Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลแต่ละวัย, download (21), กัมพูชา, unnamed (1)…
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลแต่ละวัย
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลวัยเด็กและวัยรุ่น :<3:
ประเทศไทย
ความเชื่อเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของเด็กจะได้รับอิทธิพลจากสังคมรอบข้าง โดยเฉพาะผู้ปกครอง เช่น การบอกกล่าวของบิดามารดา คำสั่งสอนของปู่ย่าตายาย
ความเชื่อเกี่ยวกับเด็กหรือลูกของแต่ละศาสนาจะแตกต่างกันไป เช่น ศาสนาอิสลามเชื่อว่าลูกเป็นของขวัญจากองค์อัลลอฮ์ เป็นสิ่งที่มีคุณค่า
ศาสนาคริสต์เชื่อว่าเด็กเป็นของขวัญจากพระเจ้า ต้องดูแลให้เติบโตในทางที่ดี เมื่อเด็กเกิดมาต้องเข้าพิธีบัติศมาเพื่อแสดงถึงการชำระเพื่อให้พ้นจากความบาป และประกาศตัวเป็นศาสนิกชน
ความเชื่อในการดูแลเด็กของคนไทยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะคล้ายคลึงกับประชากรในประเทศลาว กล่าวคือ จะมีการรักษาความเจ็บป่วยจากอำนาจเหนือธรรมชาติ
ได้แก่ การประกอบพิธีกรรมต่างๆ เช่น การสะเดาะห์เคราะห์ การผูกข้อมือเรียกขวัญ การบูชาบวงสรวง
ความเชื่อเกี่ยวกับการดูแลเด็กก็จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละสังคม แต่ละภูมิภาค
ตัวอย่างเช่น ในสมัยโบราณจะมีพิธีการสู่ขวัญเด็กเมื่ออายุครบ 1 เดือนและมีการโกนผมไฟด้วย เพราะเชื่อว่าจะทำ ให้เด็กที่มีสุขภาพดีไม่เจ็บป่วยง่าย
ความเชื่อในการดูแลเด็ก
จกคอละอ่อน
คือการที่แม่ช่าง (หมอตำแย) หรือหมอทำคลอดใช้นิ้วมือล้วงเข้าไปในลำคอของทารกแรกคลอด
น้ำนม
เชื่อว่า ถ้าเอาน้ำนมของคนทาที่ศีรษะของเด็กทารกที่มีผมบาง จะทำให้ผมขึ้นดกหนา ถ้าเอาน้ำนมหยอดตาคนที่เป็นโรคตาแดง ก็จะหาย
เม่า
เป็นโรคที่เกิดขึ้นกับเด็กทารกในช่วงที่ยังกินนม อาการคือ บริเวณรอบริมฝีปากและลิ้นของเด็กจะมีลักษณะคล้ายกับถูกน้ำร้อนลวกจนสุก ทำให้เด็กรู้สึกแสบแล้วร้องไห้
รก
ชาวล้านนาเชื่อว่าหลังจากคลอดแล้วแต่รกไม่ออกตามมา ให้ระวังว่ารกจะขึ้นปิดลิ้นปี่จนทำให้เด็กหายใจไม่ออก
การประยุกต์ใช้การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมในการดูแลเด็ก
ตะหนักถึงความเชื่อ วัฒนธรรม ศาสนาของครอบครัวนั้นๆ ด้วย ควรใช้เวลาพูดคุยกับบิดามารดาหรือผู้ดูแลเด็ก
ผู้ให้บริการด้านสุขภาพมีความเข้าใจและยอมรับในความเชื่อและวัฒนธรรมของผู้รับบริการ ก็จะสามารถให้การพยาบาลได้อย่างสอดคล้องกับความเชื่อด้านสุขภาพ และวัฒนธรรมของผู้ใช้บริการได้
ป้องกันการเกิดความขัดแย้งจากความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมของผู้ใช้บริการ
ประยุกต์ใช้กรอบแนวคิดของการพยาบาลข้ามวัฒนธรรม
ศึกษาวัฒนธรรมของผู้ป่วยและครอบครัวในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและสามารถให้การพยาบาลที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมของผู้รับบริการได้
