Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวทางการดำเนินการอนามัยชุมชน - Coggle Diagram
แนวทางการดำเนินการอนามัยชุมชน
การอาชีวอนามัย
เป็นงานสาธารณสุขงานหนึ่งซึ่งดำเนินงานหรือให้บริการเพื่อสุขภาพยนายรองผู้ประกอบอาชีพทุกอาชีพ
เหมืองแร่
ป่าไม้
อุตสาหกรรม
เกษตรกรรม
พาณิชยกรรม
ประมง
ก่อสร้าง
อื่นๆ
เพื่อให้ผู้ประกอบอาชีพมีสุขภาพอนามัยดีทั้งทางร่างกายจิตใจและสังคม
ความหมายของการอาชีวอนามัยการอาชีวอนามัย (Occcupational)
:explode:งานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยประกอบอาชีพความปลอดภัยของผู้ประกอบอาชีพ
ความปลอดภัยประกอบอาชีพความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน
การกระทำหรือสภาพการทำงานซึ่งปลอดจากเหตุอันจะทำให้เกิดการประสบอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจหรือสุขภาพอนามัยอันเนื่องมาจากการทำงานหรือเกี่ยวกับการทำงาน
:explode:วัตถุประสงค์ของการดำเนินงานอาชีวอนามัย
เพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัยของผู้ประกอบอาชีพให้มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกายจิตใจและทางสังคมป้องกันมะควบคุมโรคการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุอันเนื่องจากการทำงานของผู้ประกอบอาชีพ
:fire:เป้าหมายการดำเนินงานอาชีวอนามัย
เพื่อให้ผู้ประกอบอาชีพมีสุขภาพอนามัยดีมีความปลอดภัยและได้รับสวัสดิการเหมาะสม
ลักษณะที่สำคัญของงานอาชีวอนามัยองค์กรระหว่างประเทศ (International Labs Crganizatiof LO) และองค์การอนามัยโลก (World lean Organization; VWHO)
:explode:การปกป้องคุ้มครอง (Protection)
ไม่ให้ผู้ประกอบอาชีพต้องทำงานที่เสี่ยงต่ออันตราย
:explode:การจัดหรือปรับสภาพ (Placing)
จัดให้ผู้ประกอบอาชีพทำงานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับความสามารถของร่างกายและจิตใจ
:explode:การป้องกัน (Prevention)
ไม่ให้ผู้ประกอบอาชีพทุกคน
ผิดปกติจากสาเหตุอันเนื่องมาจากภาพการทำงาน (Working Condition)
มีสุขภาพอนามัยที่เสื่อมโทรม
:explode:การปรับงานให้เข้ากับคน (Adaptation)
ปรับงานให้เหมาะกับคนและปรับคนให้เหมาะกับงาน
:explode:การส่งเสริม (Promoton) และธำรงรักษาไว้ (Maintenance)
ความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ประกอบอาชีพ
สุขภาพร่างกาย (Psysical)
-จิตใจ (Mental)
โรคและอันตรายจากการประกอบอาชีพ
โรคหรือความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบอาชีพ
สาเหตุ
สภาพแวดล้อมในการทำงาน
ลักษณะท่าทางการทำงาน
สภาพของานที่ออนบบไม่เหมาะสม
การเจ็บป่วยอาจเกิดขึ้นขณะปฏิบัติงานหรือหลังจากการปฏิบัติงานเป็นเวลานาน
:forbidden:ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคและอันตราสยจากการประกอบอาชีพ
ผู้ประกอบอาชีพมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคและอุบัติภัยตามคุณสมบัติพื้นฐาน
สูบบุหรี่
มีความประมาท
มีเกิดโรคหรืออุบัติภัยได้ง่ายกว่าและรุนแรง
:no_entry:สภาพการทำงาน
การจัดระบบงาน
การมอบหมายงาน
ระเบียบข้อบังคับ
ขั้นตอนการปฏิบัติระยะเวลาการทำงานการควบคุมกำกับงาน
สวัสดิการพื้นฐานต่าง ๆ
:no_entry:สิ่งแวดล้อมในการทำงาน
:warning:2.สิ่งแวดล้อมทางเคมี (Cherical Environment)
