Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Health problems in Cardiovascular system - Coggle Diagram
Health problems in Cardiovascular system
เจ็บอก
การซักประวัติ(History taking
)
5) ระยะเวลาที่มีอาการเจ็บหน้าอก (Duration)
จะมีอาการเจ็บแน่นอกนานกว่า 15-20 นาที
4) ลักษณะของการเริ่มมีอาการเจ็บอก (Onset)
ให้พิจารณาว่าอาการเป็นแบบทันทีทันใดหรือค่อย
เป็นค่อยไป ในกรณีที่มีอาการแบบทันทีทันใด (Acute chest pain)
7) ปัจจัยที่กระตุ้นหรือส่งเสริมให้มีอาการมากขึ้น (Precipitating factors)
3) ตําแหน่งที่อาการเจ็บร้าวไป (Referred pain/Radiation)
Angina pectoris ร่วมกับมีอาการเจ็บร้าวไปที่แขนซ้ายด้านในข้อศอก
8) ปัจจัยที่ช่วยให้อาการบรรเทาหรือหายไป (Relieving factors)
2) ตําแหน่งของอาการเจ็บอก (Location/Region)
ส่วนใหญ่อาการเจ็บอกจะเกิดบริเวณกลางอก
เหนือลิ้นปี่ขึ้นมาประมาณ 1-2 เซนติเมตร
9) อาการร่วม (Associated symptoms)
อาการหอบเหนื่อย นอนราบไม่ได้ บวม เป็นลม
หมดสติ เหงื่อออกมาก ใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน อาการเหล่านี้มีความสําคัญในการวินิจฉัยแยกโรค
1) ลักษณะอาการเจ็บอก (Character/Quality)
อาการเจ็บแน่นหน้าอกลดลงเมื่อหยุดพักหรือได้รับยา nitroglycerin พ่นหรืออมใต้ลิ้น
อาการเจ็บแน่นหน้าอกเป็นมากขึ้นขณะออกแรง ออกกําลังกาย มีความโกรธ ความเครียด หรือหลัง
รับประทานอาหารมื้อใหญ่
เจ็บแน่นบริเวณกลางอกหรือค่อนไปด้านซ้ายลักษณะคล้ายถูกบีบรัดหรือมีอะไรมาทับ
6) ความรุนแรงของอาการเจ็บอก (Severity)
การตรวจร่างกาย (Physical examination)
การตรวจร่างกายมักไม่พบความผิดปกติ,
การตรวจประเมินภาวะซีด
เพื่อค้นหาปัจจัยที่กระตุ้นหรือเพิ่มความรุนแรงของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หากสงสัยภาวะ Aortic
dissection อาจคลําพบการเต้นของชีพจรที่แขนทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน มีแขนขาข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรงหรือชา
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ (Investigation)
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram)
การตรวจเลือด เพื่อหาเอนไซม์ที่เกิดจากการถูกทําลายของกล้ามเนื้อหัวใจหรือ Cardiac markers
ได้แก่ Creatinin kinase (CK-MB), Myoglobin, และ Troponin
การตรวจพิเศษเพื่อการวินิจฉัยโรคในระบบหัวใจและหลอดสามารถทําได้โดย การทํา CT scan, MRI, และ Coronary angiogram
การวินิจฉัยแยกโรค (Differential diagnosis)
อาการเจ็บอกที่มีสาเหตุจากหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular chest pain)
1) โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (ACS)
เจ็บเค้นอกรุนแรงเฉียบพลันหรือเจ็บขณะพัก นานกว่า 20 นาที
2) Aortic dissection
ลักษณะอาการเจ็บอกคล้ายมีอะไรฉีกขาด เป็นทันทีและรุนแรงมาก อาจร้าวไปกราม ไหล่ และหลังได้ มักมีประวัติความดันโลหิตสูงร่วมด้วย
อาการเจ็บอกที่ไม่ได้เกิดจากหัวใจและหลอดเลือด (Non Cardiovascular chest pain)
2) Esophageal rupture
