Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พรบ.ที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพและสุขภาพของประชาชน, นางสาวจิรนันท์ ใฝ่จิตร…
พรบ.ที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพและสุขภาพของประชาชน
พระราชบัญญุัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐
“สุขภาพ” หมายความว่า ภาวะของมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งทางกาย ทางจิต ทางปัญญา
และทางสังคม เชื่อมโยงกันเป็นองค์รวมอย่างสมดุล
“ระบบสุขภาพ” หมายความว่า ระบบความสัมพันธ์ทั้งมวลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ
“บริการสาธารณสุข” หมายความว่า บริการต่าง ๆ อันเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพการป้องกันและควบคุมโรคและปัจจัยที่คุกคามสุขภาพ การตรวจวินิจฉัยและบำบัดสภาวะความเจ็บป่วย และการฟื้นฟูสมรรถภาพของบุคคล ครอบครัวและชุมชน
“บุคลากรด้านสาธารณสุข” หมายความว่า ผู้ให้บริการสาธารณสุขที่มีกฎหมาย
ระเบียบ หรือข้อกำหนดรองรับ
“ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุข” หมายความว่า ผู้ประกอบวิชาชีพตามกฎหมาย
ว่าด้วย สถานพยาบาล
“สมัชชาสุขภาพ” หมายความว่า กระบวนการที่ให้ประชาชนและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเรียนรู้อย่างสมานฉันท์ เพื่อนำไปสู่การเสนอแนะนโยบายสาธารณะ
“กรรมการ” หมายความว่า กรรมการสุขภาพแห่งชาติ
“เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
“สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
“คณะกรรมการบริหาร” หมายความว่า คณะกรรมการบริหารสำนักงาน
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
หมวด ๑
สิทธิและหน้าที่ด้านสุขภาพ
บุคคลมีหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานของรัฐในการดำเนินการให้เกิดสิ่งแวดล้อมและ
สภาพแวดล้อมตามวรรคหนึ่ง
สุขภาพของเด็ก คนพิการ คนสูงอายุ คนด้อยโอกาสในสังคมและกลุ่มคนต่าง ๆ ที่มี
ความจำเพาะในเรื่องสุขภาพต้องได้รับการสร้างเสริมและคุ้มครองอย่างสอดคล้องและเหมาะสมด้วย
กรณีที่เกิดความเสียหายหรืออันตรายแก่ผู้รับบริการเพราะเหตุที่ผู้รับบริการปกปิด ข้อเท็จจริงที่ตนรู้และควรบอกให้แจ้ง หรือแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรืออันตรายนั้น เว้นแต่เป็นกรณีที่ผู้ให้บริการประมาทเลินเล่ออย่าง
การเปิดเผยข้อมูลตามวรรคหนึ่งต้องไม่มีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของบุคคลใดเป็นการเฉพาะ
บุคคลหรือคณะบุคคลมีสิทธิได้รับรู้ข้อมูล คำชี้แจง และเหตุผลจากหน่วยงานของรัฐก่อนการอนุญาตหรือการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมใดที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของตนหรือของชุมชนและแสดงความเห็นของตนในเรื่องดังกล่าว
หมวด ๒
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
หมวด ๓
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
หมวด ๔
สมัชชาสุขภาพ
หมวด ๕
ธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ
หมวด ๖
บทกำหนดโทษ
พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๕
“บริการสาธารณสุข” หมายความว่า บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขซึ่งให้
โดยตรงแก่บุคคลเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การตรวจวินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล
และการฟื้นฟูสมรรถภาพ ที่จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิตทั้งนี้ ให้รวมถึงการบริการการแพทย์
แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ
“สถานบริการ” หมายความว่า สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ ของเอกชน และ ของสภากาชาดไทย หน่วยบริการการประกอบโรคศิลปะสาขาต่างๆ
"หน่วยบริการ" สถานบริการที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ตามพระราชบัญญัตินี้
