Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ เลือดและส่วนประกอบของเลือด - Coggle Diagram
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
เลือดและส่วนประกอบของเลือด
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
หมายถึง การฉีดของเหลวเข้าเส้นเลือดดำโดยตรง วัตถุประสงค์เพื่อ
รักษาภาวะสมดุลของน้ำและสารน้ำในร่างกาย
ให้สารอาหาร วิตามิน และเป็นแหล่งพลังงานแก่ผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้ ก่อนหลังผ่าตัด
รักษาสมดุลกรด-ด่าง
รักษาสมดุลและบริมาณของเลือดและส่วนแระกอบเลือด
ให้ฉีดยาบางชนิดเข้าทางหลอดเลือดดำ
หลักการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำส่วนปลาย
เป็นการให้สารน้ำหรือของเหลวทางหลอดเลือดดำที่อยู่ในชั้นตื้นๆของผิวหนัง
Heparin Lock = คาเข็มที่หล่อด้วนสารการแข็งตัวของเลือด เจือจางไว้เพื่อการให้สารละลายและยาเข้าทางหลอดเลือดดำเป็นครั้งคราว
Piggy back IV Administration = ให้สารน้ำขวดที่ 2 มีขนาดบรรจุ 25-250 มล. ต่อเข้ากับชุดให้สารน้ำขวดแรก เพื่อให้ยาหยดช้าๆ
.ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำใหญ่
ให้สารน้ำทาง Central line ทางหลอดเลือดดำใหญ่ๆ
Subclavian vein
Internal & External jugular veins
Right & Left Nominate veins
ให้ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปาก
ให้สารน้ำและสารละลายทางหลอดเลือดดำใหญ่
ผ่านอุปกรณ์ที่ฝังไว้ใต้ผิวหนัง
ฝังอุปกรณืที่ใช้ในการให้ของเหลวไว้ใต้ผิวหนัง โดยปลายสายสอดผ่านเข้าหลอดเลือดดำใหญ่ สำหรับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องให้สารละลายทางหลอดเลือดดำเป็นระยะๆ และไม่สามารถละลายผ่านหลอดเลือดดำส่วนปลายได้
ชนิดของสารน้ำที่ให้ทางหลอดเลือดดำ
สารละลายไอโซโทนิก
มีความเข้มข้นเท่ากับน้ำนอกเซลล์ ซึ่งมีออสโมลาริตี้ระหว่าง 280-310 mOsm/l
เมื่อให้ทางหลอดเลือดดำจะไม่มีการเคลื่อนที่ของน้ำหรือออกจากเซลล
สารละลายไฮฌปโทนิก
ออสโมลาริตี้น้อกว่า280 mOsm/l
คือ น้อยกว่าน้ำนอกเซลล์ เป็นสารน้ำที่มีโมเลกุลอิสระ
ของสารน้ำมากกว่าในเซลล์
เกิดการเคลื่อนที่ของนำเข้าสู่เซลล์ ควรให้สารน้ำชนิดนี้อย่างช้าๆ เพื่อป้องการรบกวนเซลล์
สารละลายไฮเปอร์โทนิก
มีค่าออสโมลาริตี้มากว่า 310 mOsm/l มากว่าน้ำนอกเซลล์
มีโมเลกุลอิสระของน้ำน้อยกว่าในเซลล์ ทำให้เกิดการดึงน้ำจากเซลล์เข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือด
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่ออัตราการหยดของสารน้ำ
ระดับขวดสารน้ำสูง/ต่ำเกินไป หากสูงสารน้ำจะหยดเร็ว และหาต่ำสารน้ำจะหยดช้า
ความหนืดของสารน้ำ ถ้าหนืดมากจะหยดช้า
ขนาดเข็มที่แทงเข้าหลอดเลือดดำ
เกลียวปรับบังคับหยดที่ลื่นมาก จะบังคับได้ไม่ดีพอ
สายให้สารน้ำ มีความยาวมาก มีการหักหนองอ
หรือถูกกด สารน้ำจะผ่านได้ไม่สดวก
การถูกยึดบริเวณหลอดเลือด แน่นหรือตึงเกินไป
