Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่ 5 การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลแต่ละวัย family1 - Coggle Diagram

- - - - ศาสนาอิสลาม
        
        เชื่อว่าลูกเป็นของขวัญจากองค์อัลลอฮ์ สิ่งที่มีคุณค่า
        
        ดูแลเด็กให้เป็นคนดีของสังคม มารดาต้องดูแลบุตร
        ตั้งแต่ในครรภ์ - อายุ 21 ปี ด้านร่างกายและจิตใจ
      - ศาสนาคริสต์
        
        เข้าพิธีบัติศมา แสดงถึงการชำระเพื่อให้พ้นจาก
        ความบาปและประกาศตัวเป็นศาสนิกชน
        
        นับถือนิกายพยานในพระเยโฮวา
        
        ปฏิเสธการรับเลือดจากผู้อื่น
        
        การได้รับเลือดจากผู้อื่นจะเป็นบาป
        
        เด็กเป็นของขวัญจากพระเจ้า
        
        ทุกคนเป็นบุตรของพระเจ้า มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน
        
        การที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ การเลือกนับถือศาสนา ยังไม่ใช่การตัดสินใจอย่างเต็มที่
        ยังอยู่ใต้อิทธิพลของบิดามารดา/ผู้แทนโดยชอบธรรม
        
        รัฐ(โดยแพทย์) ดำเนินการรักษาได้
        แต่บิดามารดาที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินในการรักษาพยาบาลบุตร
      - ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ความเชื่อในการดูแลเด็กแตกต่างกันแต่ละสังคม
        
        พิธีการสู่ขวัญเด็กอายุครบ 1 เดือนและการโกนผมไฟ
        จะทำ ให้เด็กที่มีสุขภาพดีไม่เจ็บป่วยง่าย
        
        อำเภอกระนวน ทำพิธีสู่ขวัญให้กับเด็ก
        เพื่อให้เด็กหยุดร้องอแงและอยู่ดีมีสุข
        
        เด็กร้องในช่วงอายุ 2 / 3เดือน หาพ่อเกิดแม่เกิด
        โดยให้ผู้อาวุโสในชุมชนทำ
    - - ความเชื่อในการดูแลเด็ก
        
        น้ำนม
        
        เอาน้ำนมหยอดตาคนที่เป็นโรคตาแดง จะหาย
        
        เอาน้ำนมมนุษย์ผสมกับดินปืนที่ใช้ทำบอกไฟดอก
        จะไม่ค่อยมีควันและมีดอกสวยงามสว่างไสว
        
        เอาน้ำนมของคนทาศีรษะเด็กทารกที่มีผมบาง ทำให้ผมขึ้นดกหนา
        
        จกคอละอ่อน
        
        ถ้าไม่ทำ โตขึ้นเด็กจะป่วยเป็นโรคหืดหอบได้
        
        หมอตำแยใช้นิ้วมือล้วงเข้าไปในลำคอของทารกแรกคลอด
        ล้วงเอาเสลด/ เลือดที่ติดค้างในลำคอออกมา
        
        เม่า รอบริมฝีปาก ลิ้นจะมีลักษณะคล้ายถูกน้ำร้อนลวก เด็กแสบแล้วร้องไห้
        
        ทำกรวยดอกไม้เสียบไว้ข้างฝา / หลังคาเรือน
        
        วางทิ้งไว้ประมาณครึ่งวันจึงนำกรวยดอกไม้มาทำพิธีเสกเป่า
        และทำอย่างนี้ทุกๆวัน จนเด็กจะหาย
        
        รก
        
        หมอเวทมนตร์มาเสกคาถาสะเดาะเคราะห์
        ใส่น้ำให้แม่เด็กดื่มเพื่อบังคับรกให้ออก
        
        หลังคลอดแล้ว แต่รกไม่ออกมา ระวังรกจะปิดลิ้นปี่
        ทำให้เด็กหายใจไม่ออก อาจตายได้
      - รักษาความเจ็บป่วยจากอำนาจเหนือธรรมชาติ
        
        การประกอบพิธีกรรม เช่น การสะเดาะห์เคราะห์ การผูกข้อมือเรียกขวัญ เกิดความหวังและกำลังใจในรายที่การเจ็บป่วย
        