:red_flag:สารตัวทำละลายที่เป็นสารประกอบของไฮโดรคาร์บอน
โทบูอีน
เบนซีน
ฝุ่น
:red_flag:ฝุ่นซิลิกา
กลุ่มเสี่ยง
เจียระไนพลอย
คนงานขุดเจาะหินโรงโม่
ย่อยหินชัดโลหะทำแก้ว
เกิดโรคปอดหิน เรียกว่า ซิลิโคซิส
วงฝุ่นเส้นใยพืช
:red_flag:กลุ่มเสี่ยง
คนงานอุตสาหกรรมทอกระสอบ
ทอผ้า
เกิดโรปอดเรียกว่าบิสสิโนซิส (Byssinosis)
:red_flag:ฝุ่นชานอ้อย
กลุ่มเสี่ยง
กลุ่มคนงานตัดอ้อย
โรงงานน้ำตาล
เกิดโรคปอดเรียกว่าบากาโซซิส(Baggassosis)
:red_flag:ฝุ่นแอสเบสตอส
กลุ่มเสี่ยง
วัตถุทนไฟ
คนงานผลิตหลังคากระเบื้อง
ท่อน้ำ
โรคปอดหิน :star: --> แอสเบสโตซิส (Asbestosis)
:red_flag:กลุ่มก๊าซพิษ
คาร์บอนไดออกไซด์
ไนโตรเจนออกไซด์
ไฮโดรเจนไซยาไนต์
ซัลเฟอร์ใดออกไซด์
แอมโมเนีย
:red_flag:โลหะ
:fountain_pen:ตะกั่ว กลุ่มเสี่ยง :คนทำงานเหมืองตะกั่ว บัดกรีตะกั่ว ทำลูกปืน --> คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องรุนแรง หากสัมผัสเป็นเวลานานทำลายสมองและไตถาวร
:fountain_pen:ปรอท ใช้ในงานอุตสาหกรรมไฟฟ้า ยาฆ่าแมลง ผลิตแก้ว ทำพลาสติก มีพิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง ปากและเหงือก กล้ามเนื้อสั่น ความจำเสื่อม -->:star:โรคนิมามาตะ (Minamata)
:fountain_pen: โครเมียม ใช้ในโรงงานอุสาหกมทำเหล็กสแตนเลส เครื่องมือแพทย์ ฟอกหนัง มีพิษต่อระบบทางเดินหายใจ หลอดคออีกเสบ เกิดมะเร็งได้
:fountain_pen:แคดเมียม ใช้ในอุตสาหกรรมชุบโลหะด้วยไฟฟ้า แบตเตอรี่ --> ปวดตามกระดูก กระดูกเปราะ ทำลายตับและไต -->:star:โรคอิไต- อิไต
:fountain_pen:แมงกานีส เป็นสารเคมีที่ใช้ในการถลุงโลหะ ถลุงเหล็ก ผลิตถ่านไฟฉาย -->ทำลายระบบประสาทส่วนปลาย สมองบวม ง่วงซึม ตะคริวที่แขนขา อาการคล้ายพาร์กินสัน
:fountain_pen:สารหนูหรือยาฆ่าแมลง เช่น ดีดีที พาราไธออน สารหนู คาร์บาเมท ยาปราบวัชพืช ผลิตสี โรงพิมพ์ สิ่งทอ -->มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ระบบทางเดินอาหาร ทงเดินหายใจ
:warning:1.สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ (Physical Environment )
การสั่นสะเทือน
เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อข้อมือปลายประสาทมือเกิดกลุ้มอาการ Dead fingers
แสงสว่าง
แสงสว่างน้อยเกินไป
ทําให้กล้ามเนื้อตาทำงานมาก
เมื่อยล้า
ปวดตา
ปวดศีรษะ
แสงสว่างมากเกินไป
เกิดการอักเสบของเยื่อบุตา
กระจกตาอักเสบ
เสียงดังไม่ควรเกิน 90 dB ต่อการทำงาน 8 ชั่วโมง
ทำให้การได้ยินลดลงหูอื้อ
ความร้อน
ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่เกิดอาการเป็นลม (Heat Stroke)
อ่อนเพลีย (Heat Exhaustion)
ตะคริว (Heat cramp)
จิตประสาท (Heat Neurosisis)
ความเย็น
ทำให้การไหลเวียนของโลหิตไม่ดีทำให้อวัยวะนั้น ๆ เกิดอาการชาหมดความรู้สึกเนื้อตาย
:star:Rayraud's Disease
ความกดดันบรรยากาศ
คนที่ทำงานบนที่สูงใต้ดินหรือใต้ทะเลเกิดความแตกต่างความดันภายในบ้านภายนอกร่างกาย
ง่วงนอน
มึนงง
การทำงานของกล้ามเนื้อผิดปกติ
เกิดฟองก๊าซต่างๆในร่างกาย
แก้วหูฉีกขาด (Caisson disease)
:red_flag:รังสี แอลฟา เบต้า แกมม่า เอกซ์
ส่งผลกระทบและทำลายอวัยวะต่ำง ๆ ร่างกายทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง
:warning:3.สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ (ฺBiological Environment)
