Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

rupture sigmoid diverticulitis, ก่อนผ่าตัด, บวม เเดง, WBC, image, image, S…

- - - - Exploratory labparotomy with
        hartmann’s procedure (Sigmoidectomy with end colostomy with appendectomy)
        
        ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล (หลังผ่าตัด)
        
        เสี่ยงต่อการเกิดภาวะ hypovolemic shock เนื่องจากสูญเสียเลือดจากการผ่าตัด
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ดูแลให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ 0.9% NSS 1000 ml vein drip 100 cc/hr ตามแพทย์การรักษาของแพทย์
        
        บันทึกการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ และปริมาณปัสสาวะ
        
        ประเมิน vital signs ทุก 15 นาที 1-2 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด จน vital signs คงที่ จึงวัดทุก 30 นาที นาน 1-2 ชั่วโมง จากนั้นวัดทุก 4 ชั่วโมง ถ้ามีอาการกระสับกระส่าย ระดับความรู้สึกตัวลดลง เหงื่อออก ถ้าสัญญาณชีพเปลี่ยนแปลงมาก เช่น ความดันโลหิตต่ำ ชีพจรเร็ว ให้จัดท่านอนหงายยกปลายเท้าสูง 20-30 องศา ขาและเข่าเหยียดตรง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดกลับสู่หัวใจ
        
        ประเมินการเสียเลือดจากแผลผ่าตัด จากท่อระบาย
        
        ประเมินความรุนแรงของโรคจาก ปริมาณของเลือดที่ออก อาการที่ผิดปกติ เช่น เหงื่อออก ตัวเย็น ซีด ปลายมือ -เท้า
        
        2.ปวดแผลผ่าตัด เนื่องจากมีการถูกทำลายเนื้อเยื่อบริเวณหน้าท้องจากการผ่าตัด
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        การจัดการความปวดแบบไม่ใช้ยา
        
        จัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบสงบ อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อให้ผู้ป่วยพักผ่อนได้อย่างเพียงพอเนื่องจากผู้ป่วยวิกฤติในไอซียูมักจะได้รับสิ่งกระตุ้นจากสียงและแสงสว่างมากเกินไป ทำให้รบกวนการนอนหลับ เพิ่มความวิตกกังวล กระสับกระส่าย และส่งผลทำให้ปวดเพิ่มขึ้น
        
        จัดท่านอนศีรษะสูงและท่านอนที่สุขสบายเพื่อให้ผู้ป่วยหายใจสะดวกและลดการลดเกร็งของกล้ามเนื้อหน้าท้องและทรวงอก
        
        ดูแลให้ได้รับยา MO 3 mg iv q 4 ชั่วโมง ตามแผนการรักษาของแพทย์
        
        ประเมินระดับความเจ็บปวด โดยใช้แบบประเมิน Numeric rating scale และจากการสังเกตอาการแสดง เช่น หน้านิ่วคิ้วขมวด นอนตัวเกร็ง กำมือแน่น ไม่เคลื่อนไหว เหงื่อออก หน้าซีด ชีพจรเต้นเร็ว เพื่อเป็นการประเมินระดับความรุนแรงของความปวดเพื่อนำว่าวางแผนให้การพยาบาลได้อย่างเหมาะสม
        
        เสี่ยงต่อการติดเชื้อของแผลผ่าตัด เนื่องจากมีทางเข้าออกของเชื้อโรค
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        5.ล้างมือก่อนและหลังให้การพยาบาลทุกครั้ง ให้การพยาบาลโดยยึดหลัก Aceptic technique เพื่อลดการ แพร่กระจายเชื้อโรคจากเจ้าหน้าที่สู่ผู้ป่วยและจากผู้ป่วยสู่ผู้ป่วยอื่น
        
        ดูแล Jackson drain โดย milking และstripping ไม่ให้ดึงรั้ง พับงอและไม่ให้มีน้ำขัง เพื่อลดการอุดตันของสายระบาย
        
        3.ดูแลล้างแผล dry dressing โดยยึดหลัก Sterile technique วันละ 1 ครั้ง
        
        2.วัดและบันทัก V/S ทุก 4 ชั่วโมง และอุณหภูมิ ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินความเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพ
        
        1.ประเมินภาวะติดเชื้อ คือ มีไข้สูง secretion เปลี่ยนสี เหนียวขุ่น มีกลิ่นเหม็น ปัสสาวะไหลไม่สะดวก มีตะกอน บริเวณบาดแผล บวมแดง ร้อน เพื่อติดตามอาการใช้ในการวางแผนพยาบาลและให้ความช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม
        
        ดูแล Urine bag ให้อยู่ต่ำกว่าระดับเอว ไม่สัมผัสกับพื้น และเช็ด Alcohol 70 % ที่ข้อต่อเมื่อเปิดปิดสายขณะ ตวงเพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคในทางปัสสาวะ
        
        ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา คือ ceftriazone 500 mg vein q 8 hr เป็นยาต้านจุลชีพกลุ่มเซฟาโลสปอริน Metronidazole 500 mg vein q 8 hr Metronidazole เป็นยากลุ่ม ยาปฏิชีวนะ(antibiotic) )
        
        ดูแล Hygiene care, Unit care รวมทั้งทำความสะอาดช่องปากและ Care IV เพื่อความสะอาดลดการสะสม ของเชื้อโรค
        
        ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อประเมินและติดตามการเปลี่ยนแปลงของภาวะติดเชื้อหลังได้รับการรักษา
        
        ประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนก๊าซลดลง เนื่องจากมีการบาดเจ็บของช่องท้อง
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        วัดสัญญาณชีพเพื่อประเมินภาวะพร่องออกซิเจนโดยเมื่อมีออกซิเจนในร่างกายน้อยร่างกายจะมีการปรับ โดยความดันโลหิตจะสูงขึ้นเพื่อส่งเลือดแดงซึ่งนำออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกาย ส่งผลให้หัวใจบีบตัวเร็วและแรงขึ้น HR และ PR ก็จะสูงขึ้น ส่วนอัตราการหายใจจะเพิ่มสูงขึ้นเพราะต้องสูดเอาออกซิเจนในอากาศเข้าสู่ร่างกายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้มีค่าผิดปกติ
        
        จัดท่านอนศีรษะสูงการจัดท่า Fowler’s position เพื่อ กระบังลมหย่อนตัวลง เพิ่มพื้นที่ในการยืดขยายของปอด ส่งผลให้อากาศเข้ามาในปอดได้มากขึ้นทำให้หายใจสะดวกขึ้น ลดอาการหายใจเหนื่อยหอบ
        
        ดูแลให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอตามแผนการรักษา O2 Cannula 5-6 LPM
        
        ดูแล hygiene care unit care เพราะ การที่ผู้ป่วยหรือผู้รับบริการได้รับการดูแล ในเรื่อง สุขวิทยาส่วนบุคคล และสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวผู้ป่วยหรือตัวผู้รับบริการ ที่สะอาด ไม่มีกลิ่น หรือสภาพที่สกปรกจนจะช่วยป้องกันการติดเชื้อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคที่เจ็บป่วย
        
        1.ประเมินภาวะพร่องออกซิเจน โดยประเมินลักษณะและอัตราการหายใจเช่น หายใจลำบาก หายใจหอบเร็ว ชีพจรเบาเร็ว ประเมินอาการแสดงทางด้านร่างกาย คือ ปีกจมูกบาน หน้าอกบุ๋ม กระสับ กระส่าย
        หงุดหงิด ร่วมกับการสังเกตภาวะ Cyanosis คือ ปลายเล็บมือเล็บเท้าเขียวคล้ำ ริมฝีปากคล้ำ และระดับความรู้สึกตัวลดลง
        
        เสี่ยงต่อการระคายเคืองบริเวณผิวหนังรอบทวารเทียม ภายหลังจากการใช้อุปกรณ์รับรองการขับถ่าย
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ทบทวน อาการผิดปกติ ที่ควรไปพบแพทย์ทันที ดังนี้
        
        1) มีความผิดปกติของแผลผ่าตัด ทวารเทียม
        
        2) ปวดท้อง หน้าท้องแข็งตึง อุจจาระออกน้อยกว่าปกติ ไม่ผายลม คลื่นไส้ อาเจียน ควร งดน้ำและอาหารไว้ก่อน เนื่องจากอาจมีการอุดตันของลำไส้เกิดขึ้น
        
        3) ผิวหนังรอบทวารเทียม บริเวณที่ปิดแป้นมีผื่นแผล มีอาการคัน ผิวหนังอักเสบ หรือติด แป้นการรั่วซึมของอุจจาระที่ทำให้ต้องเปลี่ยนแป้นบ่อยขึ้น หรือแป้นหลุดก่อนเวลา
        
        4) ผิวหนังรอบทวารเทียม บวมนูนหรือโป่งออกเมื่อนอนราบไม่กลับคืน
        
        5) ทวารเทียมมีความผิดปกติ มีเลือดสดออกไม่หยุดเมื่อทำการห้ามเลือดที่ทวารเทียม หรือมีลำไส้ยื่นยาว ทวารเทียมตีบตัน หรือมีถ่ายเป็นเลือด ออกมาจากลำไส้
        
        ทบทวนความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับทวารเทียม ปกติมีสีแดงหรือชมพู ผิวมันเรียบ ลักษณะชุ่มชื้น ขนาดจะมีขนาดเล็กลงเล็กน้อยภายหลังผ่าตัด 6-8 สัปดาห์ ไม่มีเส้นประสาทรับความรู้สึกเมื่อสัมผัส จึงไม่เจ็บ มีเส้นเลือดฝอยมาเลี้ยงมากทำให้เลือดออกได้ผิวหนังรอบทวารเทียมปกติเรียบเนียน ไม่แดง เป็นแผล หรือมีผื่นคัน อุจจาระนิ่มเป็นก้อน หากมีความผิดปกติให้รีบกลับมาพบแพทย์
        
        สอนสาธิต การดูแลรักษาผิวหนังรอบทวารเทียมที่มีผื่นแดงด้วยการทำความสะอาด ด้วยสำลี ฆ่าเชื้อโรคชุบน้ำเกลือ จนทวารเทียมและผิวหนังสะอาด ซับให้แห้ง
        
        6.ความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันลดลง เนื่องจากช่วยเหลือตนเองได้น้อย
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ระวังเรื่องอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น
        
        การตกเตียงจากการพลิกตะแคงตัวได้ไม่ดีโดยการยกไม้กั้นเตียงขึ้นทั้งสองข้าง และผู้ป่วยยังสามารถที่จะจับไม้กั้นเตียงเพื่อช่วยในการพลิกตะแคงตัวได้ดีขึ้น
        
        จัด Unit ของผู้ป่วยให้สามารถหยิบของใช้ได้สะดวก
        
        ดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยในการเคลื่อนไหว และเปลี่ยนอิริยาบถของร่างกายเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเกิดความ
        มั่นใจ และกล้าที่จะเคลื่อนไหวร่างกายด้วยตนเองและทำกิจวัตรประจำวันด้วยตนเองได้ ให้การช่วยเหลือตามความเหมาะสม เช่น การช่วยพยุงเดินไปห้องน้ำ
        
        ประเมินความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันผู้ป่วย
        
        มีโอกาสเกิดภาวะการเห็นคุณค่าตนเองลดลง (Low self- esteem) เนื่องจากภาพลักษณ์เปลี่ยนแปลงภายหลังการทำผ่าตัดทวารเทียม
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        แนะนำให้ผู้ป่วยรู้จักกับทวารเทียมของตนเองมากขึ้น โดยใช้ถ้อยคำที่นุ่มนวล กระตุ้นให้เริ่มมอง และสัมผัสด้วยมือ สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการดูแลทวารเทียม ขณะให้การพยาบาลต้องระวังการ แสดงออกถึงความรังเกียจ และให้กำลังใจผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
        
        สังเกตการแสดงออกของญาติ ต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วยพร้อมทั้งให้กำลังใจและเสริมสร้าง ความมั่นใจ
        
        ให้ข้อมูลย้อนกลับที่ดี ที่ช่วยสนับสนุนผู้ป่วย สร้างความเชื่อมั่น เน้นให้เห็นถึงอาการที่ดีขึ้น
        
        ยกย่อง ชมเชย เมื่อผู้ป่วยหรือผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำได้ถูกต้อง
        
        พูดคุย ซักถาม และสังเกตพฤติกรรมที่ผู้ป่วยแสดงออกเมื่อกล่าวถึงทวารเทียม
        
        พร่องความรู้ในการดูแลตนเองเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเมื่อกลับไปอยู่บ้าน
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        การพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ
        
        การออกกำลังกายให้เหมาะสมกับโรคและการผ่าตัด
        
        การดูแลแผลผ่าตัด แนะนำให้สังเกตอาการผิดปกติบริเวณแผล ถ้าแผลยังไม่ได้ตัดไหม แนะนำการไปทำแผลที่สถานบริการสุขภาพใกล้บ้าน ห้ามไม่ให้แผลโดนน้ำ ตัดไหมเมื่อครบกำหนด โดยทั่วไปจะตัดไหมเมื่อครบ 7 วันหลังผ่าตัด ถ้าแผลตัดไหมแล้วอาบน้ำได้ เช็ดแผลให้แห้ง
        
        การรับประทานอาหารและดื่มน้ำ รับประทานอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ ไข่ นม ผักใบเขียว และผลไม้ต่างๆ ยกเว้นผลไม้ดอง ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร (ถ้าไม่มีข้อห้าม)
        
        5.การมาตรวจตามกำหนดนัด เพื่อตรวจแผลและสภาพทั่วไป
        
        การสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ที่ต้องมาตรวจทันที เช่น มีไข้ แผลมีหนอง ปวดมากผิดปกติ ให้มาพบแพทย์ทันที
        
        การให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวเฉพาะโรคและการทำผ่าตัดที่ได้รับ เช่น การปฏิบัติตัวเฉพาะภายหลังทำผ่าตัดทวารเทียมทางหน้าท้อง