Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การติดเชื้อระบบขับถ่ายปัสสาวะระหว่างตั้งครรภ์ (Urinary system Infection…
การติดเชื้อระบบขับถ่ายปัสสาวะระหว่างตั้งครรภ์
(Urinary system Infection during pregnancy)
อาการและอาการแสดง
Lower UTI
ท่อปัสสาวะอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด กระปิดกระปรอย กลั้นปัสสาวะไม่ได้
อาจพบปัสสาวะเป็นเลือดหรือสีน้าล้างเนื้อ
ปวดบริเวณหัวหน่าว
Upper UTI
กรวยไตอักเสบ
พบปัสสาวะเป็นสีขุ่นหรือสีน้าล้างเนื้อ
เจ็บบริเวณชายโครง
ปวดหลังบริเวณต าแหน่งของไต
พยาธิสรีรวิทยา
ติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณปากช่องคลอดหรือทวารหนักใกล้ท่อปัสสาวะ ย้อนกลับขึ้นไป
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทางานของระบบทางเดินปัสสาวะขณะตั้งครรภ์จากProgesterone
การขยายตัวของขนาดมดลูกเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อระบบทางเดิน ปัสสาวะ ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาขณะตั้งครรภ์ของไต
การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินปัสสาวะในขณะตั้งครรภ์
การเปลี่ยนแปลงทางกายวิภาค
progesterone ร่วมกับกดทับของมดลูกที่มีขนาดโต
มีขนาดใหญ่ขึ้นโดยเฉพาะด้านขวาตั้งแต่กรวยไตจนถึงท่อไต
ทำให้มีการคั่งของน ้าปัสสาวะในไต ท่อไต ค้างอยู่นาน
เกิดการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ
มีการย้อนกลับของเชื้อเข้าสู่ไต
เกิดภาวะ pyelonephritis ตามมา
มีการเปลี่ยนแปลงทางหน้าที่ของไต
มีระบบการหมุนเวียนของเลือดเพิ่มขึ้น
เพิ่มหน้าที่การกรองของไตขึ้น
ทำให้ระดับ creatinine และ BUN ในเลือดลดต่ำล
หน้าที่ของ tubule ในการดูดซึมกลับของNa, amino acid, vitamin ที่ละลายน้ำได้ และglucoseสูงขึ้น เพื่อรักษาสมดุลของภาวะกรด-ด่าง ให้ความเข้มข้นของสารในปัสสาวะลดลง
การดูดซึมกลับของโปรตีนน้อย ท าให้พบโปรตีนในปัสสาวะ
Urine albumin 150 mg. ใน 24 hr.
สาเหตุและปัจจัยส่งเสริม
จากการติดเชื้อE. Coliที่อยู่รอบท่อปัสสาวะ
การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนขณะตั้งครรภ์ทาให้ท่อไตตึงตัวการเคลื่อนไหวและการหดรัดตัวของท่อไตลดลงประสิทธิภาพการดูดซึมกลับลดลงปัสสาวะค้างอยู่ในทางเดินปัสสาวะมากขึ้น
มดลูกมีการขยายขนาดใหญ่และกดเบียดกระเพาะปัสสาวะทาให้รูเปิดของหลอดไตที่กระเพาะปัสสาวะเกิดการบิดงอขับปัสสาวะออกไม่สะดวกปัสสาวะค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ ท าให้กระเพาะปัสสาวะและกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน
ชนิดของการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและระบบขับถ่ายปัสสาวะขณะตั้งครรภ์
กลุ่มอาการโรคไตรั่ว หรือโปรตีนรั่วในปัสสาวะ (Nephrotic syndrome)
พบโปรตีนในปัสสาวะมากประมาณ 5 g/day
โปรตีนในเลือดต่ำ ไขมันในเลือดสูง และบวมโดยไม่ทราบสาเหตุ
ทารกในครรภ์น้ำหนักน้อย หรือคลอดก่อนกำหนด
ถ้าสตรีตั้งครรภ์มีความดันโลหิตสูงด้วยสุขภาพของทารกในครรภ์จะเลวลงอย่างมาก
การติดเชื้อเฉียบพลันที่กรวยไต (Acute pyelonephritis)
พบแบคทีเรียในปัสสาวะ >105 cfu/ml ร่วมกับปัสสาวะเป็นหนอง มีไข้ หนาวสั่นและปวดบริเวณบั้นเอว
หากเคยมีประวัติการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะชนิดไม่แสดงอาการมาก่อน อุบัติการณ์เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 13-40
