Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ เลือดและส่วนประกอบของเลือด - Coggle Diagram
การให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ เลือดและส่วนประกอบของเลือด
การคำนวณอัตราการหยดของสารน้้าทางหลอดเลือดดำ
สูตรการค้านวณอัตราหยดของสารน้้าใน 1 นาที
จำนวนหยดของสารละลาย (หยด/ นาที) = จำนวน Sol.(มล/ชม.) x จำนวนหยดต่อมล.) หาร เวลา(นาที)
สูตรการค้านวณสารน้้าที่จะให้ใน 1 ชั่วโมง
ปริมาตรของสารน้ าที่จะให้ใน 1 ชม. = ปริมาตรของสารน้ าที่จะให้ หาร จำนวนเวลาที่จะให้เป็นชั่วโมง
การใช้กระบวนการพยาบาลในการให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ
ขั้นตอนที่3 การวางแผนในการให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ วางแผนให้สารน้ าทางหลอดเลือดดำโดยประยุกต์ใช้หลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLEของ patient safety goal
วัตถุประสงค์ของการให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ
ให้ยาบางชนิดที่ไม่สามารถดูดซึมทางระบบทางเดินอาหาร หรือยารับประทานที่จะถูกท าลายโดยน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร
รักษาสมดุลของกรด-ด่างในร่างกาย ในรายที่มีภาวะเสียสมดุลกรด–ด่าง
ให้สารน้ำเพียงพอกับความต้องการของร่างกายในรายที่ไม่สามารถรับประทานได้ทางปาก
ใช้เป็นช่องทางในการฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยให้ปริมาณของยาในกระแสโลหิตอยู่ในระดับสม่ำเสมอกัน
ให้สารน้ำทดแทนน้ าที่สูญเสียจากร่างกาย
แก้ไขความดันโลหิต โดยการให้สารละลายที่มีความเข้มข้นมากกว่าน้ำในร่างกาย
เกณฑ์การประเมิน
ผู้ป่วยได้รับสารน้ าทางหลอดเลือดด าไม่พบอาการแทรกซ้อนและปลอดภัยตามหลักการ 6 Rightsและหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goals
ขั้นตอนที่ 4 การให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ
เครื่องใช้
extension tube
three ways
สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
IV stand (เสาน้ำเกลือ)
tourniquet
พลาสเตอร์ หรือ พลาสเตอร์ใสสำเร็จรูป (transparent)
intravenous set (IV set)
แผ่นฉลากชื่อ
intravenous catheter (IV cath.) เบอร์ 22/ 24
ถุงมือสะอาด mask
intravenous fluid (IV fluid) ตามแผนการรักษา
วิธีทำการให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ
ต่อ IV set กับ IV fluid
ต่อ three ways กับ extension tube แล้วมาต่อกับ IV set
เช็ดจุกยางที่ขวดหรือถุงสารน้ำด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
ปิด clamp ที่ IV set
ดึงแผ่นโลหะที่ปิดขวดสารน้ าหรือฝาครอบที่ปิดถุงน้ำพลาสติกออก
แขวนขวด IV fluid เสาน้ าเกลือแขวนให้สูงประมาณ 1 เมตร (3 ฟุต) จากผู้ป่วย
ล้างมือให้สะอาด
บีบ chamber ของ IV set ให้IV fluid ลงมาในกระเปาะประมาณ ½ ของกระเปาะ ไล่อากาศในสาย IV จนหมด
บอกให้ผู้ป่วยทราบโดยอธิบายวัตถุประสงค์และวิธีการให้เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าใจและลดความวิตกกังวล และผู้ป่วยให้ความร่วมมือ
การเตรียมผิวหนังและการแทงเข็มให้สารน้ำ
สวมถุงมือสะอาดและ mask
ท าความสะอาดผิวหนังต าแหน่งที่จะแทงเข็มด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์70% เช็ดจากบนลงล่าง ทิ้งไว้½-1 นาทีรอแอลกอฮอล์แห้ง
รัด tourniquet เหนือต าแหน่งที่ต้องการแทงเข็ม ประมาณ 2-6 นิ้ว เพื่อให้เห็นหลอดเลือดดำชัดเจน
ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ของมือซ้ายตรึงผิวหนังตำแหน่งที่จะแทง IV cath.
เลือกต าแหน่งที่จะแทง IV cath.
เตรียม IV cath. ประกอบด้วย ท่อพลาสติก (catheter) และเข็มเหล็ก (stylet) เพื่อใช้เป็นตัวนำในการแทงผิวหนัง
เตรียมเครื่องใช้ไปที่เตียงผู้ป่วย ตรวจสอบรายชื่อนามสกุล เตียงผู้ป่วยให้ตรงกับป้ายข้อมือผู้ป่วย
เก็บอุปกรณ์ท าความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ตรวจสอบคำสั่งการรักษา และเขียนชื่อนามสกุลของผู้ป่วย ชนิดของสารน้ำวัน เวลาที่เริ่มให้อัตราการหยดของสารน้ำ
ลงบันทึกทางการพยาบาล
ขั้นตอนที่2 ข้อวินิจฉัย มีความพร้อมในการเริ่มให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลการให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ
การประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล เป็นการประเมินผลของการปฏิบัติงาน เพื่อน ามาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
ประเมินการปฏิบัติถูกต้องครบและเป็นไปตามขั้นตอนของการปฏิบัติ
ประเมินการจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ครบถ้วนเพียงพอหรือไม่
การประเมินผลคุณภาพการบริการ เป็นการประเมินคุณภาพของผลการปฏิบัติงาน เพื่อนำมาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
ประเมินคุณภาพของการปฏิบัติงานในข้อ 2 อยู่ในคุณภาพระดับใด
ประเมินคุณภาพของการให้บริการ ข้อ 3 อยู่ในคุณภาพระดับใด
การประเมินผลการให้สารน้ าทางหลอดเลือดดำ เป็นการประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
ประเมินสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย (โดยการสอบถามผู้ป่วย)
ประเมินความสุขสบายของผู้ป่วยและจัดท่านอนให้สุขสบายและเหมาะสม (โดยการสอบถามผู้ป่วย)
ประเมินอาการแทรกซ้อนและอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ของผู้ป่วยและปลอดภัยตามหลักการ 6 Rightsและหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goals
ประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วย (โดยการสอบถามผู้ป่วย)
การหยุดให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ
อุปกรณ์เครื่องใช้
พลาสเตอร์
ถุงมือชนิดใช้แล้วทิ้ง
สำลีปลอดเชื้อ หรือก๊อซปลอดเชื้อ
วิธีปฏิบัติ
ดึงเข็มที่ให้สารน้ าออกทางผิวหนังตามแนวที่แทงเข็มด้วยความนุ่มนวล
