Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การการพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลแต่ละวัย - Coggle Diagram
การการพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลแต่ละวัย
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลวัยเด็กและวัยรุ่น
การประยุกต์ใช้การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมในการดูแลเด็ก
หากสื่อสารไม่ได้หรือไม่มีประสิทธิภาพ อาจสื่อสารผ่านญาติที่เป็นคนไทย หรือการใช้ล่าม
อาจทำรูปภาพสื่อสารแทนภาษาพูด
พัฒนาทักษะการสื่อสารกับเด็กตามพัฒนาการของเด็กรวมทั้งผู้ดูแลเด็กด้วยภาษาง่ายๆ
ศึกษาวัฒนธรรมของผู้ป่วยและครอบครัวในด้านต่างๆ
การปฏิบัติพยาบาลควรใช้กระบวนการพยาบาลควบคู่กับการพยาบาลข้ามวัฒนธรรมตามแนวคิดไลนิงเจอร์
ประเทศจีน
นโยบายลูกคนเดียว
(One child policy)
ในปัจจุบันสามารถมีลูกคนที่ 2 ได้
คนจีนชอบที่จะมีลูกชายมากกว่าลูกสาว เพื่อไว้สืบทอดตระกูล
พิธีล้าง
เด็กที่เกิดมาครบ 3 วัน จะมีการทำพิธีล้าง เป็นการอาบน้ำให้เด็กเป็นครั้งแรกตั้งแต่คลอด
ชาวปักกิ่งในสมัยราชวงศ์ชิงจะนำสมุนไพรจีนใส่ลงในน้ำ เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อและอนามัยต่อสุขภาพของเด็ก
พิธีครบเดือน
ชาวจีนโบราณเรียกว่า “หมีเย่ว์”
เป็นพิธีกรรมที่สำคัญที่สุดในบรรดาพิธีกรรมเกี่ยวกับการเกิด
มีการโกนผมไฟ
การจัดเลี้ยงในหมู่ญาติสนิทมิตรสหาย
การตั้งชื่อให้เด็ก
มีการจุดประทัดรื่นเริงในงาน
ขั้นตอนการโกนผมไฟ
อาของเด็กจะอุ้มเด็กให้นั่งตัวตรง
จุดธูปเสร็จก็จะเริ่มโกนผมพร้อมการจุดประทัด
ผู้ที่รับหน้าที่โกนผมจะเอาใบชาที่อมจนเปื่อยในปากชโลมลงบนศีรษะเด็ก
ระมัดระวังไม่ให้เกิดเลือดไหล
ไม่โกนผมทั้งหมด จะเหลือไว้เป็นรูปสี่เหลี่ยมบริเวณโครหน้าผาก
เชื่อว่าใบชาเขียวจะช่วยฆ่าเชื้อโรคบนศีรษะทารกและลบรอยแผลเป็น
ประเทศกัมพูชา
การเกิดถือว่าเป็นอันตรายทั้งต่อแม่และเด็ก
สตรีที่ตายเพราะการคลอดบุตรจะเชื่อว่าเกิดจากการกระทำของปีศาจ
หญิงที่ตั้งครรภ์จึงมีข้อห้ามต่าง ๆมากมาย นิยมมากในชนบท
เด็กจะได้รับการเลี้ยงดูจนอายุประมาณ 2-4 ปี
เด็กอายุ 5 ขวบ มีอิสระมากขึ้น สามารถช่วยดูแลน้อง ๆได้
เด็กอายุ 7-8 ปี จะเริ่มไปโรงเรียน
เด็กอายุ 10 ปี หญิงสามารถเริ่มช่วยงานบ้านได้
เด็กอายุ 10 ปี ชายต้องช่วยงานภายในไร่ ภายใต้การควบคุมของผู้ใหญ่
ในวัยรุ่น มักจะจับกลุ่มเพศเดียวกัน
ยุคก่อนคอมมิวนิสต์ พ่อแม่มีอำนาจปกครองจนกว่าบุตรจะแต่งงาน
ให้การเคารพแพทย์ เพราะถือว่าเป็นกลุ่มคนชั้นสูงในสังคม
เวลาพูดคุยผู้ป่วยจะไม่สบตากับปำทย์ จะก้มหน้า
ชาวกัมพูชา ถือว่าศีรษะเป็นส่วนสำคัญที่สุด
