Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การการพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลแต่ละวัย :silhouettes: - Coggle Diagram
การการพยาบาลข้ามวัฒนธรรมของบุคคลแต่ละวัย :silhouettes:
2.การพยาบาลข้ามวัฒนธรรม
ของบุคคลวัยผู้ใหญ่ :silhouette:
1 การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมใน
วัยผู้ใหญ่ที่นับถือศาสนาอิสลาม
การดูแลทำความสะอาดผู้ป่วย
สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
ผู้ป่วยที่สามารถทำความสะอาดได้ อาจจะทำด้วย ตนเอง หรือให้คนอื่นช่วย ก็ให้ทำความสะอาดตามปกติ
ผู้ป่วยที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ อาจเป็นเพราะผู้ป่วยเองไม่สามารถจะทำได้ หรือไม่มีผู้ที่จะช่วยทความสะอาด ก็ให้ทำความสะอาดเท่าที่สามารถจะกระทำได้
ผู้ป่วยที่มีนะญิส
สิ่งสกปรกที่ต้องชำระให้สะอาดตามหลัก
นิติบัญญัติอิสลาม ติดตัวอยู่ตลอดเวลา
เราต้องแนะนำให้ผู้ป่วยทำความสะอาด
บริเวณดังกล่าวตามปกติหรือตามคำแนะนำของแพทย์
การอาบน้ำละหมาดของเขานั้นไม่เสียแต่ เขาจะต้องอาบน้ำละหมาดหรือตะยัมมุมไม่มีอุปสรรคใดๆ ที่ไม่สามารถทำการละหมาดได้
สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถปกปิดเอาเราะฮฺ์อาจเนื่องจากผู้ป่วยจะรู้สึกปวดมากขึ้น หรือเป็นอุปสรรคมาก เมื่อสวมใส่เสื้อผ้า ไม่ต้องละหมาดชดใช้อีก
ไม่ต้องละหมาดชดใช้อีกสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถผินหน้าสู่กิบลัต (ทิศตะวันตก) ได้แก่ผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวเองได้ ไม่มีผู้ใดช่วยเหลือเขาด้วยเหตุสุดวิสัยอื่นๆเขาสามารถละหมาดโดยไม่ต้องหันหน้าสู่กิบลัตได้
2 สตรีตั้งครรภ์และหลังคลอด
ชนเผ่าม้ง ภาคเหนือ ประเทศไทย
หญิงตั้งครรภ์จะถูกแนะนำ ให้ดื่มนํ้ามะพร้าวเมื่ออายุครรภ์ได้ประมาณ 7-8 เดือนเพราะจะทำ ให้ ลูกไม่มีไขคลอดง่ายและมีผิวสวย
กินแกงผักพื้นบ้าน ชื่อผักปรัง ซึ่งมีลักษณะ
ลื่นๆเพื่อจะทำ ให้ลูกคลอดไม่ลำบาก
ข้อพึงปฏิบัติตามความเชื่อคือ ให้นำ หัวปลาไหลแห้ง ผักปลังดิน ใบหนาด มามัดรวมกันแล้วแช่อาบนํ้าทุกวันในระยะท้องแก่ใกล้คลอด โดยมีความเชื่อว่าจะทำ ให้คลอดง่าย
หญิงตั้งครรภ์ในกลุ่มชาวเขาเผ่าม้งยังมีการคลอดที่บ้านเป็นส่วนใหญ่
การปฏิบัติตัวหลังคลอดหลังจากคลอดบุตรแล้วแม่เด็กจะใช้ผ้ารัดหน้าท้องให้แน่นเพื่อไม่ให้ท้องโต
หญิงหลังคลอดทุกคนจะอยู่ไฟประมาณ 1 เดือน โดยการก่อกองไฟไว้ข้างที่นอนตลอดเวลา
เชื่อว่าการอยู่ไฟจะทำ ให้สุขภาพแม่ดี แข็งแรง และช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว
เผ่าม้งจะมีความเชื่อในการปฏิบัติที่ทำให้มีนํ้านมมาก โดยการเชิญหมอผีทำ พิธีเรียกนํ้านม รวมทั้งมีการกินยาสมุนไพรที่มียางสีขาวมีแม่หลายคนที่กินแป้งข้าวหมัก ซึ่งมีแอลกอฮอล์และอาจมีผลเสียต่อลูกได้
3 การพยาบาลข้ามวัฒนธรรม
ในวัยผู้ใหญ่ชาวจีน
รากฐานมาจากวัฒนธรรมประจำชาติ
ความเชื่อด้านสุขภาพของชาวจีน
ถ้าร่างกายแข็งแรงไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ ไม่ค่อยสนใจการตรวจคัดกรองเพื่อการป้องกันโรค
การใช้การรักษาดั้งเดิม (Traditional treatments) ชาวจีนนิยมการรักษาด้วยการแพทย์แผนจีน เช่น การฝังเข็ม
3.การใช้สมุนไพรเพื่อการบำบัดโรค สมุนไพรบำบัดโรคมีทั้งผลดีและผลไม่พึงประสงค์คล้ายกับการแพทย์แผนปัจจุบัน
แนวทางการดูแลผู้ใช้บริการกลุ่มนี้มีวิธีการปฏิบัติ
พัฒนาทักษะการสื่อสารกับผู้ใช้บริการชาวจีนด้วยภาษาจีนง่ายๆ หรือตามความสนใจ หากสื่อสารไม่ได้ อาจสื่อสารผ่านญาติ หรือใช้ล่ามแปล
เลือกใช้วิธีการพยาบาลบนพื้นฐานของการบูรณาการศาสตร์ทางการพยาบาลไปกับวัฒนธรรมของผู้ใช้บริการให้เหมาะสมกับบริบทต่างๆ
1 การคงไว้ซึ่งแบบแผนของการดูแลเชิงวัฒนธรรมระบบพื้นบ้านและของวิชาชีพ
2 การปรับเข้าหากันระหว่างแบบแผนของการดูแลเชิงวัฒนธรรมของพื้นบ้านและของวิชาชีพ
3 การปรับเปลี่ยนแบบแผนของวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาแบบแผนของการดูแลเชิงวัฒนธรรมขึ้นใหม่
ศึกษาวัฒนธรรมของชาวจีนในด้านต่างๆเพื่อให้เกิดความเข้าใจเช่น ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณี ภาษา และความเชื่อ
วัยผู้ใหญ่แบ่งออก
เป็น 3 ระยะ คือ
2.วัยผู้ใหญ่ตอนกลางหรือวัยกลางคน อายุ 40 ปีถึง 60-65 ปี เป็นวัยที่ได้ผ่านชีวิตครอบครัวและชีวิตการงานมาระยะหนึ่ง มีความมั่นคง
3.วัยผู้ใหญ่ตอนปลายหรือวัยสูงอายุ อายุ 60-65 ปีขึ้นไป เป็นวัยของความเสื่อมถอยของร่างกาย สภาพจิตใจ และบทบาททางสังคม
1.วัยผู้ใหญ่ตอนต้นหรือวัยหนุ่มสาว อายุ 20-25 ปีถึง 40 ปีบทบาทที่จะเลือกแนวทางในการดำเนินชีวิตของตนในเรื่องอาชีพ คู่ครอง และความสัมพันธ์กับบุคคลต่าง ๆ อย่างมีความหมาย
1.การพยาบาลข้ามวัฒนธรรม
ของบุคคลวัยเด็กและวัยรุ่น :baby::skin-tone-2:
ประเทศกัมพูชา
การเกิดถือว่าเป็นอันตรายทั้งต่อแม่และเด็ก สตรีที่ตาย
เพราะการคลอดบุตรจะเชื่อว่าเกิดจากการกระทำของปีศาจ
การติดต่อระหว่างกลุ่มชนต่างอายุกัน
จะต้องเลือกใช้คำพูดให้เหมาะสม
ชาวกัมพูชาจะให้การเคารพแพทย์เพราะถือว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในชั้นที่สูงกว่าในสังคม เวลาผู้ป่วยคุยกับแพทย์จึงก้มหน้าไม่สบตา
ถือว่าศีรษะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ผู้ให้บริการด้านสุขภาพไม่ควรแตะศีรษะผู้ป่วยก่อนได้รับอนุญาตจากผู้ป่วยเองหรือจากบิดามารดาของผู้ป่วยเด็ก
