Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่5 ลม คลื่น กระแสน้ำ และน้ำขึ้น–น้ำลง, 60360975 ชลันดา เชี่ยวชาญ -…
บทที่5 ลม คลื่น กระแสน้ำ และน้ำขึ้น–น้ำลง
ลม
ลมเป็นมวลอากาศที่เคลื่อนที่ตามแนวราบผ่านพื้นผิวโลกซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในบรรยากาศและความหนาแน่นของมวลอากาศ
สมการที่ใช้หาแรงดันของลมบนโครงสร้าง
V = ความเร็วลมเป็นไมล์ต่อชั่วโมง
K = ตัวประกอบที่ขึ้นอยู่กับลักษณะรูปร่างของโครงสร้าง(0.0025-0.004)
P = แรงดันเนื่องจากลมเป็นปอนด์ต่อตารางฟุต
คลื่น
เมื่อลมเคลื่อนที่ผ่านผิวน้าจะทาให้เกิดแรงในแนวสัมผัสบนผิวน้าซึ่งเป็นผลทาให้เกิดระลอกน้าขึ้นและผลจากการเกิดระลอกน้านี้เองเป็นสาเหตุทาให้การเคลื่อนที่ของลมเหนือผิวน้าเปลี่ยนไปก่อให้เกิดความดันแตกต่างกันขึ้นในบรรยากาศเมื่อลักษณะเช่นนี้ดาเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องก็จะทาให้เกิดคลื่นขึ้น
สมการความเร็วของคลื่น
L = ความยาวคลื่นเป็นฟุต
T = ช่วงเวลาของคลื่นเป็นวินาที
V = ความเร็วคลื่นเป็นฟุตต่อวินาท
กระแสน้ำ
การเคลื่อนที่ของอนูของน้าส่วนมากมักเกิดขึ้นในรูปการหมุนตัว(rotate) มากกว่าในรูปแบบการเคลื่อนที่(translate) ทั้งนี้เพราะน้าเป็นของหนืดการหมุนตัวของอนูของน้าซึ่งก่อให้เกิดคลื่นขึ้นจะไม่กลับคืนสู่ตาแหน่งเดิมแต่จะค่อยๆเคลื่อนไปตามทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่นการไหลแบบนี้เราเรียกว่ากระแสน้ำ
น้ำขึ้น–น้ำลง(Tids)
ผลกระทบของน้าขึ้น–น้าลงน้าขึ้น–น้าลงเป็นการเปลี่ยนแปลงของระดับน้าอันเกิดจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์
ทั่วไปแล้วน้าขึ้น–น้าลงจะเกิด2 ครั้งในแต่ละวันจันทรคต
ระดับการเปลี่ยนแปลงของระดับน้าจะสูงสุดในช่วงวันที่ดวงจันทร์เต็มดวง(full และnew moon)
การขึ้น–ลงของน้าอาจเป็นผลเนื่องจาก
ตาแหน่งทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่
ลักษณะทางด้านการกายภาพของแนวชายฝั่ง
ความดันบรรยากาศ
กระแสน้า
การขึ้น–ลงของน้าในหนึ่งสันจันทรคต
ข) น้าขึ้น–น้าลงแบบวันละครั้ง(diurnal tide)
ก) น้าขึ้น–น้าลงแบบสองครั้งต่อวัน(semi –diurnal tide)
ก) น้าขึ้น–น้าลงแบบสองครั้งต่อวัน(semi –diurnal tide)
60360975 ชลันดา เชี่ยวชาญ