Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ และส่วนประกอบของหลอดเลือด - Coggle Diagram
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ และส่วนประกอบของหลอดเลือด
หลักการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำส่วนปลาย
(Peripheralintravenousinfusion)
การให้สารน้ำหรือของเหลวทางหลอดเลือดดำที่อยู่ในชั้นตื้น ๆ
เพื่อเตรียมผ่าตัด ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องให้ยาทางหลอด เลือดดำ
Heparin lock หรือ Saline lock
การแทงเข็มให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำส่วนปลาย
คาเข็มที่หล่อด้วยสารต้านการแข็งตัวของเลือด (Heparin) เจือจาง (Heparin: 0.9 % NSS=1:100)
เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้สารละลายและยาเข้าทางหลอดเลือดดำเป็นครั้งเป็นคราว
Piggy back IV Administration
การให้สารน้ำขวดที่ 2
มีขนาดบรรจุ 25 – 250 มล.2 ต่อเข้ากับชุดให้สารน้ำขวดแรก
เพื่อให้ยาหยดเข้าทางหลอดเลือดดำช้า ๆ ขณะที่สารน้ำใน piggyback set หยด สารน้าที่ให้อยู่ก่อนจะหยุดไหลชั่วคราว จนกว่าสารน้ำใน Piggy back หมด
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำใหญ่
(Central venous therapy)
การให้สารน้ำหรือของเหลวทาง Central line ทางหลอดเลือดดำใหญ่ ๆ
Internal & External jugular veins
Right & Left Nominate veins
จะให้ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถ รับประทานอาหารทางปาก หรือรับประทานอาหารทางปากได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
การให้สารน้ำและสารละลายทางหลอดเลือดดำใหญ่
ผ่านอุปกรณ์ที่ฝังไว้ใต้ผิวหนัง
(Implanted vascular access device หรือ venous port)
เป็นการฝังอุปกรณ์ที่ใช้ในการให้ของเหลว ทางหลอดเลือดดำไว้ใต้ผิวหนัง
ปลายสายสอดผ่านเข้าหลอดเลือดดำใหญ่
ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องให้สารละลายทางหลอดเลือดดำเป็นระยะ ๆ และไม่ สามารถให้สารน้ำและสารละลายทางหลอดเลือดดำส่วนปลายได้
ชนิดของสารน้ำที่ให้ทางหลอดเลือดดำ
สารน้ำที่ให้ทางหลอดเลือดดำทุกชนิด ประกอบด้วย
ตัวถูกละลาย
อิเล็กโตไลท์
ส่วนประกอบที่ไม่ใช่ไอออน
ยูเรีย
กลูโคส
แบ่งออกตามความเข้มข้นได้ 3 ชนิด
สารละลายไอโซโทนิก (Isotonic solution)
มีความเข้มข้นเท่ากันน้ำนอกเซลล์
เมื่อให้ทางหลอดเลือดดาจะไม่มีการ เคลื่อนที่ของน้าเข้าหรือออกจากเซลล์
มีออสโมลาริตี้ระหว่าง 280-310 m0sm/l
สารละลายไฮโปโทนิก (Hypotonic solution)
ค่า Osmolarityน้อยกว่าน้านอกเซลล์
ออสโมลาริตี้ น้อยกว่า 280 m0sm/l
เป็นสารน้ำที่มีโมเลกุลอิสระของน้ำมากกว่าในเซลล์
สารละลายไฮเปอร์โทนิก (Hypertonic solution)
สารน้าที่มีค่าออสโมลาริตี้มากกว่า 310 m0sm/l
มีมากกว่าออสโมลาริตี้ของน้ำนอกเซลล์
ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการหยดของสารน้ำ
ระดับขวดสารน้ำสูงหรือต่ำเกินไป
ความหนืดของสารน้ำ
ขนาดของเข็มที่แทงเข้าหลอดเลือดดำ
เกลียวปรับบังคับหยดที่ลื่นมากจะบังคับการหยดได้ไม่ดีพอ
การผูกยึดบริเวณหลอดเลือด
การเคลื่อนย้ายและการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ป่วย
การคำนวณอัตราการหยดของสารน้ำ
สูตรการคำนวณอัตราหยดของสารน้ำใน 1 นาที
จานวนหยดของสารละลาย (หยด/ นาที) = จานวน Sol.(มล/ชม.) x จานวนหยดต่อมล.) / เวลา(นาที)