ผู้ให้บริการด้านสุขภาพไม่ควรแตะศีรษะผู้ป่วยก่อนได้รับอนุญาตจากผู้ป่วยเองหรือจากบิดามารดาของผู้ป่วยเด็ก
ประเทศไทย
ความเชื่อเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของเด็ก
ได้รับอิทธิพลจากสังคมรอบข้าง โดยเฉพาะผู้ปกครอง
ได้รับการบอกกล่าวของบิดามารดา
คำสั่งสอนของปู่ย่าตายาย
ครอบครัวที่เลี้ยงดูเด็กจะมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเจ็บป่วยของเด็กเป็นอันดับแรก
ครู ก็มีอิทธิพลรองลงมาจากครอบครัว
เพื่อน จะมีอิทธิพลต่อความเชื่อของเด็ก
ความเชื่อในการดูแลเด็กของคนไทย
ภาคเหนือ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีความคล้ายกับประเทศลาว
มีการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น การสะเดาะห์เคราะห์ การผูกข้อมือเรียกขวัญ การบูชาบวงสรวง
มีการรักษาตามอาการจากแพทย์พื้นบ้าน เช่น มีการใช้สมุนไพร การประคบน้ำมัน
มีการรักษาแบบผสมผสาน เช่น มีการสมุนไพรร่วมกับวิธีการรักษาอื่นๆเช่น การใช้น้ำมนต์ การผูกข้อมือ
มีการรักษาจากอำนาจเหนือธรรมชาติ
มีการรักษาจากแพทย์แผนปัจจุบัน
ความเชื่อในการดูแลเด็กตามสาสนาพุทธ
พิธีการสู่ขวัญ
เด็กอายุครบ 1 เดือน จะมีการโกนผมไฟ
เชื่อว่าจะทำให้เด็กที่มีสุขภาพดีไม่เจ็บป่วยง่าย
ให้ผู้ใหญ่ผูกข้อมือให้ เมื่อเด็กไม่สบายหรืองอแง
จกคอละอ่อน
แม่ช่าง (หมอตำแย) หรือหมอทำคลอดใช้นิ้วมือล้วงเข้าไปในลำคอของทารกแรกคลอด เพื่อล้วงเอาเสลดหรือเลือดที่ติดค้างในลำคอออกมาเชื่อว่าถ้าไม่ทำเช่นนี้ เมื่อโตขึ้นเด็กคนนั้นจะป่วยเป็นโรคหืดหอบได้
น้ำนม
ถ้าเอาน้ำนมของคนทาที่ศีรษะของเด็กทารกที่มีผมบาง จะทำให้ผมขึ้นดกหนา
ถ้าเอาน้ำนมหยอดตาคนที่เป็นโรคตาแดง ก็จะหาย และถ้าเอาน้ำนมมนุษย์ผสมกับดินปืนที่ใช้ทำบอกไฟดอก เชื่อว่าเมื่อจุดบอกไฟจะไม่ค่อยมีควันและมีดอกสวยงามสว่างไสว
เม่า
เป็นโรคที่เกิดขึ้นกับเด็กทารกในช่วงที่ยังกินนม
บริเวณรอบริมฝีปากและลิ้นของเด็กจะมีลักษณะคล้ายกับถูกน้ำร้อนลวกจนสุก
การรักษา พ่อแม่เด็กจะทำกรวยดอกไม้ จากนั้นจะนำกรวยไปเสียบไว้ข้างฝาหรือหลังคาเรือน ทิ้งไว้ประมาณครึ่งวันจึงนำกรวยดอกไม้นั้นมาทำพิธีเสกเป่าอีกครั้งหนึ่ง และทำอย่างนี้ทุก ๆ วัน จนกว่าเด็กจะหาย
รก
ชาวล้านนาเชื่อว่าหลังจากคลอดแล้วแต่รกไม่ออกตามมา ให้ระวังว่ารกจะขึ้นปิดลิ้นปี่จนทำให้เด็กหายใจไม่ออก และอาจถึงตายได้
สมัยก่อนต้องให้หมอเวทมนตร์มาเสกคาถาสะเดาะเคราะห์ใส่น้ำให้แม่เด็กดื่มเพื่อบังคับรกให้ออก
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลวัยผู้ใหญ่
วัยผู้ใหญ่แบ่งออกเป็น 3 ระยะ
วัยผู้ใหญ่ตอนต้นหรือวัยหนุ่มสาว อายุ 20-25 ปีถึง 40 ปี
