การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคล
แต่ละวัย

การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลวัยเด็กและวัยรุ่น

การประยุกต์ใช้การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมในการดูแลเด็ก

การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลวัยผู้ใหญ่

การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลวัยผู้สูงอายุ

ประเทศกัมพูชา
สตรีที่ตายเพราะการคลอดบุตรจะเชื่อว่าเกิดจากการกระทำของปีศาจ ดังนั้น หญิงที่ตั้งครรภ์จึงมีข้อห้ามต่างๆมากมาย นิยมในชนบท

ประเทศจีน
วัฒนธรรมจีนชื่นชอบลูกผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ในอดีตความต้องการมีลูกชายไว้สืบสกุลเพราะมีลูกได้เพียงคนเดียว ทำให้มีข่าวการทำแท้งหรือฆ่าทารกเพศหญิงอยู่เสมอๆ

ประเทศไทย
เชื่อเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของเด็กจะได้รับอิทธิพลจากสังคมรอบข้าง โดยเฉพาะผู้ปกครอง เช่น การบอกกล่าวของบิดามารดา คำสั่งสอนของปู่ย่าตายาย

ความเชื่อในการดูแลเด็กของคนไทยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะคล้ายคลึงกับประชากรในประเทศลาว กล่าวคือ จะมีการรักษาความเจ็บป่วยจากอำนาจเหนือธรรมชาติ ได้แก่ การประกอบพิธีกรรมต่างๆ เช่น การสะเดาะห์เคราะห์ การผูกข้อมือเรียกขวัญ

ความเชื่อในการดูแลเด็ก

  1. น้ำนม ถ้าเอาน้ำนมของคนทาที่ศีรษะของเด็กทารกที่มีผมบาง ทำให้ผมหนาขึ้น ถ้าเอาน้ำนมหยอดตาคนที่เป็นโรคตาแดง ก็จะหาย
  1. เม่า โรคที่รอบริมฝีปากและลิ้นของเด็กคล้ายน้ำร้อนลวก ทำให้เด็กแสบและร้องไห้ รักษาคือ พ่อแม่นำกรวยดอกไม้ไปเสียบไว้ข้างฝาหรือหลังคาบ้าน ทิ้งไว้ครึ่งวันนำกรวยดอกไม้มาทำพิธีเสกเป่าอีกครั้ง ทำเช่นนี้กว่าเด็กจะหาย
  1. รก ชาวล้านนาเชื่อว่าหลังคลอดแล้วแต่รกไม่ออกมาให้ระวังรกจะขึ้นลิ้นปี่และทำให้เด็กตาย สมัยก่อนคือต้องให้หมอเวทมนตร์เสกคาถาสะเดาะเคราะห์
  1. จกคอละอ่อน คือการที่หมอตำแยใช้นิ้วล้วงไปในลำคอของทารกแรกเกิด เพื่อล้วงเอาเสลดหรือเลือดที่ติดค้างในลำคอออกมา ถ้าไม่ทำเช่นนี้เด็กอาจเป็นโรคหอบหืดได้

เด็กในกัมพูชาจะได้รับการเลี้ยงดูจนกว่าจะอายุประมาณ 2-4 ปี

เด็กอายุ 5 ขวบจะสามารถช่วยดูแลน้องๆได้

เด็กอายุ 7-8 ปี จะเริ่มไปโรงเรียน

เด็กอายุ 10 ขวบ เด็กหญิงจะเริ่มช่วยงานบ้านได้ ส่วนเด็กผู้ชายต้องช่วยงานในไร่นาภายใต้การควบคุมของผู้ใหญ่

ชาวกัมพูชาให้การเคารพแพทย์เพราะถือว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในชนชั้นที่สูงกว่า เวลาผู้ป่วยคุยกับแพทย์มักจะไม่สบตา

ชาวกัมพูชาถือว่าศีรษะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ผู้ให้บริการสุขภาพจึงไม่ควรแตะศีรษะผู้ป่วย ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ป่วยหรือญาติของผู้ป่วยก่อน

เด็กที่เกิดในประเทศจีน เมื่อครบสามวันจะมีพิธีล้างวันที่สาม ในวันนี้จะเป็นการอาบน้ำให้เด็กเป็นครั้งแรกนับแต่คลอด จึงต้องพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกภาชนะ น้ำ รวมถึงผู้ประกอบพิธี น้ำที่ใช้อาบมีชื่อเรียกว่า “ฉางโซ่วทัง”

ชาวจีนบางกลุ่มที่นิยมใส่ต้นหอมหรือนำเศษเหรียญใส่ลงในน้ำ เพราะต้นหอมหรือชงในภาษาจีนพ้องเสียงกับคำว่า “ชงหมิง” ที่แปลว่า ฉลาดหลักแหลม ส่วนเงินหมายความว่าพรั่งพร้อมไปด้วยทรัพย์สินเงินทอง

พิธีครบเดือน “หมีเย่ว์” ถือเป็นพิธีกรรมที่สำคัญที่สุดในบรรดาพิธีกรรมเกี่ยวกับการเกิด ประกอบไปด้วยการโกนผมไฟ การจัดเลี้ยงในหมู่ญาติสนิทมิตรสหาย และการตั้งชื่อให้เด็ก

3.หากสื่อสารไม่ได้หรือไม่มีประสิทธิภาพ อาจสื่อสารผ่านญาติที่เป็นคนไทย หรือการใช้ล่าม

