Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 6 ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายและการประกอบวิชาชีพการพยาบาล,…
บทที่ 6
ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายและการประกอบวิชาชีพการพยาบาล
พฤติกรรมของพยาบาลที่มีความเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย
2.พฤติกรรมบริการ เป็นพฤติกรรมของพยาบาลที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่มีต่อผู้รับบริการในด้านการเคารพในสิทธิมนุษยชนและสิทธิผู้ป่วย รับผิดชอบต่อการบริการที่มีคุณภาพสูง มีน้ำใจสนใจเอาใจใส่ รับฟังและช่วยแก้ปัญหา รักษาความลับ ปลอบโยนให้กำลังใจให้บริการ
พฤติกรรมทางวิชาชีพ เป็นพฤติกรรมของพยาบาลที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่วิชาชีพ เผยแพร่ชื่อเสียงของวิชาชีพให้ประจักษ์แก่คนทั่วไป เป็นผู้นำทางการพยาบาล ส่งเสริมการศึกษาและการปฏิบัติการพยาบาล สนับสนุนการทำวิจัยทางการพยาบาล จัดทำเอกสารวิชาการ เผยแพร่ความรู้ทางการพยาบาล ร่วมกิจกรรมองค์กรวิชาชีพ
1.พฤติกรรมส่วนตัว เป็นพฤติกรรมของพยาบาลที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อผู้อื่นและต่อวิชาชีพ ได้แก่ การแต่งกายที่สะอาดสุภาพเรียบร้อยถูกระเบียบ รักษาสุขวิทยาส่วนบุคคล
4.พฤติกรรมทางสังคม เป็นพฤติกรรมของพยาบาลที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของพยาบาลต่อสังคม การทำให้สังคมไว้วางใจในพยาบาลและวิชาชีพการพยาบาล การยึดหลักความเสมอภาคในสังคม ประกอบวิชาชีพบนพื้นฐานจริยธรรมและจรรยาบรรณพยาบาล ให้บริการด้วยคุณภาพโดยทั่วถึงและเท่าเทียมกันทุกชนชั้น วรรณะ เพศวัยเชื้อชาติศาสนา เศรษฐกิจและโรคที่เจ็บป่วย
วิธีปฏิบัติตัวเมื่อพยาบาลทำผิดกฎหมาย
3.การจัดเตรียมบันทึกและเอกสารสำคัญที่เกี่ยวของให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้คดีทุกชนิด
4.การศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการร้องเรียนหรือการฟ้องร้องในคดีที่เกิดขึ้นหรือที่มีความเกี่ยวพันกัน เช่น กฎหมายที่เกี่ยวข้องคดีจริยธรรมและโทษทางการประกอบวิชาชีพ
2.การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยพิจารณาตามความจำเป็นและความพร้อมของหน่วยงาน
5.6.การสังเกตสัญญาณอันตรายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ผู้ป่วยอาการทรุดลงหรืออาจนำไปสู่การเสียชีวิต ความวิตกกังวลของญาติที่อาจนำไปสู่ความไม่พอใจที่รุนแรงและการฟ้องร้องดำเนินคดีที่ไม่อาจสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกันได้
1.การให้ความรู้และข้อมูลที่เป็นจริงในการรักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น รวมทั้งข้อจำกัดในการรักษาและการพยาบาล โดยยึดถือคำประกาศสิทธิผู้ป่วยและกฎระเบียบของโรงพยาบาล
วิธีปฏิบัติตัวของพยาบาลเมื่อต้องขึ้นศาลในฐานะจำเลย
2.การจัดเตรียมแฟ้มเอกสารทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับคดีและมาตรฐานการรักษาพยาบาลเพื่อประกอบคำชี้แจงให้ศาลเข้าใจตามคดีที่เกิดขึ้น