ประเทศไทย
ความเชื่อเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของเด็กจะได้รับอิทธิพลจากสังคมรอบข้าง โดยเฉพาะผู้ปกครอง เช่น การบอกกล่าวของบิดามารดา คำสั่งสอนของปู่ย่าตายาย
ความเชื่อเกี่ยวกับเด็กหรือลูกของ
แต่ละศาสนาจะแตกต่างกัน
ศาสนาอิสลาม
เชื่อว่าลูกเป็นของขวัญจากองค์อัลลอฮ์
มารดาต้องดูแลบุตรตั้งแต่ในครรภ์จนถึงวัยผู้ใหญ่หรืออายุ 21 ปี
ศาสนาคริสต์
เชื่อว่าเด็กเป็นของขวัญจากพระเจ้า เมื่อเด็กเกิดมาต้องเข้าพิธีบัติศมาเพื่อแสดงถึงการชำระเพื่อให้พ้นจากความบาป
ศาสนาพุทธ
ความเชื่อเกี่ยวกับการดูแลเด็กเช่น ในสมัยโบราณจะมีพิธีการสู่ขวัญเด็กเมื่ออายุครบ 1 เดือนและมีการโกนผมไฟด้วย ผูกข้อมือ
ส่วนความเชื่อในการดูแลเด็กของคนไทย
ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จะมีการรักษาความเจ็บป่วยจากอำนาจเหนือธรรมชาติ
การประกอบพิธีกรรมต่างๆ เช่น การสะเดาะห์เคราะห์
การผูกข้อมือเรียกขวัญ การบูชาบวงสรวง
อาจมีการรักษาตามอาการจากแพทย์พื้นบ้าน
มีการใช้สมุนไพร การประคบน้ำมัน
การรักษาแบบผสมผสาน เช่น มีการสมุนไพร
ร่วมกับวิธีการรักษาอื่นๆเช่น การใช้น้ำมนต์
ยกตัวอย่าง ความเชื่อ
ในการดูแลเด็ก
3.เม่า
คือ โรคที่เกิดกับทารกช่วงกินนม การรักโดยจะเสียบกรวย
ดอกไว้บนหลังคาครึ่งวัน แล้วนำ ลงมาเสกเป่า ทำแบบนี้จนกว่าจะหาย
2.น้ำนม
เชื่อว่า ถ้าเอาน้ำนมของคนทาที่ศีรษะของเด็กทารกที่มีผมบาง จะทำให้ผมขึ้นดกหนาถ้าเอาน้ำนมหยอดตาคนที่เป็นโรคตาแดงก็จะหาย เป็นต้น
1.จกคอละอ่อน
คือการที่หมอตำแย ใช้นิ้วมือล้วงเอาเสลดที่อยู่ในคอทารกออกเชื่อว่าถ้าไม่ทำเช่นนี้ เมื่อโตขึ้นเด็กคนนั้นจะป่วยเป็นโรคหืดหอบได้
4.รก
สมัยก่อนต้องให้หมอเวทมนตร์มาเสกคาถาสะเดาะเคราะห์ใส่น้ำให้แม่เด็กดื่มเพื่อบังคับรกให้ออก
ประเทศจีน
เมื่อครบสามวันจะมีพิธีล้างวันที่สาม
เป็นการอาบน้ำโดยใช้น้ำ “ฉางโซ่วทัง”
มีความหมายว่า น้ำอายุมั่นขวัญยืน
ชาวปักกิ่งในสมัยราชวงศ์ชิงจะนำสมุนไพรจีนใส่
ลงในน้ำ เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อและอนามัยต่อสุขภาพของเด็ก
ชาวจีนบางกลุ่มที่นิยมใส่ต้นหอมหรือนำเศษเหรียญใส่ลงในน้ำ เพราะต้นหอมหรือชงในภาษาจีนพ้องเสียงกับคำว่า “ชงหมิง” ที่แปลว่า ฉลาดหลักแหลม ส่วนเงินหมายความว่าพรั่งพร้อมไปด้วยทรัพย์สินเงินทอง
หญิงที่มีบุตรยากจะถือโอกาสในวันนี้ แย่งกันเอาน้ำที่ได้หลังจากการอาบให้เด็กมาอาบตัว เชื่อว่าจะช่วยให้สามารถมีบุตรได้
พิธีครบเดือนหรือที่ชาวจีน
โบราณเรียกว่า “หมีเย่ว์”
ประกอบไปด้วยการโกนผมไฟ การจัดเลี้ยงในหมู่
ญาติสนิทมิตรสหาย และการตั้งชื่อให้เด็ก
หลังจากผู้โกนผมจุดธูปเสร็จก็จะเริ่มโกนผมพร้อมการจุดประทัด จากนั้นผู้ที่รับหน้าที่โกนผมจะเอาใบชาที่อมจนเปื่อยในปากชโลมลงบนศีรษะเด็ก ด้วยเชื่อว่าฆ่าเชื้อโรค ลบรอยแผลเป็น
ตรงบริเวณท้ายทอยจะเหลือผมไว้หนึ่งปอย เส้นผมที่โกนทิ้งจะไม่โยนทิ้ง แต่จะเก็บรวมกันและนำมาสานเป็นแผ่น
นำไปวางไว้หัวเตียงเด็กหรือเย็บติดกับเสื้อเด็ก
เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและคุ้มครอง
การประยุกต์ใช้การพยาบาลข้าม
วัฒนธรรมในการดูแลเด็ก
3.หากสื่อสารไม่ได้หรือไม่มีประสิทธิภาพ
อาจสื่อสารผ่านญาติที่เป็นคนไทย หรือการใช้ล่าม
4.อาจทำรูปภาพสื่อสารแทนภาษาพูด คู่มือหรือแนวทาง
การดูแลเด็กป่วยของครอบครัวที่เป็นภาษาต่างประเทศ
2.พัฒนาทักษะการสื่อสารกับเด็กตามพัฒนา
การของเด็กรวมทั้งผู้ดูแลเด็กด้วยภาษาง่ายๆ
5.การปฏิบัติพยาบาลควรใช้กระบวนการพยาบาลควบคู่
กับการพยาบาลข้ามวัฒนธรรมตามแนวคิดไลนิงเจอร์
1.ศึกษาวัฒนธรรมของผู้ป่วยและครอบครัวในด้านต่างๆ
3.การพยาบาลข้ามวัฒนธรรม
ของบุคคลวัยผู้สูงอายุ :blue_heart:
1) การเคารพนับถือความ
เป็นบุคคลของผู้สูงอายุ
การเรียกชื่อ การใช้สรรพนาม การเคารพในสัญชาติ ภูมิหลัง ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม การเข้าใจถึงบุคลิกภาพหรือสิ่งที่ผู้สูงอายุชอบ
2) การสื่อสาร
ควรใช้ภาษาที่ตรงกับภาษาที่ผู้สูงอายุสามารถสื่อสารได้ และใช้ภาษากายในการสื่อสารกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านความจำเสื่อมใช้เสียงดังให้เหมาะสมกับความสามารถในการได้ยินด้วยและความสุภาพ
3) สุขภาพและยาที่ใช้
ควรคำนึงถึงภาวะสุขภาพและโรคที่ผู้สูงอายุ
เป็นอยู่ เช่น เบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิตสูง
4) การจัดสิ่งแวดล้อม
และป้องกันอุบัติเหตุ
โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีภาวะแขนขาอ่อนแรง ควรจัดสถานที่ให้ปลอดภัยจากการพลัดตกหกล้ม มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่นติด
ราวที่ฝาผนัง
5) ความสามารถใน
การเคี้ยวและกลืน
ไม่ควรจัดอาหารที่เหนียวเกินไป แข็งเกินไป จัด
อาหารรสชาติที่ผู้สูงอายุชอบเช่น รสจืด ไม่เผ็ด
6) การดูแลด้านจิตสังคม
ควรจัดกิจกรรมให้ผู้สูงอายุที่ยังมี
สุขภาพดี ให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมสังคมต่างๆ
7) การดูแลด้านจิตวิญญาณ
ตามความเชื่อของผู้สูงอายุ
ฟังเพลงนมัสการ ฟังคำเทศนา ฟังพระคัมภีร์ การละหมาด
การไปวัดหรือร่วมนมัสการในบ้านหรือไปโบสถ์
ผู้สูงอายุในแถบประเทศตะวันตก
ค่อนข้างจะให้ความสำคัญของการคำนึงถึงความเป็นบุคคลและการมีอิสระในการดำเนินชีวิตด้วยตนเองให้มากที่สุด
ผู้สูงอายุในแถบตะวันออก
มักจะมีความต้องการพึ่งพาลูกหลานและครอบครัวมากกว่า