4.อาจทำรูปภาพสื่อสารแทนภาษาพูด

2.พัฒนาทักษะการสื่อสารกับเด็กตามพัฒนาการของเด็กรวมทั้งผู้ดูแลเด็กด้วยภาษาง่ายๆ

5.การปฏิบัติพยาบาลควรใช้กระบวนการพยาบาลควบคู่กับการพยาบาลข้ามวัฒนธรรมตามแนวคิดไลนิงเจอร์

1.ศึกษาวัฒนธรรมของผู้ป่วยและครอบครัวในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและสามารถให้การพยาบาลที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมของผู้รับบริการได้

การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมในวัยผู้ใหญ่ที่นับถือศาสนาอิสลาม

การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมในวัยผู้ใหญ่ชาวจีน

สตรีตั้งครรภ์และหลังคลอดชนเผ่าม้ง ภาคเหนือ ประเทศไทย

ผู้ป่วยที่สามารถทำความสะอาดได้ อาจจะทำด้วยตนเอง หรือให้คนอื่นช่วย ก็ให้ทำความสะอาดตามปกติ ก่อนที่จะอาบน้ำละหมาดในแต่ละเวลา

ผู้ป่วยที่มีนะญิส (สิ่งสกปรกที่ต้องชำระให้สะอาดตามหลักนิติบัญญัติอิสลาม) ติดตัวอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะทำความสะอาดแล้วเป็นเหตุสุดวิสัยที่จะขจัดนะญิสเหล่านั้นได้ เราต้องแนะนำให้ผู้ป่วยทำความสะอาดบริเวณดังกล่าวตามปกติ

ศาสนกิจที่สำคัญของชาวมุสลิม ได้แก่ การละหมาดวันละ 5 เวลาการถือศีลอด การทำฮัจญ์

หญิงตั้งครรภ์จะถูกแนะนำ ให้ดื่มนํ้ามะพร้าว จะทำให้ลูกไม่มีไขคลอดง่ายและมีผิวสวย

หญิงตั้งครรภ์ก็จะถูกแนะนำให้กินแกงผักพื้นบ้าน ชื่อผักปรัง ซึ่งมีลักษณะลื่นๆ เพื่อจะทำให้ลูกคลอดไม่ลำบาก

เมื่อท้องแก่ใกล้คลอดให้เอานํ้ามันละหุง่ มาถูทาหน้าท้องโดยเชื่อว่าลูกเกิดมาจะได้ตัวสะอาด ไม่มีไข คลอดง่าย

หลังคลอดหลังจากคลอดบุตรแล้วแม่เด็กจะใช้ผ้ารัดหน้าท้องให้แน่นเพื่อไม่ให้ท้องโต อาหารที่รับประทานก็จะเป็นพวกไก่ ไข่ มีการผสมพริกไทยเพราะเชื่อว่าเป็นยาบำรุงร่างกายช่วยขับนํ้าคาวปลา

หญิงหลังคลอดทุกคนจะอยู่ไฟประมาณ 1 เดือน

  1. การใช้การรักษาดั้งเดิม (Traditional treatments) ชาวจีนนิยมการรักษาด้วยการแพทย์แผนจีน เช่น การฝังเข็ม (Acupuncture)
  1. การใช้สมุนไพรเพื่อการบำบัดโรค สมุนไพรบำบัดโรคมีทั้งผลดีและผลไม่พึงประสงค์คล้ายกับการแพทย์แผนปัจจุบัน
  1. ถ้าร่างกายแข็งแรงไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ ไม่ค่อยสนใจการตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันโรค เช่น ตรวจร่างกายประจำปี

ผู้สูงอายุในแถบประเทศตะวันตกค่อนข้างจะให้ความสำคัญของการคำนึงถึงความเป็นบุคคลและการมีอิสระในการดำเนินชีวิตด้วยตนเองให้มากที่สุด ส่วนผู้สูงอายุในแถบตะวันออกมักจะมีความต้องการพึ่งพาลูกหลานและครอบครัวมากกว่า

1) การเคารพนับถือความเป็นบุคคลของผู้สูงอายุ เช่น การเรียกชื่อ การใช้สรรพนาม

2) การสื่อสาร ควรใช้ภาษาที่ตรงกับภาษาที่ผู้สูงอายุสามารถสื่อสารได้ ไม่ควรให้ผู้สูงอายุเกิดความรู้สึกว่าถูกละเลยเนื่องจากไม่สามารถสื่อสารได้

3) สุขภาพและยาที่ใช้ ควรคำนึงถึงภาวะสุขภาพและโรคที่ผู้สูงอายุเป็นอยู่

4) การจัดสิ่งแวดล้อมและป้องกันอุบัติเหตุ ความปลอดภัยของผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

5) ความสามารถในการเคี้ยวและกลืน ไม่ควรจัดอาหารที่เหนียวเกินไป แข็งเกินไป จัดอาหารรสชาติที่ผู้สูงอายุชอบ

6) การดูแลด้านจิตสังคม ควรจัดกิจกรรมให้ผู้สูงอายุที่ยังมีสุขภาพดี ให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมสังคมต่างๆ

7) การดูแลด้านจิตวิญญาณตามความเชื่อของผู้สูงอายุ เช่น ฟังเพลงนมัสการ ฟังคำเทศนา ฟังพระคัมภีร์ การละหมาด