Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่ 5 - Coggle Diagram

- - - - เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ ชื่อและ
        อาการสําคัญของโรคติดต่ออันตรายและโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง
      - เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ หลักเกณฑ์และวิธีการแจ้งในกรณีที่มีโรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง หรือโรคระบาดเกิดขึ้น
      - ให้รัฐมนตรีโดยคําแนะนําของคณะกรรมการด้านวิชาการมีอํานาจประกาศ ให้ท้องที่หรือเมืองท่าใดนอกราชอาณาจักรเป็นเขตติดโรค
      - ให้อธิบดีโดยคําแนะนําของ คณะกรรมการด้านวิชาการมีอํานาจประกาศชื่อ อาการสําคัญ และสถานที่ที่มีโรคระบาด
  - - - “คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ”
        รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานกรรมการ
      - กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละสามปี
      - นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหน่งเมื่อ ตาย ลาออก รัฐมนตรีให้ออก ล้มละลาย
      - การประชุมของคณะกรรมการ ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ของจํานวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ จึงเป็นองค์ประชุม
      - ให้มีคณะกรรมการด้านวิชาการคณะหนึ่ง
      - ให้นําความในมาตรา ๑๕ มาใช้บังคับแก่การประชุมของคณะกรรมการด้านวิชาการ และคณะอนุกรรมการโดยอนุโลม
      - ให้กรมควบคุมโรคเป็นสํานักงานเลขานุการของคณะกรรมการ
        คณะกรรมการ ด้านวิชาการ และคณะอนุกรรมการ รับผิดชอบงานธุรการ
  - - - ให้มีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานกรรมการ ปลัดจังหวัด ประชาสัมพันธ์จังหวัด ฯลฯ
      - การแต่งตั้ง วาระการดํารงตําแหน่ง และการพ้นจากตําแหน่งของกรรมการ ตามมาตรา ๒๐ (๓) (๔) และ (๕) และกรรมการตามมาตรา ๒๐ วรรคสอง
      - มาตรา ๒๒ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมีอํานาจหน้าที่ ดําเนินการตามนโยบาย จัดทําแผนปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน รายงานสถานการณ์โรคติดต่อ ฯลฯ
      - คณะทํางานประจําช่องทางเข้าออก เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบช่องทางเข้าออกนั้น เป็นประธานคณะทํางาน ฯลฯ
      - ให้คณะทํางานประจําช่องทางเข้าออกมีอํานาจหน้าที่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ จัดทำแผน ประสานงาน ดําเนินการอื่นใดที่เกี่ยวกับการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค
  - - - มาตรา ๒๖ ให้มีคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานกรรมการ ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ฯลฯ
      - มาตรา ๒๗ การแต่งตั้ง วาระการดํารงตําแหน่ง และการพ้นจากตําแหน่งของกรรมการ ตามมาตรา ๒๖ (๓) (๔) และ (๕) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
      - มาตรา ๒๘ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครมีอํานาจหน้าที่ ดําเนินการตามนโยบาย ระบบ และแนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวัง จัดทําแผนปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตราย
      - ให้นําความในมาตรา ๑๕ มาใช้บังคับแก่การประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพมหานครและคณะทํางานประจําช่องทางเข้าออกโดยอนุโลม
      - มาตรา ๓๐ ให้นําความในมาตรา ๒๓ และมาตรา ๒๔ มาใช้บังคับแก่องค์ประกอบ และอํานาจหน้าที่ของคณะทํางานประจําช่องทางเข้าออกที่คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครแต่งตั้ง โดยอนุโลม
  - - - มีหนังสือเรียกบุคคลใดๆ มาให้ถ้อยคําหรือแจ้งข้อเท็จจริงหรือทําคําชี้แจงเป็นหนังสือ หรือให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานใดเพื่อตรวจสอบหรือเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา
      - เข้าไปในพาหนะ อาคาร หรือสถานที่ใด ๆ ในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทําการของอาคารหรือสถานที่นั้น
    - - เครื่องแบบ เครื่องหมาย และบัตรประจําตัวตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามแบบที่กระทรวงสาธารณสุข ประกาศกําหนด
    - - ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
  - - - ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา ๓๔ ม่อํานวยความสะดวก แก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา ๓๙ (๔) ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
    - - ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของคณะกรรมการ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
    - - ผู้ใดไม่อํานวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามมาตรา ๓๘ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
    - - ผู้ใดขัดขวางหรือไม่อํานวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามมาตรา ๔๕ วรรคสาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