โรคที่เกิดจากาารรับเชื้อในขณะที่ปฏิบัติงาน อาจมีสาเหตุโดยตรง หรือเกี่ยวเนื่องจากการประกอบอาชีพ เชื้อโรคมีหลายชนิด เช่น แบคที่เรีย ไวรัส รา ปรสิต คลาไมเดียและริกเกตเซีย
:warning:4.จิตวิทยาสังคม (Psychosocail Environment)
ได้แก่ ลษณ.งาน สภาพการทำงาน ผู้ร่วมงาน และการจัดสภาพงาน (กายรศาสตร์ ) เป็นกระบวนการปฏิสัมพันธ์ที่มีต่อลักษณะงาน กระบวนการทำงานและสิ่งแวดล้อม สัมพันธภาพระหว่างผู้ร่วมงาน /นายจ้าง/และการได้รับสวัสดิการต่างๆ
:warning:5.ด้านเออร์โกนอมิคส์ (Ergonomics) เป็นความสัมพันธ์ของคนกับสิ่งแวดล้อม หรือว่าด้วยการออกแบบงานให้เหมาะสมกับคนทำงาน (หลัก Ergonomics ต้องคำนึงถึง กายวิภาค สรีรวิทยาและจตวิทยา)
:explode: บทบาทของพยาบาลในงานอาชีวอนามัย (คณะกรรมการพัฒนาวิชาชีพ สภาการพยาบาล ,2536)
:check:ด้านบริหาร
กำหนดนโยบายปรัชญา และวัตถุประสงค์ของการให้บริการสุขภาพ ให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนงานของสถานประกอบการ
ร่วมจัดทำแผนการดำเนินงานบริการอาชีวอนามัยของสถานประกอบการ
กำหนดความต้องการเครื่องมือ อุปกรณ์ และวัสดุภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ในหน่วยพยาบาลอาชีวอนามัย
ร่วมมือในการดูแล อาการสถานที่ และสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมของสถานพยาบาล
ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้ฝในและนอกสถานประกอบการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพความปลอดภัยและสวัสดิการของคนงาน
:check:ด้านบริการ
จัดให้มีการดำเนินการตรวจสุขภาพ การให้ภูมิคุ้มกันโรค การให้สุขศึกษาและคำปรึกษาแนะนำด้านสุขภาพและความปลอดภัยของคนงาน
ดูแลให้การพยาบาลแ่ผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บตามแผนการรักษาหรือส่งต่อไปในรายที่จำเป็นฉุกเฉิน
ร่วมดำเนินการเพ่อป้องกันความพิการ และฟื้นฟูสมรรถภาพของคนงานอันเนื่องมาจากการทำงาน
จัดเตรียมรักษาเครื่องมือ อุปกรณ์และวัสดุภัณฑ์ของหน่วยงานให้เพียงพอและพร้อมใช้งานทันที
จัดทำระเบียนและรายงานให้ริการด้านสุขภาพแก่คนทำงาน
:check:ด้านวิชาการ
ร่วมจัดฝึกอบรมความรู้ด้านสุขภาพให้แก่พนักงานและลูกจ้าง
ร่วมมมือในการศึกษาดูงานด้านอาชีวอนามัยให้แก่เจ้าหน้าที่ หรือนักศึกษาที่มาดูงาน
ร่วมเป็นคณะกรรมการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทางด้านสุขภาพในสถานประกอบการ
สนับสนุนการทำวิจัย เพื่อค้นหาสาเหตุทางด้านสุขภาพอนามัยจากการทำงาน :warning:
:no_entry:หลักการป้องกันโรคจากการประกอบอาชีพ
กระทำที่ต้นเหตุ (Agent) เช่นการเปลี่ยนวัสดุ สารเคมี กระบวนการผลิต การบำรุงรักษาเครื่องจัก เป็นต้น
กระทำที่ทางผ่านระหว่างสิ่งแวดล้อมและคนงาน (Path) เช่น การติดพัดลมดูดอากาศ การระบายความร้อน ใช้ระบบรีโมทคอนโทรล
กระทำตัวคนทำงาน (Receiver) การใช้เครื่องป้องกัน การสวนแว่น ถุงมือ หน้ากาก ปลั๊กอุดหู การใส่หมวก การหมุนเวียนงาน การตรวจสุขภาพร่างกาย ก่อนทำงาน ขณะทำงาน
:recycle:หลักการป้องกันโรคหรือสิ่งก่ออันตรายจากการประกอบอาชีพ คือ การป้องกันและการควบคุมสภาวะสิ่งแวดล้อมในการทำงาน โดยการจัดสิ่งคุกคามสุขภาพอนามัยนั้นให้หมดไป
:no_entry:การจัดบริการอาชีวอนามัยตามกฎหมาย