“เครือข่ายหน่วยบริการ” หมายความว่า หน่วยบริการที่รวมตัวกันและขึ้นทะเบียน
เป็เครือข่ายหน่วยบริการตามพระราชบัญญัติ
“กองทุน” หมายความว่า กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
“คณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน” หมายความว่า คณะกรรมการ
ควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข
“เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
“สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสำนักงาน
สาขา แล้วแต่กรณี
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
หมวด
หมวด ๑
สิทธิการรับบริการสาธารณสุข
หมวด๒ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
หมวด ๓
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
หมวด ๔
กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
หมวด ๕ หน่วยบริการและมาตรฐานบริการสาธารณสุข
หมวด ๖ คณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข
หมวด ๗ พนักงานเจ้าหน้าที่
หมวด ๘
การกำกับมาตรฐานหน่วยบริการ
หมวด ๙
บทกำหนดโทษ
พระราชบัญญัติสถานพยาบาลพ.ศ. ๒๕๔๑
“ผู้ป่วย” หมายความว่า ผู้ขอรับบริการในสถานพยาบาล
“ผู้รับอนุญาต” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
“ผู้ดำเนินการ” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล
“ผู้ประกอบวิชาชีพ” หมายความว่า ผู้ประกอบโรคศิลปะ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม
“ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล หรือ
ใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล
“ผู้อนุญาต” หมายความว่า อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรม
สนับสนุนบริการสุขภาพมอบหมาย
หมวด
หมวด ๑
คณะกรรมการสถานพยาบาล
หมวด ๒ การประกอบกิจการสถานพยาบาลและการดำเนินการสถานพยาบาล
หมวด ๓
พนักงานเจ้าหน้าที่
หมวด ๔
การปิดสถานพยาบาลและการเพิกถอนใบอนุญาต
หมวด ๕
บทกำหนดโทษ
บทเฉพาะกาล
พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘
“โรคติดต่อ” หมายความว่า โรคที่เกิดจากเชื้อโรคหรือพิษของเชื้อโรคซึ่งสามารถ
แพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมมาสู่คน
โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง” หมายความว่า โรคติดต่อที่ต้องมีการติดตาม ตรวจสอบ
หรือจัดเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
“โรคระบาด” หมายความว่า โรคติดต่อหรือโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรค
แน่ชัด ซึ่งอาจแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง
“พาหะ” หมายความว่า คนหรือสัตว์ซึ่งไม่มีอาการของโรคติดต่อปรากฏแต่ร่างกาย
มีเชื้อโรคนั้น ซึ่งอาจติดต่อถึงผู้อื่นได้
“ผู้สัมผัสโรค” หมายความว่า คนซึ่งได้เข้าใกล้ชิดคน สัตว์ หรือสิ่งของติดโรค จนเชื้อ
โรคนั้นอาจติดต่อถึงผู้นั้นได้
“ระยะติดต่อของโรค” หมายความว่า ระยะเวลาที่เชื้อโรคสามารถแพร่จากคนหรือ
สัตว์ที่มีเชื้อโรคไปยังผู้อื่นได้โดยทางตรงหรือทางอ้อม
“แยกกัก” หมายความว่า การแยกผู้สัมผัสโรคหรือพาหะไว้ต่างหากจากผู้อื่นในที่
เอกเทศ เพื่อป้องกันมิให้เชื้อโรคแพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมไปยังผู้ซึ่งอาจได้รับเชื้อโรคนั้น ๆ ได้
“กักกัน” หมายความว่า การควบคุมผู้สัมผัสโรคหรือพาหะให้อยู่ในที่เอกเทศ เพื่อ
ป้องกันมิให้เชื้อโรคแพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมไปยังผู้ซึ่งอาจได้รับเชื้อโรคนั้นๆได้
เขตติดโรค” หมายความว่า ท้องที่หรือเมืองท่าใดนอกราชอาณาจักรที่มีโรคติดต่อ
อันตรายหรือโรคระบาดเกิดขึ้น
“การสอบสวนโรค” หมายความว่า กระบวนการเพื่อหาสาเหตุ แหล่งที่เกิดและ
แหล่งแพร่ของโรคเพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรค
“การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค” หมายความว่า การกระทำทางการแพทย์ต่อคน หรือ
สัตว์โดยวิธีการใด ๆ เพื่อให้คนหรือสัตว์เกิดความต้านทานโรค
“ช่องทางเข้าออก” หมายความว่า ช่องทางหรือสถานที่ใด ๆ ที่ใช้สำหรับผ่านเข้าออกระหว่างประเทศของผู้เดินทาง พาหนะ และสิ่งของต่าง ๆ ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงพื้นที่หรือบริเวณที่จัดไว้เพื่อให้บริการดังกล่าว
หมวด
หมวด ๑
บททั่วไป
หมวด ๒ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ
หมวด ๓ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
หมวด ๔
คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร
หมวด ๕ เฝ้าระวังโรคติดต่อ
หมวด ๖
การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ
หมวด ๗
เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
หมวด ๘
ค่าทดแทน
หมวด ๙ บทกำหนดโทษ
พระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐
ยา หมายความว่า
วัตถุที่รับรองไว้ในตำรายำที่รัฐมนตรีประกาศ
วัตถุที่มุ่งหมำยสำหรับใช้เป็นอำหำรสำหรับมนุษย์ เครื่องกีฬา เครื่องมือ เครื่องใช้ในกำรส่งเสริมสุขภำพ เครื่องสำอำง หรือเครื่องมือและส่วนประกอบของเครื่องมือที่ใช้ในกำรประกอบโรคศิลปะหรือวิชำชีพเวชกรรม
วัตถุุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ในห้องวิทยาศาสตร์สำหรับการวิจัย การวิเคราะห์ หรือกำรชันสูตรโรคซึ่งมิได้กระทำโดยตรงต่อร่างกายของมนุษย์
“การประกอบวิชาชีพเวชกรรม” หมายความว่า การประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม
“การประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบัน” หมายความว่า การประกอบโรคศิลปะโดยอาศัยความรู้อันได้ศึกษาตามหลักวิทยาศาสตร์
“สารออกฤทธิ์” หมายความว่า วัตถุอันเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของยาที่สามารถมีฤทธิ์บำบัด บรรเทา รักษา หรือป้องกันโรค หรือความเจ็บป่วยของมนุษย์หรือสัตว์
หมวด
หมวด ๑
คณะกรรมการยา
หมวด ๒
การขออนุญาตและออกใบอนุญาตเกี่ยวกับยาแผนปัจจุบัน
หมวด ๓ หน้าที่ของผู้รับอนุญาตเกี่ยวกับยาแผนปัจจุบัน
หมวด ๔ หน้าที่ของเภสัชกร ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันชั้นหนึ่งในสาขาทันตกรรม การผดุงครรภ์หรือการพยาบาลหรือผุ้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์
หมวด ๕
การขออนุญาตและออกใบอนุญาตเกี่ยวกับยาแผนโบราณ
หมวด ๖
หน้าที่ของผู้รับอนุญาตเกี่ยวกับยาแผนโบราณ
หมวด ๗
หน้าที่ของผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ
หมวด ๘
ยาปลอม ยาผิดมาตรฐาน ยาเสื่อมคุณภาพ
หมวด ๙ การประกาศเกี่ยวกับยา
หมวด ๑๐ การขึ้นทะเบียนตำรายา
หมวด ๑๑ การโฆษณา
หมวด ๑๒
พนักงานเจ้าหน้าที่
หมวด ๑๓
การพักใช้ใบอนุญาตและการเพิกถอนใบอนุญาต
หมวด ๑๔ บทกำหนดโทษ
พระราชบัญญัติ
วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙
“วัตถุออกฤทธิ์” หมายความว่า วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทที่เป็นสิ่งธรรมชาติ หรือที่ได้จากสิ่งธรรมชาติ หรือวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทที่เป็นวัตถุสังเคราะห์
“วัตถุตำรับยกเว้น” หมายความว่า วัตถุตำรับที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดให้ได้รับ
“ติดวัตถุออกฤทธิ์” หมายความว่า เสพวัตถุออกฤทธิ์เป็นประจำติดต่อกันจนตกอยู่
ในสภาพที่จำเป็นต้องพึ่งวัตถุออกฤทธิ์นั้น โดยสามารถตรวจพบสภาพเช่นว่านั้นได้ตามหลักวิชาการ
“สถานพยาบาล” หมายความว่า โรงพยาบาล สถานพยาบาล สถานพักฟื้นหรือ
สถานที่อื่นใดที่ให้การบำบัดรักษาผู้เสพหรือผู้ติดวัตถุออกฤทธิ์ ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
“เสพ” หมายความว่า การรับวัตถุออกฤทธิ์เข้าสู่ร่างกายโดยรู้อยู่ว่าเป็นวัตถุออกฤทธิ์ไม่ว่าด้วยวิธีใด
หมวด
หมวด ๑ คณะกรรมการวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
