Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ - Coggle Diagram
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
1. หลักการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
แบ่งออกเป็น 3 ชนิด ดังนี้
1. การให้สารน้ำหลอดเลือดดำส่วนปลาย(Peripheral intravenous infusion)
เป็นการให้สารน้ำหรือของเหลงทางหลอดเลือดดำที่อยู่ในชั้นตื้นๆ ของผิวหนังหรือหลอดเลือดดำที่อยู่ในส่วนปลายของแขนและขา
Heparin lock หรือ Saline lock เป็นการแทงเข็มให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำส่วนปลายและคาเข็มที่หล่อด้วยสารต้านการแข็งตัวของเลือด
Piggy back IV Administration เป็นการให้สารน้ำขวดที่ 2 ต่อเข้ากับชุดให้สารน้ำขวดแรก
2. การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำใหญ่(Central venous therapy)
เป็นการให้สารน้ำหรือของเหลวทาง Central line ทางหลอดเลือดดำใหญ่ๆ ได้แก่ Subclavin vein, Interal & External jugular vein และ Right & Left Nominate veins เป็นต้น
3. การให้สารน้ำและสารละลายทางหลอดเลือดดำใหญ่ผ่านอุปกรณ์ที่ฝังไว้ติดผิวหนัง(Implanted vascular access device หรือ venous port)
เป็นการฝังอุปกรณ์ที่ใช้ในการให้ของเหลงทางหลอดเลือดดำไว้ใต้ผิวหนัง โดยที่ปลายสายสอดผ่านเข้าหลอดเลือดดำใหญ่ เช่น Subclavin vein, Right & Left Nominate veins เป็นต้น
2. ชนิดของสารน้ำที่ให้ทางหลอดเลือดดำ
แบ่งออกตามความเข้มข้นได้ 3 ชนิด ดังนี้
1. สารละลายไอโซโทนิก(Isotonic solution)
จะมีความเข้มข้นเท่ากับน้ำนอกเซลล์ เมื่อให้ทางหลอดเลือดดำจะไม่มีการเคลื่อนที่ของน้ำเข้าหรือออกจากเซลล์
2. สารละลายไฮโปโทนิก(Hypotonic solution)
เป็นสารน้ำที่มีโมเลกุลอิสระของน้ำมากกว่าในเซลล์ จึงทำให้เกิดการเคลื่อนของน้ำเข้าสู่เซลล์
3. สารละลายไฮเปอร์โทนิก(Hypertonic solution)
สารน้ำอันนี้มีโมเลกุลอิสระของน้ำน้อยกว่าน้ำในเซลล์ และจะทำให้เกิดการดึงน้ำจากเซลล์สู่ระบบการไหลเวียน
3. ปัจจัยที่มีผลกระทบต่ออัตราการหยดของสารน้ำ
ระดับขวดสารน้ำสูงหรือต่ำเกินไป การแขวนขวดสารน้ำให้สูง สารน้ำจะหยดเร็วกว่าการแขวนขวดในระดับต่ำ
ความหนืดของสารน้ำ ถ้าสารน้ำมีความหนืดสูงอัตราการหยดจะช้า
ขนาดของเข็มที่แทงเข้าหลอดเลือดดำ เข็มขนาดใหญ่อัตราการหยดจะเร็วกว่าใช้เข็มขนาดเล็ก
เกลียวปรับบังคับหยดที่ลื่นมาก จะบังคับการหยดได้ไม่ดีพอ อัตราการหยดจะเร็ว
สายให้สารน้ำ มีความยาวมาก มีการหักพับงอหรือถูกกด จะทำให้สารน้ำผ่านไม่สะดวก อัตราการไหลจะช้าลง
การผูกยึดบริเวณหลอดเลือด แน่นหรือตึงเกินไปรวมทั้งการนั่ง หรือนอนทับสายให้สารน้ำ ทำอัตราการหยดช้าลง
การเคลื่อนย้ายและการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ป่วย อาจะทำให้เข็มเคลื่อนที่ ปลายตัดของเข็มแนบชัดผนังหลอดเลือด สารน้ำไหลไม่สะดวก อัตราการหยดจะช้าลง
การปรับอัตราหยดผู้ป่วยเด็กที่เอื้อมมือไปหมุนปรับเล่น หรือญาติผู้ป่วยหมุนปรับเอง
4. การคำนวณอัตราการหยดของสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
- สูตรการคำนวณอัตราหยดของสารน้ำใน 1 นาที
จน.หยดของสารละลาย = จน.Sol.(มล/ซม) x จน.หยดต่อมล. / เวลา(นาที)
- สูตรการคำนวณสารน้ำที่จะให้ใน 1 ชั่วโมง
ปริมาตรของสารน้ำที่ให้ 1 ชม. = ปริมาตรของสาร้ำที่จะให้/จน.เวลาที่จะให้เป็นชม.
5. การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
มีรายละเอียด ดังนี้
1. การเลือกตำแหน่งของหลอดเลือดดำที่จะแทงเข็ม
1.1 เลือกหลอดเลือดดำของแขนข้างที่ผู้ป่วยไม่ถนัดก่อน
1.2 ให้เริ่มต้นแทเข็มที่ให้สารน้ำที่หลอดเลือดดำส่วนปลายของแขนก่อน
1.3 ตรวจสอบบริเวณตำแหน่งที่จะแทงเข็มว่ามีสภาพที่เหมาะสม เช่น ไม่มีบาดแผล หรือแผลไหม้ที่ทำให้หลอดเลือดถูกทำลาย
1.4 ถ้าจำเป็นต้องผูกยึดแขนและขา ให้หลีกเลี่ยงการแทงเข็มให้สารน้ำ
1.5 หลีกเลี่ยงการแทงเข็มบริเวณข้อพับต่างๆ เพราะจะทำให้หลอดเลือดแตกทะลุง่าย
1.6 คำนึงถึงชนิดของสารน้ำที่ให้
2. อุปกรณ์เครื่องใช้
ขวดสารน้ำ ต้องเตรียมให้ตรงกับใบสั่งการรักษาและตรวจสอบดูว่าสภาพไม่มีรอยแตกร้าว
ชุดให้สารน้ำ(IV Administration set) ใช้เป็นทางผ่านของสารน้ำจากขวดไปสู่หลอดเลือดดำของผู้ป่วย
เข็มที่ใช้แทงเข้าหลอดเลือดดำส่วนปลาย(Peripheral insertion devices) มีหลายขนาดตั้งแต่เบอร์ 14 16 18 20 22 และ 24 เป็นต้น
อุปกรณ์อื่นๆ เช่น เสาแขวนขวดให้สารน้ำ ยางรัดแขน แผ่นโปร่งใสปิดตำแหน่งที่แทงเข็ม ก๊อซปลอดเชื้อ ไม้รองแขน พลาสเตอร์ สำลีปลอดเชื้อ ถุงมือสะอาด เป็นต้น
6. อาการแทรกซ้อนจากการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
แบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 2 ประเภท คือ
1. ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเฉพาะที่(Local complication) ได้แก่
1.1 การบวมเนื่องจากสารน้ำซึมออกนอก หลอดเลือดดำ เกิดอาการบวนบริเวณที่แทงเข็มให้สารน้ำ ผู้ป่วยรู้สึกปวดแสบบริเวณที่บวมและไม่สุขสบาย
1.2 การมีเลือดออกและแทรกซึมเข้าใต้ผิวหนังบริเวณที่แทงเข็ม บริเวณที่แทงเข็มบวมและมีเลือดแทรกซึมใต้ผิวหนัง ผู้ป่วยรู้สึกปวดแสบ ปวดร้อน ไม่สุขสบาย
1.3 การติดเชื้อเฉพาะที่ บวมแดง ร้อน บริเวณที่แทงเข็มให้สารน้ำอาจจะมีหนองบริเวณที่แทงเข็ม
1.4 หลอดเลือดดำอักเสบ ผิวหนังบริเวณที่แทงเข็มบวม ตำแหน่งที่แทงเข็มแดงร้อนไปตามแนวของหลอดเลือด
การพยาบาล
หยุดให้สารน้ำ จัดแขนข้างที่บวมให้สูงกว่าลำตัวผู้ป่วย
ประคบด้วยความร้อนเปียก
เปลี่ยนที่แทงเข็มให้สารน้ำใหม่
รายงานให้แพทย์ทราบเพื่อให้การรักษา
จัดแขนข้างที่บวมให้สูงกว่าลำตัวผู้ป่วย เพื่อลดอาการบวม
บ่งหนองบริเวณที่แทงเข็มเพาะเชื้อ
2. ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นในระบบไหลเวียนของหลอด(Systemic complication)
การแพ้ยาหรือสารน้ำที่ได้รับ มีผื่นแพ้เกิดขึ้นที่ผิวหนัง ร่วมกับอาการแพ้ต่างๆ เช่น น้ำมูกไหล คันที่ผิวหนัง หายใจไม่สะดวก
การติดเชื้อในกระแสเลือด มีไข้สูง หนาวสั่น ความดันโลหิตลดลง คลื่นไส้ อาเจียน บางครั้งมีอาการถ่ายเหลว
เกิดฟองอาการในกระแสเลือด เกิดจากการไล่ฟองอากาศในชุดสายให้สารน้ำไม่หมด หรือการปล่อยสารน้ำจนหมด
ให้สารน้ำเร็วเกินและมากเกินไป เกิดจากอัตราการหยดของสารน้ำเร็วเกินไป โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคหัวใจ อาจเกิดอาการหัวใจวาย และ/หรือ น้ำท่วมปอดได้
การพยาบาล
หยุดให้สารน้ำ
เปลี่ยนขวดให้สารน้ำ กรณีผู้ป่วยมีการแพ้ยาหรือสารน้ำที่ได้รับ หรือมีการติดเชื้อ