“มีอะไรพิเศษที่เกี่ยวกับความเชื่อ ศาสนา และวัฒนธรรมของครอบครัว ที่ดิฉัน/ผม ควรได้รับทราบ เพื่อที่จะได้ให้การดูแลลูก/หลาน ของคุณได้อย่างเต็มที่ค่ะ”
พัฒนาทักษะการสื่อสารกับเด็กตามพัฒนาการของเด็กรวมทั้งผู้ดูแลเด็กด้วยภาษาง่ายๆ เพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างราบรื่น รวดเร็ว
หากสื่อสารไม่ได้หรือไม่มีประสิทธิภาพ อาจสื่อสารผ่านญาติที่เป็นคนไทย หรือการใช้ล่าม
อาจทำรูปภาพสื่อสารแทนภาษาพูด คู่มือหรือแนวทางการดูแลเด็กป่วยของครอบครัวที่เป็นภาษาต่างประเทศ
ภาษาพม่า ภาษามลายู ภาษาเขมร
การปฏิบัติพยาบาลควรใช้กระบวนการพยาบาลควบคู่กับการพยาบาลข้ามวัฒนธรรมตามแนวคิดไลนิงเจอร์
วัฒนธรรมเป็นวิถีชีวิตของบุคคลเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน
ขึ้นอยู่กับความเชื่อ ค่านิยม ขนบธรรมเนียมหรือศาสนา ของครอบครัวซึ่งมีผลต่อสุขภาพเด็ก มาแต่แรกเกิด
ประเทศกัมพูชา
การเกิดของเด็กเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจในครอบครัว การเกิดถือว่าเป็นอันตรายทั้งต่อแม่และเด็ก สตรีที่ตายเพราะการคลอดบุตรจะเชื่อว่าเกิดจากการกระทำของปีศาจ
เมือง เด็กในกัมพูชาจะได้รับการเลี้ยงดูจนกว่าจะอายุประมาณ 2-4 ปี หลังจากนั้น เด็กจะมีอิสระมากขึ้น เด็กอายุ 5 ขวบจะสามารถช่วยดูแลน้องๆได้
วัยรุ่นมักจะจับกลุ่มในเพศเดียวกัน เด็กผู้ชายบางคนบวชเป็นสามเณร ในยุคก่อนคอมมิวนิสต์
พ่อแม่มีอำนาจปกครองจนกว่าบุตรจะแต่งงาน การติดต่อระหว่างกลุ่มชนต่างอายุกัน จะต้องเลือกใช้คำพูดให้เหมาะสม
ชาวกัมพูชาจะให้การเคารพแพทย์เพราะถือว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในชั้นที่สูงกว่าในสังคม เวลาผู้ป่วยคุยกับแพทย์จึงก้มหน้าไม่สบตา
ผู้ให้บริการด้านสุขภาพไม่ควรแตะศีรษะผู้ป่วยก่อนได้รับอนุญาตจากผู้ป่วยเองหรือจากบิดามารดาของผู้ป่วยเด็ก
ประเทศจีน
เด็กที่เกิดในประเทศจีน เมื่อครบสามวันจะมีพิธีล้างวันที่สาม ในวันนี้จะเป็นการอาบน้ำให้เด็กเป็นครั้งแรกนับแต่คลอด จึงต้องพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกภาชนะ น้ำ รวมถึงผู้ประกอบพิธี
น้ำที่ใช้อาบมีชื่อเรียกว่า “ฉางโซ่วทัง”
มีความหมายว่า น้ำอายุมั่นขวัญยืน สำหรับส่วนผสมของน้ำจะแตกต่างกันตามความเชื่อในแต่ละท้องถิ่น
ชาวจีนบางกลุ่มที่นิยมใส่ต้นหอมหรือนำเศษเหรียญใส่ลงในน้ำ เพราะต้นหอมหรือชงในภาษาจีนพ้องเสียงกับคำว่า “ชงหมิง”
แปลว่า ฉลาดหลักแหลม ส่วนเงินหมายความว่าพรั่งพร้อมไปด้วยทรัพย์สินเงินทอง ผู้ประกอบพิธีมักเป็นหญิงวัยกลางคนหรือหญิงชราที่มีครอบครัวแล้ว
อดีตประเทศจีนจะมีนโยบาย “ลูกคนเดียว (One child policy)”
พิธีครบเดือนหรือที่ชาวจีนโบราณเรียกว่า “หมีเย่ว์”
ถือเป็นพิธีกรรมที่สำคัญที่สุดในบรรดาพิธีกรรมเกี่ยวกับการเกิด ประกอบไปด้วยการโกนผมไฟ การจัดเลี้ยงในหมู่ญาติสนิทมิตรสหาย และการตั้งชื่อให้เด็ก ในงานเลี้ยงจะมีการจุดประทัดรื่นเริง