ใช้ส าลีแห้งหรือก๊อซปลอดเชื้อกดทับที่ต าแหน่งที่ดึงเข็มออกหรือยึดติดด้วย พลาสเตอร์และปิดไว้นาน 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการติดเชื้อจนกว่าเลือดจะหยุด
สวมถุงมือเพื่อไม่ให้เลือดสัมผัสกับมือพยาบาล
เก็บชุดให้สารน้ าและเข็มที่แทงให้เรียบร้อย
แกะพลาสเตอร์ที่ปิดยึดหัวเข็ม และสายให้สรน้ าออกทีละชิ้น ระวังอย่าให้เข็มถูกดึงรั้งออกทางผิวหนัง
บันทึกในบันทึกทางการพยาบาลวัน เวลาและเหตุผลของการหยุดให้สารน้ำ
ปิด clamp
ขั้นตอนที่1 การประเมินสภาพผู้ป่วย
การประเมินด้านจิตใจ
ความพร้อมของการรับบริการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ความต้องการรับบริการให้สารน้ าทางหลอดเลือดดำ
ความวิตกกังวลและความกลัว
การประเมินสิ่งแวดล้อม
ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสิ่งแวดล้อมผู้ป่วย
ความพร้อมใช้ของสิ่งแวดล้อมตัวผู้ป่วย เช่น ตู้ข้างเตียง เหล็กกั้นเตียง เป็นต้น
ความสะอาดของสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้ป่วยและรอบเตียง
บรรยากาศในหอผู้ป่วย และมีอากาศถ่ายเทสะดวก
การประเมินด้านร่างกาย
ระดับความรู้สึกตัว
พยาธิสภาพของโรค ประวัติเจ็บป่วย โรคของผู้ป่วย และโรคหรืออาการแทรกซ้อน
การประเมินแผนการรักษา
ตรวจสอบแผนการรักษา
ตรวจสอบชนิดของสารน้ าตามแผนการรักษา ชนิด ปริมาณ อัตรา และเวลา
อาการแทรกซ้อนจากการให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเฉพาะที่ (Local complication)
การติดเชื้อเฉพาะที่ (Local infection)
หลอดเลือดดำอักเสบ (Phlebitis)
Grade 1 ผิวหนังบริเวณแทงเข็มแดง มีอาการปวดหรือไม่มีก็ได้
Grade 2 ปวดบริเวณที่แทงเข็ม ผิวหนังบวมหรือไม่บวมก็ได้
Grade 0 ไม่มีอาการ
Grade 3 ปวดบริเวณที่แทงเข็ม ผิวหนังบวมแดงเป็นทาง คล าได้หลอดเลือดแข็งเป็นลำ
Grade 4 ปวดบริเวณที่แทงเข็ม ผิวหนังบวมแดงเป็นทาง คลำได้หลอดเลือดแข็งเป็นล าความยาวมากกว่า 1 นิ้ว มีหนอง
การมีเลือดออกและแทรกซึมเข้าใต้ผิวหนังบริเวณที่แทงเข็ม(Extravasations)
การพยาบาล
เปลี่ยนที่แทงเข็มให้สารน้ำใหม่
รายงานให้แพทย์ทราบเพื่อให้การรักษา
ประคบด้วยความร้อนเปียก
จัดแขนข้างที่บวมให้สูงกว่าล าตัวผู้ป่วย เพื่อลดอาการบวม
หยุดให้สารน้ำ จัดแขนข้างที่บวมให้สูงกว่าลำตัวผู้ป่วย
ส่งหนองบริเวณที่แทงเข็มเพาะเชื้อ
การบวมเนื่องจากสารน้ำซึมออกนอก หลอดเลือดดำ (Infiltration)
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นในระบบไหลเวียนของเลือด (Systemic complication)
เกิดฟองอากาศในกระแสเลือด (Air embolism)
ให้สารน้ำเร็วเกินและมากเกินไป (Circulatory overload) เกิดจากอัตราการหยดของสารน้ าเร็วเกินไป โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคหัวใจ อาจเกิดอาการหัวใจวาย (Cardiac failure)
การติดเชื้อในกระแสเลือด (Bacteremia หรือ Septicemia) มีไข้สูง หนาวสั่น ความดันโลหิตลดลง คลื่นไส้ อาเจียน บางครั้งมีอาการถ่ายเหลว มีการติดเชื้อเฉพาะที่เกิดร่วมด้วย
การพยาบาล
เตรียมรถ Emergency ในการช่วยเหลือเร่งด่วน
รายงานให้แพทย์ทราบเพื่อให้การรักษา
วัดอุณหภูมิ ชีพจร การหายใจ และความดันโลหิต เพื่อดูการเปลี่ยนแปลง
ส่งเลือดและหนองที่เกิดเฉพาะที่ไปเพาะเชื้อ
ให้การช่วยเหลือตามอาการ
ดูแลให้ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
เปลี่ยนขวดให้สารน้ำ กรณีผู้ป่วยมีการแพ้ยาหรือสารน้ำที่ได้รับ หรือมีการติดเชื้อ
ูแลให้ออกซิเจน
หยุดให้สารน้ำ
จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนศีรษะต่ ากรณีความดันโลหิตต่ า หรือจัดให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูงกรณีความดันโลหิตสูง
การแพ้ยาหรือสารน้ำที่ได้รับ (Allergic reaction) มีผื่นแพ้เกิดขึ้นที่ผิวหนัง
ร่วมกับอาการแพ้ต่าง ๆ
หลักการให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ
การให้สารน้้าทางหลอดเลือดด้าใหญ่ (Central venous therapy) เป็นการให้สารน้ าหรือของเหลวทาง Central line ทางหลอดเลือดดำใหญ่ ๆ ซึ่งจะให้ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปาก หรือรับประทานอาหารทางปากได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
การให้สารน้้าและสารละลายทางหลอดเลือดด้าใหญ่ผ่านอุปกรณ์ที่ฝังไว้ใต้ผิวหนัง(Implanted vascular access device หรือ venous port)เป็นการฝังอุปกรณ์ที่ใช้ในการให้ของเหลวทางหลอดเลือดด าไว้ใต้ผิวหนัง โดยที่ปลายสายสอดผ่านเข้าหลอดเลือดดำใหญ่
การให้สารน้้าทางหลอดเลือดด้าส่วนปลาย (Peripheral intravenous infusion) เป็นการให้สารน้ำหรือของเหลวทางหลอดเลือดด าที่อยู่ในชั้นตื้น ๆ ของผิวหนังหรือหลอดเลือดดำที่อยู่ในส่วนปลายของแขนและขา โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องงดอาหารและน้ าดื่ม เพื่อเตรียมผ่าตัด
ชนิดของสารน้้าที่ให้ทางหลอดเลือดดำ
สารละลายไฮโปโทนิก (Hypotonic solution)เป็นสารน้ าที่มีโมเลกุลอิสระของน้ ามากกว่าในเซลล์จึงท าให้เกิดการเคลื่อนของน้ำเข้าสู่เซลล์ ฉะนั้นการให้สารน้ำชนิดนี้ต้องให้อย่างช้า ๆ เพื่อป้องการลบกวนของเซลล์
สารละลายไฮเปอร์โทนิก (Hypertonic solution)เป็นสารน้ าที่มีค่าออสโมลาริตี้ มากกว่า310 m0sm/l ซึ่งมีมากกว่าออสโมลาริตี้ของน้ำนอกเซลล์ สารน้ำอันนี้มีโมเลกุลอิสระของน้ำน้อยกว่าน้ำในเซลล์ และจะทำให้เกิดการดึงน้ำจากเซลล์สู่ระบบการไหลเวียน
สารละลายไอโซโทนิก (Isotonic solution) จะมีความเข้มข้นเท่ากันน้ำนอกเซลล์(Extracellular fluid) ซึ่งมีออสโมลาริตี้ระหว่าง 280-310 m0sm/l เมื่อให้ทางหลอดเลือดดำจะไม่มีการเคลื่อนที่ของน้ำเข้าหรือออกจากเซลล
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่ออัตราการหยดของสารน้้า
เกลียวปรับบังคับหยดที่ลื่นมาก จะบังคับการหยดได้ไม่ดีพอ อัตราการหยดจะเร็ว
