Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ปัจจัยเศรษฐกิจที่มีผลต่อการพัฒนาการและแนวโน้มวิชาชีพพยาบาลในด้านการศึกษา -…
ปัจจัยเศรษฐกิจที่มีผลต่อการพัฒนาการและแนวโน้มวิชาชีพพยาบาลในด้านการศึกษา
ลักษณะทั่วไปเกี่ยวกับเศรษฐกิจ
ความหมาย
เรื่องของกิจกรรมและความสัมพันธ์ของคนในด้านการผลิตและบริการ หรือการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการการบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
ระบบเศรษฐกิจมีทั้งหมด 4 ระบบ
คอมมิวนิสต์(Communism)
ทุนนิยม(Capitalism)
สังคมนิยมเสรี(Socialism)
แบบผสม(Mixed Economy)
อนาคต
จากนโยบายการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ ไทยแลนด์ 4.0 จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2560-2564 ที่มีเป้าหมายในการวางรากฐานการพัฒนาให้ประเทศไทยมีความั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
พัฒนาและสร้างกลไกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการจัดการกำลังคนด้านสุขภาพ
เร่งการเสริมสร้างสุขภาพคนไทยเชิงรุก
สร้างความ เป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ ในระบบบริการสุขภาพ
พัฒนาและสร้างความเข้มแข็งการอภิบาลระบบสุขภาพ
เกิด แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564)
จากผลของการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของประเทศไทยและกระแสยุคโลกาภิวัฒน์ ทำให้เกิดความหลากหลายของวัฒนธรรมหลายชาติพันธุ์ต่างๆ ขึ้นในสังคมไทยมีการเพิ่มขึ้นของสถิติการเจ็บป่วยของโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ โรคอุบัติใหม่ หรือโรคไร้พรมแดน ซึ่งมีผลให้เกิดความต้องการพยาบาลที่สามารถให้การพยาบาลข้ามวัฒนธรรมได้
จากการที่สังคมไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุ และเกิดปัญหาทางสุขภาพที่สำคัญ ได้แก่ โรคเรื้อรัง โรคที่เกิดจากการมีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง
การเจ็บป่วยหรือปัญหาสุขภาพจากความพิการ
สถาบันการศึกษาทางการพยาบาลต้องปรับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนด้านการพยาบาล ได้แก่ จัดเนื้อหาการพยาบาลผู้สูงอายุไว้ในหลักสูตร เน้นการเรียนการสอนโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน
ประเทศไทยใช้ระบบเศรษฐกิจแบบผสมหรือทุนนิยมใหม่ โดยรัฐและเอกชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทำการผลิตสินค้า&บริการ
เศรษฐกิจระดับจุลภาค
(microeconomics)
รายได้ครัวเรือน
เศรษฐกิจรพดับมหภาค (macroeconomics)
รายได้มวลรวมของประเทศ
การเปลี่ยนแปลงในอดีตต่อวิชาชีพพยาบาล
อดีต
ปัญหาการขาดแคลนพยาบาลวิชาชีพมีในหลายรัฐที่ผ่านมา
พ.ศ. 2540 ประเทศไทยพบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศการบรรจุแต่งตั้งให้พยาบาลวิชาชีพเป็นข้าราชการได้ ต้องยุติลงเช่นเดียวกับบุคลากรของข้าราชการกระทรวงต่างๆ
พ.ศ. 2559 ได้มีพยาบาลวิชาชีพกลุ่มชำนาญการที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปลาออกร้อยละ 92 และพยาบาลวิชาชีพที่จบการศึกษาใหม่ๆ ไม่ได้บรรจุให้ก็มีการลาออกไป 50% และอีกไม่นานก็มีการทยอยลาออกไปอีก 30% ทำให้มีพยาบาลวิชาชีพที่ทำงานเป็นอัตราจ้างอยู่ในระบบประมาณ 20%
พ.ศ. 2553-2562 ประเทศไทยจะมีความต้องการพยาบาบในอัตราส่วนพยาบาล 1 คนต่อประชากร 400 คน หรือประมาณ 163,500-170,000 คน
เศรษฐกิจกับการศึกษาพยาบาล
จากผลกระทบด้านการบริการที่ให้บริการไม่มีประสิทธิภาพ ปละในด้านของการบริหารที่มีอัตราการลดการผลิตและอัตราการบรรจุข้าราชการและอัตราการลาออกสูงขึ้น พยาบาลจึงมีภาระงานเพิ่มมากขึ้น
เพิ่มหลักสูตรที่ช่วยลดภาระในการทำงานของพยาบาล อาทิหลักสูตรผู้ช่วย อสม.Care giver
ต้องเพิ่มแรงจูงใจให้กับผู้ที่เข้ามาเรียนและสร้างความตระหนักให้รักในวิชาชีพ