การเคลื่อนย้านหรือเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ป่วย
การปรับอัตราหยดของผู้ป่วยเด็กที่เอื้อมมือไปหมุนเล่น หรือญาติหมุนเอง
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
เลือกตำแหน่งที่จะแทง
เลือกหลอดเลือดจากแขนผู้ป่วยข้างที่ไม่ถนัด
เริ่มแทงเข็มที่หลอดเลือดดำส่วนปลายก่อน
ตรวจสอบบริเวณตำแหน่งที่จะแทงเข็มว่ามีสภาพที่เหมาะสม
ถ้าจำเป็นต้องยึดแขนขา หลีกเลี่ยงการแทงเข็มให้สารน้ำ
หลีกเลี่ยงบริเวรข้อพับ
คำนึงถึงชนิดของสารน้ำที่ให้ หากเป็นHypertonic เพราะมีความเข้มข้นของสารละลายสูงและมีความหนืด
อุปกรณ์ที่ใช้
ขวดสารน้ำ
ชุดให้สารน้ำ มีทั้งชุดธรรมดาและชนิดหยดเล็ก
เข็มที่ใช้แทงเข้าหลอดเลือดดำส่วนปลาย นิยมใช้มากสุดในปัจจุบัน
เสาแขวนขวดให้สารน้ำ
ยางรัดแขน
แผ่นโปร่งใสปิดตำแหน่งที่ติดเข็ม
ไม้รองแขวน
พลาสเตอร์
ลำลีปลอดเชื้อชุบAlcohol
ถุงมือสะอาด
อาการแทรกซ้อนจากการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
เกิดขึ้นเฉพาะที่
การบวมเนื่องจากสารน้ำซึมออกนอกหลอดเลือดดำ
ผู้ป่วยรู้สึกปวดแสบบริเวณที่บวมและไม่สุขสบาย
มีเลือดออกและแทรกซึมเข้าใต้ผิวหนังบริเวณที่แทงเข็ม
รติดเชื้อเฉพาะที บวม แดง ร้อน อาจมีหนองบริเวณที่แทงเข็ม
หลอดเลือดดำอักเสบ โดยมีระดับการอักเสบดังนี้
Grade 0 ไม่มีอาการ
Grade 1 ผิวหนังบริเวณแทงเข็มแดง มีอาการปวดหรือไม่มีก็ได้
Grade 2 ปวดบริเวณที่แทงเข็ม ผิวหนังบวมหรือไม่บวมก็ได้
Grade 3 ปวดบริเวณที่แทงเข็ม ผิวหนังบวมแดงเป็นทาง คลำได้หลอดเลือดแข็งเป็นลำ
Grade 4 ปวดบริเวณที่แทงเข็ม ผิวหนังบวมแดงเป็นทาง คลำได้หลอดเลือดแข็งเป็นลา ความยาวมากกว่า 1 นิ้ว มีหนอง
การพยาบาล
หยุดให้สารน้ำจัดแขนข้างที่บวมให้สูงกว่าลำตัวผู้ป่วย
ประคบด้วยความร้อนเปียก
เปลี่ยนที่แทงเข็มให้สารน้้ำใหม่
รายงานให้แพทย์ทราบเพื่อให้การรักษา
จัดแขนข้างที่บวมให้สูงกว่าลำตัวผู้ป่วย
ส่งหนองบริเวณที่แทงเข็มเพาะเชื้อ
เกิดขึ้นในระบบไหลเวียนเลือด
การแพ้ยาหรือสารน้ำที่ได้รับ มีผื่นขึ้นตามผิวหนัง
ติดเชื้อในกระแสเลือด
เกิดฟองอากาศในกระแสเลือด
ให้สารน้ำเร็วเกินและมากเกินไป สารน้ำมีอัตราการหยดเร็วเกินไป อาจเกิดอาการหัวใจวาย
การพยาบาล
หยุดการให้สารน้ำ
เปลี่ยนขวดให้สารน้ำ
ช่วยเหลือตามอาการ เช่น การให้ออกซิเจนที่ผู้ป่วยหายใจไม่ออก
วัดอุณหภูมิ ชีพจร การหายใจ และความดันโลหิต
เพื่อดูการเปลี่ยนแปลง
เตรียมรถ Emergency ในการช่วยเหลือเร่งด่วน
รายงานให้แพทย์ทราบเพื่อให้การรักษา
ส่งเลือดและหนองที่เกิดเฉพาะที่ไปเพาะเชื้อ
ดูแลให้ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
ดูแลให้ออกซิเจน
จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนศีรษะต่ ากรณีความดันโลหิตต่ า หรือจัดให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูงกรณี ความดันโลหิตสูง
การใช้กระบวนการพยาบาลในการให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ
ขั้นตอนที่1
การประเมินสภาพผู้ป่วย
การประเมินด้านร่างกาย
ระดับความรู้สึกตัว
พยาธิสภาพของโรค ประวัติเจ็บป่วย โรคของผู้ป่วย และโรคหรืออาการแทรกซ้อน
การประเมินด้านจิตใจ
ความพร้อมของการรับบริการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ความต้องการรับบริการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
วิตกกังวลและความกลัว
การประเมินสิ่งแวดล้อม
ความสะอาดของสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้ป่วยและรอบเตียง
ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสิ่งแวดล้อมผู้ป่วย
ความพร้อมใช้ของสิ่งแวดล้อมตัวผู้ป่วย
บรรยากาศในหอผู้ป่วย และมีอากาศถ่ายเทสะดวก
การประเมินแผนการรักษา
ตรวจสอบแผนการรักษา
ตรวจสอบชนิดของสารน้ำตามแผนการรักษา ชนิด ปริมาณ อัตรา และเวลา
ขั้นตอนที่ 2
ข้อวินิจฉัย
มีความพร้อมในการเริ่มให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ตามแผนการรักษา
ขั้นตอนที่ 3
การวางแผนในการให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ
ประยุกต์ใช้หลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goal
วัตถุประสงค์การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ทดแทนน้ำที่สูญเสียจากร่างกาย
ให้สารน้ำเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
ในรายที่ไม่สามารถรับประทานได้ทางปาก
ให้ยาบางชนิดที่ไม่สามารถดูดซึมทางระบบ
ทางเดินอาหาร หรือยารับประทานที่จะถูกทำลายโดยน้ำย่อย
ในกระเพาะอาหาร
รักษาสมดุลของกรด-ด่างในร่างกาย ในรายที่มีภาวะ
เสียสมดุลกรด–ด่าง
ช่องทางในการฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ ติดต่อกัน
เป็นเวลานาน โดยให้ปริมาณของยาในกระแสโลหิต
อยู่ในระดับสม่ำเสมอกัน
แก้ไขความดันโลหิต
เกณฑ์การประเมิน
ผู้ป่วยได้รับสารน้ าทางหลอดเลือดดำไม่พบอาการแทรกซ้อนและปลอดภัยตามหลักการ 6 Rights
และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goals
ขั้นตอนที่ 4
การให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ
อุปกรณ์
intravenous fluid
intravenous catheter
intravenous set
tourniquet
สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
extension tube
three ways
เสาน้้ำเกลือ
พลาสเตอร์
แผ่นฉลากชื่อ
ถุงมือสะอาด mask
ขั้นตอนที่ 5
การประเมินผลการให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ
ประเมินผลการให้สารน้ำทางหลอดเลือด
ประเมินอาการแทรกซ้อนและอาการข้างเคียง
ประเมินสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย
ประเมินความสุขสบาย
ประเมินความพึงพอใจ
ประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล
ประเมินการปฏิบัติถูกต้องครบและเป็นไปตามขั้นตอนของการปฏิบัติ
ประเมินการจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ครบถ้วน
เพียงพอหรือไม่
