Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
12 Animal Bites and Poisoning - Coggle Diagram
12 Animal Bites and Poisoning
สัตว์กัด (Animal bite)
การถูกสุนัข หรือแมวกัด
ซึ่งเกิดจากเชื้อ Rabies virus พบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด ได้แก่ สุนัข แมว กระรอก หนู ค้างคาว เป็นต้น เมื่อผู้ป่วยแสดงอาการแล้วจะเสียชีวิตทุกรายเนื่องจากกล้ามเนื้อและระบบทางเดินหายใจเป็นอัมพาต
การดูแลบาดแผล ล้างแผลด้วยน้ําเปล่า ฟอกสบู่หลายๆครั้งทันที ควรล้างทุกแผลและล้างให้ ลึกถึงก้นแผลนานอย่างน้อย 15 นาที ระมัดระวังอย่าให้แผลช้ํา จากนั้นเช็ดแผลด้วยน้ํายาฆ่าเชื้อ เช่น Providone iodine หรือ Hibitane in water ถ้าไม่มีให้ใช้ 70% alcohol
การให้วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
การให้วัคซีนแบบก่อนการสัมผัสโรค (Pre-exposure rabies prophylaxis)
การให้วัคซีนภายหลังการสัมผัสโรค (Post-exposure prophylaxis) การให้วัคซีนและอิมมูโนโกลบุลิน (Rabies Immune Globulin: RIG)
การให้อิมมูโนโกลบุลินป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า อิมมูโนโกลบุลินป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (Rabies Immunoglobulin: RIG)
การให้วัคซีนป้องกันบาดทะยัก
กรณีเคยได้รับวัคซีนป้องกันบาดทะยักมาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้ง และฉีดเข็มสุดท้ายนานกว่า 5 ปี ให้ ใช้ Td (Tetanus-diphtheria toxoid) 1 เข็ม ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (เนื่องจาก TT อาจผสมกับ Rabies vaccine ชนิด PVRV กรณีฉีดเข้ากล้ามเหมือนกัน)
กรณีไม่เคยได้รับวัคซีนหรือเคยได้วัคซีนป้องกันบาดทะยักน้อยกว่า 3 ครั้ง ให้วัคซีน Td เข้ากล้าม 3 ครั้ง คือวันที่ 0, 1 เดือน และ 6 เดือน
งูกัด
Elapidae (งูพิษเขี้ยวหน้า) ได้แก่ งูเห่า งูจงอาง งูเห่าพ่นพิษสยาม งูเห่าพ่นพิษสีทอง งู สามเหลี่ยม งูทับสมิงคลา รวมถึงงูทะเล เช่น งูสมิงทะเลปากเหลือง งูสมิงทะเลปากดํา
Viperidae (งูพิษ เขี้ยวพับ หรือ วงศ์งูแมวเซา หรือวงศ์งูหางกระดิ่ง) ได้แก่ งูกะปะ งูเขียวหางไหม้ท้องเหลือ งูเขียวหางไหม้ และ งูแมวเซา
Colubridae (งูพิษเขี้ยวหลัง) ที่พบในประเทศ ได้แก่ งูลายสาบคอแดง
อาการและอาการแสดงเมื่อถูกงูกัด
อาการแสดงเฉพาะที่ เริ่มแรกผู้ที่ถูกงูกัดจะรู้สึกปวดตรงตําแหน่งที่ถูกกัด งูบางชนิดเมื่อกัดแล้วจะ ทําให้เกิดอาการบวมและเลือดออกตรงตําแหน่งที่ถูกกัด บางครั้งบวมเร็วมากภายใน 2-3 วัน อาจบวมทั้งแขน หรือขาที่ถูกกัดได้ งูบางชนิดจะทําให้เกิดอาการตุ่มน้ําพุพอง (Bleb)
อาการแสดงตามระบบ
พิษต่อระบบประสาท (Neurotoxicity)
