Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Dx.Cancer Cervix with Anemia : มะเร็งปากมดลูกและซีด - Coggle Diagram
Dx.Cancer Cervix with Anemia : มะเร็งปากมดลูกและซีด
พยาธิสภาพ
เกิดกระบวนการกลายรูป (metaplasia)
columnar epithelium
squamous epithelium
Transformation zone (T-zone)
CIS
Invasive carcinoma
Tumor cell
สร้าง Erythropotein ลดลง
กดเซลล์ BFU-E/CFU-E
ตอบสนองต่อ Erythropoietin ลดลง
การใช้เหล็กในการสร้างเม็ดเลือดลดลง
(Impaired iron utilization)
ภาวะโลหิตจาง
ภาวะออกซิเจนต่ำ
ภูมิคุ้มกันต่ำ
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
มีภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจเนื่องจากภูมิต้านทานโรคต่ำ
ข้อมูลสนับสนุน
O = เคยมีไข้ 39.1 องศาเซลเซียส
O = WBC = 12600 cell/ul
O = Neutrophil = 75.5%
O = Lymphocyte = 7.6%
A = ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อต้านเชื้อโรคการติดเชื้อได้ง่ายเกิดจากการที่ให้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานซึ่งจะทำให้เชื้อบางชนิดเพิ่มมากขึ้นและแทรกเข้ามาในร่างกายได้ง่ายเป็นความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยอาการที่บ่งบอกว่าผู้ป่วยมีการติดเชื้อคือ ไข้ มีการเพิ่มขึ้นของนิวโทรฟิล มีหนอง ปวด บวม แดงร้อน
มีการติดเชื้อ Bacillus species
Gram Positive Cocci
Gram Negative Bacilli
O = มีอาการไอแห้งๆ
วัตถุประสงค์การพยาบาล
ไข้และการติดเชื้อลดลง
เกณฑ์การประเมิน
WBC = 5000-10000 cell/UL
Neutrophil = 55-70 %
อุณหภูมิ 36.5-37.4 องศาเซลเซียส
Lymphocyte = 20-40%
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินอุณหภูมิเพื่อดูความเปลี่ยนแปลงทุก 4 ชั่วโมง
แนะนำ Hygine care ทั่วไปเพื่อความสะอาดกับร่างกายป้องกันการติดเชื้อเพิ่มขึ้น
เช็ดตัวลดไข้เพื่อให้ไข้ลดลง
ให้ยา Paracetamol 500 mg เพื่อลดไข้ตามแผนการรักษา
ให้ยา Tazocin 4.5 g เพื่อฆ่าเชื้อ
การประเมินผล
อุณหภูมิในร่างกายลดลงจาก 40 องศาเซลเซียสเป็น 39.1 องศาเซลเซียส
มีภาวะซีดเนื่องจากพยาธิสภาพของมะเร็ง
ข้อมูลสนับสนุน
O = เยื่อบุตาขาวซีด
O = Hct = 32.7%
O = Hb = 10.1 g/dl
A = Hematocrit คือ ความเข้มข้นของเลือดถ้ามีน้อยแสดงว่าอาจมีความเสี่ยงต่อการมีภาวะโลหิตจาง,Hemoglobin คือ ส่วนประกอบของเลือดที่ทำหน้าที่พาออกซิเจนไปปอดและฟอกไปยังส่วนต่างๆของร่างกายเมื่อขาดอาจทำให้เกิดภาวะซีดในกรณีนี้ซีดเพราะมีการรบกวนขบวนการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงให้ลดลง รวมไปถึงวิธีการรักษาโดยการฉายแสง
วัตถุประสงค์การพยาบาล
ไม่มีภาวะซีด
เกณฑ์การประเมิน
Hemoglobin = 12-16g/dl
Hematocrit = 37-47%
ไม่มีการอ่อนเพลีย หน้ามืด เวียนศีรษะ
กิจกรรมการพยาบาล
ติดตามผลฮีมาโตคริตและฮีโมโกลบินเพื่อประเมินภาวะซีด
ให้เลือดตามแผนการรักษาเพื่อให้ค่าฮีมาโตคริตปกติเพื่อจะได้ไปฉายแสงต่อได้
สังเกตอาการอ่อนเพลีย หน้ามืด เวียนศีรษะเพื่อประเมินภาวะซีด
แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ตับ ไข่แดง ผักใบเขียว เพื่อนำสารอาหารไปสร้างเม็ดเลือดแดง