สูตรการค้านวณสารน้ำที่จะให้ใน 1 ชั่วโมง
ปริมาตรของสารน้าที่จะให้ใน 1 ชม. = ปริมาตรของสารน้าที่จะให้ / จำนวนเวลาที่จะให้เป็นชั่วโมง
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
การเลือกตำแหน่งของหลอดเลือดดำที่จะแทงเข็ม
1) เลือกหลอดเลือดดำของแขนข้างที่ผู้ป่วยไม่ถนัดก่อน
2) ให้เริ่มต้นแทงเข็มที่ให้สารน้ำที่หลอดเลือดดำส่วนปลายของแขนก่อน
3) ตรวจสอบบริเวณตำแหน่งที่จะแทงเข็มว่ามีสภาพที่เหมาะสม
4) ถ้าจำเป็นต้องผูกยึดแขนและขา ให้หลีกเลี่ยงการแทงเข็มให้สารน้า
5) หลีกเลี่ยงการแทงเข็มบริเวณข้อพับต่าง ๆ
6) คำนึงถึงชนิดของสารน้ำที่ให้
อุปกรณ์เครื่องใช้
ขวดสารน้ำ โดยขวดสารน้ำ/ยา
ชุดให้สารน้ำ (IV Administration set)
เข็มที่ใช้แทงเข้าหลอดเลือดดำส่วนปลาย
อุปกรณ์อื่น ๆ
เสาแขวนขวดให้สารน้ำ
ยางรัดแขน (Tourniquet)
แผ่นโปร่งใสปิดตาแหน่งที่แทงเข็ม (Transparent dressing)
อาการแทรกซ้อนจากการได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเฉพาะที่(Localcomplication)
การบวมเนื่องจากสารน้ำซึมออกนอกหลอดเลือดดำ(Infiltration)
การมีเลือดออกและแทรกซึมเข้าใต้ผิวหนังบริเวณที่แทงเข็ม (Extravasations)
การติดเชื้อเฉพาะที่ (Local infection)
หลอดเลือดดำอักเสบ(Phlebitis)ผิวหนังบริเวณที่แทงเข็มบวม
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นในระบบไหลเวียนของเลือด (Systemiccomplication)
1) การแพ้ยาหรือสารน้ำที่ได้รับ (Allergic reaction)
2) การติดเชื้อในกระแสเลือด (Bacteremia หรือ Septicemia)
3) เกิดฟองอากาศในกระแสเลือด(Airembolism)
4) ให้สารน้ำเร็วเกินและมากเกินไป (Circulatory overload)
การพยาบาล
1) หยุดให้สารน้ำ
2) เปลี่ยนขวดให้สารน้า กรณีผู้ป่วยมีการแพ้ยาหรือสารน้าที่ได้รับ หรือมีการติดเชื้อ
3) ให้การช่วยเหลือตามอาการ
4) วัดอุณหภูมิ ชีพจร การหายใจ และความดันโลหิต เพื่อดูการเปลี่ยนแปลง
5) เตรียมรถ Emergency ในการช่วยเหลือเร่งด่วน
6) รายงานให้แพทย์ทราบเพื่อให้การรักษา
7) ส่งเลือดและหนองที่เกิดเฉพาะที่ไปเพาะเชื้อ
8) ดูแลให้ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
9) ดูแลให้ออกซิเจน
การใช้กระบวนการพยาบาลในการให้สารน้ำทางหลอดเลือดด้า
ขั้นตอนที่1 การประเมินสภาพผู้ป่วย
การประเมินด้านร่างกาย
การประเมินด้านจิตใจ
การประเมินสิ่งแวดล้อม
การประเมินแผนการรักษา
ขั้นตอนที่ 2 ข้อวินิจฉัย
มีความพร้อมในการเริ่มให้สารน้ำทางหลอดเลือดดาตามแผนการรักษา
ขั้นตอนที่ 3 การวางแผนในการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
วางแผนให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำโดยประยุกต์ใช้หลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goal
วัตถุประสงค์ของการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ให้สารน้ำทดแทนน้ำที่สูญเสียจากร่างกาย
ให้สารน้ำเพียงพอกับความต้องการของร่างกายในรายที่ไม่สามารถรับประทานได้ทางปาก
ให้ยาบางชนิดที่ไม่สามารถดูดซึมทางระบบทางเดินอาหาร
รักษาสมดุลของกรด-ด่างในร่างกาย
ใช้เป็นช่องทางในการฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
เกณฑ์การประเมิน
ผู้ป่วยได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำไม่พบอาการแทรกซ้อนและปลอดภัยตามหลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goals