        รักษาตามอาการจากแพทย์พื้นบ้าน ใช้สมุนไพร ประคบน้ำมัน
        
        การรักษาแบบผสมผสาน เช่น มีการสมุนไพรร่วมกับ
        วิธีการรักษาอื่นๆ เช่น การใช้น้ำมนต์ การผูกข้อมือ
      - ยุคสมัยใหม่หากเด็กมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย
        
        ยผู้ปกครองส่วนใหญ่จะซื้อยาให้รับประทานเอง
        
        ถ้ามีอาการรุนแรงจะไปใช้บริการจากโรงพยาบาล
    - - คำสั่งสอนของปู่ย่าตายาย
      - การเลี้ยงดูเด็กจะมีอิทธิพลต่อ
        พฤติกรรมการเจ็บป่วยของเด็ก
      - การบอกกล่าวของบิดามารดา
      - รองลงมาอาจเป็นครู เพื่อนที่จะมีอิทธิพลต่อความเชื่อของเด็ก
  - - - สิ่งที่น่าภูมิใจในครอบครัว
      - เป็นอันตรายทั้งต่อแม่และเด็ก สตรีที่ตาย
        เพราะการคลอดบุตร เกิดจากการกระทำของปีศาจ
    - - เลี้ยงดูจนกว่าจะอายุประมาณ 2-4 ปี
        หลังจากนั้น เด็กจะมีอิสระมากขึ้น
      - เด็กอายุ 5 ขวบ ช่วยดูแลน้องๆได้
      - เด็กเริ่มไปโรงเรียน อายุ 7-8 ปี
      - อายุ 10 ขวบ เด็กหญิงช่วยงานบ้าน
        ส่วนเด็กผู้ชายช่วยงานในไร่นาภายใต้การควบคุมของผู้ใหญ่
      - วัยรุ่นจับกลุ่มในเพศเดียวกัน เด็กผู้ชายบางคนบวชเป็นสามเณร
        ในยุคก่อนคอมมิวนิสต์ พ่อแม่มีอำนาจปกครองจนกว่าบุตรจะแต่งงาน
    - - การเคารพแพทย์ บุคคลที่อยู่ในชั้นที่สูงกว่าในสังคม
      - เวลาผู้ป่วยคุยกับแพทย์ก้มหน้าไม่สบตา
      - ศีรษะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ผู้ให้บริการสุขภาพ
        ไม่ควรแตะศีรษะผู้ป่วยก่อนได้รับอนุญาตจากผู้ป่วย/จากบิดามารดา
  - - - การทำอัลตร้าซาวด์เป็นเรื่องผิดกฎหมายในจีน
      - ส่งผลให้อัตราการเกิดของทารก
        เพศชายต่อเพศหญิงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    - - พิธีครบเดือน “หมีเย่ว์”
        
        การโกนผมไฟ การจัดเลี้ยงและการตั้งชื่อให้เด็ก
        
        เริ่มโกนผมพร้อมการจุดประทัด ผู้ที่รับหน้าที่เอาใบชาที่อมเปื่อยในปาก
        ชโลมลงบนศีรษะ เป็นการฆ่าเชื้อโรคบนศีรษะทารกและลบรอยแผลเป็น ทำให้ผมขึ้นอย่างดกดำ
        
        ไม่โกนผมให้เหลือเป็นรูปสี่เหลี่ยมโคนหน้าผาก
        และตรงท้ายทอย จะเหลือผมไว้หนึ่งปอย เส้นผมที่โกน
        
        เก็บนำมาสานเป็นแผ่น
        นำไปวางไว้หัวเตียง
        
        เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและคุ้มครอง
        ให้แคล้วคลาดภยันตราย
      - เด็กที่เกิดครบ 3 วัน จะมีพิธีล้างวันที่ 3 การอาบน้ำให้เด็ก
        น้ำที่ใช้อาบมีชื่อ “ฉางโซ่วทัง” น้ำอายุมั่นขวัญยืน
        
        ใส่ต้นหอม “ชงหมิง” : ฉลาดหลักแหลม
        
        เงิน : พรั่งพร้อมไปด้วยทรัพย์สินเงินทอง
        
        หญิงที่มีบุตรยากแย่งกันเอาน้ำที่ได้หลังจากการ
        อาบให้เด็กมาอาบตัว จะช่วยให้สามารถมีบุตร
        