แนะนำให้ผู้ป่วยพักผ่อนอย่างเพียงพอเพื่อเป็นการสงวนพลังงาน
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับเลือดตามแผนการรักษาและสังเกตอาการการแพ้เลือด
สังเกตอาการแพ้จากการให้เลือด
การประเมินผล
มีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย เยื่อบุตายังซีดอยู่ฝ่ามือเหลือง เล็บมือไม่ค่อยมีสีชมพู
เสี่ยงต่อภาวะเนื้อเยื่อพร่องออกซิเจนเนื่องจากพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนก๊าซลดลง
ข้อมูลสนับสนุน
S=หายใจไม่ทั่วท้อง เดินก็เหนื่อย
S= ผู้ป่วยบอกเหนื่อย
A=เนื้อที่ในการแลกเปลี่ยนก๊าซลดลงทำให้ไม่สามารถหมุนเวียนระหว่างก๊าซออกซิเจนกับคาร์บอนไดออกไซด์ได้
CXR = left lung พบ Atelectasis or Pneumonia
วัตถุประสงค์การพยาบาล
ไม่มีภาวะพร่องออกซิเจน
เกณฑ์การประเมิน
ไม่มีอาการเหนื่อยหอบ
เยื่อบุตาไม่ซีด
O2 Sat > 95%
WBC = 5000-10000 cell/UL
Neutrophil = 55-70 %
Lymphocyte = 20-40%
กิจกรรมการพยาบาล
ดูแลให้พักผ่อนเพื่อลดความต้องการการใช้ออกซิเจนในร่างกาย
สังเกตอาการผิดปกติเช่น เหนื่อยหอบ O2 Sat <95%
ลดภาวะติดเชื้อเพื่อป้องกันการใช้ออกซิเจนเพิมขึ้น
วัดสัญญาณชีพ ค่า O2 sat เพื่อประเมินภาวะพร่องออกซิเจน
ประเมินผล
มีอาการเหนื่อย แต่ Sat room air ได้ 97% ระดับการหายใจได้ 20
วิตกกังวลเรื่องลูกเนื่องจากคิดว่าตนจะไม่ได้เลี้ยงดูลูกต่อไป
ข้อสนับสนุน
S = ผู้ป่วยบอกว่ามะเร็งลามไปต่อมน้ำเหลืองด้านข้างมดลูก
S = กลัวการรักษาไม่หายยังไม่อยากตายอยากอยู่กับลูกเพราะลูกเพิ่งจะอายุ 4 ขวบ
S = รู้สึกว่าร่างกายตนเองไม่สู้
S = ผู้ป่วยบอกว่าร้องไห้ทุกวันตั้งแต่มานอนโรงพยาบาล
S = คิดถึงลูกปกติอยู่กับลูกตลอดเวลาแต่พอป่วยต้องมาอยู่โรงพยาบาลไม่ค่อยได้เจอหน้าลูก
S = บอกสามีบ่อยๆ ว่าถ้าผู้ป่วยเสียชีวิตอย่าตีลูกมาก
O = ผู้ป่วยมีสีหน้ากังวลเมื่อพูดถึงลูก
O = ผู้ป่วยเล่นโทรศัพท์ตลอดเหมือนคุยกับใครซักคน
วัตถุประสงค์การพยาบาล
มีความวิตกกังวลลดลง
เกณฑ์การประเมิน
มีสีหน้ายิ้มแย้มมากขึ้น
ผู้ป่วยไม่บอกว่าวิตกกังวลเรื่องลูกแล้ว
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินความวิตกกังวลเพื่อวางแผนในการจัดการกับความรู้สึกต่างๆ ทางอารมณ์ที่เกิดขึ้น
จัดลำดับความสำคัญของความวิตกกังวลเพื่อจัดการเพื่อจัดการกับปัญหาที่มากที่สุดก่อน
สอนและลดความกังวลด้วยการผ่อนคลาย ฝึกหายใจ ทำสมาธิ ดูคลิปตลก ดูการ์ตูน ดูซี่รี่ ดูหนังที่ผู้ป่วยชอบ
สอนและให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคเพื่อให้ผู้ป่วยรับรู้ถึงสิ่งที่จะประสบล่วงหน้าเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถวางแผนจัดการกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นได้
ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโรคกับผู้ป่วยเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าใจศักยภาพของตนเองและนำศักยภาพมาใช้เพื่อดูแลตนเอง
ข้อมูลส่วนตัว
ผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 31 ปี เชื้อชาติไทย ศาสนาพุทธ รับไว้ในความดูแล 16 กรกฎาคม 2563 สภาพร่างกายผู้ป่วยแรกรับ มีความรู้สึกตัวดี อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส หายใจ 20 ครั้ง/นาที ชีพจร 140 ครั้ง/นาที ความดันโลหิต 117/75 mmHg
อาการสำคัญ
ซีดโรงพยาบาลราชวิถีให้มาเพื่อรับเลือด PRC
อาการปัจจุบัน
CA Cx. refer ไปฉายแสงที่โรงพยาบาลราชวิถี อยู่ระหว่างรักษา ผู้ป่วยมีภาวะซีด
สาเหตุ/ปัจจัย
ปัจจัยด้านสตรี
อายุ อายุมากกว่า 40 มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคน้อยกว่าอายุน้อย
การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตั้งแต่อายุ 17 ปี เพราะใน1ปีแรกหลังจากมีระดูทำให้เยื่อบุมีการเปลี่ยนแปลงจาก columns epithelium เป็น squamous epithelium จึงมีความไวต่อสารก่อมะเร็ง
การมีคู่นอนหลายคน
การมีบุตรมากกว่า 4 ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น
การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
ปัจจัยเสี่ยงเรื่องคู่นอน
สตรีที่มีสามีเป็นมะเร็งองคชาติ
มีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนโดยไม่ได้ป้องกันเชื้อทางเพศสัมพันธ์
สตรีที่มีสามีชอบเที่ยวหญิงบริการมาก่อน
ปัจจัยเสี่ยงด้านอื่นๆ
เศรษฐานะและการศึกษา เพราะผู้ที่มีการศึกษาน้อยส่วนหนึ่งเป็นเพราะการขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขอนามัยทั่วไป
การสัมผัสสารก่อมะเร็ง เช่น สูบบุหรี่
การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด เช่น การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดภายใน 5 ปีเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูก 1 เท่า
การได้รับยากดภูมิต้านทานหรือการมีความเครียด
พันธุกรรม
เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม เช่น การขลิบหนังหุ้มปลายจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้
อาการและอาการแสดง
1.ไม่มีอาการแสดง
2.อาการตกขาว
ระยะลุกลาม
ตกขาวเป็นมูกใสไหลออกมาทางช่องคลอดเนื่องจากมีการติดเชื้อของเซลล์
ระยะสุดท้ายของโรค
เยื่อบุปากมดลูกเกิดแผล มีการติดเชื้อเกิดเนื้อเน่าตายและมีกลิ่นเหม็น
3.เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดหรือมีอาการตกเลือด
ระยะลุกลาม
มีเลือดออกเป็นหยด มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์
ระยะสุดท้ายของโรค
มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดโดยไม่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ มีเนื้อเน่าตายและเปื่อยยุ่ยหลุดออกมา
4.อาการเจ็บปวด ผู้ป่วยมีอาการปวดท้องน้อยมาก กดเจ็บบริเวณมดลูก มีไข้
5.อาการของมะเร็งระยะสุดท้าย มีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งไปยังอวัยวะต่างๆและเสียชีวิตในที่สุด
ภาวะแทรกซ้อน
มีภาวะยูรีเมีย เนื่องจากก้อนมะเร็งโตและกดเบียดหลอดไตทำให้ไตไม่สามารถทำงานได้ปกติ
การติดเชื้อ ถ้าผู้ป่วยมีภูมิต้านทานต่ำทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
การตกเลือดทางช่องคลอด บริเวณปากมดลูกมีเลือดมาเลี้ยงมาก เซลล์มะเร็งลุกลามจนทำให้เส้นเลือดแตกได้
การแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งไปยังอวัยวะต่างๆในร่างกาย