อาการเริ่มแรกคือ ตาพร่า เห็นภาพซ้อน หนังตาตก กล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นอัมพาต ขากรรไกรแข็งพูดไม่ได้ กลืนน้ําลายไม่ได้ อึดอัด แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก และเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลว อาการต่างๆเหล่านี้จะเกิดขึ้นหลังถูกงูกัดภายใน 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง งูที่มีพิษ ต่อระบบประสาท ได้แก่ งูจงอาง งูเห่า งูสามเหลี่ยม และงูทับสมิงคลา
พิษต่อระบบโลหิต (Hematotoxin)
ผู้ป่วยจะมีอาการปวด บวม บริเวณที่ถูกกัด เลือดไหลออกจาก แผล มีจ้ําเลือด เลือดออกไม่หยุด กระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลหิตต่ํา ปวดท้อง แน่นหน้าอก และ หมดสติ งูที่มีพิษต่อระบบโลหิต ได้แก่ งูแมวเซา และงูเขียวหางไหม้ ซึ่งจะพบภาวะไตวายร่วมด้วย
พิษต่อระบบกล้ามเนื้อ (Myotocxin)
อาการแสดงต่างๆจะเกิดขึ้นค่อนข้างช้า อาจใช้เวลาตั้งแต่ 30 นาที จนถึงหลายชั่วโมง หรือ 1 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการปวดกล้ามเนื้อทั่วทั้งตัว ปัสสาวะมีสีเข้มจนถึงสีดํา อาจมี อัมพาตบางส่วนหรือทั้งหมด ปัสสาวะออกน้อยเนื่องจากมีภาวะไตวายเฉียบพลัน อาจมีอาการทางระบบ ประสาทร่วมด้วย หากไม่ได้รับการรักษาจะทําให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นจากการมีโพแทสเซี่ยมคั่งในเลือด งูที่มี พิษต่อระบบกล้ามเนื้อ ได้แก่ งูทะเลต่างๆ
การรักษาเบื้องต้นผู้ป่วยที่ถูกงูกัด
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยการให้ผู้ป่วยมีการเคลื่อนไหวบริเวณที่ถูกงูกัดน้อยที่สุด โดยการดาม
บริเวณที่ถูกงูกัดด้วยแผ่นไม้หรือวัสดุแข็ง แล้วใช้ผ้ายืด (Elastic bandage) รัดให้แน่น
การได้รับพิษจากแมลง
แมลงมีพิษที่มีความสําคัญทางการแพทย์ ได้แก่ แมลงที่มีเหล็กใน (Hymenoptera) ได้แก่ ผึ้ง ต่อ แตน แมงป่อง รวมถึงตะขาบ ซึ่งถึงแม้จะไม่มีเหล็กในแต่ทําให้เกิดปฏิกิริยาต่อ ร่างกายมนุษย์เช่นกัน
การรักษาเบื้องต้นผู้ที่ได้รับพิษจากแมลงแบบปฏิกิริยาเฉพาะที่
กรณีมีเหล็กในค้างในแผล ควรเอาเหล็กในออกโดยการอาจใช้ขอบบัตร หรือปลายปากกากดที่แผล เพื่อดันเหล็กในออกมา
ประคบเย็นเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด และหากบริเวณที่ถูกต่อย/กัดเป็นแขนขาให้ยกบริเวณนั้นสูง
แผลแมลงกลุ่มนี้อาจมีโอกาสติดเชื้อหรือกลายเป็นฝีได้ ควรคําแนะนําผู้ป่วยในการสังเกตบาดแผล หากมีอาการปวด บวม แดง หรือคันมากขึ้นให้รีบกลับมาพบแพทย์
ปฏิกิริยาแพ้พิษอย่างรุนแรง (Anaphylaxis)
โดยส่วนใหญ่อาการแสดงของ Anaphylaxis ที่พบ มากที่สุดคือ อาการในระบบผิวหนัง รองลงมาคือระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด และระบบ ทางเดินอาหารตามลําดับ และมักเกิดอาการภายในเวลา 5-30 นาที หลังได้รับสิ่งกระตุ้น
การได้รับพิษจากแมงกะพรุน (Jelly fish)