การติดเชื้อเฉียบพลันที่กระเพาะปัสสาวะ (Acute cystitis)
หากเคยมีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะแบบไม่แสดงอาการมาก่อนจะมีโอกาสที่จะพัฒนากลายเป็นการติดเชื้อเฉียบพลันที่กระเพาะปัสสาวะได้ถึง 3 เท่า
ร้อยละ 30 ของสตรีตั้งครรภ์ที่เป็น ASB และไม่ได้รับการรักษาจะพัฒนาเป็น pyelonephritis
มีอาการเจ็บปวดขณะถ่ายปัสสาวะ ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย ปวดปัสสาวะจนต้องรีบปัสสาะ ปัสสาวะมีสีขุ่นหรือสีแดง มีไข้สูง อ่อนเพลีย และปวดบริเวณท้องน้อย
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะแต่ไม่แสดงอาการ (Asymptomatic bacteriuria: ASB)
พบแบคทีเรียในปัสสาวะ>105colony forming unit/ml (cfu/ml) จากการเก็บปัสสาวะอย่างสะอาด 2 ครั้งติดต่อกัน
ไม่มีอาการแสดงของการติดเชื้อ
ร้อยละ 30 ของสตรีตั้งครรภ์ที่เป็น ASB และไม่ได้รับการรักษาจะพัฒนาเป็น pyelonephritis
หากพบในขณะตั้งครรภ์ จำเป็นต้องได้รับการรรักษาเนื่องจากขณะตั้งครรภ์จะมีการยืดขยายของทางเดินปัสสาวะ เชื้อโรคอาจแพร่กระจายไปยังกรวยไตทำให้เกิดกรวยไตอักเสบได้
ภาวะไตวาย (renal failure)
ไตวายเรื้อรัง (chronic renal failure)
ส่วนใหญ่มักจะไม่มีการตั้งครรภ์ หากตั้งครรภ์ได้ต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิด ถ้าสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์เลวลงอาจพิจารณายุติการตั้งครรภ์
ไตวายเฉียบพลัน (acute renal failure)
ปัจจุบันสามารถดูแลภาวะนี้ได้ดีทำให้มารดาที่มีภาวะนี้ได้รับการดูแลและสามารถตั้งครรภ์ต่อไปได้
การติดเชื้อระบบขับถ่ายปัสสาวะระหว่างตั้งครรภ์
ระยะตั้งครรภ์ureter ขยายใหญ่ขึ้นทำให้มีปัสสาวะค้างอยู่นาน เป็นสาเหตุทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
มีความผิดปกติ เมื่อโปรตีนในปัสสาวะ >300 mg.ใน 24 hr.
มีการเปลี่ยนแปลงหน้าที่ของไต GFR และERPF
เพิ่มขึ้นการขับโปรตีนเพิ่มขึ้นน้อย
5-10 % ของสตรีตั้งครรภ์ จะมีการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะในระยะที่หนึ่งของการตั้งครรภ์ การติดเชื้อที่พบบ่อยที่สุด
โรคติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะที่ไม่แสดงอาการ (asymptomatic bacteriuria)
กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน (acute pyelonephritis)
กระเพาะปัสสาวะอักเสบเฉียบพลัน (acute cystitis)
ผลกระทบต่อสตรีตั้งรรร์ และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ
Uterine contraction
Abortion
Premature labor
PROM
Septic shock
ผลต่อทารก
Prematurity
LBW
IUGR
Still birth
การประเมินและวินิจฉัย
การซักHX: การติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะระบบสืบพันธุ์อาการและอาการแสดงของการติดเชื้อของระบบสืบพันธุ์
ปัสสาวะล าบาก ปัสสาวะไม่สุด หรือปัสสาวะเป็นเลือด
การตรวจPE
ตรวจพบปัสสาวะขุ่นหรือสีน้าล้างเนื้อ
มีไข้ ปวดบริเวณท้องน้อยเหนือหัวหน่าว
กดบริเวณ costovertebral angle (CVA) จะปวดมาก (positive Goldflamsign or kidney punch)
Lab
urine analysis: alb. Wbcสูง
urine culture: bacteria > 105dfu/ml
รายที่มีการติดเชื้อที่กรวยไตควรตรวจU/C เมื่อมาฝากครรภ์ครั้งแรกทุกรายและตรวจซ้าเมื่อGA 28wks.