โรงงานที่มีคนงานระหว่าง 10-200 คน ต้องมีปัจจัยในการปฐมพยาบาล 23 ชนิด
กรณีมีลูกจ้าง ตั้งแต่ 200 คนขึ้นไป แต่ไม่เกิน 999 คน
:star:ต้องจัดให้มีพยาบาล อย่างน้อย 1 คน ตลอดเวลาการทำงานปกติด ไม่น้อยกว่าวันละ 8 ชม. แพทย์ไม่ประจำ 1 คน
*
หากมีลูกจ้างเพิ่มขึ้น ให้มีพยาบาลเพิ่ม 1 คน ต่อการเพิ่มขึ้นของจำนวนลูกจ้างทุกๆ 1,000 คน
กรณีมีลูกจ้างตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป ต้องจัดให้มีพยาบาลประจำอย่างน้อย :star: 2 คน โดยเวลาทำงานปกติของแต่ละคน ไม่น้อยกว่าวันละ 8 ชม. แพทย์ประจำ 1คน
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป) ลูกจ้าง 100 คน ต้องมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยอย่างน้อย 1 คน
:no_entry:กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน
:green_cross:พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533
:warning: ประกันสังคม คือ ระบบสวัสดิการรูปแบบหนึ่งที่ช่วยเหลือผู้มีรายได้ประจำให้มีหลัก ประกันสังคมในการดำรงชีพยามเดือดร้อน โดยมีหลักการให้รัฐบาล นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันออกเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม เพื่อนำเงินในกองทุนมาใช้บำบัดความเดือดร้อนของสมาชิกในยามที่ไม่สามารถทำงานได้จากการเจ็บป่วย คลอดบุตร ตาย ทุพลภาพ ชราภาพหรือการว่างงาน เพื่อให้ได้รับการรักษาพยาบาล และมีรายได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้บุคคลสามารถช่วยเหลือตนเอง โดยมีสิทธิประโยชน์ที่สำคัญ ดังนี้
:recycle: กรณีเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ผู้ประกันตนมีสิทธิการได้รับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลที่ท่านเลือกตามบัตรรับรองสิทธิหรือสถานพยาบาลเครือข่าย ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และได้รับเงินทดแทนการขาดนรายได้ระหว่างที่หยุดพักรักษาตัว ตามคำสั่งแพทย์ ในจำนวนครึ่งหนึ่งของค่าจ้างตามจำนวนวันที่หยุดจริง ไม่เกินครั้งละ 90 วัน และไม่เกิน 180 วัน ในหนึ่งปี หาากเจ็บป่วยเรื้อรัง จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ไม่เกิน 365 วัน
:recycle: กรณีคลอดบุตร คลอดบุตรที่ใดก็ได้ ให้วินิจฉัยจ่ายค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่าย กรณีคลอดบุตรให้แก่ผู้ประกันตนในอัตรา 12,000 บาทต่อการคลอดบุตรหนึ่งครั้ง และใช้สิทธิสองครั้ง
:recycle: กรณีทุพพลภาพ หมายถึง สูญเสียอวัยวะหรือสูญเสียสมรรถภาพของอวัยวะของ่างกาย หรือสูญเสียภาวะปกติของจิตใจจนไม่สามารถทำงานได้ และได้ระบเงินทดแทนการขาดขาดรายได้รับในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเป็นรายเดือนตลอดชีวิต ค่าอวัยวะเทียม /อุปกรณ์ /อุปกรณในหารบำบัดโรค เช่น ค่าจ้างเฉลี่ย /เดือน 10,000 บาท ร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย/เดือน 5,000 บาท
:recycle: กรณีเสียชีวิตกรณีที่ผู้ประกันตนถึงแก่ความตายอันมิใช่เนื่องจากการทำงานเมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 1 เดือนภายในระยะเวลา 6 เดือนก่อนถึงแก่ความตายผู้มีสิทธิ์ได้รับค่าทำศพ 4 หมื่นบาทโดยจะให้แก่ผู้จัดการศพผู้มีสิทธิ์ มีสิทธิ์ได้รับเงินสงเคราะห์กรณีตายดังนี้ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปจ่ายให้กับทายาทหรือผู้มีสิทธิ์แต่ไม่ถึง 10 ปีจะได้รับเงิน สงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือนครึ่งหากผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างเฉลี่ย 5 เดือน