ประเมินผลคุณภาพการบริการ
ประเมินคุณภาพของการปฏิบัติงานในข้อ 2
อยู่ในคุณภาพระดับใด
ประเมินคุณภาพของการให้บริการ ข้อ 3
อยู่ในคุณภาพระดับใด
การใช้กระบวนการพยาบาลในการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ
ขั้นตอนที่ 1
การประเมินสภาพผู้ป่วย
ด้านร่างกาย
ระดับความรู้สึกตัว
ประวัติการแพ้ยา
พยาธิสภาพของโรค ประวัติเจ็บป่วย โรคของผู้ป่วย
และโรคหรืออาการแทรกซ้อน
ด้านจิตใจ
ความพร้อมของการรับบริการฉีดยา
ความต้องการรับบริการฉีดยา
ความวิตกกังวลและความกลัว
สิ่งแวดล้อม
ความสะอาดของสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้ป่วยและรอบเตียง
ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสิ่งแวดล้อมผู้ป่วย
ความพร้อมใช้ของสิ่งแวดล้อมตัวผู้ป่วย
บรรยากาศในหอผู้ป่วย และมีอากาศถ่ายเทสะดวก
ขั้นตอนที่ 2
ข้อวินิจฉัย
การบริหารยาที่มีประสิทธิภาพโดยใช้หลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goals
ขั้นตอนที่ 3
การวางแผนในการบริหารยา
การวางแผนบริหารยาตามหลักการ 6 Right และหลักความปลอดภัย SIMPIE ของ patient safety goals
วัตถุประสงค์
ให้ยาออกฤทธิ์เร็ว
ให้ยาที่มีผลระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ
ให้ยาชนิดที่ไม่สามารถให้ทางอื่นได้ผลต่อการรักษา
เกณฑ์การประเมิน
ผู้ป่วยปลอดภัยตามหลักการ 6 Rights
ผู้ป่วยปลอดภัยตามหลักความปลอดภัย SIMPLE
ของ patient safety goals
ขั้นตอนที่ 4
วิธีการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ
(ยกตัวอย่าง)
แบบที่ 1
IV plug กับ piggy back (100 ml)
อุปกรณ์
ยาฉีดผสมใน piggy back
IV set ใช้ drip ยา พร้อมเข็มเบอร์ 23
syringe 0.9 % NSS 3 ml พร้อมเข็มเบอร์ 23 จ านวน 2 อัน
สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
ถุงมือสะอาด, mask
วิธีการฉีดยา
ตรวจสอบความถูกต้องเกี่ยวกับข้อมูลแผนการรักษา
แจ้งผู้ป่วยว่าจะมาทำการรักษา
มือซ้ายเช็ดท าความสะอาด IV plug ด้วยสำลี
ชุบแอลกอฮอล์ 70%
แขวน piggy back กับเสาน้ำเกลือ มือขวาหยิบ syringe 0.9 % NSS 3 ml ถอดปลอกเข็ม วางลงบนถาด
แล้วไล่อากาศออกให้หมด
มือซ้ายยก IV plug ขึ้นเล็กน้อย มือขวาจับ syringe
0.9 % NSS แทงเข็มตรงจุกยางของ IV plug ดึง plunger
มือซ้ายเลื่อนลงมาจับที่หัวเข็ม ดันplunger ฉีด 0.9 % NSS 3 ml จนหมด มือซ้ายเลื่อนไปจับ IV plug
มือขวาดึง syringe ออกเก็บปลอกเข็มใช้มือข้างเดียว
ถอดปลอกเข็มของ IV set ไล่อากาศออกให้หมด
เมื่อยาฉีดหมด ปิด clamp มือขวาดึงเข็มออก
ปิดปลอกเข็มด้วยมือข้างเดียว
ขั้นตอนที่ 5
การประเมินผลการบริหารยาฉีดเข้าทางหลอดเลือดด้า
การประเมินผลการบริหารยาฉีด
ประเมินอาการแทรกซ้อนและอาการข้างเคียง
ประเมินสภาพร่างกายและจิตใจ
ประเมินความสุขสบายของผู้ป่วยและจัดท่านอนให้
สุขสบายและเหมาะสม
ประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วย
ประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล
ประเมินการปฏิบัติถูกต้องครบและเป็นไปตามขั้นตอนของการปฏิบัติ
ประเมินการจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ครบถ้วนเพียงพอ
ประเมินผลคุณภาพการบริการ
ประเมินคุณภาพของการปฏิบัติงานในข้อ 2
อยู่ในคุณภาพระดับใด
ประเมินคุณภาพของการให้บริการ ข้อ 3
อยู่ในคุณภาพระดับใด
การให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
วัตถุประสงค์
ให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการของร่างกาย โดยผ่านทางหลอดเลือดเลือดดำ
ทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป
ข้อบ่งชี้ในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดด้า
อุจจาระร่วงเรื้อรัง การอักเสบในระบบทางเดินอาหาร
ลำไส้อักเสบจากการฉายรังสี
ภาวะไตวาย โรคหัวใจแต่กำเนิด
ถูกน้ำร้อนลวก ภายหลังการผ่าตัด
anorexia nervosa
มะเร็งต่างๆ
ส่วนประกอบของสารอาหารในสารละลาย
คาร์โบไฮเดรต
สารละลายไขมัน
โปรตีนอยู่ในรูปกรดอะมิโน
วิตามิน
เกลือแร่
น้ำ
ชนิดของสารอาหารทางหลอดเลือดด้า
Total parenteral nutrition
มีความเข้มข้นสูงมาก จeเป็นต้องให้ทาง Central vein
จึงจะไม่เกิดการอักเสบของหลอดเลือดดำ
Partial or peripheral parenteral nutrition
ให้โภชนาบำบัดทางหลอดเลือดดำเพียงบางส่วน
อาจได้พลังงานไม่ครบตามความต้องการ
ต้าแหน่งของการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
หลอดเลือดดำแขนง
หลอดเลือดดำใหญ่
อาการแทรกซ้อนจากการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
บวมเนื่องจากมีสารอาหารเข้าไปอยู่ในเนื้อเยื่อชั้นผิวหนัง
เกิดการสะสมของเลือด และเกร็ดเลือด ถ้าก้อนเลือดหลุดออกไปในหลอดเลือดและไปอุดตัน การไหลเวียนของเลือดที่
จะไปเลี้ยงอวัยวะ ต่างๆ ที่สำคัญๆ
่มีปัญหาของ ระบบไหลเวียนเลือด และไต
อาจเนื่องจากให้สารอาหารที่เร็วเกินไป
ไข้
การหยุดให้สารอาหารทางหลอดเลือดด้า
เมื่อไม่มีความจำเป็นที่จะให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำให้งดสารละลายไขมันได้ทันที และลดความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโคส และกรดอะมิโนลง รวมทั้งเกลือแร่ต่างๆ
การใช้กระบวนการพยาบาลในการให้้เลือดและส่วนประกอบของเลือด
ขั้นตอนที่1
การประเมินสภาพผู้ป่วย
การประเมินด้านร่างกาย
ระดับความรู้สึกตัว
พยาธิสภาพของโรค ประวัติเจ็บป่วย โรคของผู้ป่วย
และโรคหรืออาการแทรกซ้อน
การประเมินด้านจิตใจ
ความพร้อมของการรับบริการให้เลือดและสารประกอบของเลือด
ความต้องการรับบริการให้เลือดและสารประกอบของเลือด
ความวิตกกังวลและความกลัว
การประเมินสิ่งแวดล้อม
ความสะอาดของสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้ป่วยและรอบเตียง
ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสิ่งแวดล้อมผู้ป่วย
ความพร้อมใช้ของสิ่งแวดล้อมตัวผู้ป่วย
บรรยากาศในหอผู้ป่วย และมีอากาศถ่ายเทสะดวก
การประเมินแผนการรักษา