สายให้สารน้ำ มีความยาวมาก มีการหักพับงอหรือถูกกด จะทำให้สารน้ำผ่านไม่สะดวก อัตราการไหลจะช้าลง และถ้าปลายข้อต่อของสายให้น้ าถูกดึงรั้งจนหลวมหลุดจากเข็มสารน้ำจะไหลเร็วแต่ไม่เข้าหลอดเลือดดำ และจะมีเลือดออกมาจากหัวเข็มด้วย
ขนาดของเข็มที่แทงเข้าหลอดเลือดดำ เข็มขนาดใหญ่จะมีทางผ่านกว้าง อัตราการหยดจะเร็วกว่าใช้เข็มขนาดเล็ก
การผูกยึดบริเวณหลอดเลือด แน่นหรือตึงเกินไปรวมทั้งการนั่ง หรือนอนทับสายให้สารน้ า จะปิดกั้นทางผ่านของสารน้ า ท าอัตราการหยดช้าลง
ความหนืดของสารน้ำ ถ้าสารน้ำมีความหนืดสูงอัตราการหยดจะช้า
การเคลื่อนย้ายและการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ป่วย อาจท าให้เข็มเคลื่อนที่ ปลายตัดของเข็มแนบชิดผนังหลอดเลือด หรือแทงทะลุหลอดเลือด สารน้ าไหลไม่สะดวก อัตราการหยดจะช้าลง
ระดับขวดสารน้ำสูงหรือต่ำเกินไป การแขวนขวดสารน้ำให้สูง สารน้ำจะหยดเร็วกว่าการแขวนขวดในระดับต่ำ และถ้าขวดสารน้ าอยู่ต่ำกว่าระดับหลอดเลือด แรงดันในหลอดเลือดจะมากกว่าทำให้เลือดไหลย้อนเข้ามาในเข็มและปนกับสารน้ำในสายให้สารน้ำ
การปรับอัตราหยดผู้ป่วยเด็กที่เอื้อมมือไปหมุนปรับเล่น หรือญาติผู้ป่วยหมุนปรับเอง
การให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ
การเลือกตำแหน่งของหลอดเลือดดำที่จะแทงเข็ม
ตรวจสอบบริเวณต าแหน่งที่จะแทงเข็มว่ามีสภาพที่เหมาะสม แขนข้างนั้นได้รับการผ่าตัดเลาะต่อมน้ าเหลืองออกหรือไม่ ถ้าใช่ห้ามแทงเข็ม หรือเจาะเลือดที่แขนข้างนั้น เพราะจะท าให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายและการรัดสาย Tourniquet จะขัดขวางระบบไหลเวียนแขนอาจบวมได้
ถ้าจำเป็นต้องผูกยึดแขนและขา ให้หลีกเลี่ยงการแทงเข็มให้สารน้ำ
ให้เริ่มต้นแทงเข็มที่ให้สารน้ำที่หลอดเลือดดำส่วนปลายของแขนก่อน เพื่อให้หลอดเลือดดำส่วนที่ถัดเข้ามาสามารถใช้งานได้อีก โดยตำแหน่งเส้นเลือดดำส่วนปลายที่แขนและมือซึ่งเหมาะส าหรับการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
หลีกเลี่ยงการแทงเข็มบริเวณข้อพับต่าง ๆ เพราะจะท าให้หลอดเลือดแตกทะลุง่าย หรือถ้าจำเป็นต้องแทงบริเวณข้อพับให้ใช้ไม้ดามป้องกันการงอพับ
เลือกหลอดเลือดด าของแขนข้างที่ผู้ป่วยไม่ถนัดก่อน เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถใช้แขนข้างที่ถนัดทำกิจวัตรต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง
ค านึงถึงชนิดของสารน้ าที่ให้ หากเป็นสารน้ าชนิด Hypertonic เนื่องจากสารน้ำมีความเข้มข้นของสารละลายสูง และมีความหนืดควรเลือกหลอดเลือดเส้นใหญ่ในการให้สารน้ำ
อุปกรณ์เครื่องใช้
ชุดให้สารน้ า (IV Administration set) ใช้เป็นทางผ่านของสารน้ าจาก
ขวดไปสู่หลอดเลือดด าของผู้ป่วยบรรจุในซองที่ปิดผนึกมิดชิดผ่านการฆ่าเชื้อ สามารถเปิดใช้ได้ทันที
เข็มที่ใช้แทงเข้าหลอดเลือดด าส่วนปลาย (Peripheral insertion devices) ท าด้วยเทฟล่อนนิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน มีหลายขนาดตั้งแต่เบอร์ 14, 16, 18, 20, 22 และ 24
อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น เสาแขวนขวดให้สารน้ า ยางรัดแขน (Tourniquet) แผ่น
โปร่งใสปิดต าแหน่งที่แทงเข็ม (Transparent dressing) หรือก๊อซปลอดเชื้อ อุปกรณ์เสริมกรณีจ าเป็น ได้แก่ ที่ต่อ 3 ทาง และสายต่อขยาย (Extension tube)
ขวดสารน้ า โดยขวดสารน้ า/ยา ต้องเตรียมให้ตรงกับใบสั่งการรักษาและตรวจสอบดูว่าสภาพขวดสารน้ า/ยาไม่มีรอยแตกร้าว หรือรูรั่วสารน้ าไม่หมดอายุ ไม่มีลักษณะขุ่น ไม่มีผงตะกอนลอยอยู่ภายขวดสารน้ า/ยา เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ า/ยาที่ปราศจากเชื้ออย่างแท้จริง
การให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด
การให้เลือด (Blood transfusion) หมายถึง การให้เลือด หรือเฉพาะเม็ดเลือด หรือเฉพาะน้ าเลือดแก่ผู้ป่วยโดยผ่านเข้าทางหลอดเลือดด า การให้เลือดแม้จะช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ แต่ก็ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้
การให้และการรับเลือดในหมู่เลือด
คนเลือดกรุ๊ป ABรับได้จากทุกกรุ๊ป แต่ให้เลือดแก่ผู้อื่นได้เฉพาะคนที่เป็นเลือดกรุ๊ป AB
คนเลือดกรุ๊ป A รับได้จาก A และ O ให้ได้กับ A และ AB
คนเลือดกรุ๊ป O รับได้จาก O เท่านั้น แต่ให้กับกรุ๊ปอื่นได้ทุกกรุ๊ป
คนเลือดกรุ๊ป B รับได้จาก B และ O ให้ได้กับ B และ AB
คนเลือดกรุ๊ป Rh-ve ต้องรับจาก Rh-ve เท่านั้น แต่ต้องดูกรุ๊ปเลือดตามระบบ ABO ด้วย (หากคนเลือดกรุ๊ป Rh-ve รับเลือดจาก Rh+ve อาการข้างเคียงจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น ในครั้งถัดๆไป)
เลือด (whole blood) ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ เซลล์เม็ดเลือด แบ่งเป็น เซลล์เม็ดเลือดแดง (redblood cell หรือ erythrocyte) เซลล์เม็ดเลือดขาว (white blood cell หรือ leukocyte)เกร็ดเลือด(platelet) และน้ าเลือด (plasma)
การให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
ชนิดของสารอาหารทางหลอดเลือดดำ
Total parenteral nutrition (TPN) เป็นการให้โภชนบ าบัดครบตามความต้องการของผู้ป่วยทั้งปริมาณพลังงานที่ต้องการ และสารอาหารทุกหม
Partial or peripheral parenteral nutrition (PPN) เป็นการให้โภชนบำบัดทางหลอดเลือดดำเพียงบางส่วน
ตำแหน่งของการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
การให้ทางหลอดเลือดดำแขนง (peripheral vein) ข้อดีของการให้วิธีนี้คือไม่ยุ่งยาก สามารถให้แก่ผู้ป่วยได้ทันที
การให้ทางหลอดเลือดด าใหญ่ (central vein) สามารถเพิ่มความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโคสได้ถึงร้อยละ 20-25 เหมาะส าหรับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับสารอาหารทางหลอดเลือดดำเป็นเวลานาน และต้องการพลังงานค่อนข้างสูงเป็นการท าหัตถการโดยแพทย์
