Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำเลือดและส่วนประกอบของเลือด :check: - Coggle…
การให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำเลือดและส่วนประกอบของเลือด :check:
16กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมความสมดุลของสารน้้าในร่างกาย :blue_heart:
การประเมินภาวะสุขภาพ (Health assessment)
2.ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล(Nursing diagnosis)
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
4.การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
9การให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ :stars:
วัตถุประสงค์
1.ให้ผู้ป่วยที่รับประทานอาหารและน้ำทางปากไม่ได้
2.ทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป
เช่นอาเจียน อุจจาระร่วงรุนแรง
ข้อบ่งชี้ในการให้สารอาหาร
ทางหลอดเลือดดำ
2)โรคของอวัยวะต่างๆ เช่น ภาวะไตวาย
3)ภาวะทางศัลยกรรม เช่น ถูกน้ าร้อนลวก
1)โรคทางเดินอาหาร เช่น อุจจาระร่วงเรื้อรัง
4)ความผิดปกติของจิตใจ เช่น anorexia nervosaเป็นต้น
5)โรคมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นต้น
ส่วนประกอบของสาร
อาหารในสารละลาย
2.สารละลายไขมัน (fat emulsion)
3.โปรตีนอยู่ในรูปกรดอะมิโน
1.คาร์โบไฮเดรต
4.วิตามิน ให้ทั้งชนิดละลายในน้ำ เช่น วิตามิน B12
5.เกลือแร่
6.น้ำให้คำนวณจำนวนน้ำที่จะให้แก่ผู้ป่วยตามน้ำหนักตัว
ชนิดของสารอาหาร
ทางหลอดเลือดดำ
1.Total parenteral nutrition (TPN)
2.Partial or peripheral parenteral nutrition (PPN)
ตำแหน่งของการให้สาร
อาหารทางหลอดเลือดด้า
1.การให้ทางหลอดเลือดด าแขนง (peripheral vein)
2.การให้ทางหลอดเลือดด าใหญ่ (central vein)
5 การให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ :left_right_arrow:
1.การเลือกต้าแหน่งของ
หลอดเลือดดำที่จะแทงเข็ม
3)ตรวจสอบบริเวณตำแหน่งที่จะแทง
เข็มว่ามีสภาพที่เหมาะสม เช่น ไม่มีบาดแผล
4)ถ้าจำป็นต้องผูกยึดแขนและขาให้
หลีกเลี่ยงการแทงเข็มให้สารน้ำ
2) ให้เริ่มต้นแทงเข็มที่ให้สารน้ำที่หลอด
เลือดดำส่วนปลายของแขนก่อน
5)หลีกเลี่ยงการแทงเข็มบริเวณข้อพับต่างๆ
1) เลือกหลอดเลือดดำของแขนข้างที่ผู้ป่วยไม่ถนัดก่อน
6)คำนึงถึงชนิดของสารน้ำที่ให้
2.อุปกรณ์เครื่องใช้
2) ชุดให้สารน้ำ(IV Administration set)
3) เข็มที่ใช้แทงเข้าหลอดเลือดดำส่วนปลาย
(Peripheral insertion devices)
1) ขวดสารน้ำ
4)อุปกรณ์อื่นๆ เช่น เสาแขวนขวดให้สารน้ำยางรัดแขน (Tourniquet)แผ่นโปร่งใสปิดตำแหน่งที่แทงเข็ม (Transparent dressing)หรือก๊อซปลอดเชื้อ
2ชนิดของสารน้้ำที่
ให้ทางหลอดเลือดดำ :!:
สารละลายไฮเปอร์โทนิก
(Hypertonic solution)เป็นสารน้ำที่มีค่าออสโมลาริตี้ มากกว่า 310m0sm/lซึ่งมีมากกว่าออสโมลาริตี้ของน้ านอกเซลล์
สารละลายไฮโปโทนิก
(Hypotonic solution)ออสโมลาริตี้ น้อยกว่า 280 m0sm/lซึ่งค่า Osmolarityน้อยกว่าน้ำนอกเซลล์
สารละลายไอโซโทนิก
(Isotonic solution)จะมีความเข้มข้นเท่ากันน้ านอกเซลล์(Extracellular fluid)
6 อาการแทรกซ้อนจากการ
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ :!!:
1.ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเฉพาะที่
(Local complication)
1)การบวมเนื่องจากสารน้ำซึมออกนอก