ให้การช่วยเหลือตามอาการ เช่น ให้ออกซิเจนในกรณีที่ผู้ป่วยหายใจไม่ออก แล้วรีบรายงานให้แพทย์ทราบ เพื่อให้การรักษา
วัดอุณหภูมิ ชีพจร การหายใจ และความดันโลหิต เพื่อดูการเปลี่ยนแปลง
เตรียมรถ Emergency ในการช่วยเหลือเร่งด่วน
รายงานให้แพทย์ทราบเพื่อให้การรักษา
ส่งเลือดและหนองที่เกิดเฉพาะที่ไปเพาะเชื้อ
ดูแลให้ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
ดูแลให้ออกซิเจน
จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนศีรษะต่ำกรณีความดันโลหิตต่ำ หรือจัดให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูงกรณีความดันโลหิตสูง
7. การใช้กระบวนการพยาบาลในการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
มีขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 การประเมินสภาพผู้ป่วย
การประเมินด้านร่างกาย
การประเมินด้านจิตใจ
การประเมินสิ่งแวดล้อม
การประเมินแผนการรักษา
ขั้นตอนที่ 2 ข้อวินิจฉัย
มีความพร้อมในการเริ่มให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
ขั้นตอนที่ 3 การวางแผนในการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
โดยประยุกต์ใช้หลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE
ขั้นตอนที่ 4 การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลการให้สารน้ำทางหลอดเลือดำ
แบ่งออกเป็น
การประเมินผลการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ เป็นการประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
การประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล เป็นการประเมินผลของการปฏิบัติงาน เพื่อนำมาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
การประเมินผลคุณภาพการบริการ เป็นการประเมินคุณภาพของผลการปฏิบัติงาน เพื่อนำมาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
การหยุดให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ปฏิบัติดังนี้
1. อุปกรณ์เครื่องใช้
สำลีปลอดเชื้อ หรือก๊อชปลอดเชื้อ
พลาสเตอร์
ถุงมือชนิดใช้แล้วทิ้ง
2. วิธีปฏิบัติ
ปิด clamp
แกะพลาสเตอร์ที่ปิดยึดหัวเข็ม และสายให้สารน้ำออกทีละชิ้น ระวังอย่างให้เข็มถูกดึงรั้งออกทางผิวหนัง
สวมถุงมือเพื่อไม่ให้เลือดสัมผัสกับมือพยาบาล
ดึงเข็มที่ให้สารน้ำออกทางผิวหนังตามแนวที่แทงเข็มด้วยความนุ่มนวล
ใช้สำลีแห้งหรือก๊อบปลอดเชื้อกดทับที่ตำแหน่งที่ดึงเข็มออกหรือยึดติดด้วย พลาสเตอร์ และปิดไว้นาน 8 ชั่วโมง
เก็บชุดให้สารน้ำและเข็มที่แทงให้เรียบร้อย
บันทึกในบันทึกทางการพยาบาลวัน เวลา และเหตุผลของการหยุดให้สารน้ำ
8. การใช้กระบวนการพยาบาลในการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ
มีขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 การประเมินสภาพผู้ป่วย
1. การประเมินด้านร่างกาย
1.1 ระดับความรู้สึกตัว
1.2 ประวัติการแพ้ยา
1.3 พยาธิสภาพของโรค ประวัติเจ็บป่วย โรคของผู้ป่วย
2. การประเมินด้านจิตใจ
2.1 ความพร้อมของการรับบริการฉีดยา
2.2 ความต้องการรับบริการฉีดยา
2.3 ความวิตกกังวลและความกลัว
3. การประเมินสิ่งแวดล้อม
3.1 ความสะอาดของสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้ป่วยและรอบเตียง