ผู้ที่รับหน้าที่โกนผมจะเอาใบชาที่อมจนเปื่อยในปากชโลมลงบนศีรษะเด็ก ด้วยเชื่อว่าใบชาเขียวจะช่วยฆ่าเชื้อโรคบนศีรษะทารกและลบรอยแผลเป็น
เส้นผมที่โกนทิ้งจะไม่โยนทิ้ง แต่จะเก็บรวมกันและนำมาสานเป็นแผ่น แล้วจึงนำไปวางไว้หัวเตียงเด็กหรือเย็บติดกับเสื้อเด็ก เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและคุ้มครองให้แคล้วคลาดภยันตรายใดๆ
ในอดีตความต้องการมีลูกชายไว้สืบสกุลเพราะมีลูกได้เพียงคนเดียว ทำให้มีข่าวการทำแท้งหรือฆ่าทารกเพศหญิงอยู่เสมอๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลวัยผู้ใหญ่ :<3:
วัยผู้ใหญ่แบ่งออกเป็น 3 ระยะ
1.วัยผู้ใหญ่ตอนต้นหรือวัยหนุ่มสาว อายุ 20-25 ปีถึง 40 ปี
วัยนี้มีพัฒนาการเต็มที่ของร่างกาย วุฒิภาวะทางจิตใจอารมณ์ พร้อมที่จะมีบทบาทที่จะเลือกแนวทางในการดำเนินชีวิตของตน
2.วัยผู้ใหญ่ตอนกลางหรือวัยกลางคน อายุ 40 ปีถึง 60-65 ปี
เป็นวัยที่ได้ผ่านชีวิตครอบครัวและชีวิตการงานมาระยะหนึ่ง มีความมั่นคงและความสำเร็จในชีวิต
3.วัยผู้ใหญ่ตอนปลายหรือวัยสูงอายุ อายุ 60-65 ปีขึ้นไป
เป็นวัยของความเสื่อมถอยของร่างกาย สภาพจิตใจ และบทบาททางสังคม การปรับตัวต่อความเสื่อมถอยและการเผชิญชีวิตในบั้นปลายเป็นสิ่งสำคัญ
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมในวัยผู้ใหญ่ที่นับถือศาสนาอิสลาม
สำหรับชาวมุสลิมนั้น ตัวชี้วัดด้านคุณภาพชีวิตที่สำคัญ
การดูแลผู้ป่วยเพื่อให้สามารถประกอบศาสนกิจได้จึงเป็นประเด็นที่สำคัญอย่างยิ่งในการจัดบริการสุขภาพตามวิถีมุสลิมช่วงวัยผู้ใหญ่ที่ต้องคำนึงถึง
ศาสนกิจที่สำคัญของชาวมุสลิม
การละหมาดวันละ 5 เวลาการถือศีลอด การทำฮัจญ์
การดูแลทำความสะอาดผู้ป่วยสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
ผู้ป่วยที่สามารถทำความสะอาดได้ อาจจะทำด้วยตนเอง หรือให้คนอื่นช่วย ก็ให้ทำความสะอาดตามปกติ ก่อนที่จะอาบน้ำละหมาดในแต่ละเวลา
ผู้ป่วยที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ อาจเป็นเพราะผู้ป่วยเองไม่สามารถจะทำได้ หรือไม่มีผู้ที่จะช่วยทความสะอาด ก็ให้ทำความสะอาดเท่าที่สามารถจะกระทำได้
ผู้ป่วยที่มีนะญิส (สิ่งสกปรกที่ต้องชำระให้สะอาดตามหลักนิติบัญญัติอิสลาม) ติดตัวอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะทำความสะอาดแล้วเป็นเหตุสุดวิสัยที่จะขจัดนะญิสเหล่านั้นได้
การอาบน้ำละหมาดของเขานั้นไม่เสีย แต่เขาจะต้องอาบน้ำละหมาดหรือตะยัมมุม (การทำความสะอาดร่างกายด้วยฝุ่นแทนน้ำเพื่อเตรียมตัวละหมาด) ทุกครั้งก่อนที่จะละหมาดผู้ป่วยตราบใดที่ยังมีสติ
สวมใส่เสื้อผ้า เขาสามารถละหมาดได้โดยไม่ต้องปกปิดเอาเราะฮ์ และการละหมาดของเขาใช้ได้ ไม่ต้องละหมาดชดใช้อีกสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถผินหน้าสู่กิบลัต (ทิศตะวันตก)