ส่วนประกอบของสารอาหารในสารละลาย
โปรตีนอยู่ในรูปกรดอะมิโน ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ต่อ 1 กรัม ใช้กรดอะมิโนทุกชนิดทั้งที่จำเป็นและไม่จ าเป็นในปริมาณและสัดส่วนที่พอเหมาะ
วิตามิน ให้ทั้งชนิดละลายในน้ำ และชนิดละลายในไขมันควรเติมวิตามินทุกชนิดในสารละลายตั้งแต่วันแรกที่เริ่มให้สารอาหารทางหลอดเลือดด าแก่ผู้ป่วย
สารละลายไขมัน (fat emulsion) ให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรี่ต่อ 1 กรัม
เกลือแร่
คาร์โบไฮเดรต นิยมใช้ในรูปของกลูโคส ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ต่อ 1 กรัม
น้ำให้คำนวณจำนวนน้ำที่จะให้แก่ผู้ป่วยตามน้ำหนักตัว
อุปกรณ์ในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
สายให้อาหารทางหลอดเลือดดำ ปัจจุบันสายให้อาหารทางหลอดเลือดด ามีรูปแบบต่างๆขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย
ชุดให้สารอาหาร
ข้อบ่งชี้ในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
ภาวะทางศัลยกรรม
ความผิดปกติของจิตใจ
โรคของอวัยวะต่างๆ
โรคมะเร็งต่างๆ
โรคทางเดินอาหาร
ขั้นตอนในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
ต่อสายยางให้อาหารเข้าไปในชุดให้สารอาหาร ปิดผ้าก๊อซปราศจากเชื้อบริเวณรอยต่อโดยใช้เทคนิคปราศจากเชื้อ
ตรวจสอบ PPN หรือ TPN จะต้องไม่ขุ่นหรือมีตะกอน
เตรียมอุปกรณ์ในการให้ PPN หรือ TPN ที่สะอาดปราศจากเชื้อ และเตรียมชุดให้สารอาหารให้พร้อม
มีป้ายปิดที่ขวดให้สารอาหาร ระบุชื่อ และสกุลของผู้ป่วย ชนิดและปริมาณของสารอาหารอัตราหยดต่อนาที วันและเวลาที่เริ่มให้ วันและเวลาที่สารอาหารหมด ชื่อผู้เตรียมสารอาหาร
ล้างมือให้สะอาดก่อนให้การพยาบาลทุกครั้ง สวมmask
นำสารอาหารและสายยางให้สารอาหารไปต่อกับผู้ป่วยโดยเช็ดบริเวณรอยต่อด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์ ปิดด้วยผ้าก๊อซปราศจากเชื้อ
อธิบายให้ผู้ป่วยทราบ เนื่องจากผู้ป่วยเมื่อทราบว่าจะต้องให้สารอาหารมักมีความวิตกกังวลหวาดกลัว และจะถูกจ ากัดการท ากิจกรรมต่างๆ
ให้สารอาหารปรับจ านวนหยดตามแผนการรักษา
วัตถุประสงค์
ให้ผู้ป่วยที่รับประทานอาหารและน้ าทางปากไม่ได้ หรือรับประทานได้น้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป
อาการแทรกซ้อนจากการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
การให้สารอาหารมากเกินไป (Circulatory overload)
ลักษณะที่พบได้แก่
ตรวจพบความดันเลือดและแรงดันหลอดเลือดส่วนกลางสูงขึ้น ชีพจรเร็ว
ผู้ป่วยมีปริมาณน้ าเข้าและออก (intake/output) ไม่สมดุล
อาการแสดงที่ปรากฏเริ่มแรก คือ ปวดศีรษะ หายใจตื้น และหอบเหนื่อย
มีการคั่งของเลือดด าจะพบว่าหลอดเลือดด าที่คอโป่ง
ถ้ารุนแรงจะมีภาวะปอดบวมน้ า อาการคือ หายใจล าบาก นอนราบไม่ได้
ผิวหนังเขียวคล้ า ไอมีเสมหะเป็นฟองและอาจมีเลือดปน
การพยาบาลและการป้องกัน
บันทึกสัญญาณชีพ
จัดผู้ป่วยให้อยู่ในท่านั่งเพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
ปรับอัตราหยดให้ช้าที่สุดและรายงานให้แพทย์ทราบด่วน
ไข้(pyrogenic reactions)
การพยาบาลและการป้องกัน
เขียนวัน เวลาที่เริ่มให้สารอาหารข้างขวดเพื่อให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องทราบโดยทั่วไปสารอาหารแต่ละขวดไม่ควรให้นานเกิน 24 ชั่วโมง
ตรวจสอบรูรั่วของสายให้อาหารก่อนใช้ทุกครั้ง
การเตรียมสารอาหารควรท าด้วยวิธีปลอดเชื้อ ก่อนให้สารอาหารทุกครั้ง ควรตรวจดูว่ามีการร้าวของขวดให้สารอาหารหรือไม่ และความขุ่นของสารอาหาร
เปลี่ยนชุดให้สารอาหารทุก 24 ชั่วโมง
ถ้าเป็นไปได้ ควรเก็บชุดให้สารอาหารและชุดสายให้สารอาหารส่งเพาะเชื้อ
ควรมีสถานที่เฉพาะส าหรับเตรียมสารอาหารและหมั่นรักษาความสะอาด กำจัดฝุ่นละอองให้มากที่สุด
บันทึกสัญญาณชีพ และรายงานแพทย์
ล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสอุปกรณ์และบริเวณที่แทงเข็ม
หยุดให้สารอาหาร
หุ้มผ้าก๊อซปราศจากเชื้อบริเวณรอยข้อต่อต่างๆ
ลักษณะที่พบได้แก่
ปวดหลัง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน
หนาวสั่น
ไข้สูง 37.3-41 องศาเซลเซียส
ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับเชื้อจุลินทรีย์ที่ได้รับและสภาวะของผู้ป่วย
มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในระบบไหลเวียนของเลือด (Embolism)
ลักษณะที่พบได้แก่
อาการเขียว เนื่องจากขาดออกซิเจน ความดันเลือดต่ า ชีพจรเบาเร็ว หมด
ความรู้สึก และอาจตายได้
สังเกตพบว่าอัตราการหยดของสารอาหารจะช้าลง หรือหยุดไหล
การพยาบาลและการป้องกัน
หยุดให้สารอาหารทันทีถ้าพบว่ามีก้อนเลือดอุดตันที่เข็ม
ห้ามนวดคลึงเพราะอาจทำให้ก้อนเลือดนั้นหลุดเข้าไปในกระแสเลือดและ
ระมัดระวังในการเปลี่ยนขวดสารอาหารไม่ให้อากาศผ่านเข้าไปในชุดสาย
ให้สารอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ป่วยอยู่ในท่านอนหรือยืน
การหยุดให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำเมื่อไม่มีความจ าเป็นที่จะให้สารอาหารทางหลอดเลือดด าให้งด สารละลายไขมันได้ทันที และลดความเข้มข้นของน้ าตาลกลูโคส และกรดอะมิโนลง รวมทั้งเกลือแร่ต่างๆ ด้วย
บวมเนื่องจากมีสารอาหารเข้าไปอยู่ในเนื้อเยื่อชั้นผิวหนัง (Local infiltration)
ลักษณะที่พบได้แก่
บวมบริเวณที่ให้ บางครั้งอาจมองเห็นไม่ชัดเจน แต่บางครั้งก็อาจมองไม่ชัดเจน อุณหภูมิของบริเวณนั้นจะเย็นกว่าบริเวณอื่นๆ เนื่องจากสารอาหารมีอุณหภูมิต่ ากว่าร่างกาย
ผู้ป่วยรู้สึกไม่สุขสบายบริเวณที่ให้ ซึ่งเป็นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสารอาหาร ซึ่งถ้าสารอาหารเหล่านี้ซึมออกไปจากหลอดเลือดจะท าให้รู้สึกปวดมาก
การพยาบาลและการป้องกัน
ถ้าพบว่ามีสารอาหารซึมออกมาอยู่ในเนื้อเยื่อควรหยุดให้สารอาหารทันที
ควรดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการเกิดสารอาหารซึมออกมาอยู่ในเนื้อเยื่อส่วนมากภาวะนี้มักเกิดจากการเลือกต าแหน่งที่แทงเข็มไม่เหมาะสม ผู้ป่วยมีกิจกรรมมากเกินไป
การบันทึกปริมาณน้้าเข้า-ออกจากร่างกาย (Record Intake-Output)
หลักการบันทึกจ้านวนสารน้้าที่เข้าและออกจากร่างกาย
ร่วมกับผู้ป่วยในการวางแผนก าหนดจ านวนน้ าที่เข้าสู่ร่างกายในแต่ละช่วงเวลา
จดบันทึกจ านวนน้ าและของเหลวทุกชนิดที่ให้ขณะมื้ออาหารและระหว่างมื้ออาหาร พร้อมทั้งอธิบายให้ผู้ป่วยดื่มน้ าในขวดที่เตรียมไว้ให้ไม่น าน้ าที่เตรียมไว้ไปบ้วนปากหรือเททิ้ง
อธิบายเหตุผลและความส าคัญของการวัดและการบันทึกจ านวนน้ าที่รับเข้าและขับออกจากร่างกาย
การจดบันทึกควรสรุปทุก 8 ชั่วโมง และทุกวัน
แบบฟอร์มการบันทึกควรแขวนไว้ที่เตียงผู้ป่วย เพื่อสะดวกในการจดบันทึกและเมื่อครบ 24ชั่วโมง ต้องสรุปลงในแผ่นรายงานประจ าตัวของผู้ป่วยหรือฟอร์มปรอท
บันทึกจ านวนสารน้ าที่สูญเสียทางอื่น ๆ เช่น อาเจียน ท้องเดิน ของเหลวที่ระบายออกจากการใช้เครื่องดูดกับสายยางจากกระเพาะ
การใช้กระบวนการพยาบาลในการให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด
ขั้นตอนที่ 4 การให้เลือดและสารประกอบของเลือด
เครื่องใช้
extension tube
three ways
ส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
IV stand (เสาน้ำเกลือ)
tourniquet
พลาสเตอร์ หรือ transparent สำเร็จรูป
blood transfusion set (Blood set)
แผ่นฉลากชื่อ
intravenous catheter (IV cath.) เบอร์ 18
ถุงมือสะอาด mask
intravenous fluid (IV fluid) ตามแผนการรักษา
วิธีท้าการให้เลือดและสารประกอบของเลือด
เช็ดรอบ ๆ ด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
ต่อ blood set กับ ขวดเลือด
ดึงที่ปิดถุงเลือดออก
ต่อ three ways กับ extension tube แล้วมาต่อกับ blood set ปิด clamp
ล้างมือให้สะอาด
แขวนขวดเลือดกับเสาน้ าเกลือแขวนให้สูงประมาณ 1 เมตร (3 ฟุต)จากผู้ป่วย
บอกให้ผู้ป่วยทราบโดยอธิบายวัตถุประสงค์และวิธีการให้ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าใจและลดความวิตกกังวล และผู้ป่วยให้ความร่วมมือ
บีบ chamber ของ blood set ให้ เลือดไหลลงมาในกระเปาะประมาณ ½ ของกระเปาะ ไล่อากาศในสาย IV จนหมด
เตรียมเครื่องใช้ไปที่เตียงผู้ป่วย ตรวจสอบรายชื่อนามสกุล เตียงผู้ป่วยให้ตรงกับป้ายข้อมือผู้ป่วยอีกครั้ง
การเตรียมผิวหนังและการแทงเข็มให้สารน้ำ
สวมถุงมือสะอาดและ mask
ทำความสะอาดผิวหนังต าแหน่งที่จะแทงเข็มด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์70% เช็ดจากบนลงล่าง ทิ้งไว้ 1/2 - 1 นาที รอแอลกอฮอล์แห้ง
รัด tourniquet เหนือที่ต้องการแทงเข็ม 2-6 นิ้ว เพื่อให้เห็นหลอดเลือดดำชัดเจน
ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ของมือซ้ายตรึงผิวหนังต าแหน่งที่จะแทง IV cath.
เลือกต าแหน่งที่จะแทง IV cath.
เตรียม IV cath. ประกอบด้วย ท่อพลาสติก (catheter) และเข็มเหล็ก stylet) เพื่อใช้เป็นตัวน าในการแทงผิวหนัง แทงเข็มท ามุมประมาณ 10-30 องศา
เก็บอุปกรณ์ท าความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
ตรวจสอบชื่อนามสกุล Rh. ของผู้ป่วย HN กับป้ายชื่อข้างขวดเลือดหรือส่วนประกอบของเลือดจากธนาคารเลือด (blood bank) โดยพยาบาล 2 คน
ตรวจสอบแผนการรักษา และเขียนชื่อนามสกุลของผู้ป่วย ชนิดของเลือดและส่วนประกอบของเลือด Rh. วัน เวลาที่เริ่มให้อัตราการหยด ลงในแผ่นฉลากปิดข้างขวด
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลการให้เลือดและสารประกอบของเลือด
การประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล เป็นการประเมินผลของการปฏิบัติงาน เพื่อน ามาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
ประเมินการปฏิบัติถูกต้องครบและเป็นไปตามขั้นตอนของการปฏิบัติ
ประเมินการจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ครบถ้วนเพียงพอหรือไม่
การประเมินผลคุณภาพการบริการ เป็นการประเมินคุณภาพของผลการปฏิบัติงาน เพื่อนำมาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
ประเมินคุณภาพของการปฏิบัติงานในข้อ 2 อยู่ในคุณภาพระดับใด
ประเมินคุณภาพของการให้บริการ ข้อ 3 อยู่ในคุณภาพระดับใด
การประเมินผลการให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด เป็นการประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
ติดตามประเมินสัญญาณชีพก่อน ขณะ และหลังการได้รับเลือดฯ
ประเมินสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย (โดยการสอบถามผู้ป่วย)
ประเมินอาการแทรกซ้อนและอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ของผู้ป่วยและปลอดภัยตามหลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goals
ประเมินความสุขสบายของผู้ป่วยและจัดท่านอนให้สุขสบายและเหมาะสม (โดยการสอบถามผู้ป่วย)
ประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วย (โดยการสอบถามผู้ป่วย)
ขั้นตอนที่3 การวางแผนในการให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด
วัตถุประสงค์ของการให้เลือดและสารประกอบของเลือด
ทดแทนเม็ดเลือดแดง และรักษาระดับฮีโมโกลบิน (hemoglobin: Hb) เป็นการรักษาระดับความสามารถในการน าออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ของร่างกาย
ทดแทนปัจจัยการแข็งตัวของเลือด
ทดแทนปริมาณเลือดที่สูญเสียไป
เกณฑ์การประเมิน ผู้ป่วยได้รับเลือดและสารประกอบของเลือดไม่พบอาการแทรกซ้อนและปลอดภัยตามหลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goals
การดูแลผู้ป่วยภายหลังได้รับเลือด
สังเกตปฏิกิริยาที่เกิดจากการให้เลือดอย่างต่อเนื่อง
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับความสุขสบายตลอดระยะเวลาที่ให้เลือด