การป้องกัน
แนะนาให้ทาความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ทุกครั้งหลังขับถ่าย
แนะนาให้ดื่มน้าอย่างน้อยวันละ8-10แก้ว
ทาการคัดกรองการติดเชื้อU/C ในสตรีที่มาฝากครรภ์ครั้งแรกทุกรายหรือทาเฉพาะในรายที่มีความเสี่ยง
การรักษา
การติดเชื้อแบบASB
ให้ ABO ทุกรายเพื่อป้องกันการเกิด upper UTI
ampicillin, cephalexin, amoxicillin และ nitrofurantoin
หลังจากได้รับการรักษา 7 วันควรตรวจ U/C ซ้าจากนั้นตรวจทุกเดือนจนกระทั่งคลอดถ้ายังพบเชื้อจาเป็นต้องให้ABO ต่อในระยะยาว
Cystitis
ให้ABO ที่มีความไวต่อเชื้อและปลอดภัยต่อมารดาและทารกมากที่สุด
Pyelonephritis
Admit
IV
ABO injection
U/C
เมื่อตรวจไม่พบเชื้อในปัสสาวะจึงเปลี่ยนมาเป็นยาชนิดรับประทาน
ติดตามผลการตรวจ U/C เป็นระยะไปจนถึงหลังคลอด
การพยาบาลระยะตั้งรรภ์
ให้คาแนะนาเกี่ยวกับการดาเนินของโรคภาวะแทรกซ้อนแผนการรักษาพยาบาล
เน้นความสำคัญของการมาตรวจครรภ์ตามนัดอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ และทุกครั้งที่มาฝากครรภ์ต้องประเมินภาวะสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ เพื่อคัดกรองการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ
แนะนาการปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือป้องกันการกลับเป็นซ้า
พักผ่อนอย่างเพียงพอนอนตะแคงเพื่อไม่ให้มดลูกไปกดทับท่อไต
ดื่มน้าวันละ8-10 แก้ว หรือ 2,000-3,000 ml.ไม่กลั้นปัสสาวะ
ดูแลรักษาความสะอาดของร่างกายอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
ในรายที่ได้รับการรักษาด้วยABO ต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่องสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นขณะรับประทานยา
แนะนาให้สังเกตอาการผิดปกติที่ต้องรีบาพบแพทย์
กรณีที่มีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและได้รับการรักษาติดตามการเปลี่ยนแปลงของโรค สังเกตอาการผิดปกติ
กรณีadmit
อธิบายถึงความจ าเป็นในการ admit
ดูแลให้พักผ่อนอย่างเพียงพอนอนตะแคงเพื่อไม่ให้มดลูกกดทับท่อไต
V/S ทุก 4 hr.เพื่อประเมินการติดเชื้อในร่างกาย
ประเมินFHS และFM เพื่อประเมินสภาวะของทารกในครรภ์เตรียมการตรวจและติดตามผลการตรวจต่าง ๆ
สังเกตและบันทึกI&O และติดตามผลlab เพื่อประเมินการทางานของไต
ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา: ABO ยาลดไข้ steroid
บรรเทาความไม่สุขสบายอาการปวดหลังและปวดบั้นเอวให้นอนตะแคงด้านที่ไม่ปวด การประคบร้อนบริเวณที่ปวดการเช็ดตัวลดไข
ดูแลประคับประคองจิตใจในรายที่มีอาการรุนแรง
การพยาบาลระยะคลอด
ให้การพยาบาลเช่นเดียวกับผู้คลอดทั่วไป
เน้นการท าความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกทุกครั้งหลังการขับถ่าย
การสังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ
กรณีที่คลอดก่อนกาหนดเตรียมอุปกรณ์ในการช่วยเหลือทารกแรกเกิดให้พร้อม
การพยาบาลระยะหลังรลอด
ให้การพยาบาลเหมือนมารดาหลังคลอดทั่วไป
เน้นการป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและการป้องกันการกลับเป็นซ้า
เน้นการคุมกาเนิดในรายที่มีบุตรเพียงพอแล้วหรือเป็นโรคไตติดเชื้อเรื้อรังควรคุมกาเนิดถาวรเพราะการตั้งครรภ์จะทาให้โรครุนแรงมากขึ้นและเป็นอันตรายต่อชีวิตของมารดาได้
ให้คาแนะนาเช่นเดียวกับคาแนะนาเพื่อป้องกันการติดเชื้อในขณะตั้งครรภ์