วัยผู้ใหญ่คือวัยที่รับผิดชอบการดำเนินชีวิตของตน โดยนำประสบการณ์ต่าง ๆที่ได้สะสมมาตั้งแต่วัยเด็กมาใช้ในการปรับตัวและแก้ปัญหาชีวิต ผู้ที่ปรับตัวได้ดีในวัยผู้ใหญ่
มีวุฒิภาวะ คือ ความสมบูรณ์ของร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญา สามารถเผชิญชีวิตและอุปสรรค์ต่าง ๆ ทั้งยามปกติและยามคับขัน มีความรับผิดชอบ กระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยเหตุผลตามทำนองคลองธรรม
สตรีตั้งครรภ์และหลังคลอดชนเผ่าม้ง ภาคเหนือ ประเทศไทย
หญิงตั้งครรภ์จะถูกแนะนำ ให้ดื่มนํ้ามะพร้าวเมื่ออายุครรภ์ได้ประมาณ 7-8 เดือนเพราะจะทำ ให้ ลูกไม่มีไขคลอดง่ายและมีผิวสวย
หญิงตั้งครรภ์ยังมีข้อพึงปฏิบัติตามความเชื่อคือ ให้นำ หัวปลาไหลแห้ง ผักปลังดิน ใบหนาด มามัดรวมกันแล้วแช่อาบนํ้าทุกวันในระยะท้องแก่ใกล้คลอด
อาหารที่รับประทานก็จะเป็นพวกไก่ ไข่ ซึ่งจะรับประทานประมาณ 30 วัน ไข่ที่รับประทานจะมีการผสมพริกไทยเพราะเชื่อว่าเป็นยาบำรุงร่างกายช่วยขับนํ้าคาวปลา และเลือดที่ค้างในร่างกาย
ความเชื่อในการปฏิบัติที่ทำให้มีนํ้านมมาก โดยการเชิญหมอผีทำ พิธีเรียกนํ้านม ซึ่งจะทำคล้ายๆ การบนผี รวมทั้งมีการกินยาสมุนไพรที่มียางสีขาว กินมะละกอต้มใส่ไก่ ส่วนอาหารอื่นๆ จะกินน้อยมาก
ความเชื่อและการปฏิบัติในเรื่องเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ การคลอด และหลังคลอดของชาวเขาเผ่าม้งนี้ยังมีการปฏิบัติกันมาจนถึงปัจจุบันถึงแม้แม่บางส่วนจะคลอดลูกที่โรงพยาบาล
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมในวัยผู้ใหญ่ชาวจีน
ความเชื่อด้านสุขภาพของชาวจีนมีหลายประการ พอสรุปสาระสำคัญ
ถ้าร่างกายแข็งแรงไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ ไม่ค่อยสนใจการตรวจคัดกรองเพื่อการป้องกันโรค (Preventive screening)
ตรวจร่างกายประจาปี อาทิ ตรวจดูเลือดและเอ็กเรย์ปอด คลื่นไฟฟ้าหัวใจ
การใช้การรักษาดั้งเดิม (Traditional treatments)
การฝังเข็ม (Acupuncture) การขูดผิวหนังด้วยวัตถุใดๆ (เชื่อว่า จะขับสารพิษที่ก่อโรคออกจากร่างกายผ่านทางผิวหนัง) การนวด
ส่งเสริมความรู้สึกทางแพศ (sexual function) แต่ทำให้มีอาการข้างคียง
กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง เพิ่มความดันเลือด หากได้รับปริมาณมากๆ อาจมีอาการปวดศีรษะ เบื่ออาหาร ใจสั่น
การพยาบาลผู้ป่วยและผู้ใช้บริการชาวจีนจำเป็นต้องใช้กรอบแนวคิดของการพยาบาลข้ามวัฒนธรรม(Trans-cultural nursing theory)
ศึกษาวัฒนธรรมของชาวจีนในด้านต่างๆเพื่อให้เกิดความเข้าใจและสามารถให้การพยาบาลสอดคล้องกับวัฒนธรรมของผู้ใช้บริการกลุ่มนี้
ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณี ภาษา และความเชื่อ
พัฒนาทักษะการสื่อสารกับผู้ใช้บริการชาวจีนด้วยภาษาจีนง่ายๆ หรือตามความสนใจ
เลือกใช้วิธีการพยาบาลบนพื้นฐานของการบูรณาการศาสตร์ทางการพยาบาลไปกับวัฒนธรรมของผู้ใช้บริการให้เหมาะสมกับบริบทต่างๆ