ตรวจสอบสัญญาณชีพหลังการให้เลือด 15 นาที และต่อไปทุก 4 ชั่วโมง
บันทึกหมู่เลือด ชนิดของเลือด หมายเลขเลือด ปริมาณเลือด วัน เวลา ชื่อผู้ให้เลือด และบันทึกอาการของผู้ป่วยหลังให้เลือด ลงในแบบบันทึกการพยาบาล
ขั้นตอนที่2 ข้อวินิจฉัย มีความพร้อมในการเริ่มให้เลือดและสารประกอบของเลือดตามแผนการรักษา
การปฏิบัติเมื่อพบอาการแทรกซ้อนในผู้ป่วยที่ได้รับเลือด
เตรียมสารน้ าและยา
ส่งขวดเลือดและเจาะเลือดของผู้ป่วยจากแขนที่ไม่ได้ให้เลือดไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบ
ตรวจสอบสัญญาณชีพ และสังเกตสังเกตปฏิกิริยาที่เกิดจากการให้เลือดอย่างใกล้ชิด
บันทึกจ านวนสารน้ าที่น าเข้า–ออกจากร่างกาย เพื่อดูการท างานของไต และน าปัสสาวะส่งตรวจในรายที่ได้รับเลือดผิดหมู่
รายงานแพทย์
การหยุดให้เลือด เมื่อผู้ป่วยได้รับเลือดครบให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับการหยุดให้สารน้ าทางหลอดเลือดดำ
หยุดให้เลือดทันทีแล้วเปิดทางหลอดเลือดด า (KVO) ด้วย NSS
ขั้นตอนที่1 การประเมินสภาพผู้ป่วย
การประเมินด้านจิตใจ
ความต้องการรับบริการให้เลือดและสารประกอบของเลือด
ความวิตกกังวลและความกลัว
ความพร้อมของการรับบริการให้เลือดและสารประกอบของเลือด
การประเมินสิ่งแวดล้อม
ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสิ่งแวดล้อมผู้ป่วย
ความพร้อมใช้ของสิ่งแวดล้อมตัวผู้ป่วย
ความสะอาดของสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้ป่วยและรอบเตียง
บรรยากาศในหอผู้ป่วย และมีอากาศถ่ายเทสะดวก
การประเมินด้านร่างกาย
ระดับความรู้สึกตัว
พยาธิสภาพของโรค ประวัติเจ็บป่วย โรคของผู้ป่วย และโรคหรืออาการแทรกซ้อน
การประเมินแผนการรักษา
ตรวจสอบแผนการรักษา และประวัติการรับเลือด (มีอาการแพ้หรือไม่?)
ตรวจสอบชนิดของเลือดและส่วนประกอบของเลือดตามแผนการรักษา ชนิด ปริมาณ อัตรา และเวลา
การใช้กระบวนการพยาบาลในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดำ
ขั้นตอนที่ 3 การวางแผนการพยาบาล (Planning) ให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำตามแผนการรักษาและไม่เกิดอาการแทรกซ้อน
ขั้นตอนที่ 4 การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
มีป้ายปิดที่ขวดให้สารอาหาร ระบุชื่อ และสกุลของผู้ป่วย ชนิด และปริมาณของสารอาหารอัตราหยดต่อนาที วัน และเวลาที่เริ่มให้ วัน และเวลาที่สารอาหารหมด ชื่อผู้เตรียมสารอาหาร
สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับผู้ป่วย
ผู้ป่วยที่ได้รับสารอาหารทางหลอดเลือดด าส่วนปลาย (peripheral vein) ควรเปลี่ยนตำแหน่งให้ทุก 3 วัน หรือทุกครั้งที่มีสารอาหารรั่วไหล (leak) ออกนอกเส้น
ถ้าสารอาหารที่ให้ทางหลอดเลือดด ารั่ว หรือทางเส้นเลือดด าอุดตัน ให้ไม่ได้ ควรรายงานให้แพทย์ทราบ หรือในท านองเดียวกันถ้าสารอาหารที่เตรียมไว้หรือขณะที่ให้ผู้ป่วย
ประเมินสัญญาณชีพก่อนและขณะให้สารอาหารและติดตามทุก 2-4 ชั่วโมง
หลีกเลี่ยงการให้ยาฉีดทางหลอดเลือดด าสายเดียวกับให้สารอาหารทางหลอกเลือดด าถ้าจ าเป็นต้อง push ยาเข้าทางสายให้อาหาร (IV catheter) ในต าแหน่งเดียวกับที่ให้สารอาหาร
ก่อนและขณะให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ควรมีการประเมินสภาพร่างกาย และควบคุมผู้ป่วยในระยะแรก และระยะหลังของการได้รับสารอาหารทางหลอดเลือดดำ
ดูแลทางด้านจิตใจ โดยอธิบายให้เข้าใจถึงความจ าเป็นในการได้สารอาหาร ประโยชน์ที่ได้รับเพื่อผู้ป่วยจะได้ให้ความร่วมมือ
ขั้นตอนที่ 2 ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
มีโอกาสเกิดหลอดเลือดด าอักเสบจากการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำเป็นเวลาหลายวัน
มีโอกาสเกิดสิ่งแปลกปลอมอยู่ในระบบไหลเวียนของเลือดจากการให้สารอาหารทางหลอดเลือดด าเป็นเวลาหลายวัน
เกณฑ์การประเมินผล
บริเวณที่ให้สารน้ าทางหลอดเลือดด าไม่มีบวมแดง
สัญญาณชีพปกติ
วัตถุประสงค์เพื่อ
ไม่เกิดภาวะหลอดเลือดดำอักเสบ
ไม่เกิดสิ่งแปลกปลอมอยู่ในระบบไหลเวียนของเลือด
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลทางการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ (Evaluation)
การประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล เป็นการประเมินผลของการปฏิบัติงาน เพื่อน ามาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
ประเมินการปฏิบัติถูกต้องครบและเป็นไปตามขั้นตอนของการปฏิบัติ
ประเมินการจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ครบถ้วนเพียงพอหรือไม่
การประเมินผลคุณภาพการบริการ เป็นการประเมินคุณภาพของผลการปฏิบัติงาน เพื่อนำมาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
ประเมินคุณภาพของการปฏิบัติงานในข้อ 2 อยู่ในคุณภาพระดับใด (โดยการให้คะแนนระดับดีมาก-ดี-ปานกลาง-ปรับปรุง)
ประเมินคุณภาพของการให้บริการ ข้อ 3 อยู่ในคุณภาพระดับใด (โดยการให้คะแนนระดับดีมาก-ดี-ปานกลาง-ปรับปรุง)
การประเมินผลการให้สารอาหารทางหลอดเลือดด า เป็นการประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
ประเมินสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย (โดยการสอบถามผู้ป่วย)
ประเมินความสุขสบายของผู้ป่วยและจัดท่านอนให้สุขสบายและเหมาะสม (โดยการสอบถามผู้ป่วย)
ประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วย (โดยการสอบถามผู้ป่วย)
ติดตามประเมินสัญญาณชีพก่อน ขณะ และหลังการได้รับสารอาหารฯ
ประเมินอาการแทรกซ้อนและอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ของผู้ป่วยและปลอดภัยตามหลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goals
ขั้นตอนที่1 การประเมินสภาพผู้ป่วย (Assessment)
ภาวะแทรกซ้อนจากการให้เลือด
ปฏิกิริยาภูมิแพ้ (Allergic reaction) เกิดจากผู้รับแพ้สารอย่างใดอย่างหนึ่งในเลือดที่ได้รับ