:recycle:กรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตรชอบด้วยกฎหมายยกเว้นบุตรบุญธรรมหรือบุตรยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของผู้อื่นและบุตรที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปีบริบูรณ์หลักเกณฑ์ที่จะทำให้ท่านมีสิทธิ์คือจ่ายเงินสมทบในส่วนของกรณีสงเคราะห์บุตรมาแล้วอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 12 เดือนภายในระยะเวลา 30 6 เดือนก่อนที่จะมีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ทดแทนจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 400 บาทต่อบุตร 1 คน
:recycle:กรณีชราภาพมีเงื่อนไขรับประโยชน์ทดแทนทั้งกรณีบำเหน็จชราภาพและบำนาญชราภาพ
:recycle:กรณีว่างงานถ้า กรณีลูกจ้างถูกเลิกจ้างได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 180 วันในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างโดยคำนวณจากฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทและกรณีสมัครใจลาออกได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 90 วันในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้างโดยคำนวณจากฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
:black_flag:ผู้ประกันตนมาตรา 40 ประกันสังคมให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบโดยผลักดันร่างพระราชบัญญัติประกันสังคมพ. ศ. 2533 ฉบับแก้ไขเสื้อรัดร่วมจ่ายในมาตรา 40 และแก้ไขพระราชกฤษฎีกาเพื่อพัฒนาสิทธิประโยชน์ของมาตรา 40 ให้เป็นที่จูงใจโดยเป็นระบบสมัครใจได้รับสิทธิประโยชน์พื้นฐาน
:check:เงินทดแทนขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย แม่นอนโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในตั้งแต่ 2 วันขึ้นไปจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน 200 บาทต่อวันไม่เกิน 20 วันต่อปีเงื่อนไขปัญหาสมทบครบ 3 เดือนภายในระยะเวลา 4 เดือน
:check:เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพรับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน 500 ถึง 1000 บาทต่อเดือนเป็นเวลานานถึง 15 ปีนั่นไขเงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพขึ้นอยู่กับระยะเวลาของการจ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือนขึ้นไป
:check:เงินค่าทำศพเสียชีวิตจะได้รับค่าทำศพจำนวน 20000 บาทต่อรายเงื่อนไขจ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือนภายในระยะเวลา 12 เดือน
:checkเงินบําเหน็จชราภาพ ผู้ประกันตนสามารถรับเงินก้อนเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์เงื่อนไขมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์:
:<3:พระราชบัญญัติเงินทดแทนพ. ศ. 2537
:red_flag:กองเงินทดแทน คือ เงินสมทบที่เก็บมาจากนายจ้างฝ่ายเดียวจัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อทำหน้าที่จ่ายค่าทดแทนให้กับลูกน้องที่ประสบอันตรายเจ็บป่วยหรือสูญเสียอวัยวะสูญเสียสมรรถภาพของอวัยวะทุพพลภาพตายสูญหายจากการทำงานให้กับนายจ้าง