        ผู้ประกอบพิธี หญิงชราที่มีครอบครัวแล้ว
- - - - สอดคล้องกับเดือนในปฏิทินฮิจเราะห์ศักราช
        มีจำนวนวันน้อยกว่า ปฏิทินตามพุทธศักราช(จันทรคติ)
      - ปฏิทินที่ยึดการดูดวงจันทร์ในการกำหนดวัน
        ผู้ให้บริการต้องมีการวางแผนการดูแลผู้ป่วยล่วงหน้า
        เพื่อเอื้อการประกอบศาสนกิจของผู้ป่วย
      - ศาสนกิจที่สำคัญของชาวมุสลิม
        
        ศีลอด
        
        การทำฮัจญ์
        
        การละหมาดวันละ 5 เวลา
    - - ผู้ป่วยที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ ทำความสะอาด
        เท่าที่สามารถจะกระทำได้ การละหมาดก็ใช้ได้ โดยไม่ต้องละหมาด
      - ผู้ป่วยที่มีนะญิส แนะนำให้ผู้ป่วยทำความสะอาดตามปกติ ต้องอาบน้ำละหมาด/ตะยัมมุม
      - ผู้ป่วยที่สามารถทำความสะอาดได้ ทำด้วยตนเอง/ให้คนอื่นช่วย
        ทำความสะอาดตามปกติ ก่อนที่จะอาบน้ำละหมาดในแต่ละเวลา
  - - - การปฏิบัติตัวหลังคลอด
        
        แม่เด็กใช้ผ้ารัดหน้าท้องให้แน่นเพื่อไม่ให้ท้องโต
        
        อาหารพวกไก่ ไข่ ทาน 30 วัน ไข่จะมีการผสมพริกไทย เป็นยาบำรุงร่างกายช่วยขับนํ้าคาวปลา และเลือดที่ค้างในร่างกาย เวลาต่อมาจึงทานเนื้อหมูได้
        
        หญิงหลังคลอดทุกคนจะอยู่ไฟประมาณ 1 เดือน โดยการก่อกองไฟไว้ข้างที่นอนตลอดเวลา
        
        หญิงหลังคลอดอาบนํ้าต้มตลอดช่วงอยู่ไฟ ทำให้สุขภาพแข็งแรงและมดลูกเข้าอู่เร็วทำ พิธีบนผี เพื่อคุ้มครองเด็กก่อนที่จะพาเด็กออกจากบ้าน/เดินทาง
        
        พิธีเรียกนํ้านม การกินยาสมุนไพรที่มียางสีขาว
        กินมะละกอต้มใส่ไก่ มีแม่หลายคนที่กินแป้งข้าวหมัก
        มีแอลกอฮอล์ มีผลเสียต่อลูกได้
      - คลอดที่บ้าน เป็นความเชื่อ การปฏิบัติที่สืบต่อกันมา
  - - - พัฒนาทักษะการสื่อสารกับผู้ใช้บริการชาวจีนภาษาจีนง่ายๆ
        เป็นประโยชน์ต่อการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม สื่อสารผ่านญาติ/ใช้ล่ามแปล
      - เลือกใช้วิธีการพยาบาลบนพื้นฐานของการบูรณาการศาสตร์
        ทางการพยาบาลไปกับวัฒนธรรมให้เหมาะสมกับบริบทต่างๆ
        
        การปรับเข้าหากันระหว่างแบบแผนของการดูแลเชิงวัฒนธรรมของพื้นบ้านและของวิชาชีพ
        
        หญิงหลังคลอด รับประทานไก่ผัดขิงผสมสุรา เพื่อบำรุง
        ร่างกายของมารดา ต้องตัดสุราออก จะส่งผลให้เกิดความดันโลหิตสูง
        
        แอลกอฮอล์จะปนออกมากับน้านมแม่ ทำให้ปริมาณน้ำนมลดลง พยาบาลเสนอแนะให้มีการปรับเอาสุราออก
        
        การปรับเปลี่ยนแบบแผนของวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาแบบแผนของการดูแลเชิงวัฒนธรรมขึ้นใหม่
        
        ดื่มน้ำน้อยแต่ให้กินน้ำซุป กินอาหารรสร้อน เช่น ขิง กระเทียม โสม ให้ดื่มสุราวันละ 3 ครั้ง เพื่อให้เลือดไหลเวียนดี และยังให้รับประทานปลาและหนังปลา เพื่อช่วยให้แผลหายเร็ว
        