3.2 ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสิ่งแวดล้อมผู้ป่วย
3.3 ความพร้อมใช้ของสิ่งแวดล้อมตัวผู้ป่วย เช่น ตู้ข้างเตียง เหล็กกั้นเตียง เป็นต้น
3.4 บรรยากาศในหอผู้ป่วย และมีอากาศถ่ายเทสะดวก
ขั้นตอนที่ 2 ข้อวินิจฉัย
การบริหารยาใช้หลักการ 6 Right และหลักความปลอดภัย SIMPLE
ขั้นตอนที่ 3 การวางแผนในการบริหารยา
วัตถุประสงค์ของการฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
ให้ยาออกฤทธิ์เร็ว
ให้ยาที่มีผลระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ
ให้ยาชนิดที่ไม่สามารถให้ทางอื่นได้ผลต่อการรักษา
เกณฑ์การประเมินผล
ผู้ป่วยปลอดภัยตามหลักการ 6 Rights
ผู้ป่วยปลอดภัยตามหลักความปลอดภัย SIMPLE
ขั้นตอนที่ 4 วิธีการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ
แบ่งออกป็น
การฉีดยาแบบที่ 1 IV plug กับ piggy back (100ml)
การฉีดยาแบบที่ 2 IV plug กับ syringe IV push
การฉีดยาแบบที่ 3 Surg plug กับ piggy back (100ml)
การฉีดยาแบบที่ 4 Surg plug กับ syringe IV push
การฉีดยาแบบที่ 5 three ways กับ piggy back (100ml)
การฉีดยาแบบที่ 6 three ways กับ syringe IV push
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลการบริหารยาฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ
การประเมินผลการบริหารยาฉีด เป็นการประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
การประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล เป็นการประเมินผลของการปฏิบัติงาน เพื่อนำมาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
การประเมินผลคุณภาพการบริการ เป็นการประเมินคุณภาพของผลการปฏิบัติงาน เพื่อนำมาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
9. การให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
วัตถุประสงค์
เพื่อ
ให้ผู้ป่วยที่รับประทานอาหารและน้ำทางปากไม่ได้ ให้ได้รับสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการของร่างกาย โดยผ่านทางหลอดเลือดดำ
ทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป เช่น อาเจียน อุจจาระร่วงรุนแรง
ข้อบ่งชี้ในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
โรคทางเดินอาหาร เช่น อุจจาระร่วงเรื้อรัง การอักเสบในระบบทางเดินอาหาร ลำไส้ อักเสบ จากการฉายรังสี
โรคของอวัยวะต่างๆ เช่น ภาวะไตวาย โรคหัวใจแต่กำเนิด
ภาวะทางศัลยกรรม เช่น ถูกน้ำร้อนลวก ภายหลังการผ่าตัด
ความผิดปกติของจิตใจ เช่น anorexia nervosa
โรคมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร
ส่วนประกอบของสารอาหารในสารละลาย
คาร์โบไฮเดรต นิยมใช้ในรูปของกลูโคส ให้พลังงาน 4 กิโลแคลต่อ 1 กรัม
สารละลายไขมัน ให้พลังงาน 9 กิโลแคลต่อ 1 กรัม
โปรตีนอยู่ในรูปกรดอะมิโน ให้พลังงาน 4 กิโลแคลต่อ 1 กรัม
วิตามิน ให้ทั้งนิดละลายในน้ำ เช่น วิตามิน B12, thiamine
เกลือแร่
น้ำให้คำนวณจำนวนน้ำที่จะให้แก่ผู้ป่วยตามน้ำหนักตัว
ชนิดของสารอาหารทางหลอดเลือดดำ
แบ่งได้ 2 ประเภท ได้แก่
Total parenteral nutrition (TPN) เป็นการให้โภชนบำบัดครบตามความต้องการของผู้ป่วย ทั้งปริมาณพลังงานที่ต้องการ และสารอาหารทุกหมู่ ในกรณีนี้สารอาหารที่ให้ทางหลอดเลือดดำจะมีความเข้มข้นสูงมาก จำเป็นต้องให้ทาง Central vein จึงจะไม่เกิดการอักเสบของหลอดเลือดดำ แต่ผู้ป่วยจะได้อาหารครบสมบูรณ์