:red_flag:กรณีไม่สามารถทำงานติดต่อกันได้เกิน 3 วันแต่ไม่เกิน 1 ปีจะได้รับค่ารักษาพยาบาลค่าทดแทนจำนวนร้อยละ 60 ของค่าจ้างรายได้ต่อเดือน
:red_flag:ที่ผู้ประกันตนเสียอวัยวะจะได้รับเงินทดแทนค่ารักษาพยาบาลค่าทดแทนจำนวนร้อยละ 60 ค่าจ้างรายเดือนตามการสูญเสียอวัยวะแต่ไม่เกิน 10 ปี
:red_flag:กรณีลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานได้รับค่ารักษาพยาบาลกองทุนเงินทดแทนเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นไม่เกิน 45,000 บาท
:red_flag:ค่ารักษาพยาบาลค่าทดแทนจำนวนร้อยละ 60 ของค่าจ้างรายเดือนในกรณีไม่สามารถทำงานได้เกิน 3 วันและค่าทดแทนร้อยละ 60 ของค่าจ้างรายเดือนกรณีทุพพลภาพเป็นเวลานานไม่เกิน 15 ปีและหากจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพจะได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพด้วย
:red_flag:กรณีได้หรือสูญเสียหายจากการทำงานได้รับค่าทำศพจำนวน 100 เท่าของอัตราสูงสุดของค่าจ้างขั้นต่ำรายวันและค่าทดแทนของค่าจ้างรายเดือนในอัตราร้อยละ 60 ของค่าจ้างรายเดือนมีกำหนด 8 ปี
:<3:พระราชบัญญัติความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานพ. ศ. 2554
:red_flag:มุ่งขอให้เกิดมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการทำงานของประเทศไทยเข้าสู่ระบบมาตรฐานสากลอันจะทำให้ผู้ประกอบการลูกจ้างได้รับประโยชน์สูงสุดโดยเฉพาะการลดการสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุอุบัติภัยและโรคจากการทำงานสามารถสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
:warning:ให้นายจ้างมีหน้าที่จัดและดูแลสถานประกอบกิจการและการสร้างให้มีสภาพการทำงานและสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะรวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนการ ปฏิบัติงานของลูกจ้างไม่ให้ลูกจ้างได้รับอันตรายต่อชีวิตร่างกายจิตใจและสุขภาพอนามัยให้ลูกจ้างมีหน้าที่ให้ความร่วมมือกับนายจ้างในการดำเนินการส่งเสริมด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ลูกจ้างและสถานประกอบกิจการ
:warning:บุคคลเพื่อดำเนินการด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
:warning:ให้นายจ้างจัดผู้บริหารหัวหน้างานและลูกจ้างทุกคนได้รับฝึกอบรมความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเพื่อให้ บริหารจัดการและดำเนินงานด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานได้อย่างปลอดภัย
:recycle:ให้นายจ้างจัดและดูแลให้จ้างสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลที่ได้รับมาตรฐานตามอธิการบดีประกาศกำหนด
:warning:ลูกจ้างเรียนที่สวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลและดูแลรักษาอุปกรณ์ตามวรรคหนึ่งที่สามารถใช้งานให้ตามสภาพและลักษณะของงานตลอดระยะเวลาการทำงาน
ในกรณีที่ลูกจ้างไม่สอบอุปกรณ์ดังกล่าวให้นายจ้างให้ลูกจ้างหยุดการทำงานนานจนกว่าจะสวมใส่อุปกรณ์ดังกล่าว
ในกรณีที่พนักงานตรวจสอบความปลอดภัยพบว่านายจ้างลูกจ้างหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ให้พนักงานตรวจสอบความปลอดภัยมีอำนาจสั่งให้ผู้นั้นหยุดการกระทำที่ฝ่าฝืนแก้ไขปรับปรุงในปฏิบัติให้ถูกต้องหรือเหมาะสมภายในระยะเวลา 30 วัน