ขั้นตอนที่ 4 การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
เครื่องใช้
intravenous fluid (IV fluid) ตามแผนการรักษา
intravenous catheter (IV cath.) เบอร์ 22/ 24
intravenous set (IV set)
tourniquet
สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
extension tube
three ways
IV stand (เสาน้ำเกลือ)
พลาสเตอร์ หรือ พลาสเตอร์ใสสำเร็จรูป (transparent)
แผ่นฉลากชื่อ
วิธีทำการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ตรวจสอบคำสั่งการรักษา และเขียนชื่อนามสกุลของผู้ป่วย ชนิดของสารน้า วัน เวลาที่เริ่มให้อัตราการหยดของสารน้ำ
บอกให้ผู้ป่วยทราบโดยอธิบายวัตถุประสงค์และวิธีการให้
ล้างมือให้สะอาด
เตรียมเครื่องใช้ไปที่เตียงผู้ป่วย
ดึงแผ่นโลหะที่ปิดขวดสารน้ำหรือฝาครอบที่ปิดถุงน้าพลาสติกออก
เช็ดจุกยางที่ขวดหรือถุงสารน้ำด้วยสาลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
ต่อ IV set กับ IV fluid
ต่อ three ways กับextension tube แล้วมาต่อกับ IV set
ปิด clamp ที่ IV set
แขวนขวด IV fluid เสาน้ำเกลือแขวนให้สูงประมาณ 1 เมตร (3 ฟุต) จากผู้ป่วย
บีบ chamber ของ IV set ให้ IV fluid ลงมาในกระเปาะประมาณ 1⁄2 ของกระเปาะ
เตรียมผิวหนังและการแทงเข็มให้สารน้ำ
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
การประเมินผลการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ประเมินอาการแทรกซ้อนและอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ของผู้ป่วยและปลอดภัยตาม หลักการ 6 Rights
ประเมินสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย
ประเมินความสุขสบายของผู้ป่วยและจัดท่านอนให้สุขสบายและเหมาะสม
ประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วย
การประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล
ประเมินการปฏิบัติถูกต้องครบและเป็นไปตามขั้นตอนของการปฏิบัติ
ประเมินการจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ครบถ้วนเพียงพอหรือไม่
การประเมินผลคุณภาพการบริการ
ประเมินคุณภาพของการปฏิบัติงาน
ประเมินคุณภาพของการให้บริการ
การหยุดให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
อุปกรณ์เครื่องใช้
สำลีปลอดเชื้อ หรือก๊อซปลอดเชื้อ
พลาสเตอร์
ถุงมือชนิดใช้แล้วทิ้ง
วิธีปฏิบัติ
ปิดclamp
แกะพลาสเตอร์ที่ปิดยึดหัวเข็ม และสายให้สรน้ำออกทีละชิ้น ระวังอย่าให้เข็มถูกดึงรั้งออก ทางผิวหนัง
สวมถุงมือเพื่อไม่ให้เลือดสัมผัสกับมือพยาบาล
ดึงเข็มที่ให้สารน้าออกทางผิวหนังตามแนวที่แทงเข็มด้วยความนุ่มนวล
ใช้สาลีแห้งหรือก๊อซปลอดเชื้อกดทับที่ตาแหน่งที่ดึงเข็มออกหรือยึดติดด้วย พลาสเตอร์ และ
ปิดไว้นาน 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการติดเชื้อจนกว่าเลือดจะหยุด
เก็บชุดให้สารน้าและเข็มที่แทงให้เรียบร้อย
บันทึกในบันทึกทางการพยาบาลวัน เวลาและเหตุผลของการหยุดให้สารน้ำ
การใช้กระบวนการพยาบาลในการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลการบริหารยาฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ
การประเมินผลการบริหารยาฉีดเป็นการประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
การประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล เป็นการประเมินผลของการปฏิบัติงาน เพื่อนามาปรับปรุง การปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
การประเมินผลคุณภาพการบริการ เป็นการประเมินคุณภาพของผลการปฏิบัติงาน เพื่อนามา ปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
ขั้นตอนที่2 ข้อวินิจฉัย
การบริหารยาที่มีประสิทธิภาพโดยใช้หลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goals
ขั้นตอนที่1 การประเมินสภาพผู้ป่วย
การประเมินด้านจิตใจ
การประเมินสิ่งแวดล้อม
การประเมินด้านร่างกาย
ขั้นตอนที่3 การวางแผนในการบริหารยา
ขั้นตอนที่ 4 วิธีการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ
วิธีการฉีดยาแบบที่ 1 IV plug กับ piggy back (100 ml)
วิธีการฉีดยาแบบที่ 2 IV plug กับ syringe IV push
วิธีการฉีดยาแบบที่ 3 Surg plug กับ piggy back (100 ml)
วิธีการฉีดยาแบบที่ 5 three ways กับ piggy back (100 ml)
วิธีการฉีดยาแบบที่ 6 three ways กบั syringe IV push
การให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
วัตถุประสงค์
ทดแทนน้าที่ร่างกายสูญเสียไป
ให้ผู้ป่วยที่รับประทานอาหารและน้ำทางปากไม่ได้ให้ได้รับ สารอาหารครบถ้วนตามความต้องการของร่างกาย โดยผ่านทางหลอดเลือดเลือดดำ
ข้อบ่งชี้ในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
โรคทางเดินอาหาร เช่น อุจจาระร่วงเรื้อรัง
โรคของอวัยวะต่างๆ เช่น ภาวะไตวาย
ภาวะทางศัลยกรรม เช่น ถูกน้ำร้อนลวก
ความผิดปกติของจิตใจ
โรคมะเร็งต่างๆ
ส่วนประกอบของสารอาหารในสารละลาย
คาร์โบไฮเดรต นิยมใช้ในรูปของกลูโคส
สารละลายไขมัน (fat emulsion)
โปรตีนอยู่ในรูปกรดอะมิโน ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ต่อ 1 กรัม
วิตามินให้ทั้งชนิดละลายในน้ำ
เกลือแร่ ก่อนที่จะเริ่มให้สารอาหารควรมีการคำนวณจำนวนเกลือแร่ให้เรียบร้อยก่อนสาหรับ ผู้ป่วยทั่วไปควรนึกถึงเกลือแก่
น้าให้คานวณจานวนน้าที่จะให้แก่ผู้ป่วยตามน้าหนักตัว
ชนิดของสารอาหารทางหลอดเลือดดำ
Total parenteral nutrition (TPN)
Partial or peripheral parenteral nutrition (PPN)
ตำแหน่งของการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
การให้ทางหลอดเลือดดำแขนง (peripheral vein)
การให้ทางหลอดเลือดดำใหญ่ (central vein)
ขั้นตอนในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
อธิบายให้ผู้ป่วยทราบ
ล้างมือให้สะอาดก่อนให้การพยาบาลทุกครั้ง สวมmask
เตรียมอุปกรณ์ในการให้ PPN หรือ TPN ที่สะอาดปราศจากเชื้อ
ต่อสายยางให้อาหารเข้าไปในชุดให้สารอาหาร
ตรวจสอบ PPN หรือ TPN จะต้องไม่ขุ่นหรือมีตะกอน
มีป้ายปิดที่ขวดให้สารอาหาร ระบุชื่อ และสกุลของผู้ป่วย
นำสารอาหารและสายยางให้สารอาหารไปต่อกับผู้ป่วยโดยเช็ดบริเวณรอยต่อด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ ปิดด้วยผ้าก๊อซปราศจากเชื้อ
ให้สารอาหารปรับจำนวนหยดตามแผนการรักษา
อาการแทรกซ้อนจากการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
บวมเนื่องจากมีสารอาหารเข้าไปอยู่ในเนื้อเยื่อชั้นผิวหนัง
ลักษณะที่พบ
บวมบริเวณที่ให้ บางครั้งอาจมองเห็นไม่ชัดเจน
ผู้ป่วยรู้สึกไม่สุขสบายบริเวณที่ให้
การพยาบาลและการป้องกัน
ถ้าพบว่ามีสารอาหารซึมออกมาอยู่ในเนื้อเยื่อควรหยุดให้สารอาหารทันที
ควรดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการเกิดสารอาหารซึมออกมาอยู่ในเนื้อเยื่อ
มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในระบบไหลเวียนของเลือด (Embolism)
ลักษณะที่พบ
อาการเขียว เนื่องจากขาดออกซิเจน ความดันเลือดต่ำ ชีพจรเบาเร็ว หมด
ความรู้สึก และอาจตายได้ ซึ่งเป็นผลจากฟองอากาศไปอุดกั้นการไหลเวียนเลือดที่จะไปเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญ
สังเกตพบว่าอัตราการหยดของสารอาหารจะช้าลง หรือหยุดไหล
การพยาบาลและการป้องกัน
ระมัดระวังในการเปลี่ยนขวดสารอาหารไม่ให้อากาศผ่านเข้าไปในชุดสาย ให้สารอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ป่วยอยู่ในท่านอนหรือยืน
หยุดให้สารอาหารทันทีถ้าพบว่ามีก้อนเลือดอุดตันที่เข็ม
ห้ามนวดคลึงเพราะอาจทำให้ก้อนเลือดนั้นหลุดเข้าไปในกระแสเลือด
การให้สารอาหารมากเกินไป (Circulatory overload)
ลักษณะที่พบ
อาการแสดงที่ปรากฏเริ่มแรก คือ ปวดศีรษะ หายใจตื้น และหอบเหนื่อย
ตรวจพบความดันเลือดและแรงดันหลอดเลือดส่วนกลางสูงขึ้น ชีพจรเร็ว
ผู้ป่วยมีปริมาณน้ำเข้าและออก (intake/output) ไม่สมดุล
มีการคั่งของเลือดดำจะพบว่าหลอดเลือดดำที่คอโป่ง
ถ้ารุนแรงจะมีภาวะปอดบวมน้า อาการคือ หายใจลาบาก นอนราบไม่ได้
ผิวหนังเขียวคล้ำ ไอมีเสมหะเป็นฟองและอาจมีเลือดปน
การพยาบาลและการป้องกัน
ปรับอัตราหยดให้ช้าที่สุดและรายงานให้แพทย์ทราบด่วน
บันทึกสัญญาณชีพ
จัดผู้ป่วยให้อยู่ในท่านั่งเพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
ไข้ (pyrogenic reactions)
เกิดจากมีสารแปลกปลอมซึ่งเป็นส่วนประกอบของโปรตีนเข้าสู่ กระแสเลือด
ลักษณะที่พบ
ไข้สูง 37.3-41 องศาเซลเซียส
ปวดหลัง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน
หนาวสั่น
ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับเชื้อจุลินทรีย์ที่ได้รับและสภาวะของผู้ป่วย
การพยาบาลและการป้องกัน
หยุดให้สารอาหาร
บันทึกสัญญาณชีพ และรายงานแพทย์
ถ้าเป็นไปได้ ควรเก็บชุดให้สารอาหารและชุดสายให้สารอาหารส่งเพาะเชื้อ
การเตรียมสารอาหารควรทาด้วยวิธีปลอดเชื้อ ก่อนให้สารอาหารทุกครั้ง
เขียนวัน เวลาที่เริ่มให้สารอาหารข้างขวดเพื่อให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องทราบโดยทั่วไป
ตรวจสอบรูรั่วของสายให้อาหารก่อนใช้ทุกครั้ง
เปลี่ยนชุดให้สารอาหารทุก24ชั่วโมง
ควรมีสถานที่เฉพาะสาหรับเตรียมสารอาหารและหมั่นรักษาความสะอาด
ล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสอุปกรณ์และบริเวณที่แทงเข็ม
หุ้มผ้าก๊อซปราศจากเชื้อบริเวณรอยข้อต่อต่างๆ
การหยุดให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
เมื่อไม่มีความจาเป็นที่จะให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำให้งด สารละลายไขมันได้ทันที และลด ความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโคส และกรดอะมิโนลง รวมทั้งเกลือแร่ต่างๆ ด้วย
การใช้กระบวนการพยาบาลในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
ผู้ป่วยสูงอายุชายไทย อายุ 45 ปี หลังทำการผ่าตัดมะเร็งกระเพาะอาหาร รับประทานอาหารทางปาก และอาหารทางสายให้อาหารไม่ได้ แพทย์ให้ 10% Aminosal 500 ml v drip OD
ขั้นตอนที่1 การประเมินสภาพผู้ป่วย(Assessment)
S: “รู้สึกปากแห้ง อยากเคี้ยวอาหารทางปาก”
O: Known case CA stomach S/P Subtotal gastrectomy มีรูปร่างผอม