เมื่อสัมผัสแมงกะพรุนจะมีอาการเจ็บปวดบริเวณบาดแผลอย่างรุนแรงภายในระยะเวลา 2-3 นาที ผิวหนังมีแนวผื่นแดงหรือรอยไหม้ตามรอยหนวด ปวดแสบปวดร้อน บวม แดง จากการอักเสบ และอาจเป็น หนองจากการติดเชื้อแทรกซ้อน อาการบวมแดงอาจหายไปได้ในเวลาไม่นาน แต่รอยไหม้และรอยแผลเป็นที่ เกิดขึ้นจะต้องใช้เวลารักษานานหลายปี หรือเป็นแผลเป็น นอกจากนี้อาจมีอาการข้างเคียง เช่น ไอ น้ํามูก น้ําตาไหล เหงื่อออกมาก กล้ามเนื้อเป็นตะคริว อ่อนเพลีย อาเจียน หมดสติ
การรักษาพยาบาลเบื้องต้นผู้ที่ได้รับพิษจากแมงกะพรุน
รีบล้างบริเวณที่สัมผัสกับหนวดแมงกะพรุนด้วยน้ําทะเลหรือน้ําเกลือ ไม่ควรทําการทุบ หรือขยี้ ถ้ายัง มีหนวดแมงกะพรุนติดอยู่ให้รีบนําออกอย่างระมัดระวัง โดยใช้คีมคีบหรือผ้าห่อมือก่อนสัมผัส ห้ามใช้มือเปล่า จับหนวดแมงกะพรุน จากนั้นล้างทําความสะอาดแผล รักษาตามอาการด้วยยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ หรือหากมี อาการแพ้รุนแรงให้การดูแลเช่นเดียวกับการได้รับพิษจากแมลงกัด/ต่อย
ภาวะพิษจากการได้รับยาเกินขนาด (Drug overdose)
Paracetamol
ผู้ป่วยที่ได้รับ paracetamol เกินขนาดจะเกิด toxic metabolites ที่เป็นพิษต่อ
ตับและไต ร่างกายคนเราสามารถทําลายปริมาณ paracetamol ที่รับประทานเข้าไปได้ไม่เกิน 7.5 gm.
อาการแสดงเมื่อได้รับ Paracetamol เกินขนาด
ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังผู้ป่วยได้รับยา เกินขนาด จะมีอาการของระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
หลังจาก 24 ชั่วโมง ผู้ป่วยจะ มีอาการทางตับ คือ อาเจียน ปวดท้องบริเวณ right upper quadrant อ่อนเพลีย มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ในรายที่เป็นมากจะมีอาการซึมและมีอาการ coma หรือ hepatic encephalopathy
Antidote : N-acetylcysteine (NAC)
Benzodiazepines
อาการแสดงเมื่อได้รับ Benzodiazepines เกินขนาด
ผู้ป่วยจะมีอาการง่วงซึม อาการจะ เริ่มต้นภายใน 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมง ในระยะแรกอาจจะมีอาการตื่นเต้นร่วมด้วย หลังจากนั้นจะค่อยๆ ซึมลง พูดจาวกวน ถ้าเป็นมากจะซึมจนหมดสติได้
Antidote :Flumazenil
ภาวะพิษจากสารเคมี
Organophosphates และ carbamates
อาการแสดงเมื่อได้รับพิษ
ระยะเฉียบพลัน (Acute) เกิดในช่วง 2-3 วันแรก อาการที่พบบ่อยในระยะที่คือ ผู้ป่วยจะมี หลอดลมตีบ หายใจลําบาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้องบิด เหงื่อออก น้ําลายไหล น้ําตาไหล ชีพจรเต้น ช้า ความดันโลหิตต่ํา ม่านตาเล็ก ตามัว ปัสสาวะบ่อยกลั้นไม่ได้เกิดภายใน 24 ชั่วโมง และอาจมีอาการมาก ภายใน 2-3 วัน 2)
ระยะกึ่งเฉียบพลัน (subacute) เกิดในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ผู้ป่วยจะมีอาการกระวนกระวาย ค่อยๆ ซึมลงจน coma ได้