        1 เดือนหลังคลอด ให้แม่สวมหมวกให้ศีรษะอุ่น ใส่เสื้อผ้า และห่มผ้าห่มหนาๆ มือและเท้าห้ามออกนอกผ้าห่ม ห้ามสระผมและอาบน้ำ เช็ดตัวด้วยน้้ำร้อน/แอลกอฮอล์
        
        ปรับเปลี่ยนแบบแผนการดูแล เช่น ให้รักษาร่างกายให้อบอุ่น อาบน้ำสระผมได้
        คามความเหมาะสมกับภูมิอากาศ ให้ดื่มน้ำมากขึ้นและรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
        
        ดูแลเชิงวัฒนธรรมระบบพื้นบ้านและของวิชาชีพ
        
        หญิงหลังคลอด รับประทานไก่ผัดขิง ช่วยขับลม
        ป้องกันโรคแนวปฏิบัตินี้ถูกต้องและเหมาะสม
        
        พยาบาลไม่เปลี่ยนแปลงและยังให้ผู้ใช้บริการปฏิบัติได้ต่อไป
      - ศึกษาวัฒนธรรมด้านต่างๆ เพื่อให้เข้าใจและให้การพยาบาลสอดคล้องกับวัฒนธรรม เช่น ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณี
  - - - มีความมั่นคงและความสำเร็จในชีวิต
      - ผ่านชีวิตครอบครัวและชีวิตการงานมาระยะหนึ่ง
    - - สังคม การปรับตัวต่อความเสื่อมถอยและการเผชิญชีวิตในบั้นปลายเป็นสิ่งสำคัญ
      - ความเสื่อมถอยของร่างกาย สภาพจิตใจ และบทบาททางสังคม
    - - พัฒนาการเต็มที่ของร่างกาย วุฒิภาวะทางจิตใจอารมณ์
      - บทบาทที่จะเลือกแนวทางในการดำเนินชีวิตของตนในเรื่องอาชีพ คู่ครอง
      - ความสัมพันธ์กับบุคคลต่าง ๆ อย่างมีความหมาย
- - - - ใช้ภาษาที่ตรงกับภาษาที่ผู้สูงอายุสามารถสื่อสาร
      - ใช้ภาษากายในการสื่อสารกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านความจำเสื่อม อัลไซม์เมอร์
      - ใช้เสียงดังให้เหมาะสมและความสุภาพ
    - - การเข้าใจถึงบุคลิกภาพหรือสิ่งที่ผู้สูงอายุชอบ เช่น เสื้อผ้า การแต่งกาย
      - การให้ความสำคัญเรื่องเพศของผู้ดูแลต้องเป็นเพศเดียวกับผู้สูงอายุ
    - - ระวังเรื่องการสำลัก
      - เกิดภาวะปอดบวมจากากรสำลักได้
    - - เช่น การเป็นวิทยากรที่ผู้สูงอายุมีความรู้และประสบการณ์สูง
      - ประเทศไทยได้จัดให้มีโรงเรียนผู้สูงอายุเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้เรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเอง
      - การจัดกิจกรรมในบ้านพักสำหรับผู้สูงอายุมีความสำคัญที่จะเสริมสร้างคุณค่าของชีวิต
        
        เช่น ให้ผู้สูงอายุจัดกลุ่มพูดพูดคุยกันตามหัวข้อที่มีความสนใจคล้ายคลึงกัน ฟังเพลงและร้องเพลงร่วมกัน การลีลาศ
        
        พิจารณาตามความต้องการและ
        ความปลอดภัยของผู้สูงอายุเป็นสำคัญ
  - - - มีความรู้ ความเข้าใจในวัฒนธรรมที่แตกต่าง
      - ไม่รังเกียจและไม่ดูถูกผู้สูงอายุที่มีภูมิหลังแตกต่างกัน
      - ความรู้ ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุที่มีปัญหาในด้านกายภาพทั่วๆไป
    - - มีผู้สูงอายุชาวไทยที่เคลื่อนย้ายถิ่นฐานไปอยู่ต่างประเทศ
      - มีผู้สูงอายุจากประเทศต่างๆ
        ที่เข้ามาพักอาศัยในประเทศไทย
      - ตามความต้องการส่วนตัวของผู้สูงอายุหรือเป็นการติดตามครอบครัว
        
        บุตรไปทำงานหรือมีครอบครัวอยู่ที่ต่างประเทศ
        
        ผู้สูงอายุที่เป็นชนกลุ่มน้อย หรือกลุ่มชาติพันธ์ที่เคลื่อนย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในเมืองมากขึ้น