การคงไว้ซึ่งแบบแผนของการดูแลเชิงวัฒนธรรมระบบพื้นบ้านและของวิชาชีพ (Culture care preservation or maintenance)
ชาวจีนจะให้หญิงหลังคลอด รับประทานไก่ผัดขิงโดยชาวจีนมีความเชื่อว่า ขิงช่วยขับลม บำรุงกระเพาะ ป้องกันโรคและมีอายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง
การปรับเข้าหากันระหว่างแบบแผนของการดูแลเชิงวัฒนธรรมของพื้นบ้านและของวิชาชีพ (Culture care accommodation or negotiation)
ชาวจีนจะให้หญิงหลังคลอด รับประทานไก่ผัดขิงผสมสุรา เพื่อบำรุงร่างกายของมารดา ความเชื่อนี้ต้องตัดสุราออกไป
การปรับเปลี่ยนแบบแผนของวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาแบบแผนของการดูแลเชิงวัฒนธรรมขึ้นใหม่ (Culture care repatterning or restructuring)
หญิงหลังคลอดให้ดื่มน้ำน้อยแต่ให้กินน้ำซุปเป็นหลัก กินอาหารรสร้อน เช่น ขิง กระเทียม โสม แครอท เห็ด เห็ดแห้ง หมู เป็ด ไก่ ไวท์ น้ามันงา พุทราจีน ให้ดื่มสุราวันละ 3 ครั้ง เพื่อให้เลือดไหลเวียนดี
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลวัยผู้สูงอายุ :<3:
พิจารณาในการพยาบาลข้ามวัฒนธรรมในผู้สูงอายุ
การเคารพนับถือความเป็นบุคคลของผู้สูงอายุ
การเรียกชื่อ การใช้สรรพนาม การเคารพในสัญชาติ ภูมิหลัง ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม การเข้าใจถึงบุคลิกภาพหรือสิ่งที่ผู้สูงอายุชอบ
การสื่อสาร
ควรใช้ภาษาที่ตรงกับภาษาที่ผู้สูงอายุสามารถสื่อสารได้ และใช้ภาษากายในการสื่อสารกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านความจำเสื่อม อัลไซม์เมอร์
สุขภาพและยาที่ใช้ ควรคำนึงถึงภาวะสุขภาพและโรคที่ผู้สูงอายุเป็นอยู่
เบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง ผู้สูงอายุอาจเป็นลมจากน้ำตาลต่ำหรือสูงเกินจึงควรรู้จักยาที่ผู้สูงอายุใช้อยู่
การจัดสิ่งแวดล้อมและป้องกันอุบัติเหตุ ความปลอดภัยของผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีภาวะแขนขาอ่อนแรง ควรจัดสถานที่ให้ปลอดภัยจากการพลัดตกหกล้ม มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่นติดราวที่ฝาผนัง ในห้องน้ำ
ความสามารถในการเคี้ยวและกลืน ไม่ควรจัดอาหารที่เหนียวเกินไป แข็งเกินไป
รสจืด ไม่เผ็ด รสหวาน ให้รับประทานผลไม้ ไอศกรีม ขนม และ อาหารเสริม ควรระวังเรื่องการสำลัก เนื่องจากผู้สูงอายุมักสำลักง่าย และอาจเกิดภาวะปอดบวมจากากรสำลักได้
การดูแลด้านจิตสังคม ควรจัดกิจกรรมให้ผู้สูงอายุที่ยังมีสุขภาพดี
ให้ผู้สูงอายุจัดกลุ่มพูดพูดคุยกันตามหัวข้อที่มีความสนใจคล้ายคลึงกัน ฟังเพลงและร้องเพลงร่วมกัน การลีลาศ เล่นเกมส์ เล่นไพ่ ฟังละคร ฟังกลอน คอนเสิร์ต รายการที่ชื่นชอบ
การดูแลด้านจิตวิญญาณตามความเชื่อของผู้สูงอายุ
ฟังเพลงนมัสการ ฟังคำเทศนา ฟังพระคัมภีร์ การละหมาด การไปวัดหรือร่วมนมัสการในบ้านหรือไปโบสถ์