ระยะ chronic อาการจะเกิด 2-4 สัปดาห์ลักษณะที่สําคัญคือมี แขนขาอ่อนแรง ชาปลายมือ
ปลายเท้า
Antidote : Pralidoxime (2-PAM), Atropine
ภาวะพิษจาก Paraquat
อาการแสดงเมื่อได้รับพิษจาก Paraquat
ผู้ป่วยมักมีอาการอาเจียน เนื่องจากในปัจจุบันสาร paraquat ที่ขายตามท้องตลาดมียาทําให้อาเจียนผสมอยู่ด้วย เพื่อลดการเป็นพิษของสารนี้ ภายใน 24 ชั่วโมง แรกผู้ป่วยจะมีอาการของระบบทางเดินอาหารส่วนต้น เนื่องจากฤทธิ์ระคายเคือง ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ปวด ท้อง ท้องเสีย นอกจากนี้จะมีแผลบวมแดงในปาก ในรายที่เป็นมากอาจจะมีอาการฉีกขาดของหลอดอาหารทําให้มีอาการแทรกซ้อนคือ Pneumothorax และ Subcutaneous emphysema ในรายที่ได้รับสารเคมีชนิดนี้ มากกว่า 60 ml ระยะเวลาการเกิดอาการเหล่านี้จะเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมง และผู้ป่วยมักจะเสียชีวิตภายใน 24- 48 ชั่วโมง
ต้านพิษ
เน้นที่การประคับประคองผู้ป่วย โดยการเฝ้าดูอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดและการให้การรักษา
อาการแทรกซ้อน
ในผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับ Paraquat ทางปาก ควรจะรีบทํา gastric lavage และ
ให้ดินเหนียวหรือ Fuller's earth (60 gm/bottle) 150 gm ผสมน้ํา 1 ลิตร ให้ทางปาก
หรือให้ 7.5% bentonite 100-150 gm
หรือ Activated charcoal 100-150 g (2 gm/1kg) และให้ร่วมกับยาระบาย MOM 30 ml ทุก 4- 6 ชั่วโมงจนผู้ป่วยถ่ายอุจจาระ โดยทั่วไปแล้วถือกันว่าขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สําคัญที่สุดในการรักษาภาวะเป็น พิษนี้ การให้ Fuller's earth โดยเร็วจึงเป็นการลดพิษที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
การได้รับพิษจากผลิตภัณฑ์ที่ใชในบ้านเรือน
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านเรื่อน ได้แก่ ผงซักฟอก น้ํายาปรับผ้านุ่ม น้ํายาล้างจาน น้ํายาล้างห้องน้ํา
การรักษา
สารเคมีที่อยู่ในผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ดังนั้นไม่ควรทําให้ผู้ป่วย อาเจียน วิธีการดูแลผู้ที่ได้รับสารพิษมีดังนี้
ห้ามทําให้อาเจียน เพราะอาจทําให้สารพิษกัดกร่อนเนื้อเยื่อในรับบทางเดินอาหารเพิ่มได้
ให้ผู้ป่วยดื่มน้ําหรือนม เพื่อช่วยเจือจางและดูดซับสารพิษ
เพิ่มการดูดซับและขับถ่ายสารพิษโดยให้ผงถ่าน (Activated charcoal) ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งหรือลดการ ดูดซึมสารพิษที่ผู้ป่วยรับประทานเข้าไป โดยให้หลังจากผ่านการล้างท้อง (Gastric larvage )การให้ผงถ่านซ้ําๆ จะช่วยเพิ่มการขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย
พิษจากเห็ด
การรักษา
เป็นการรักษาแบบประคับประคองให้ผู้ป่วยพ้นขีดอันตราย การลดปริมาณสารพิษที่ผู้ป่วย
ได้รับ และเร่งขับสารพิษออกจากร่างกาย