ตรวจสอบแผนการรักษา และประวัติการรับเลือด
ตรวจสอบชนิดของเลือดและส่วนประกอบของเลือด
ตามแผนการรักษา ชนิด ปริมาณ อัตรา และเวลา
ขั้นตอนที่ 2
ข้อวินิจฉัย
มีความพร้อมในการเริ่มให้เลือดและสารประกอบของเลือดตามแผนการรักษา
ขั้นตอนที่ 3
การวางแผนในการให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด
วางแผนให้ผู้ป่วยได้รับเลือดและสารประกอบของเลือดโดยประยุกต์ใช้หลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goals
วัตถุประสงค์การรักษา
ทดแทนปริมาณเลือดที่สูญเสียไป
ทดแทนเม็ดเลือดแดง และรักษาระดับฮีโมโกลบิน
ทดแทนปัจจัยการแข็งตัวของเลือด
เกณฑ์การประเมิน
ผู้ป่วยได้รับเลือดและสารประกอบของเลือดไม่พบ
อาการแทรกซ้อนและปลอดภัยตามหลักการ 6 Rights
และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goals
ขั้นตอนที่ 4
การให้เลือดและสารประกอบของเลือด
อุปกรณ์
intravenous fluid
intravenous catheter
blood transfusion set
tourniquet
สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
extension tube
three ways
IV stand
พลาสเตอร์
แผ่นฉลากชื่อ
ถุงมือสะอาด mask
ขั้นตอนที่ 5
การประเมินผลการให้เลือดและสารประกอบของเลือด
การประเมินผลการให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด
การประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล
การประเมินผลคุณภาพการบริการ
การดูแลผู้ป่วยภายหลังได้รับเลือด
ตรวจสอบสัญญาณชีพหลังการให้เลือด 15 นาที
และต่อไปทุก 4 ชั่วโมง
สังเกตปฏิกิริยาที่เกิดจากการให้เลือดอย่างต่อเนื่อง
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับความสุขสบายตลอดระยะเวลาที่ให้เลือด
บันทึกหมู่เลือด ชนิดของเลือด หมายเลขเลือด ปริมาณเลือด วัน เวลา ชื่อผู้ให้ เลือด และบันทึกอาการของผู้ป่วย
หลังให้เลือด ลงในแบบบันทึกการพยาบาล
การบันทึกปริมาณน้้าเข้า-ออกจากร่างกาย
หลักการบันทึกจ้านวนสารน้้าที่เข้าและออกจากร่างกาย
1) แบบฟอร์มการบันทึกควรแขวนไว้ที่เตียงผู้ป่วย
เพื่อสะดวกในการจดบันทึกและเมื่อครบ 24 ชั่วโมง
ต้องสรุปลงในแผ่นรายงานประจำตัวของผู้ป่วยหรือฟอร์มปรอท
2) อธิบายเหตุผลและความสำคัญของการวัด
และการบันทึกจำนวนน้้ำที่รับเข้าและขับออกจากร่างกาย
3) ร่วมกับผู้ป่วยในการวางแผนกำหนดจำนวนน้ำที่เข้าสู่ร่างกายในแต่ละช่วงเวลา
4) จดบันทึกจำนวนน้ำและของเหลวทุกชนิดที่ให้ขณะมื้ออาหารและระหว่างมื้ออาหาร พร้อมทั้งอธิบายให้ผู้ป่วยดื่มน้ำในขวดที่เตรียมไว้ให้ ไม่นำน้ำที่เตรียมไว้ไปบ้วนปากหรือเททิ้ง
5) การจดบันทึกควรสรุปทุก 8 ชั่วโมง และทุกวัน
6) บันทึกจำนวนสารน้ำที่สูญเสียทางอื่น ๆ
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมความสมดุลของสารน้้าในร่างกาย
การประเมินภาวะสุขภาพ
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
การวางแผนการพยาบาล
การปฏิบัติการพยาบาล
การประเมินผลการพยาบาล