วัยผู้ใหญ่ตอนกลางหรือวัยกลางคน อายุ 40 ปีถึง 60-65 ปี
วัยผู้ใหญ่ตอนปลายหรือวัยสูงอายุ อายุ 60-65 ปีขึ้นไป
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมในวัยผู้ใหญ่ที่นับถือศาสนาอิสลาม
การมีสุขภาพดีที่เอื้อต่อการประกอบศาสนกิจในโอกาสต่างๆ
การดูแลผู้ป่วยเพื่อให้สามารถประกอบศาสนกิจได้
การดูดวงจันทร์ในการกำหนดวัน
การวางแผนการดูแลผู้ป่วยล่วงหน้า
การดูแลทำความสะอาดผู้ป่วย
ผู้ป่วยที่สามารถทำความสะอาดได้ อาจจะทำด้วยตนเอง
ผู้ป่วยที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ ก็ให้ทำความสะอาดเท่าที่สามารถจะกระทำได้ การละหมาดของเขาก็ใช้ได้ โดยไม่ต้องละหมาดชดใช้อีก
ผู้ป่วยที่มีนะญิส (สิ่งสกปรกที่ต้องชำระให้สะอาดตามหลักนิติบัญญัติอิสลาม) ติดตัวอยู่ตลอดเวลา เราต้องแนะนำให้ผู้ป่วยทำความสะอาดบริเวณดังกล่าวตามปกติหรือตามคำแนะนำของแพทย์ และการอาบน้ำละหมาดของเขานั้นไม่เสีย
สตรีตั้งครรภ์และหลังคลอดชนเผ่าม้ง ภาคเหนือ
หญิงตั้งครรภ์จะถูกแนะนำ ให้ดื่มนํ้ามะพร้าวเมื่ออายุครรภ์ได้ประมาณ 7-8 เดือน ทำให้ลูกไม่มีไขคลอดง่ายและมีผิวสวย
ให้นำ หัวปลาไหลแห้ง ผักปลังดิน ใบหนาด มามัดรวมกันแล้วแช่อาบนํ้าทุกวันในระยะท้องแก่ใกล้คลอด โดยมีความเชื่อว่าจะทำ ให้คลอดง่าย
ชาวเขาเผ่าม้งยังมีการคลอดที่บ้านเป็นส่วนใหญ่
การปฏิบัติตัวหลังคลอดหลังจากคลอดบุตร
แม่เด็กจะใช้ผ้ารัดหน้าท้องให้แน่นเพื่อไม่ให้ท้องโต
รับประทานอาหารพวกไก่ ไข่ ซึ่งจะรับประทานประมาณ 30 วัน ผสมพริกไทย เชื่อว่าเป็นยาบำรุงขับน้ำคาวปลา
หญิงหลังคลอดทุกคนจะอยู่ไฟประมาณ 1 เดือน
หญิงหลังคลอดจะอาบนํ้าต้มตลอดช่วงที่อยู่ไฟ
เมื่ออยู่ไฟครบจะทำพิธีบนผีหรือทำผีเพื่อให้คุ้มครองเด็กก่อนที่จะพาเด็กออกจากบ้านหรือเดินทางไปไหนไกลๆ
เชิญหมอผีทำพิธีเรียกนํ้านม
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมในวัยผู้ใหญ่ชาวจีน
ความเชื่อด้านสุขภาพของชาวจีน
ถ้าร่างกายแข็งแรงไม่จำเป็นต้องพบแพทย์
การใช้การรักษาดั้งเดิม (Traditional treatments)
การใช้สมุนไพรเพื่อการบำบัดโรค
การพยาบาลผู้ป่วยและผู้ใช้บริการชาวจีน
ควรศึกษาวัฒนธรรมของชาวจีนในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและสามารถให้การพยาบาลสอดคล้องกับวัฒนธรรมของผู้ใช้บริการ
พัฒนาทักษะการสื่อสารกับผู้ใช้บริการชาวจีนด้วยภาษาจีนง่ายๆ
เลือกใช้วิธีการพยาบาลบนพื้นฐานของการบูรณาการศาสตร์ทางการพยาบาลไปกับวัฒนธรรมของผู้ใช้บริการให้เหมาะสมกับบริบทต่างๆ
การคงไว้ซึ่งแบบแผนของการดูแลเชิงวัฒนธรรมระบบพื้นบ้านและของวิชาชีพ
(Culture care preservation or maintenance)