หลอดเลือดด า(Infiltration)
2) การมีเลือดออกและแทรกซึมเข้าใต้
ผิวหนังบริเวณที่แทงเข็ม(Extravasations)
3)การติดเชื้อเฉพาะที่(Local infection)
บวมแดง ร้อน บริเวณที่แทงเข็ม
4) หลอดเลือดดำอักเสบ(Phlebitis)หลอดเลือดดำ
ที่ให้สารน้ำเป็นลำแข็ง บางครั้งอาจมีไข้ร่วมด้วย
2.ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นในระบบไหลเวียน
ของเลือด (Systemic complication)
2) การติดเชื้อในกระแสเลือดมีไข้สูง หนาวสั่น
3)เกิดฟองอากาศในกระแสเลือด
1)การแพ้ยาหรือสารน้ำที่ได้รับ
มีผื่นแพ้เกิดขึ้นที่ผิวหนัง
4)ให้สารน้ำเร็วเกินและมากเกินไป
1หลักการให้สารน้ำทาง
หลอดเลือดดำ :star:
การให้สารน้้ำทางหลอดเลือดด้าใหญ่
(Central venous therapy)
การให้สารน้้ำและสารละลายทางหลอดเลือดด้าใหญ่ผ่านอุปกรณ์ที่ฝังไว้ใต้ผิวหนัง(venousport)
การให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำส่วนปลาย
(Peripheral intravenous infusion)
3ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ
อัตราการหยดของสารน้ำ :<3:
2.ความหนืดของสารน้ำ
3.ขนาดของเข็มที่แทงเข้าหลอดเลือดด
1.ระดับขวดสารน้ำสูงหรือต่ าเกินไป
4.เกลียวปรับบังคับหยดที่ลื่นมาก
5.สายให้สารน้ำ มีความยาวมาก
6.การผูกยึดบริเวณหลอดเลือด แน่นหรือตึงเกิน
ไปรวมทั้งการนั่ง หรือนอนทับสายให้สารน้ำ
7.การเคลื่อนย้ายและการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ป่วย
การปรับอัตราหยดผู้ป่วยเด็กที่เอื้อมมือไปหมุนปรับเล่น
4การคำนวณอัตราการหยดของ
สารน้้ำทางหลอดเลือดด้า :1234:
สูตรการค้านวณอัตราหยดของสารน้้าใน 1 นาที
จำนวนหยดของสารละลาย(หยด/นาที) = จำนวนSol.(มล/ชม.) xจำนวนหยดต่อมล.) หาร เวลา(นาที)
สูตรการค้านวณสารน้้าที่จะให้ใน 1 ชั่วโมง
ปริมาตรของสารน้ าที่จะให้ใน 1 ชม. = ปริมาตรของสารน้ำที่จะให้ หาร จำนวนเวลาที่จะให้เป็นชั่วโมง
14การใช้กระบวนการพยาบาล
ในการให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด :cancer:
การใช้กระบวนการพยาบาลในการให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด
การดูแลผู้ป่วยภายหลังได้รับเลือด
2) สังเกตปฏิกิริยาที่เกิดจากการให้เลือดอย่างต่อเนื่อง
1) ตรวจสอบสัญญาณชีพหลังการให้เลือด 15นาที และต่อไปทุก4ชั่วโมง
4) บันทึกหมู่เลือด ชนิดของเลือด หมายเลขเลือด ปริมาณเลือด วัน เวลา ชื่อผู้ให้เลือด และบันทึกอาการของผู้ป่วยหลังให้เลือด ลงในแบบบันทึกการพยาบาล
3) ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับความสุขสบายตลอดระยะเวลาที่ให้เลือด
การปฏิบัติเมื่อพบอาการแทรก
ซ้อนในผู้ป่วยที่ได้รับเลือด
4) เตรียมสารน้ าและยา เช่น Antidiuretic
5) ส่งขวดเลือดและเจาะเลือดของผู้ป่วยจากแขนที่ไม่ได้ให้เลือดไปยังห้องปฏิบัติการ
3) ตรวจสอบสัญญาณชีพ และสังเกตสังเกตปฏิกิริยาที่เกิดจากการให้เลือดอย่างใกล้ชิด
2) รายงานแพทย์
1) หยุดให้เลือดทันทีแล้วเปิดทางหลอดเลือดด า (KVO) ด้วย NSS
6) บันทึกจ านวนสารน้ าที่น าเข้า–ออกจากร่างกาย
7) การหยุดให้เลือด
11 การใช้กระบวนการพยาบาล
ในการให้สารอาหารทางหลอดเลือดำ :control_knobs:
ขั้นตอนที่ 4 การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
ควรเปลี่ยนต าแหน่งให้ทุก 3วัน หรือทุกครั้งที่มีสารอาหารรั่วไหล (leak) ออกนอกเส้น
มีป้ายปิดที่ขวดให้สารอาหาร ระบุชื่อ และสกุลของผู้ป่วย
สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับผู้ป่วย
ถ้าสารอาหารที่ให้ทางหลอดเลือดด ารั่ว หรือทางเส้นเลือดด าอุดตัน ให้ไม่ได้ ควรรายงานให้แพทย์ทราบ
ดูแลทางด้านจิตใจ โดยอธิบายให้เข้าใจถึงความจำเป็นในการได้สารอาหาร
ประเมินสัญญาณชีพก่อนและขณะให้สารอาหารและติดตามทุก 2-4ชั่วโมง
ควรมีการประเมินสภาพร่างกาย และควบคุมผู้ป่วยในระยะแรก และระยะหลังข
หลีกเลี่ยงการให้ยาฉีดทางหลอดเลือดด าสายเดียวกับให้สารอาหารทางหลอกเลือดดำ
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลทางการให้สารอาหารทางหลอดเลือดด้า(Evaluation)
การประเมินผลการให้สารอาหารทางหลอดเลือดด าเป็นการประเมินผลลัพธ์การพยาบาล โดย
การประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล เป็นการประเมินผลของการปฏิบัติงาน เพื่อน ามาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อ
การประเมินผลคุณภาพการบริการ เป็นการประเมินคุณภาพของผลการปฏิบัติงาน เพื่อน ามาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไ
ขั้นตอนที่ 3การวางแผนการพยาบาล (Planning)
ให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ าตามแผนการรักษาและไม่เกิดอาการแทรกซ้อน
ขั้นตอนที่ 2ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
1.มีโอกาสเกิดหลอดเลือดดำอักเสบจากการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำเป็นเวลาหลายวัน 2. มีโอกาสเกิดสิ่งแปลกปลอมอยู่ในระบบไหลเวียนของเลือดจากการให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำเป็นเวลาหลายวัน
ขั้นตอนที่1 การประเมินสภาพผู้ป่วย
(Assessment)
S: “รู้สึกปากแห้งอยากเคี้ยวอาหารทางปาก”O: Known case CA stomach S/P Subtotal gastrectomy มีรูปร่างผอม
.7 การใช้กระบวนการพยาบาลใน
การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ :red_flag:
ขั้นตอนที่ 4 การให้สาร
น้้าทางหลอดเลือดด้า
intravenous fluid (IV fluid)
ตามแผนการรักษา
intravenous catheter
(IV cath.) เบอร์ 22/ 24
intravenous set (IV set)
tourniquet
สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
extension tube
three ways
IV stand (เสาน้ าเกลือ)
พลาสเตอร์ หรือ พลาสเตอร์
ใสสำเร็จรูป (transparent)
แผ่นฉลากชื่อ
ถุงมือสะอาดmask
ขั้นตอนที่1 การประเมินสภาพผู้ป่วย
การประเมินด้านร่างกาย
การประเมินด้านจิตใจ
การประเมินสิ่งแวดล้อม
การประเมินแผนการรักษา
ขั้นตอนที่2 ข้อวินิจฉัย
มีความพร้อมในการเริ่มให้สารน้ำทาง
หลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลการ
ให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ
การประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล เป็นการประเมินผลของการปฏิบัติงาน เพื่อน ามาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
การประเมินผลคุณภาพการบริการ เป็นการประเมินคุณภาพของผลการปฏิบัติงาน เพื่อนำมาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อ
การประเมินผลการให้สารน้ าทางหลอดเลือดดำเป็นการประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
การหยุดให้สารน้้าทางหลอดเลือดดำ
อุปกรณ์เครื่องใช้
2)พลาสเตอร์
3)ถุงมือชนิดใช้แล้วทิ้ง
1)สำลีปลอดเชื้อหรือก๊อซปลอดเชื้อ
วิธีปฏิบัติ
1)ปิดclamp
