Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
13 การรักษาพยาบาลเบื้องต้น สำหรับกรณีฉุกเฉินทางศัลยกรรม - Coggle Diagram
13 การรักษาพยาบาลเบื้องต้น สำหรับกรณีฉุกเฉินทางศัลยกรรม
หัตถการที่อยู่ในขอบเขตของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ที่ สามารถกระทำการพยาบาลโดยการทำหัตถการตามขอบเขตที่กำหนด
การทำแผล การตกแต่งบาดแผล การเย็บแผล การตัดไหม การผ่าฝีในตำแหน่งซึ่งไม่เป็นอันตรํายต่อ อวัยวะสำคัญของร่างกาย การถอดเล็บ และการจี้หูดหรือจี้ตาปลา
การผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในตำแหน่งซึ่งไม่เป็นอันตรายต่ออวัยวะสำคัญของร่างกายออก โดยฉีด ยาระงับความรู้สึกทางผิวหนัง
วัตถุประสงค์ของการเย็บแผล
เพื่อให้เลือดที่ออกจํากบําดแผลหยุด เป็นการป้องกันการเสียเลือด
เพื่อให้ขอบแผลชิดติดกัน ทำให้เกิดแผลเป็นน้อยที่สุด
เพื่อให้อวัยวะที่เกิดบาดแผลนั้นๆ สามารถทำหน้าที่ได้อย่างปกติ
เพื่อลดความเจ็บปวด และป้องกันการติดเชื้อ
การประเมินแผลโดยการซักประวัติ(AMPLE history, what, when, where) และตรวจร่างกาย
เครื่องมือในการเย็บแผล
มีดผ่าตัด (scalpel)
ด้ามมีดเบอร์3 สามารถใช้ได้กับใบมีดขนาดเบอร์ 10, 11 และ 15
ด้ามมีดเบอร์ 4 ใช้กับใบมีดเบอร์ 20
การถือด้ามมีดมี 2 แบบ กํารถือแบบ table knife grip และ Pen grip
กรรไกร
หลักการจับกรรไกร นิ้วหัวแม่มือและนิ้วนางสอดเข้าบริเวณโกร่งกรรไกร นิ้วชี้จะควบคุมการเคลื่อนไหว
ของปลายกรรไกร เวลาตัดไหมหรือต้องการควบคุมมือไม่ให้สั่นกระตุกควรจะวํางกรรไกรให้แตะกับหลังมือซ้าย
Needle holder สำหรับจับเข็มที่จะใช้เย็บ เพื่อคุมน้ำหนัก และทิศทํางในการเย็บแผล มีหลายขนําด ความยาว ขนาดยาวสำหรับจับเข็มขนาดใหญ่ ขนาดสั้นสำหรับเข็มขนาดเล็ก
ปากคีบ (Forceps)
Needle
ไหมเย็บแผล
ข้อมูลในการพิจารณาตัดสินใจเย็บแผล และไม่เย็บแผล
ข้อมูลในการพิจารณาตัดสินใจเย็บแผล
บาดแผลเกิดขึ้นภายใน 24ชั่วโมง
บาดแผลสะอาด หรือได้ทำความสะอาดตกแต่งบาดแผลเป็นอย่างดีแล้ว
ไม่มีน้ำเลือด หรือน้ำเหลืองตกค้าง
ไม่เกิดช่องว่างเสียเปล่า (Deep space) ถ้าเย็บแผลแล้วเกิดช่องว่างภายใน อําจมีน้ำเหลือง (serum) เลือด มาคั่งอยู่ อาจเกิดการติดเชื้อได้
ไม่ติดเชื้อ ไม่มีลักษณะอักเสบ เป็นหนอง
มีเลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้นอย่างเพียงพอ
มีผิวหนังที่พอจะดึงรั้งเข้ามาหากันได้ โดยไม่ตึง ซึ่งจะทำให้ไม่มีเลือดมาเลี้ยงผิวหนังบริเวณนี้
ข้อมูลในการพิจารณาตัดสินใจไม่เย็บแผล
บาดแผลมีความสกปรกมาก ๆ เช่น บาดแผลที่เกิดจากสัตว์กัด ตกท่อน้ำ เป็นต้น
บาดแผลที่เกิดนานกว่า 24ชั่วโมง
บาดแผลที่มีการอักเสบติดเชื้อ บวมแดง เริ่มมีเนื้อตําย เขียว คล้ำ หรือมีหนอง
ขอบแผลห่างกันมําก ไม่สามารถนำมาเย็บติดกันได้
หลักทั่วไปในการฉีดยาชา
การฉีดยาชาเฉพาะที่ จะฉีดตามลักษณะบาดแผล ในลักษณะกระจาย (infiltration) รอบ ๆ บริเวณ แผล เพื่อยาชาจะได้กระจายโดยทั่ว ควรฉีดยาเข้าไปในบริเวณผิวหนังก่อน