อาการเจ็บหน้าอก คล้ายมีอะไรฉีกขาดและปวดแสบบริเวณเหนือลิ้นปี่ซึ่งเป็นบริเวณรอยต่อของหลอดอาหารและกระเพาะอาหารมักจะสัมพันธ์กับมีอาการอาเจียนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะหลังดื่มสุรามาก ๆ
3) Tension pneumothorax
ลักษณะอาการเจ็บอกเป็นแบบเสียวแปล๊บ ๆ และจะมีอาการเหนื่อยเกิดร่วมด้วย มักเป็นกะทันหัน ตรวจร่างกายจะพบว่ามีการหายใจเร็ว อาจมีอาการ Cyanosis
1) Pulmonary embolism
ผู้ป่วยจะมีอาการแน่นหน้าอกอย่างกะทันหันร่วมกับมีอาการหอบเหนื่อยร่วมด้วยเสมอ
ใจสั่น
การซักประวัติ(History taking)
ระยะเวลาที่มีอาการใจสั่น (Duration)
อาการร่วม (Associated symptoms)
ลักษณะของการเริ่มมีอาการใจสั่น (Onset)
การซักประวัติเกี่ยวกับความเจ็บป่วยในอดีต โรคประจําตัว และยาที่ใช้อยู่เป็นประจํา
ลักษณะอาการใจสั่น (Character/Quality)
การตรวจร่างกาย (Physical examination)
การเต้นผิดจังหวะของหัวใจอาจตรวจพบได้จากการฟังหัวใจและการคลําชีพจร หากการเต้นผิดจังหวะ
นั้นเป็นอยู่ตลอดเวลาแต่ในผู้ป่วยบางรายการเต้นผิดจังหวะอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวทําให้ตรวจร่างกายไม่พบ
ความผิดปกติ ซึ่งทําให้การวินิจฉัยยากขึ้นและผู้ป่วยบางรายการเต้นของหัวใจไม่ผิดจังหวะแต่ผู้ป่วยมี
ความรู้สึกใจสั่น เพราะหัวใจบีบตัวแรงขึ้น มักพบในโรค Cardiomyopathyซึ่งการตรวจหัวใจโดยการฟังก็ไม่
พบความผิดปกติเช่นกัน
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ (Investigation)
การตรวจ Ambulatory EKG monitor หรือ Holter monitoring
การตรวจพิเศษเพื่อหาสาเหตุของอาการใจสั่น เช่น การตรวจ Echocardiogram การ
ตรวจ MRI เพื่อดูโครงสร้างของกล้ามเนื้อหัวใจ หลอดเลือด และลิ้นหัวใจ เป็นต้น
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram)
การวินิจฉัยแยกโรค (Differential diagnosis)
ใจเต้นแรงบางจังหวะ หัวใจเต้นเร็วสม่ําเสมอเกิดขึ้น และหายไปในทันทีทันใด
Supraventricular
tachycardia
ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง
(Atherosclerosis) ภาวะหัวใจล้มเหลวโรคของต่อมไทรอยด์ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
ใจสั่นร่วมกับเจ็บหน้าอก
เวียนศรีษะ มึนงง อ่อนเพลีย
Sinus bradycardia
กล้ามเนื้อหัวใจถูกทําลาย กล้ามเนื้อ
หัวใจขาดเลือด โรคความดันโลหิตสูง
โรคหัวใจล้มเหลว ขาดความสมดุลของ
อิเล็คโทรไลต์ในร่างกายและ Hypothyroidism
หัวใจเต้นเบา ร่วมกับมีอ่อนเพลีย บางรายมีอาการ
แน่นหน้าอกร่วมด้วย
Atrial fibrillation
มีจุดกําเนิดกระแสไฟฟ้าหลายตําแหน่ง
ใน Atria ซ้ํา ๆ หรือเกิดจากแหล่งกําเนิดกระแสไฟฟ้าภายนอกมากระตุ้น Atria ทําให้จังหวะและอัตราการเต้นของหัวใจ ไม่สม่ําเสมออาจมีอัตราการเต้นที่น้อยกว่า 60 ครั้งต่อนาทีหรือมากกว่า 100 ครั้งต่อนาที
หัวใจเต้นแรง เร็ว เวลาตกใจ
หรือออกกําลังกาย พักแล้ว
อาการจะค่อย ๆ หายไป
Sinus tachycardia
กล้ามเนื้อหัวใจถูกทําลาย ภาวะโลหิต
จาง โรคความดันโลหิตสูง หรืออาจเกิด
จากภาวะไข้สูง ความวิตกกังวล การดื่ม
แอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มทีมีคาเฟอีน
และการใช้ยาบางชนิด
การรักษาพยาบาลขั้นต้น
1) การรักษาโดยการใช้ยา
กลุ่ม Beta-blocker ชื่อยา Propranolol 10-40 mg. t.i.d.