การถ่ายทอดโรค (Transfusion-associated graft versus host disease) มักเกิดจากการขาดการตรวจสอบเลือดของผู้ให้ ซึ่งมีการติดเชื้อต่าง ๆ
ไข้ (Febrile transfusion reaction) เกิดจากการได้รับสารที่ท าให้เกิดไข้
การอุดตันจากฟองอากาศ (Air embolism) เกิดจากการไล่ฟองอากาศไม่หมดไปจากสายให้เลือดอากาศจะลอยไปตามกระแสเลือด
ปริมาตรการไหลเวียนของเลือดมากเกินไป (Volume overload) เกิดจากการให้เลือดในอัตราเร็วเกินไป
ภาวะสารซิเตรทเกินปกติ เกิดจากการให้เลือดติดต่อกันเป็นจำนวนมากจึงมีการสะสมของสารกันการแข็งตัวของเลือด (Acid – citrate dextrose) เพิ่มขึ้นและไปจับตัวกับแคลเซี่ยมในเลือดระดับแคลเซี่ยมจึงลดน้อยลง
เม็ดเลือดแดงสลายตัว (Hemolysis) เกิดจากการให้เลือดผิดหมู่
ภาวะโปตัสเซียมเกินปกติ (Hyperkalemia) เกิดจากการให้เลือดที่เก็บไว้ในธนาคารเลือดนานเกินไปหลังจากที่ผู้ป่วยได้เลือดจะพบอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน กล้ามเนื้ออ่อนแรง
การใช้กระบวนการพยาบาลในการฉีดยาเข้าหลอดเลือดำ
ขั้นตอนที่3 การวางแผนในการบริหารยา
วัตถุประสงค์ของการฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
ให้ยาที่มีผลระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ
ให้ยาชนิดที่ไม่สามารถให้ทางอื่นได้ผลต่อการรักษา
ให้ยาออกฤทธิ์เร็ว
เกณฑ์การประเมินผล
ผู้ป่วยปลอดภัยตามหลักการ 6 Rights
ผู้ป่วยปลอดภัยตามหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goals
ขั้นตอนที่ 4 วิธีการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ
วิธีการฉีดยาแบบที่ 3 Surg plug กับ piggy back (100 ml)
เครื่องใช้
IV set พร้อมเข็มเบอร์ 23
ส าลีชุแอลกอฮอล์ 70%
ยาฉีดผสมใน piggy back (100 ml)
ถุงมือสะอาด, mask
วิธีการฉีดยา
แขวน piggy back กับ เสาน้ าเกลือ ปลดเข็มออกวางลงบนถาด เปิด clamp ให้น้ ายาไหลลงมาตาม set IV จนน้ ายาเต็มสายยาง ปิดclamp
มือซ้ายจับ surg plug ปลดเข็มออกจาก set IV ไล่อากาศออกให้หมด
มือซ้ายเช็ดท าความสะอาด surg plug ด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
เช็ด surg plug ด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70% สวมปลาย set IV เข้ากับ surg plug เปิดclamp ปรับหยดยา 50 หยอด/นาท
บอกผู้ป่วยว่าจะมาฉีดยาให้
เมื่อยาหมด มือซ้ายจับ surg plug มือขวาเช็ด surg plug ด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70%ดึง set IV ออก เช็ด surg plug ด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70% อีกครั้ง
ตรวจสอบความถูกต้องของยาฉีด ชื่อ-นามสกุล ป้ายข้อมือ และเตียงผู้ป่วย
วิธีการฉีดยาแบบที่ 4 Surg plug กับ syringe IV push
เครื่องใช้
syringe IV push ยา พร้อมเข็มเบอร์ 23
ส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
ยาฉีดผสมใน piggy back (100 ml)
ถุงมือสะอาด, mask
วิธีการฉีดยา
มือซ้ายเช็ดทำความสะอาด surg plug ด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
มือซ้ายจับ surg plug ปลดเข็มออกจาก syringe ไล่อากาศออกให้หมด
บอกผู้ป่วยว่าจะมาฉีดยาให้
สวมปลาย tip ของ syringe เข้ากับ surg plug หมุนให้แน่น มือขวาดึง plunger สังเกตเลือดออกมาหรือไม่ ? อยู่ในต าแหน่งของหลอดเลือดด า ฉีดยาเข้าหลอดเลือดด าช้า ๆ จนยาหมด syringe
ตรวจสอบความถูกต้องของยาฉีด ชื่อ-นามสกุล ป้ายข้อมือ และเตียงผู้ป่วย
เมื่อยาหมด มือซ้ายจับ surg plug มือขวาดึง syringe ออก เช็ด surg plug ด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70% อีกครั้ง
วิธีการฉีดยาแบบที่ 2 IV plug กับ syringe IV push
วิธีการฉีดยา
มือขวาหยิบ syringe 0.9 % NSS ถอดปลอกเข็มวางบนถาด ไล่อากาศออกให้หมด
มือซ้ายยก IV plug ขึ้นเล็กน้อย มือขวาจับ syringe 0.9 % NSS แทงเข็มตรงจุกยางของ IV plug ดึง plunger ดูว่ามีเลือดออกตามมาหรือไม่? ถ้ามีเลือดออกมาแสดงว่า IV catheter ยังแทงอยู่ในหลอดเลือดด า มือซ้ายเลื่อนลงมาจับที่หัวเข็ม ดันplunger ฉีด 0.9 % NSS 3 ml จนหมด มือซ้ายเลื่อนไปจับ IV plug มือขวาดึง syringe ออกเก็บปลอกเข็มด้วยมือข้างเดียว
มือซ้ายเช็ดท าความสะอาด IV plug ด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
ถอดปลอกเข็มของ syringe ไล่อากาศออกให้หมด มือซ้ายยก IV plug ขึ้นเล็กน้อย มือขวาจับ syringe แทงเข็มตรงจุดยางของ IV plug มือขวาดัน plunger ฉีดยาช้า ๆ จนยาหมด
บอกผู้ป่วยว่าจะมาฉีดยาให้
มือขวาดึง syringe ออก ปิดปลอกเข็มด้วยมือข้างเดียว มือซ้ายเช็ดท าความสะอาด IV plugด้วยส าลีชุแอลกอฮอล์ 70% มือซ้ายยก IV plug ขึ้นเล็กน้อย มือขวาจับ syringe 0.9 % NSS แทงเข็มตรงจุดยางของ IV plug มือซ้ายเลื่อนลงมาจับที่หัวเข็ม มือขวาดัน plunger ฉีด 0.9 % NSS 3 ml จนหมด มือซ้ายเลื่อนไปจับ IV plug มือขวาดึง syringe ออกเก็บปลอกเข็มใช้มือข้างเดียว
ตรวจสอบความถูกต้องของยาฉีด ชื่อ-นามสกุล ป้ายข้อมือ และเตียงผู้ป่วย
เครื่องใช้
syringe 0.9 % NSS 3 ml พร้อมเข็มเบอร์ 23 จ านวน 2 อัน
ส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
ถุงมือสะอาด, Mask
syringe IV push ยา พร้อมเข็มเบอร์ 23
ยาฉีดผสมใน piggy back (100 ml)
วิธีการฉีดยาแบบที่ 5 three ways กับ piggy back (100 ml)
เครื่องใช้
IV set พร้อมเข็มเบอร์ 23
ส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
ยาฉีดผสมใน piggy back (100 ml)
ถุงมือสะอาด, mask
วิธีการฉีดยา
แขวน piggy back กับ เสาน้ าเกลือ ปลดเข็มออกวางลงบนถาด เปิด clamp ให้น้ ายาไหลลงมาตาม set IV จนน้ ายาเต็มสายยาง ปิดclamp
มือซ้ายจับ three ways มือขวาหมุน ข้อต่อ three ways (ลูกศรชี้ไปทิศใดแสดงว่าเปิดวาวส์ช่องทางนั้น) ปลดเข็มออกจาก set IV ไล่อากาศออกให้หมด
