Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคกระดูกพรุน(Osteoporosis) - Coggle Diagram
โรคกระดูกพรุน(Osteoporosis)
อาการของโรคกระดูกพรุน
ช่วงแรกจะสังเกตไม่เห็นอาการ แต่หากพบว่าส่วนสูงเริ่มลดลง มีอาการหลังค่อมต่อมารู้สึกปวดที่กระดูกโดยปวดลึกๆ ที่กระดูก เช่น ที่กระดูกหลังขา กระดูกจะหักง่ายเมื่อล้ม
สาเหตุ
พบมากในหญิงสูงอายุ
พบว่าชาวผิวขาวมีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่าชนผิวดำ
พันธุกรรม
ปริมาณแคลเซียมที่ได้รับ
และเก็บสะสมไว้ในขณะนั้น
เด็ก (1-9 ปี) 800 (มก./วัน)
วัยรุ่น (10-19 ปี) 1,200 (มก./วัน)
ผู้ใหญ่ (20-60 ปี) 800 (มก./วัน)
หญิงมีครรภ์และให้นมบุตร 1,200 (มก./วัน)
หญิงวัยหมดประจำเดือน 1,000 (มก./วัน)
วัยสูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) 800 (มก./วัน)
สารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการสร้างเนื้อกระดูก
4.1 การทานโซเดียมหรือเกลือมากเกินไป
ร่างกายจะต้องขับเกลือส่วนเกินออกทางปัสสาวะ และจะขับแคลเซียมออกมาด้วย ทำให้มีการสูญเสียแคลเซียมไปทางปัสสาวะมากขึ้น
4.2 แอลกอฮอล์ บุหรี่และกาแฟ
จะลดการดูดซึมแคลเซียมจากอาหารเข้าสู่ร่างกาย ทำให้การเนื้อกระดูกไม่มีประสิทธิภาพ
4.3 ยาหลายชนิดโดยเฉพาะสเตียรอยด์
ยากลุ่มนี้จะทำให้มีการสลายของกระดูกมากขึ้น
จนเกิดภาวะกระดูกพรุนจะมีอาการปวดหลังปวดกระดูกตามมา
4.4 คนที่เป็นโรคต่อมไทรอยด์ทำงานมากผิดปกติ (Hyperthyroidism ) และโรค Cushing
ปัจจัยที่สร้างการต้านสะสมเนื้อระดูก
โปรตีน การบริโภคโปรตีนที่มากเกินไป จะทำให้มีการสูญเสียแคลเซียม ออกมาทางปัสสาวะในปริมาณที่มากกว่าที่พบในกลุ่มที่บริโภคโปรตีนต่ำกว่า
ฟลูออไรด์ แมกนีเซียม และโปรแตสเซียม เหล่านี้เป็นสารที่พบปริมาณน้อย แต่มีความจำเป็นในการสร้างกระดูก
ฮอร์โมนเพศ เพศหญิงจะเห็นได้ชัดเจนในช่วง 5 ปีแรกของการหมดประจำเดือน ซึ่งในช่วงนั้นสุขภาพสตรีทุกคนจะมีการสูณเสียเนื้อกระดูกอย่างรวดเร็ว
หญิงที่มีการผ่าตัดเอารังไข่ออกทั้ง 2 ข้าง จะเกิดการสูญเสียเนื้อกระดูกในลักษณะดังกล่าวในช่วงหลังการผ่าตัด
ลักษณะการดำเนินชีวิต
การทำงานออกแรง และการออกกำลังกายจะทำให้เกิดแรงกดที่กระดูก ซึ่งจะทำให้ร่างกายเสริมกระดูกให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
โรคนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
หญิงวัยหมดประจำเดือน : จะพบว่ามีเปอร์เซ็นต์การสูญเสียเนื้อกระดูกมากขึ้น
อายุ 40 ปี : ร่างกายจะมีการสูญเสียเนื้อกระดูกไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ ทั้งในชายและหญิงประมาณ 0.5 – 1 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
อายุ 50 ปี : ในคนเอเชียพบว่าจะมีการสูญเสียเนื้อกระดูกเพิ่มมากขึ้นเป็น 3 – 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเป็นระยะเวลาประมาณ 5 ปี หลังจากช่วงนี้แล้วอัตราการสูญเสียเนื้อกระดูกจะลดลงเข้าสู่แบบเดิมคือ ประมาณ 0.5 – 1 เปอร์เซ็นต์ต่อปี