ขั้นตอนที่ 2 ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
มีโอกาสเกิดหลอดเลือดดำอักเสบจากการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำเป็นเวลาหลายวัน
มีโอกาสเกิดสิ่งแปลกปลอมอยู่ในระบบไหลเวียนของเลือดจากการให้สารอาหารทางหลอด เลือดดำเป็นเวลาหลายวัน
วัตถุประสงค์
ไมเ่กิดภาวะหลอดเลือดดำอักเสบ
ไมเ่กิดสิ่งแปลกปลอมอยู่ในระบบไหลเวียนของเลือด
เกณฑ์การประเมินผล
บริเวณที่ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำไม่มีบวมแดง
สัญญาณชีพปกติ
ขั้นตอนที่ 3 การวางแผนการพยาบาล (Planning)
ให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำตามแผนการรักษาและไม่เกิดอาการแทรกซ้อน
ขั้นตอนที่ 4 การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
1.ก่อนและขณะให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ควรมีการประเมินสภาพร่างกาย
2.ประเมินสัญญาณชีพก่อนและขณะให้สารอาหารและติดตามทุก 2-4 ชั่วโมง
3.ผู้ป่วยที่ได้รับสารอาหารทางหลอดเลือดดำส่วนปลาย(peripheral vein)
มีป้ายปิดที่ขวดให้สารอาหาร ระบุชื่อ และสกุลของผู้ป่วย
สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับผู้ป่วย
6.ถ้าสารอาหารที่ให้ทางหลอดเลือดดำรั่ว หรือทางเส้นเลือดดำอุดตัน ให้ไม่ได้ ควรรายงานให้แพทย์ทราบ
7.หลีกเลี่ยงการให้ยาฉีดทางหลอดเลือดดาสายเดียวกับให้สารอาหารทางหลอกเลือดดา
8.ดูแลทางด้านจิตใจ โดยอธิบายให้เข้าใจถึงความจำเป็นในการได้สารอาหาร ประโยชน์ที่ได้รับ เพื่อผู้ป่วยจะได้ให้ความร่วมมือ
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลทางการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ (Evaluation)
1.การประเมินผลการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ เป็นการประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
2.การประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล เป็นการประเมินผลของการปฏิบัติงาน เพื่อนำมาปรับปรุง การปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
3.การประเมินผลคุณภาพการบริการ เป็นการประเมินคุณภาพของผลการปฏิบัติงาน
การใช้กระบวนการพยาบาลในการให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด
ขั้นตอนที่1 การประเมินสภาพผู้ป่วย
การประเมินด้านร่างกาย
ระดับความรู้สึกตัว
พยาธิสภาพของโรค ประวัติเจ็บป่วย โรคของผู้ป่วย
การประเมินด้านจิตใจ
ความพร้อมของการรับบริการให้เลือดและสารประกอบของเลือด
ความวิตกกังวลและความกลัว
การประเมินสิ่งแวดล้อม
การประเมินแผนการรักษา
ขั้นตอนที่ 2 ข้อวินิจฉัย
มีความพร้อมในการเริ่มให้เลือดและสารประกอบของเลือดตามแผนการรักษา
ขั้นตอนที่ 3 การวางแผนในการให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด
วางแผนให้ผู้ป่วยได้รับเลือดและสารประกอบของเลือดโดยประยุกต์ใช้หลักการ 6 Rights และหลัก ความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goals
วัตถุประสงค์ของการให้เลือดและสารประกอบของเลือด
ทดแทนปริมาณเลือดที่สูญเสียไป
ทดแทนเม็ดเลือดแดง
ทดแทนปัจจัยการแข็งตัวของเลือด
เกณฑ์การประเมิน
ผู้ป่วยได้รับเลือดและสารประกอบของเลือดไม่พบอาการแทรกซ้อนและปลอดภัยตามหลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goals
ขั้นตอนที่ 4 การให้เลือดและสารประกอบของเลือด
