set เย็บแผล เทน้ำยา NSS และ Povidine solution
สวมถุงมือ Sterile
ทำแผลด้วย Povidine Solution
สอดปลายกรรไกรเข้าใต้เล็บ
ถ่างปลายกรรไกรออกเพื่อแยกเล็บออกจากพื้นเล็บ
ใช้คีมจับปลายเล็บแล้วดึงออก
ทำความสะอาดแผลหลังดึงเล็บออก
ใช้ผ้าพันแผลพันปลายนิ้วให้แน่น
ทำความสะอาดแผลจนกว่าจะหาย
สิ่งแปลกปลอมเข้าหู
สิ่งมีชีวิต
ล่อให้ออกมา โดยให้เข้าไปในที่มืด เช่น ปิดไฟห้อง เอาผ้าห่มคลุมโปงแล้วใช้ไฟฉาย ส่งเข้าไปในรูหู แมลงเห็นแสงไฟ อาจจะออกมาได้เอง รอประมาณ 5 - 10 นาที
หยอดน้ำมันชนิดที่สามารถรับประทานได้ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันพืช หรือถ้าดีที่สุดคือยาหยอดหูชนิดใดก็ได้หยอดเข้ำไปในรูหูทีละน้อย รอประมาณ 15 -30 นาที อย่ารีบเทน้ำมันออก เพราะมีแมลงบางชนิด นิ่งแต่ยังไม่ตาย สามารถดิ้นต่อหลังเทน้ำมัน หลังจากนั้นค่อยคีบออก
สิ่งที่ไม่มีชีวิต
ถ้าส่องไฟแล้วเห็นชัดเจน เป็นสิ่งที่คีบออกได้ อยู่ไม่ลึก เช่น เศษสำลี เศษผ้าผม ก็ให้เอาที่คีบดึงออกได้
ถ้าเป็นสิ่งแปลกปลอมใหญ่ อยู่ตื้นๆ ใช้เครื่องมือที่ต้องสามารถสอดเข้าไประหว่าผนังรูหูและสิ่งแปลกปลอม ค่อยๆลากหรือแคะสิ่งแปลกปลอมออกมาภายนอก ห้ามใช้ไม้แคะหูหรือปากคีบจับวัสดุที่ลื่นกลม เพราะจะทำให้สิ่งแปลกปลอมนั้น ลงลึกไปเรื่อยๆ ถ้าสิ่งแปลกปลอมอยู่ลึก แสงไฟส่องเห็นไม่ชัดเจนหรือเครื่องมือไม่พร้อมให้รายงานแพทย์
สิ่งแปลกปลอมติดคอ
การรักษาเบื้องต้น เมื่อก้างปลา กระดูกไก่ติดคอ
ให้อ้าปากให้กว้าง ถ้าเห็นสิ่งแปลกปลอมชัดเจน ให้ใช้ไม้กดลิ้นที่พันผ้าก๊อซ หรือผ้าสะอาด กดที่โคนลิ้นแล้วใช้ปากคีบ คีบสิ่งแปลกปลอมออกมา
ถ้าเป็นก้างหรือกระดูกขนาดเล็ก ให้ดื่มน้ำมากๆ กลืนก้อนข้าวสุก หรือกลืนขนมปังนุ่ม ๆ เพื่อให้ก้างหรือกระดูกหลุดลงไปในกระเพาะอาหาร
ห้ามใช้มือแคะหรือล้วง เพราะจะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่มีสิ่งแปลกปลอมฝังอยู่ บวม แดง ทำให้เอาออกยากขึ้น และอาจทำให้อักเสบและติดเชื้อตามมาได้
ถ้ามองไม่เห็นสิ่งแปลกปลอม ให้ส่งต่อโรงพยาบาล
การรักษาพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเหรียญ เม็ดผลไม้ ฟันปลอมติดคอ
ถ้าเป็นเด็กทารก ให้จับเด็กห้อยศีรษะและตบกลางหลัง
ถ้าเป็นเด็กโต ให้จับเด็กนอนคว่ำฟาดบนตักผู้ใหญ่ โดยให้ศีรษะของเด็กห้อยต่ำกว่าลำตัว แล้วตบบริเวณกลางหลัง
ถ้าเป็นผู้ใหญ่ จับนอนคว่ำฟาดลำตัวกับโต๊ะหรือเก้าอี้ แล้วห้อยส่วนศีรษะลงต่ำกว่าลำตัว ให้มือทั้งสองข้างยันพื้นไว้หรือมีคนช่วยจับ แล้วตบบริเวณกลางหลัง
ถ้าเป็นคนอ้วนหรือหญิงมีครรภ์ ให้วางมือบริเวณกึ่งกลางหน้าอกเหนือลิ้นปี่เล็กน้อย โดยผู้ให้การช่วยเหลืออยู่ด้านหลังของผู้ป่วย และให้กดแรงๆ บริเวณหน้าอกติดต่อกัน 6 –10 ครั้ง
กรณีหมดสติให้นอนหงายวางโคนฝ่ามือถัดซี่โครงซี่สุดท้าย วางอีกมือข้างบนกดแรง ๆ เข้าด้านในและขึ้นข้างบน 5 ครั้ง