กลุ่ม Calcium channel blocker ชื่อยา Diltiazem 30-90 mg. t.i.d.
2) การรักษาที่สาเหตุ โดยการตรวจสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ (Electrophysiology studies)
หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ (Dyspnea)
การซักประวัติ(History taking)
ปัจจัยที่กระตุ้นหรือส่งเสริมให้มีอาการมากขึ้น (Precipitating factors)
ปัจจัยที่ช่วยให้อาการบรรเทาหรือหายไป (Relieving factors)
ความรุนแรงของอาการอาการหายใจลําบาก เหนื่อยหอบ (Severity)
อาการร่วม (Associated symptoms)
ลักษณะของการเริ่มมีอาการหายใจลําบาก เหนื่อยหอบ (Onset)
การซักประวัติอื่น ๆ ได้แก่ พฤติกรรมสุขภาพโดยเฉพาะพฤติกรรมการสูบบุหรี่
การตรวจร่างกาย (Physical examination)
1) ระบบหัวใจและหลอดเลือด
หัวใจเต้นเร็ว (Tachycardia)
หายใจเร็ว (Tachypnea)
เส้นเลือดดําที่คอโป่งพอง (Jugular vein distention)
หัวใจโต โดยตรวจพบว่ามี Apex beat หรือ Point of Maximum Impulse (PMI)
2) ระบบทางเดินหายใจ
เสียงปอดผิดปกติ (Lung crepitation) จากการที่มีเลือดคั่งในปอด (Pulmonary congestion)
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ (Investigation)
คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiography)
การตรวจเลือด ในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว
ภาพถ่ายรังสีทรวงอก (Chest X-ray/CXR)
การวินิจฉัยแยกโรค (Differential diagnosis)
1) อาการหายใจลําบากที่เกิดจากระบบหัวใจและหลอดเลือด
โรคในระบบหัวใจและหลอดเลือดที่ทําให้เกิดอาการหายใจลําบากคือโรคหัวใจล้มเหลว หรือภาวะ
หัวใจล้มเหลว (Heart Failure: HF)
2) อาการหายใจลําบาก เหนื่อยหอบจากระบบทางเดินหายใจ
โรคหืด (Asthma)
โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง (Chronic bronchitis)
โรคปอดบวม (Pneumonia)
น้ําในเยื่อหุ้มปอด (Pleural effusion)
การรักษาพยาบาลเบื้องต้น
การรักษาโดยใช้ยา
- การใช้ยาเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต
ได้แก่ Angiotensin converting enzyme (ACEI) Angiotensin II receptor blocker (ARB)
และ Beta-blocker
- การใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการ
ยาขับปัสสาวะ เป็นยาในกลุ่ม Loop diuretic ที่นิยมใช้คือ Furosemide 20-40 mg. IV
ยารักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ คือ Digoxin 0.5-1 mg. IM/IV หรือ 0.125-0.25 mg. o.d.