2)แกะพลาสเตอร์ที่ปิดยึดหัวเข็ม
และสายให้สรน้ำออกทีละชิ้น
3)สวมถุงมือเพื่อไม่ให้เลือดสัมผัสกับมือพยาบาล
4)ดึงเข็มที่ให้สารน้ าออกทางผิวหนัง
ตามแนวที่แทงเข็มด้วยความนุ่มนวล
5)ใช้ส าลีแห้งหรือก๊อซปลอดเชื้อกดทับที่ตำแหน่งที่ดึง
เข็มออกหรือยึดติดด้วยพลาสเตอร์และปิดไว้นาน 8ชั่วโมง
6)เก็บชุดให้สารน้ าและเข็มที่แทงให้เรียบร้อย
7)บันทึกในบันทึกทางการพยาบาลวัน
เวลาและเหตุผลของการหยุดให้สารน้ า
ขั้นตอนที่3 การวางแผนในการ
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
วางแผนให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำโดยประยุกต์ ใช้หลักการ 6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goal
วัตถุประสงค์ของการให้สาร
น้ำทางหลอดเลือดดำ
ให้สารน้ำทดแทนน้ำที่สูญเสียจากร่างกาย
ให้สารน้ำเพียงพอกับความต้องการของร่าง
กายในรายที่ไม่สามารถรับประทานได้ทางปาก
ให้ยาบางชนิดที่ไม่สามารถดูด
ซึมทางระบบทางเดินอาหาร
รักษาสมดุลของกรด-ด่างในร่างกาย
ในรายที่มีภาวะเสียสมดุลกรด–ด่าง
5.ใช้เป็นช่องทางในการฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ
แก้ไขความดันโลหิต
เกณฑ์การประเมิน
ผู้ป่วยได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำไม่พบอาการแทรกซ้อนและปลอดภัยตามหลักการ6 Rights และหลักความปลอดภัย SIMPLE ของ patient safety goals
10อาการแทรกซ้อนจากการ
ให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ :black_flag:
1.บวมเนื่องจากมีสารอาหารเข้าไปอยู่
ในเนื้อเยื่อชั้นผิวหนัง (Local infiltration)
ลักษณะที่พบได้แก่
1)บวมบริเวณที่ให้ ,
2)ผู้ป่วยรู้สึกไม่สุขสบายบริเวณที่ให้
มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในระบบ
ไหลเวียนของเลือด (Embolism)
ลักษณะที่พบได้แก่
1)อาการเขียว
2)สังเกตพบว่าอัตราการหยดของสารอาหารจะช้าลง
การให้สารอาหารมากเกินไป (Circulatory overload)
ลักษณะที่พบได้แก่
3)ผู้ป่วยมีปริมาณน้ าเข้าและออก
(intake/output) ไม่สมดุล
4)มีการคั่งของเลือดด าจะพบว่า
หลอดเลือดด าที่คอโป่ง
2)ตรวจพบความดันเลือดและแรงดันหลอด
เลือดส่วนกลางสูงขึ้น ชีพจรเร็ว
5)ถ้ารุนแรงจะมีภาวะปอดบวมน้ า อาการคือ
หายใจล าบาก นอนราบไม่ได้ ผิวหนังเขียวคล้
1)อาการแสดงที่ปรากฏเริ่มแรก คือ ปวดศีรษะ
หายใจตื้น และหอบเหนื่อย
ไข้(pyrogenic reactions)
ลักษณะที่พบได้แก่
1)ไข้สูง 37.3-41 องศาเซลเซียส
2)ปวดหลัง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน
3)หนาวสั่น
4)ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับเชื้อ
จุลินทรีย์ที่ได้รับและสภาวะของผู้ป่วย
การหยุดให้สารอาหาร
ทางหลอดเลือดดำ
เมื่อไม่มีความจำเป็นที่จะให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำให้งด สารละลายไขมันได้ทันที และลดความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโคส และกรดอะมิโนลง รวมทั้งเกลือแร่ต่างๆ ด้วย
15การบันทึกปริมาณน้้าเข้า-ออกจากร่างกาย(Record Intake-Output) :page_facing_up:
หลักการบันทึกจ้านวนสารน้้า
ที่เข้าและออกจากร่างกาย
4) จดบันทึกจ านวนน้ าและของเหลวทุกชนิดที่ให้ขณะมื้ออาหารและระหว่างมื้ออาหาร
3) ร่วมกับผู้ป่วยในการวางแผนก าหนดจ านวนน้ าที่เข้าสู่ร่างกายในแต่ละช่วงเวลา
2) อธิบายเหตุผลและความส าคัญของการวัดและการบันทึกจ านวนน้ าที่รับเข้าและขับออกจากร่างกาย