มือซ้ายเช็ดทำความสะอาด three ways ด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
เช็ด three ways ด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70% สวมปลาย set IV เข้ากับ three waysหมุนให้แน่น เปิด clamp ปรับหยดยา 50 หยด/นาที (ค านวณหยดของยาฉีด 100 ml ให้หมดใน 30 นาที)
บอกผู้ป่วยว่าจะมาฉีดยาให
เมื่อยาหมด มือซ้ายจับ three ways มือขวาเช็ด three ways ด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70%แล้วปรับข้อต่อ three ways ปิดด้านที่ฉีดยา
ตรวจสอบความถูกต้องของยาฉีด ชื่อ-นามสกุล ป้ายข้อมือ และเตียงผู้ป่วย
วิธีการฉีดยาแบบที่ 1 IV plug กับ piggy back (100 ml)
เครื่องใช้
IV set ใช้ drip ยา พร้อมเข็มเบอร์ 23
syringe 0.9 % NSS 3 ml พร้อมเข็มเบอร์ 23 จ านวน 2 อัน
ยาฉีดผสมใน piggy back (100 ml)
สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
ถุงมือสะอาด, mask
วิธีการฉีดยา
แขวน piggy back กับเสาน้ าเกลือ มือขวาหยิบ syringe 0.9 % NSS 3 ml ถอดปลอกเข็มวางลงบนถาด แล้วไล่อากาศออกให้หมด
มือซ้ายยก IV plug ขึ้นเล็กน้อย มือขวาจับ syringe 0.9 % NSS แทงเข็มตรง
มือซ้ายเช็ดทำความสะอาด IV plug ด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
ถอดปลอกเข็มของ IV set ไล่อากาศออกให้หมด มือซ้ายยก IV plug ขึ้นเล็กน้อยมือขวาจับแทงเข็มตรงจุดยางของ IV plug เปิด clamp ปรับหยดยา 50 หยด/นาที
บอกผู้ป่วยว่าจะมาฉีดยาให้
เมื่อยาฉีดหมด ปิด clamp มือขวาดึงเข็มออก ปิดปลอกเข็มด้วยมือข้างเดียว มือซ้ายเช็ดท าความสะอาด IV plug ด้วยส าลีชุแอลกอฮอล์ 70% มือซ้ายยก IV plug ขึ้นเล็กน้อย มือขวาจับ syringe 0.9 % NSS แทงเข็มตรงจุดยางของ IV plug มือซ้ายเลื่อนลงมาจับที่หัวเข็ม มือขวาดัน plunger ฉีด 0.9 % NSS 3 ml จนหมด มือซ้ายเลื่อนไปจับ IV plug มือขวาดึง syringe ออก เก็บปลอกเข็มด้วยมือข้างเดียว
ตรวจสอบความถูกต้องของยาฉีด ชื่อ-นามสกุล ป้ายข้อมือ และเตียงผู้ป่วย
วิธีการฉีดยาแบบที่ 6 three ways กับ syringe IV push
เครื่องใช้
ส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
ถุงมือสะอาด, mask
syringe IV push ยา พร้อมเข็มเบอร์ 23
ยาฉีดผสมใน piggy back (100 ml)
วิธีการฉีดยา
มือซ้ายจับ three ways มือขวาหมุน ข้อต่อ three ways (ลูกศรชี้ไปทิศใดแสดงว่าเปิดวาวส์ช่องทางนั้น) ปลดเข็มออกจาก set IV ไล่อากาศออกให้หมด
ปลดเข็มออกจาก syringe ไล่อากาศออกให้หมด
มือซ้ายเช็ดท าความสะอาด three ways ด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
เช็ด three ways ด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70% สวมปลาย trip ของ syringe เข้ากับ three ways หมุนให้แน่น มือขวาดึง plunger สังเกตเลือดออกมาหรือไม่ ? อยู่ในตำแหน่งของหลอดเลือดด า ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำช้า ๆ จนยาหมด syringe
บอกผู้ป่วยว่าจะมาฉีดยาให้
เมื่อยาหมด มือซ้ายจับ three ways มือขวาเช็ด three ways ด้วยส าลีชุบแอลกอฮอล์ 70%แล้วปรับข้อต่อ three ways ปิดด้าน side ที่ฉีดยา
ตรวจสอบความถูกต้องของยาฉีด ชื่อ-นามสกุล ป้ายข้อมือ และเตียงผู้ป่วย
เก็บของใช้เข้าที่ให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
ขั้นตอนที่2 ข้อวินิจฉัย การบริหารยาที่มีประสิทธิภาพโดยใช้หลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของpatient safety goals
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลการบริหารยาฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ
การประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล เป็นการประเมินผลของการปฏิบัติงาน เพื่อนำมาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
ประเมินการปฏิบัติถูกต้องครบและเป็นไปตามขั้นตอนของการปฏิบัติ
ประเมินการจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ครบถ้วนเพียงพอหรือไม่
การประเมินผลคุณภาพการบริการ เป็นการประเมินคุณภาพของผลการปฏิบัติงาน เพื่อนำมาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
ประเมินคุณภาพของการปฏิบัติงานในข้อ 2 อยู่ในคุณภาพระดับใด
ประเมินคุณภาพของการให้บริการ ข้อ 3 อยู่ในคุณภาพระดับใด
การประเมินผลการบริหารยาฉีด เป็นการประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
ประเมินสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย (โดยการสอบถามผู้ป่วย)
ประเมินความสุขสบายของผู้ป่วยและจัดท่านอนให้สุขสบายและเหมาะสม
(โดยการสอบถามผู้ป่วย)
ประเมินอาการแทรกซ้อนและอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ของผู้ป่วยและปลอดภัยตามหลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goal
ประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วย (โดยการสอบถามผู้ป่วย)
ขั้นตอนที่1 การประเมินสภาพผู้ป่วย
การประเมินด้านจิตใจ
ความต้องการรับบริการฉีดยา
ความวิตกกังวลและความกลัว
ความพร้อมของการรับบริการฉีดยา
การประเมินสิ่งแวดล้อม
ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสิ่งแวดล้อมผู้ป่วย
ความพร้อมใช้ของสิ่งแวดล้อมตัวผู้ป่วย
ความสะอาดของสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้ป่วยและรอบเตียง
บรรยากาศในหอผู้ป่วย และมีอากาศถ่ายเทสะดวก
การประเมินด้านร่างกาย
ประวัติการแพ้ยา
พยาธิสภาพของโรค ประวัติเจ็บป่วย โรคของผู้ป่วย และโรคหรืออาการแทรกซ้อน
ระดับความรู้สึกตัว
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมความสมดุลของสารน้้าในร่างกาย
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
วัตถุประสงค์
เกณฑ์การประเมินผล
การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
การประเมินภาวะสุขภาพ (Health assessment)