ชาวจีนจะให้หญิงหลังคลอด รับประทานไก่ผัดขิงโดยชาวจีนมีความเชื่อว่า ขิงช่วยขับลม บำรุงกระเพาะ ป้องกันโรคและมีอายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง
การปรับเข้าหากันระหว่างแบบแผนของการดูแลเชิงวัฒนธรรมของพื้นบ้านและของวิชาชีพ
(Culture care accommodation or negotiation)
ชาวจีนจะให้หญิงหลังคลอด รับประทานไก่ผัดขิงผสมสุรา เพื่อบำรุงร่างกายของมารดา ความเชื่อนี้ต้องตัดสุราออกไป เนื่องจากแอลกอฮอล์จะส่งผลให้เกิดความดันโลหิตสูงของมารดา
การปรับเปลี่ยนแบบแผนของวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาแบบแผนของการดูแลเชิงวัฒนธรรมขึ้นใหม่
(Culture care repatterning or restructuring)
หญิงหลังคลอดให้ดื่มน้ำน้อยแต่ให้กินน้ำซุปเป็นหลัก กินอาหารรสร้อน เช่น ขิง กระเทียม โสม แครอท เห็ด เห็ดแห้ง หมู เป็ด ไก่ ไวท์ น้ามันงา พุทราจีน ให้ดื่มสุราวันละ 3 ครั้ง เพื่อให้เลือดไหลเวียนดี
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลวัยผู้สูงอายุ
การเคารพนับถือความเป็นบุคคลของผู้สูงอายุ
การเรียกชื่อ การใช้สรรพนาม การเคารพในสัญชาติ ภูมิหลัง ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม การเข้าใจถึงบุคลิกภาพหรือสิ่งที่ผู้สูงอายุชอบ
การสื่อสาร
ควรใช้ภาษาที่ตรงกับภาษาที่ผู้สูงอายุสามารถสื่อสารได้
ควรมองตรงๆ ที่ใบหน้าและการใช้สายตาเพื่อให้การสื่อการง่ายขึ้น
สุขภาพและยาที่ใช้
ควรคำนึงถึงภาวะสุขภาพและโรคที่ผู้สูงอายุเป็นอยู่
ต้องดูแลเรื่องการเคลื่อนไหวร่างกายและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ โยเฉพาะ ผู้สูงอายุที่ปัญหาด้าน ความจำ การพูด พฤติกรรม ฟันปลอม
ผู้สูงอายุที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน หรือ ล้อเข็น และผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการทำกายภาพบำบัด
การจัดสิ่งแวดล้อมและป้องกันอุบัติเหตุ
ผู้สูงอายุที่มีภาวะแขนขาอ่อนแรง ควรจัดสถานที่ให้ปลอดภัยจากการพลัดตกหกล้ม มีสิ่งอำนวยความสะดวก
เช่นติดราวที่ฝาผนัง ในห้องน้ำ
ความสามารถในการเคี้ยวและกลืน
ไม่ควรจัดอาหารที่เหนียวเกินไป แข็งเกินไป
ให้รับประทานผลไม้ ไอศกรีม ขนม และ อาหารเสริม
ควรระวังเรื่องการสำลัก เนื่องจากผู้สูงอายุมักสำลักง่าย และอาจเกิดภาวะปอดบวมจากากรสำลักได้
การดูแลด้านจิตสังคม
ควรจัดกิจกรรมให้ผู้สูงอายุที่ยังมีสุขภาพดี
ให้ผู้สูงอายุจัดกลุ่มพูดพูดคุยกันตามหัวข้อที่มีความสนใจคล้ายคลึงกัน ฟังเพลงและร้องเพลงร่วมกัน
ให้นั่งบนล้อเข็นและลงไปในสระน้ำ ไปเที่ยวสวนสาธารณะ
การดูแลด้านจิตวิญญาณตามความเชื่อของผู้สูงอายุ
ฟังเพลงนมัสการ ฟังคำเทศนา ฟังพระคัมภีร์ การละหมาด การไปวัดหรือร่วมนมัสการในบ้านหรือไปโบสถ์