เครื่องใช้
intravenous fluid (IV fluid) ตามแผนการรักษา
intravenous catheter (IV cath.) เบอร์ 18
blood transfusion set (Blood set)
tourniquet
สาลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
extension tube
three ways
IV stand (เสาน้ำเกลือ)
พลาสเตอร์ หรือ transparent สำเร็จรูป
แผ่นฉลากชื่อ
ถุงมือสะอาด mask
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลการให้เลือดและสารประกอบของเลือด
การประเมินผลการให้เลือดและส่วนประกอบของเลือดเป็นการประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
ประเมินอาการแทรกซ้อนและอาการข้างเคียง
ติดตามประเมินสัญญาณชีพ
ประเมินสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย
ประเมินความสุขสบายของผู้ป่วยและจัดท่านอนให้สุขสบายและเหมาะสม
การประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล เป็นการประเมินผลของการปฏิบัติงาน
การประเมินผลคุณภาพการบริการ เป็นการประเมินคุณภาพของผลการปฏิบัติงาน
การบันทึกปริมาณน้ำเข้า-ออกจากร่างกาย (Record Intake-Output)
จำนวนน้ำที่ร่างกายได้รับ (Fluid intake)
จำนวนน้ำที่ร่างกายขับออก(Fluid output)
หลักการบันทึกจ้านวนสารน้ำที่เข้าและออกจากร่างกาย
แบบฟอร์มการบันทึกควรแขวนไว้ที่เตียงผู้ป่วย เพื่อสะดวกในการจดบันทึกและเมื่อครบ 24 ชั่วโมง ต้องสรุปลงในแผ่นรายงานประจำตัวของผู้ป่วยหรือฟอร์มปรอท
อธิบายเหตุผลและความสำคัญของการวัดและการบันทึกจำนวนน้ำที่รับเข้าและขับออก
ร่วมกับผู้ป่วยในการวางแผนกำหนดจำนวนน้าที่เข้าสู่ร่างกายในแต่ละช่วงเวลา
จดบันทึกจำนวนน้ำและของเหลวทุกชนิดที่ให้ขณะมื้ออาหารและระหว่างมื้ออาหาร
การจดบันทึกควรสรุปทุก 8 ชั่วโมง และทุกวัน
บันทึกจำนวนสารน้ำที่สูญเสียทางอื่น ๆ
ภาวะแทรกซ้อนจากการให้เลือด
1.เม็ดเลือดแดงสลายตัว (Hemolysis)
2.ปริมาตรการไหลเวียนของเลือดมากเกินไป (Volume overload)
3.ไข้(Febrile transfusion reaction)เกิดจากการได้รับสารที่ทาให้เกิดไข้
4.ปฏิกริยาภูมิแพ้ (Allergic reaction)
5.การถ่ายทอดโรค (Transfusion-associated graft versus host disease)
6.การอุดตันจากฟองอากาศ(Airembolism)
7.ภาวะสารซิเตรทเกินปกติ
8.ภาวะโปตัสเซียมเกินปกติ(Hyperkalemia)
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมความสมดุลของสารน้ำในร่างกาย
1.การประเมินภาวะสุขภาพ (Health assessment)
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
4.การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
การให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด
ในระบบ ABO จำแนกหมู่เลือดออกเป็น 4 หมู่ คือ หมู่เลือด A, B, AB และ O
การให้และการรับเลือดในหมู่เลือด
1.คนเลือดกรุ๊ป Rh-ve ต้องรับจาก Rh-ve เท่านั้น แต่ต้องดูกรุ๊ปเลือดตามระบบ ABO ด้วย
(หาก คนเลือดกรุ๊ป Rh-ve รับเลือดจาก Rh+ve อาการข้างเคียงจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น ในครั้งถัดๆไป)
2.คนเลือดกรุ๊ป O รับได้จาก O เท่านั้น แต่ให้กับกรุ๊ปอื่นได้ทุกกรุ๊ป
3 คนเลือดกรุ๊ปABรับได้จากทุกกรุ๊ปแต่ให้เลือดแก่ผู้อื่นได้เฉพาะคนที่เป็นเลือดกรุ๊ปAB
4.คนเลือดกรุ๊ป A รับได้จาก A และ O ให้ได้กับ A และ AB
เลือด (whole blood)
เซลล์เม็ดเลือด
เซลล์เม็ดเลือดแดง
เซลล์เม็ดเลือดขาว