หมวด ๒
การขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับวัตถุออกฤทธิ์
หมวด ๓
หน้าที่ของผู้รับอนุญาต
หมวด ๔ หน้าที่ของเภสัชกร
หมวด ๕
วัตถุออกฤทธิ์ที่ห้ามผลิต ขาย นำเข้าหรือส่งออก
หมวด ๖
การขึ้นทะเบียนวัตถุตำรับ
หมวด ๗
การโฆษณา
หมวด ๘
พนักงานเจ้าหน้าที่
หมวด ๙
การพักใช้ใบอนุญาตและการเพิกถอนใบอนุญาต
หมวด ๑๐
มาตรการควบคุมพิเศษ
หมวด ๑๑
การค้าระหว่างประเทศ
หมวด ๑๒ บทกำหนดโทษ
พระราชบัญญัติ
เครื่องสำอาง พ.ศ. ๒๕๕๘
เครื่องสำอาง
วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใด
ใช้กับฟันและเยื่อบุในช่องปาก
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความสะอาด ความสวยงาม
“สารสำคัญ”
หมายความว่า วัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง
รัฐมนตรีประกาศกำหนดตามมาตรา ๖ (๓) หรือวัตถุที่ทำให้เกิดสรรพคุณตามข้อความที่กล่าวอ้างไว้
ในฉลาก หรือตามที่ได้จดแจ้งไว้ต่อผู้รับจดแจ้งตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดตามมาตรา ๖ (๔)
เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองความปลอดภัยและอนามัยของบุคคล ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการมีอำนาจประกาศกำหนด
หมวด
หมวด ๑
คณะกรรมการเครื่องสำอาง
หมวด ๒
การจดแจ้งและการรับจดแจ้งเครื่องสำอาง
หมวด ๓
ฉลากเครื่องสำอาง
หมวด ๔
การควบคุมเครื่องสำอาง
หมวด ๕
การเพิกถอนใบรับจดแจ้งเครื่องสำอาง
หมวด ๖ การโฆษณา
หมวด ๗ พนักงานเจ้าหน้าที่
หมวด ๘
การอุทธรณ์
หมวด ๙
บทกำหนดโทษ
พระราชบัญญัติ
คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒
“ซื้อ” หมายความรวมถึง เช่า เช่าซื้อ หรือได้มาไม่ว่าด้วยประการใด ๆ โดยให้ค่าตอบแทนเป็นเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่น
“ขาย” หมายความรวมถึง ให้เช่า ให้เช่าซื้อ หรือจัดหาให้ไม่ว่าด้วยประการใด ๆ โดยเรียนค่าตอบแทน
“สินค้า” หมายความว่า สิ่งของที่ผลิตหรือมีไว้เพื่อขาย
“บริการ” หมายความว่า การรับจัดทำการงาน การให้สิทธิใด ๆ หรือการให้ใช้หรือให้ประโยชน์ในทรัพย์สินหรือกิจการใด ๆ
“ผู้บริโภค”หมายความว่า ผู้ซื้อหรือผู้ได้รับบริการจากผู้ประกอบธุรกิจ
"ผู้ประกอบธุรกิจ” หมายความว่า ผู้ขาย ผู้ผลิตเพื่อขาย ผู้สั่งหรือนำเข้ามาใน
ราชอาณาจักรเพื่อขายหรือผู้ซื้อเพื่อขายต่อซึ่งสินค้า
หมวด
หมวด ๑ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บิรโภค
หมวด ๒
การคุ้มครองผู้บริโภค
ส่วนที่ ๑
การคุ้มครองผู้บริโภคในด้านการโฆษณา
ส่วนที่ ๒ การคุ้มครองผู้บริโภคในด้านฉลาก
ส่วนที่ ๓
การคุ้มครองผู้บริโภคโดยประการอื่น
หมวด ๓
การอุทธรณ์
หมวด ๔ บทลงโทษ
พระราชบัญญัติ
สุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑
“ความผิดปกติทางจิต”
หมายความว่า อาการผิดปกติของจิตใจที่แสดงออกมาทาง
พฤติกรรม อารมณ์ ความคิด ความจำ สติปัญญา ประสาทการรับรู้ หรือการรู้เวลา สถานที่ หรือบุคคล
รวมทั้งอาการผิดปกติของจิตใจที่เกิดจากสุราหรือสารอื่นที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
“ผู้ป่วย” หมายความว่า บุคคลที่มีความผิดปกติทางจิตซึ่งควรได้รับการบำบัดรักษา
“ผู้ป่วยคดี” หมายความว่า ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้องหรือ
พิจารณาในคดีอาญา
“ภาวะอันตราย” หมายความว่า พฤติกรรมที่บุคคลที่มีความผิดปกติทางจิต
แสดงออกโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน
“สถานบำบัดรักษา” หมายความว่า สถานบำบัดรักษาทางสุขภาพจิตที่รัฐมนตรี
ประกาศกำหนดตามพระราชบัญญัตินี้
หมวด
หมวด ๑ คณะกรรมการ
ส่วนที่ ๑
คณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ
ส่วนที่ ๒
คณะกรรมการสถานบำบัดรักษา
หมวด ๒
สิทธิผู้ป่วย
หมวด ๓
การบำบัดรักษาทางสุขภาพจิต
หมวด ๔
การอุทธรณ์
หมวด ๕ พนักงานเจ้าหน้าที่
หมวด ๖
บทกำหนดโทษ
นางสาวจิรนันท์ ใฝ่จิตร 6001210767 Sec.B เลขที่ 32