    - - ผู้ใดไม่มีสิทธิที่จะสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงานควบคุม โรคติดต่อตามมาตรา ๔๖ กระทําการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ ต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
    - - บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ที่มีโทษปรับสถานเดียวหรือมีโทษจําคุก ไม่เกินหนึ่งปี ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายมีอํานาจเปรียบเทียบได้
  - - - ให้เจ้าพนักงานสาธารณสุขตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๒๓ เป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะมีการแต่งตั้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามพระราชบัญญัตินี้
    - - ในวาระเริ่มแรก ให้คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการตามมาตรา ๑๑ ยกเว้น กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๑๑ (๔) ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้ไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ต้องไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
    - - บรรดากฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ หรือคําสั่งใดที่ออกตามพระราชบัญญัติ โรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๒๓ ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
- - - - พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541
      - พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
      - ให้ยกเลิกพระราชบญัญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2504
      - พระราชบัญญัตินี้มีให้ใช้บังคับแก่สถานพยาบาลของกระทรวง ทบวง กรม กรงุเทพมหานคร
  - - - คณะกรรมการสถานพยาบาล ประกอบดว้ย ปลัดกระทรวงสาธารณสขุเป็นประธานกรรมการ
      - กรรมการผู้ทรงคณุวุฒิตามมาตรา 7 อยู่ในตำแหน่งคราวละสองปี
      - พ้นจากตําแหน่งตามวาระตามมาตรา 8 คือ ตาย ลาออก รัฐมนตรีให้ออก
      - การประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด
      - คณะกรรมการมีหน้าที่ให้คําปรึกษา
  - - - ผู้รับอนุญาตต้องชำระค่าธรรมเนียมตามหลักเกณฑ์กำหนด
      - ใช้ได้จนถึงวันสิ้นปีปฏิทิน ของปีที่ออกใบอนุญาต
      - ผู้ขอรับใบอนุญาต ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี เป็นคนไทย ไม่เคยต้องโทษจำคุก ฯลฯ
    - - ผู้อนุญาตตาย ผู้แทนต้องขอขึ้นทะเบียนแทนภายใน 30 วัน
      - ผู้อนุญาตต้องจัดให้มีผู้ดำเนินการหนึ่งคน
      - ห้ามมิให้บุคคลใดดำเนินกิจการ ยกเว้นได้รับอนุญาต
      - การพิจารณาออกใบอนุญาต ต้องมีใบประกอบโรคศิลป ฯลฯ
    - - ผู้อนุญาตต้องดูแลมิให้ผู้อื่นใช้สถานบริการผิดประเภท
      - ต้องดูแลให้การช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วย ให้ผู้ป่วยพ้นสภาพอันตราย
      - ผู้อนุญาติและผู้ดำเนินการ จัดให้มีเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ
      - ห้ามเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลเกินอัตรา
      - ผู้อนุมัติ ผู้ดำเนินงาน ผู้ประกอบการ เป็นคนเดียวกันได้
    - - ให้ผู้อนุญาตจัดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจลักษณะของสถานพยาบาล
      - การเปลี่ยนชื่อสถานพยาบาลต้องได้รับอนุญาตจากผู้รับอนุญาต
      - มีการเปลี่ยนตัวผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ต้องแจ้งเป็นหลังสือ ภายใน 10 วัน
      - ย้ายไปที่อื่น ให้ขออนุญาตประกอบกิจการใหม่
      - มีโฆษณา หรือฝ่าผืน ประกาศระงับการกระทำดังกลา่วได้
  - - - ในการปฏิบิตัหิน้าที่ มีอำนาจ
        
        ทำหนังสือเรียก ยึดอายัดเอกสารต่างๆ ฯลฯ
      - ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานจะต้องแสดงบัตรทุกครั้ง
      - ให้ผู้อนุญาตและพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
  - - - ปฏิบัติหน้าที่ที่ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต สั่งปิดได้
      - ปฏิบัติไม่ถูกต้อง เจ้าพนักงานสั่งระงับตามเวลาอันสมควร
  - - - ต้องยินยอมให้ผู้อื่นจัดทำหลักฐานเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล
      - กรณีที่ผู้กระทำความผิดซึ่งต้องรับโทษตามพระราชบญัญัตินี้เป็นนิติ บุคคลกรรมการผู้จัดการ
      - ผู้รับอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของผู้อนุญาตตามมาตรา 44 จาํคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
    - - ผู้ใดประกอบกิจการสถานพยาบาลในระหว่างที่สถานพยาบาลนั้นถูกสั่ง ปิดชั่วคราวตามมาตรา 50 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี
      - ขัดขวางหรือไม่อํานวยความสะดวกให้แก่คณะกรรมการในการ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองพัน
      - ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดซึ่งต้องรับโทษตามพระราชบัญญัตินี้เป็นนิติบุคคลกรรมการผู้จัดการ
  - - - ใบอนุญาต ให้ใช้ได้จนถึงวันสิ้นปฏิทินของปีที่พระราชบญัญัตินี้มีผลใช้บังคับ
    - - บรรดากฎกระทรวง หรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2504 และยังใช้บังคับอยู่ในวันพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