5)การจดบันทึกควรสรุปทุก 8 ชั่วโมงและทุกวัน
1) แบบฟอร์มการบันทึกควรแขวนไว้ที่เตียงผู้ป่วย
6) บันทึกจ านวนสารน้ าที่สูญเสียทางอื่นๆ เช่น อาเจียนท้องเดิน
12 การให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด :eight_spoked_asterisk:
เลือด (whole blood)
ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ เซลล์เม็ดเลือด เกร็ดเลือด (platelet) และน้ำเลือด (plasma
การให้เลือด(Bloodtransfusion)
หมายถึง การให้เลือดหรือเฉพาะเม็ดเลือด หรือเฉพาะน้ าเลือด แก่ผู้ป่วยโดยผ่านเข้าทางหลอดเลือดด า
การให้และการรับเลือดในหมู่เลือด
คนเลือดกรุ๊ป Oรับได้จาก Oเท่านั้น แต่ให้กับกรุ๊ปอื่นได้ทุกกรุ๊ป
คนเลือดกรุ๊ป ABรับได้จากทุกกรุ๊ป แต่ให้เลือดแก่ผู้อื่นได้เฉพาะคนที่เป็นเลือดกรุ๊ป AB
คนเลือดกรุ๊ป Rh-veต้องรับจาก Rh-ve เท่านั้น แต่ต้องดูกรุ๊ปเลือดตามระบบ ABOด้วย
4.คนเลือดกรุ๊ป Aรับได้จาก AและOให้ได้กับ AและAB
คนเลือดกรุ๊ป Bรับได้จาก BและOให้ได้กับ BและAB
8 การใช้กระบวนการพยาบาล
ในการฉีดยาเข้าหลอดเลือดำ :high_brightness:
ขั้นตอนที่1 การประเมินสภาพผู้ป่วย
การประเมินด้านจิตใจ
การประเมินสิ่งแวดล้อม
การประเมินด้านร่างกาย
ขั้นตอนที่2 ข้อวินิจฉัย
การบริหารยาที่มีประสิทธิภาพโดยใช้หลักการ 6Rights และหลักความปลอดภัยSIMPLE ของ patient safety goals
ขั้นตอนที่3 การวาง
แผนในการบริหารยา
วางแผนบริหารยาตามหลักการ 6Rights และหลักความปลอดภัยSIMPLE ของ patient safety goals
วัตถุประสงค์ของการฉีดยา
เข้าทางหลอดเลือดดำ
ให้ยาชนิดที่ไม่สามารถให้ทางอื่นได้ผลต่อการรักษา
ให้ยาที่มีผลระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ
ให้ยาออกฤทธิ์เร็ว
เกณฑ์การประเมินผล
ผู้ป่วยปลอดภัยตามหลักการ 6 Rights
ผู้ป่วยปลอดภัยตามหลักความปลอดภัย SIMPLE ของpatient safety goals
ขั้นตอนที่ 4 วิธีการฉีดยา
เข้าหลอดเลือดดำ
วิธีการฉีดยาแบบที่ 1 IV plugกับ piggy back (100 ml)
วิธีการฉีดยาแบบที่ 2 IV plug กับ syringe IVpush
วิธีการฉีดยาแบบที่ 3 Surg plug กับ piggy back (100ml)
วิธีการฉีดยาแบบที่ 4 Surg plug กับ syringe IV push
วิธีการฉีดยาแบบที่ 5 three ways กับ piggy back (100 ml)
วิธีการฉีดยาแบบที่ 6 three ways กับsyringe IV push
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลการ
บริหารยาฉีดเข้าทางหลอดเลือดด้า
การประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล เป็นการประเมินผลของการปฏิบัติงาน เพื่อน ามาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
การประเมินผลคุณภาพการบริการ เป็นการประเมินคุณภาพของผลการปฏิบัติงาน เพื่อน ามาปรับปรุงการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป
การประเมินผลการบริหารยาฉีดเป็นการ
ประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
13ภาวะแทรกซ้อนจากการให้เลือด :comet:
ปฏิกิริยาภูมิแพ้ (Allergic reaction)
5.การถ่ายทอดโรค (Transfusion-associated graft versus host disease)
ไข้ (Febrile transfusion reaction)
6.การอุดตันจากฟองอากาศ(Air embolism)
2.ปริมาตรการไหลเวียนของเลือดมากเกินไป(Volume overload)
ภาวะสารซิเตรทเกินปกติ
1.เม็ดเลือดแดงสลายตัว (Hemolysis)
8.ภาวะโปตัสเซียมเกินปกติ (Hyperkalemia)