เทคนิคการฉีดยาชาเฉพาะที่
1. Infiltration Anesthesia
ใช้บ่อยในการผ่าตัดเล็กที่แผนกผู้ป่วยนอก ใช้เข็มฉีดยาขนาดเล็กเบอร์ 23 หรือ 25 ฉีดเข้าใต้ผิวหนังบริเวณที่ต้องการผ่าตัดจนกระทั่งเป็นรอยนูน (wheal) รอบห่างจํากบริเวณที่จะลงมีด 1 – 2 ซม. ถ้าแผลขนาดใหญ่อาจต้องฉีดหลายครั้ง ขณะที่ฉีดยาเข้าผิวหนังควรจะดูดกระบอกฉีดยาทุกครั้ง เพื่อ ป้องกันการฉีดยาเข้าหลอดเลือดเวลาเย็บแผลฉีกขาดหรือถูกของมีคมบําดไม่ควรจะฉีดยาชาเข้าบริเวณที่จะเย็บ ควรฉีดยารอบ ๆ แผล
2. Field block
ใช้เมื่อต้องการบริเวณที่จะทำการผ่าตัดกว้าง ใช้เข็มเบอร์ 22 ชนิดยําวฉีดใต้ผิวหนังรอบ บริเวณที่ต้องการผ่าตัด เมื่อต้องการฉีดเข้าผิวหนังส่วนอื่นอีกต่อไปให้ปักเข็มลงบริเวณที่ฉีดยาแล้ว หลังจากฉีดยาชารอบ (perimeter) แล้ว การฉีดยาชาครั้งสุดท้ายควรจะฉีดใน perimeter ใต้ชั้น fascia เพื่อยาชาจะได้ออกฤทธิ์ทั่วถึง
3. Nerve or Regional block
ใช้สำหรับบริเวณหรือตำแหน่งที่ทราบการกระจายของเส้นประสาทที่มาเลี้ยงผิวหนังแน่นอน ที่ใช้บ่อยมีdigital block โดย digital nerve จะทอดผ่านกระดูกข้อนิ้วทาง volar site หลัง ทำความสะอาดผิวหนังแล้วให้ฉีดยาชาเข้าใต้ผิวหนังของนิ้วทางด้านข้างและ distal ต่อ M – P joint สอดปลาย เข็มเข้าทางบริเวณของ digital nerve ฉีดยาชาเล็กน้อย หลังจากนั้นฉีดยาชารอบ digital nerve เป็นรูป fan shape ข้อควรระวังคือ ห้ํามใช้ยาชาเฉพาะที่ซึ่งผสม epinephrine ส ําหรับนิ้วเพราะจะทำให้เกิดการเน่าตายได้ ถ้ําต้องการไม่ให้มีเลือดออก(bloodless field) ในขณะผ่ําตัด สามารถใช้ยางรัดของรัดโคนนิ้ว แต่ไม่ควรพันทิ้งไว้ นานเกินกว่า30 -40 นาที
การตกแต่งบาดแผล(Debridement)
ในการตกแต่งบาดแผลอาจจำเป็นต้องฉีดยาชาเล็กน้อย
ใช้กรรไกรตัดเนื้อตําย หรือเนื้อที่ชอกช้ำออก
หากขอบแผลกะรุ่งกะริ่งตกแต่งให้เรียบร้อย
ขอบแผลที่ช้ำให้ตัดออก หรือตกแต่งให้เรียบร้อย
คำแนะนำในการดูแลบาดแผล
ไม่ควรให้แผลถูกน้ำเพราะจะทำให้แผลที่เย็บไว้ไม่ติด และเกิดการติดเชื้อ
ยกอวัยวะที่เย็บแผลให้สูง เพื่อลดการคั่งของเลือด และน้ำเหลือง
แผลที่มีการพันผ้าหรือใส่เฝือก เพื่อต้องการให้บริเวณข้อได้พัก ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกให้สังเกตการบวม ปวด รู้สึกแน่น หรือมีอาการชา ให้ผู้ป่วยมาโรงพยาบาลก่อนวันนัด แนะนำให้ยกอวัยวะส่วนนั้นให้สูงเพื่อลดอาการ บวม
ถ้ามีอาการอักเสบ ปวด รอบแผลบวมแดง ร้อน มีหนองให้มาโรงพยาบาลได้ทันที
ให้มารับการตัดไหมเมื่อครบกำหนดนัด
บาดเจ็บที่ทรวงอก
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาล
กรณีมีแผลทะลุ ถ้ามีวัตถุหักคําแผลอยู่ ห้ามดึงวัตถุนั้นออก เพราะอาจทำให้เลือดออกไม่หยุด ให้ใช้ ผ้าปิดแผลแบบหนาๆ ปิดรอบ ๆ บริเวณบาดแผล และยึดวัตถุให้อยู่นิ่ง แต่ถ้าวัตถุหลุดออก หรือมีรอยกระสุนทะลุ เข้าไปในแผล ให้ใช้ผ้ําหนา ๆ ปิดทับลงบนบาดแผล เพื่อไม่ให้อากาศเข้าออกเวลาหายใจ และให้นอนพิงในท่านั่ง เพื่อไม่ให้หายใจลำบาก