Partial or peripheral nutrition (PPN) เป็นการให้โภชนบำบัดทางหลอดเลือดดำเพียงบางส่วน อาจได้พลังงานไม่ครบตามความต้องการ หรือได้สารอาหารไม่ครบทุกหมู่ กรณีนี้ถ้าความเข้มข้นของสารอาหารไม่มากนัก สามารถให้ทางหลอดเลือดดำแขนง peripheral vein ได้
ตำแหน่งของการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
การให้ทางหลอดเลือดดำแขนง(peripheral vein) ข้อดีของหารให้วิธีนี้คือไม่ยุ่งยาก สามารถให้แก่ผู้ป่วยได้ทันที แต่มีข้อจำกัดคือ ไม่สามารถให้น้ำตาลกลูโกสมากกว่าร้อยละ 10 ของสารละลายเพราะสารละลายจะมีค่าออสโมลาลิตี้สูง จะทำให้เกิดหลอดเลือดดำอุดตันในที่สุด
การให้ทางหลอดเลือดดำใหญ่(central vein) สามารถเพิ่มความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโกสได้ถึงร้อยละ 20-25 เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับสารอาหารทางหลอดเลือดดำเป็นเวลานานและต้องการพลังงานค่อนข้างสูงเป็นการทำหัตถการโดยแพทย์
อุปกรณ์ในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
สายให้อาหารทางหลอดเลือดดำ ปัจจุบันสายให้อาหารทางหลอดเลือดดำมีรูปแบบต่างๆ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย
ชุดให้สารอาหาร
ขั้นตอนในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
อธิบายให้ผู้ป่วยทราบ เนื่องจากผู้ป่วยเมื่อทราบว่าจะต้องให้สารอาหารมักมีความวิตกกังวลหวาดกลัว และจะถูกจำกัดการทำกิจกรรมต่างๆ
ล้างมือให้สะอาดก่อนให้การพยาบาลทุกครั้ง สวม mask
เตรียมอุปกรณ์ในการให้ PPN หรือ TPN ที่สะอาดปราศจากเชื้อ และเตรียมชุดให้สารอาหารให้พร้อม
ต่อสายยางให้อาหารเข้าไปในชุดให้สารอาหาร ปิดผ้าก๊อซปราศจากเชื้อบริเวณรอยต่อโดยใช้เทคนิคปราศจากเชื้อ
ตรวจสอบ PPN หรือ TPN จะต้องไม่ขุ่นหรือมีตะกอน
มีป้ายปิดที่ขวดให้สารอาหาร ระบุชื่อ และสกุลของผู้ป่วย ชนิดและปริมาณของสารอาหารอัตราหยดต่อนาที วันและเวลาที่เริ่มให้ วันและเวลาที่สารอาหารหมด ชื่อผู้เตรียมสารอาหาร
นำสารอาหารและสายยางให้สารอาหารไปต่อกับผู้ป่วยโดยเช็ดบริเวณรอยต่อด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ ปิดด้วยผ้าก๊อซปราศจากเชื้อ
ให้สารอาหารปรับจำนวนหยดตามแผนการรักษา
10. อาการแทรกซ้อนจากการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
บวมเนื่องจากมีสารอาหารเข้าไปอยู่ในเนื้อเยื่อชั้นผิวหนัง เกิดขึ้นเมื่อเข็มเคลื่อนออกจากหลอดเลือด พบได้บ่อยในหลอดเลือดที่เล็ก บาง หรือผู้ป่วยที่มีกิจกรรมมากๆ
มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในระบบไหลเวียนของเลือด ที่พบบ่อยจะเป็นก้อนเลือด และอากาศ
การให้สารอาหารมากเกินไป พบได้ง่ายในผู้ป่วยเด็ก ผู้ที่มีปัญหาของระบบไหลเวียนเลือด และไต อาจเนื่องจากให้สารอาหารที่เร็วเกินไป
ไข้ เกิดจากมีสารแปลกปลอมซึ่งเป็นส่วนประกอบของโปรตีนเข้าสู่กระเเสเลือด สาเหตุเนื่องจากอาจมีการปนเปื้อนในการเตรียมสารอาหาร
การหยุดให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