3.การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยและญาติ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
1.การเจรจาและการต่อสู้คดีของพยาบาล กรณีการฟ้องคดีแพ่ง : ความรับผิดในทางแพ่ง(มาตรา 420) การฟ้องคดีอาญา : ความรับผิดในทางอาญา(มาตรา 59) การต่อสู้คดี เช่น เหตุสุดวิสัย ความจำเป็นในการรักษา การกระทำละเมิด การกระทำโดยประมาท การแต่งตั้งทนายและจัดเตรียมหลักทรัพย์ให้พร้อมเพื่อการประกันตัว
4.การให้ปากคำแก่ศาลอย่างตรงไปตรงมาและกระชับตรงประเด็น
วิธีปฏิบัติตัวของพยาบาลเมื่อต้องขึ้นศาลในฐานะพยานบุคคล
1.การรับหมายศาล ที่โจทก์หรือจำเลยก็ตามที่อ้างให้พยาบาลเป็นพยานในคดี ถือเป็นความรับผิดชอบที่พยาบาลจะต้องให้ความร่วมมืออย่างเคร่งครัดโดยให้ถือว่าเป็นการไปปฏิบัติงานตามหน้าที่ไม่ต้องลางานแต่ต้องแจ้งหัวหน้างานรับทราบเพื่อจัดผู้ปฏิบัติงานแทน
2.การสาบานตนตามความเชื่อในศาสนาหรือหลักการที่ตนยึดถือต่อหน้าศาลก่อนที่จะเริ่มให้ปากคำ
3.การให้ปากคำตามคำซักถามของทนายและตามคำอนุญาตของศาล พยาบาลจะต้องเรียบเรียงเหตุการณ์และถ้อยคำที่สั้นกระชับ พูดให้เสียงดังชัดเจนและไม่ควรกลัว
4.การให้ความเคารพแก่ศาลอย่างเหมาะสม เมื่อไปศาลพยาบาลต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ระวังกิริยามารยาท และทำความเคารพแก่ศาลเช่นเดียวกับผู้อื่น
การประกอบวิชาชีพที่ปราศจากคดี
3.อย่าทำงานเกินขอบเขตของพยาบาล
4.ทำงานด้วยหลักคุณธรรมและจริยธรรม
2.ไม่ประมาทและทำงานตามมาตรฐานวิชาชีพ
5.สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ป่วยญาติและผู้ร่วมงาน
1.มีความรู้และทักษะในการทำงานวิชาชีพ
6.รีบรายงานแพทย์เกี่ยวกับอาการที่ต้องสงสัยของผู้ป่วย
7.เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นต้องระมัดระวังในการให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติ
สรุป
การประกอบวิชาชีพการพยาบาลที่พยาบาลทุกคนยึดถือความเมตตาและจริยธรรมที่ดีงามอย่างสม่ำเสมอมานั้น ย่อมจะทำให้ผู้ป่วยมีความปลอดภัย แต่หากมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นจากข้อจำกัดนานัปการทำให้พยาบาลต้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีต่าง ๆโดยเฉพาะการตกเป็นจำเลยในคดีที่เกี่ยวกับผู้ป่วยที่ตนให้การดูแลอยู่ พยาบาลควรมีความรู้ในการปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง
พยาบาลจึงต้องทำการพยาบาลให้ถูกต้อง จะไม่มีความผิด ไม่เกิดประเด็นและไม่เป็นปัญหา แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัยมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น มีความผิดต้องไม่เกิดเป็นคดี เกิดประเด็นแต่ไม่เป็นปัญหา ถ้าหากเกิดเป็นคดีความ ต้องช่วยกันแก้ปัญหา ให้ไม่ต้องขึ้นศาล เกิดปัญหาแต่ไม่เป็นคดี ที่สุดเมื่อคดีขึ้นศาล ทุกฝ่ายต้องร่วมกันช่วยเหลือ เพื่อทำให้คดีมีความรุนแรงน้อยลง เกิดเป็นคดีที่ไม่ต้องถูกจำคุก
นางสาวสุดธิดา สิงหาอรุณ 6001210514 เลขที่ 25 Sec B