กรณีเกิดการบาดเจ็บจากแรงกระแทกหรือแรงเบียด เปิดทางเดินหายใจให้โล่ง จัดให้อยู่ในท่านอน ยกศีรษะสูง เพื่อให้หายใจสะดวก และประเมินลักษณะการหายใจ การเคลื่อนไหวของทรวงอก และเสียงลมที่เข้า ปอดทั้ง 2 ข้าง
ให้ออกซิเจน ตรวจสัญญาณชีพ
งดอาหารและน้ำทางปากทุกชนิด และให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
สิ่งแปลกปลอมเข้าหู
การรักษาพยาบาลเบื้องต้น
ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิต
ถ้าเป็นตัวแมลงตัวเล็ก อาจจะล่อให้ออกมา โดยให้เข้าไปในที่มืด เช่น ปิดไฟห้อง เอาผ้าห่มคลุมโปงแล้วใช้ไฟฉาย ส่งเข้ําไปในรูหู แมลงเห็นแสงไฟ อาจจะออกมาได้เอง รอประมาณ 5 - 10 นาที
หยอดน้ำมันเข้าในรูหู รอประมาณ 15-30 นาที แล้วคีบออก
ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต
ถ้าส่องไฟแล้วเห็นชัดเจน เป็นสิ่งที่คีบออกได้ อยู่ไม่ลึก เช่น เศษสำลี เศษผ้า ผม ก็ให้เอาที่คีบดึงออกได้
ถ้าเป็นสิ่งแปลกปลอมใหญ่ อยู่ตื้นๆ ใช้เครื่องมือที่ต้องสามารถสอดเข้าไประหว่างผนังรูหูและสิ่ง แปลกปลอม เช่น ไม้แคะหูที่มีลักษณะปากแบน เพื่อให้เครื่องมือเข้าไปอยู่ด้ํานหลังของสิ่งแปลกปลอม แล้วค่อยๆ ลากหรือแคะสิ่งแปลกปลอมออกมาภายนอก
สิ่งแปลกปลอมติดคอ
ให้อ้าปากให้กว้าง ถ้าเห็นสิ่งแปลกปลอมชัดเจน ให้ใช้ไม้กดลิ้นที่พันผ้าก๊อซ หรือผ้าสะอาด กดที่ โคนลิ้นแล้วใช้ปากคีบ คีบสิ่งแปลกปลอมออกมา
ถ้าเป็นก้างหรือกระดูกขนาดเล็ก ให้ดื่มน้ำมากๆ กลืนก้อนข้าวสุก หรือกลืนขนมปังนุ่ม ๆ เพื่อให้ ก้างหรือกระดูกหลุดลงไปในกระเพาะอาหาร
ห้ามใช้มือแคะหรือล้วง เพราะจะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่มีสิ่งแปลกปลอมฝังอยู่ บวม แดง ทำให้เอา ออกยากขึ้น และอาจทำให้อักเสบและติดเชื้อตามมาได้
ถ้ามองไม่เห็นสิ่งแปลกปลอม ให้ส่งต่อโรงพยาบาล
การให้ยาปฏิชีวนะ
แผลสดจากอุบัติเหตุ หมายถึง แผลที่เกิดภายใน 6 ชั่วโมงก่อนมารับการรักษา แผลสดจากอุบัติเหตุมากกว่าร้อยละ 60 ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ
ใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับแผลสัตว์กัด มีเนื้อตาย ลึกถึงกล้ามเนื้อ เอ็น กระดูก ขอบไม่เรียบยาวกว่า 5 เซนติเมตร เย็บไม่สนิท เกิดจากการบดอัด ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียมาก (เช่นอุจจาระ น้ำสกปรก) หรือมีสิ่งสกปรก ที่ล้างออกไม่หมด เช่น เศษดิน ถูกวัตถุทิ่มตำเป็นรูลึก
แผลปนเปื้อนไม่มาก ไม่มีสิ่งแปลกปลอมในแผล เนื้อเยื่อได้รับการกระทบกระเทือนไม่มาก ขอบแผลเรียบ ให้ยา Amoxicillinติดต่อกัน 5วัน
แผลปนเปื้อนเนื้อเยื่อช้ำ กลไกการบาดเจ็บเป็นแบบ Crushและ Avulsionแผลกะรุ่งกะริ่ง ขอบแผลไม่เรียบ บาดแผลที่เป็นมานานกว่า 6 ชั่วโมง บาดแผลที่ใบหน้านานกว่า 24 ชั่วโมง บาดแผลที่เข้าข้อ เอ็น หรือข้อ กระดูก ให้ยา Cloxacillin ติดต่อกัน 5 วัน
ผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น โรคเบาหวาน โรคตับแข็ง ผู้ติดเชื้อ HIV แผลถูกสัตว์กัด ให้ยา Cloxacillin ติดต่อกัน 5 วัน