ในกรณีที่ไหนบ้างไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานตรวจสอบความปลอดภัยถ้ามีเหตุอันเกิดก่อให้เกิดอันตรายอย่างรุนแรงที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานสมควรเข้าไป ดำเนินการแทนให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายให้มีคำสั่งให้พนักงานตรวจสอบความปลอดภัยมอบหมายให้บุคคลเข้าจัดการแก้ไขเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งนั้นได้ในกรณีเช่นนี้นายจ้างต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าจัดการแก้ไขนั้นจำนวนที่จ่ายจริง
ระหว่างหยุดการทำงานหรือหยุดกระบวนการผลิตเนื่องจากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ให้นายจ้างจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการหยุดการทำงานหรือหยุดกระบวนการผลิตเท่านั้นค่าจ้างหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดที่ลูกจ้างต้องได้รับแต่ลูกจ้างรายนั้นจงใจกระทำอันเป็นเหตุให้มีการหยุดการทำงานหรือหยุดกระบวนการผลิต
ห้ามนายจ้างหรือลูกจ้างโยกย้ายหน้าที่การทำงานของลูกจ้างเพราะเหตุที่ลูกจ้างดำเนินการฟ้องร้องหรือเป็นพยานหรือให้หลักฐานหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานต่อพนักงานตรวจสอบความปลอดภัยหรือคณะกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้ต่อศาล
การอนามัยสิ่งแวดล้อม
:star:การอนามัยสิ่งแวดล้อม หมายถึง การจัดการและการควบคุมสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์เพื่อให้เกิดความสมดุลของระบบนิเวศระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมอาจจะส่งผลให้มนุษย์มีความเป็นอยู่ที่ดีทั้งร่างกายจิตใจสังคม องค์การอนามัยโลกได้กำหนดขอบเขตของงานอนามัยสิ่งแวดล้อมไว้ดังนี้
:star:ขอบเขตของงานอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการอนามัยสิ่งแวดล้อม
สภาพน้ำ
ควบคุมมลพิษทางน้ำ
จัดการขยะมูลฝอยและของเสียที่เป็นของแข็ง
ควบคุมสัตว์และแมลงนำโรคและสัตว์
5.ควบคุมมลพิษของดิน
สุขาภิบาลอาหารควบคุม
7.มลพิษทางอากาศ
ป้องกันอันตรายจากรังสี
อาชีวอนามัย
10.ที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม
11 มลพิษทางเสียง
12 ป้องกันอุบัติเหตุ
13 ผังเมือง
14 อนามัยสิ่งแวดล้อมและการคมนาคม
15 สุขาภิบาลสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
16 การควบคุมการระบาดของโรคการ อพยพ ประชากร
การดูแลน้ำดื่มน้ำใช้การปรับปรุงคุณภาพน้ำดื่มน้ำใช้มีดังนี้การกลั่นเป็นวิธีที่สะอาดที่สุด
:check:การดูแลน้ำดื่มน้ำใช้การปรับปรุงคุณภาพน้ำดื่มน้ำใช้มีดังนี้การกลั่นเป็นวิธีที่สะอาดที่สุด
:green_cross:การต้มใช้เวลาในการต้ม 15 นาที
:check:การกรองลองวิทยาศาสตร์และการใช้สารเคมี เช่น คลอรีน สารส้ม
การตรวจคุณภาพน้ำปริมาณออกซิเจนละลายน้ำ ( Dissoloved Oxygen, DO)
บ่งบอกว่ากระบวนการย่อยสลายทางชีวภาพมีน้ำเกิดขึ้นโดยจุลินทรีย์ที่ใช้อากาศหรือไม่ใช่อากาศ
บ่งบอกว่าแหล่งน้ำนั้นมีปริมาณออกซิเจนเพียงพอต่อการต้องการของสิ่งมีชีวิตหรือไม่
มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตในน้ำ
เป็นพารามิเตอร์เป็นฐานในการหาค่า BOD