เมื่อไม่มีความจำเป็นที่จะให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำให้งด สารละลายไขมันได้ทันที และลดความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโกส และกรดอะมิโนลง รวมทั้งเกลือแร่ต่างๆด้วย ในขณะเดียวกันก็เพิ่มอาหารที่ให้ทางปาก
11. การใช้กระบวนการพยาบาลในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ
ขั้นตอนที่ 1 การประเมินสภาพผู้ป่วย(Assessment)
S: รู้สึกปากแห้ง อยากเคี้ยวอาหารทางปาก
O: known case CA stomach S/P Subtotal gastrectomy มีรูปร่างผอมรับประทานอาหารทางปากและอาหารทางสายให้อาหารไม่ได้
ขั้นตอนที่ 2 ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล(Nursing diagnosis)
มีโอกาสเกิดหลอดเลือดดำอักเสบจากการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำเป็นเวลาหลายวัน
มีโอกาสเกิดสิ่งแปลกปลอมอยู่ในระบบไหลเวียนของเลือดจากการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำเป็นเวลาหลายวัน
วัตถุประสงค์
เพื่อ
ไม่เกิดภาวะหลอดเลือดดำอักเสบ
ไม่เกิดสิ่งแปลกปลอมอยู่ในระบบไหลเวียนของเลือด
เกณฑ์การประเมินผล
บริเวณที่ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำไม่มีบวมแดง
สัญญาณชีพปกติ
ขั้นตอนที่ 3 การวางแผนการพยาบาล(Planning)
ให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำตามแผนการรักษาและไม่เกิดอาการแทรกซ้อน
ขั้นตอนที่ 4 การปฏิบัติการพยาบาล(Implementation)
ก่อนและขณะให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ควรมีการประเมินสภาพร่างกาย และควบคุมผู้ป่วยในระยะแรก และระยะหลังของการได้รับสารอาหารทางหลอดเลือดดำ
ประเมินสัญญาณชีพก่อนและขณะให้สารอาหารและติดตามทุก 2-4 ชั่วโมง
ผู้ป่วยที่ได้รับสารอาหารทางหลอดเลือดดำส่วนปลาย ควรเปลี่ยนตำแหน่งให้ทุก 3 วัน
มีป้ายปิดที่ขวดให้สารอาหาร ระบุชื่อ และสกุลของผู้ป่วย ชนิดและปริมาณของสารอาหารอัตราหยดต่อนาที วัน และเวลาที่เริ่มให้ วัน และเวลาที่สารอาหารหมด
สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับผู้ป่วย เช่น มีผื่นขึ้นตามตัว หายใจเร็วหรือช้ากว่าปกติ
ถ้าสารอาหารที่ให้ทางหลอดเลือดดำรั่ว หรือทางเส้นเลือดดำอุดตัน ให้ไม่ได้ ควรรายงานให้แพทย์ทราบ
หลีกเลี่ยงการให้ยาฉีดทางหลอดเลือดดำสายเดียวกับให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำถ้าจำเป็นต้อง push ยาเข้าทางสายให้อาหาร ในตำแหน่งเดียวกับที่ให้สารอาหาร
ดูแลทางด้านจิตใจ โดยอธิบายให้เข้าใจถึงความจำเป็นในการได้สารอาหาร ประโยชน์ที่ได้รับ เพื่อผู้ป่วยจะได้ให้ความร่วมมือ
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลทางการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ(Evalution)
การประเมินผลการให้สารอาหารทางหลอดเลือดำ เป็นการประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
การประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล เป็นการประเมินผลของการปฏิบัติงาน เพื่อนำมาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
การประเมินผลคุณภาพการบริการ เป็นการประเมินคุณภาพของผลการปฏิบัติงาน เพื่อนำมาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป